RC:บทที่ 269 สิ่งที่อยู่ในหิน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 269 สิ่งที่อยู่ในหิน 

 

“ไอ้หมอนี่มันมาจากไหนน่ะ? พวกนายรู้จักหรือเปล่า?” ชายที่สวมหน้ากากมังกรสีเขียวหันไปถามอีก 2 คนใกล้ๆ 

 

“ไม่รู้จักอ่ะ แต่อย่าไปใส่ใจเลย เพราะยังไงก็ตาม กฏก็ยังเหมือนเดิม ยิ่งมากันหลายคนก็ยิ่งดี!” ชายอีกคนที่สวมหน้าแพนด้ากล่าวเยาะเย้ยพร้อมกับกอดอกไว้ 

 

“ใช่แล้ว อย่าลืมจ่ายพวกเราตอนแพ้ด้วยล่ะ!” เจ้าของหน้ากากสุนัขจิ้งจอกหันมองไปหลินเฟิงก่อนจะพูด 

 

เสียงของผู้หญิงนั้นมันคุ้นหูของเขามากๆเลย แต่หลินเฟิงยังนึกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใคร

 

“จ่าย? ตามป้ายราคาน่ะเหรอ?” หลินเฟิงสงสัย 

 

ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาเลือกหินโบราณภายในนี้ เขาก็พบอะไรหลายๆอย่างที่แปลกไปจากชั้นล่าง ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเวลาในการเลือก แล้วไหนจะที่คนพวกนี้พูดเรื่องจ่ายอีก สิ่งเหล่านี้มันทำเขาสับสนไปหมดเลย 

 

“ไอ้หนู นายนี่แกล้งโง่หรือโง่จริงๆน่ะ? กฏของเกมนี้ก็บอกอยู่แล้วว่าใครก็ตามที่เปิดออกมาแล้วได้ของที่ราคาต่ำที่สุด จะต้องจ่ายให้ทุกคน ไม่รู้หรือไง?” หญิงสาวในหน้ากากจิ้งจอกพูด 

 

“โอ้ เข้าใจแล้ว แล้วถึงเวลาที่ฉันต้องจ่ายแล้วเหรอ? นอกจากนั้นฉันก็ไม่ใช่คนที่ได้ราคาต่ำที่สุดซักหน่อย นายจะโหวกเหวกทำไมน่ะ?” หลินเฟิงไม่ได้พูดอะไรมากและไม่สนใจอีกฝ่ายด้วย

 

“แก...”

 

“มาเถอะน่า พวกนายทั้ง 4 คนยังไม่ได้ตัดหินเลยนะ!” ในตอนนั้น นักตัดหินสาวสวยก็เอ่ยขึ้น 

 

“นั่นสิ อย่าไปใส่ใจหมอนั่นเลย ยังไงก็ตามกฏก็คือกฏ! ใครก็ตามที่ได้ของมูลค่าสูงสุด ก็เอาของที่คนอื่นๆเสนอไปเลย และแน่นอนว่าคนที่ได้ของราคาต่ำที่สุด ต้องจ่ายค่าหินดิบให้กับทุกคน!” ชายในหน้ากากแพนด้าพูด 

 

จากนั้น ชายที่สวมหน้ากากมังกรสีเขียวก็ออกไปยืนตรงหน้าและส่งหินโบราณของเขาที่สูงประมาณครึ่งเมตร รูปทรงไข่ซึ่งมูลค่าสูงถึง 90000 หินพลังงาน 

 

หินของเขานั้นดีมากๆ แม้แต่หลินเฟิงเองก็เห็นว่ามีของดีสุดๆอยู่ภายในหินโบราณก้อนนั้น 

 

นักตัดหินสาวสวยรับหินก้อนนั้นมาก่อนจะเริ่มตัดทีละนิดๆจนหลินเฟิงเองเกิบจะหลับไปแล้วเพราะมันช้ามากๆ 

 

แต่มันไม่มีทางอื่น ด้วยหินดิบที่มีมูลค่าเกือบ 10000 หินวิญญาณเช่นนี้ มันคงจะไม่ดีแน่ถ้าเกิดสิ่งดีๆด้านในนั้นถูกทำให้เสียหาย และแน่นอนว่าต่อให้เป็นนักตัดหินสาวสวยเองก็น่าจะถือว่าปัญหาใหญ่เหมือนกัน ดังนั้นการที่ค่อยๆตัดนี่ก็เพื่อให้มั่นใจว่าการตัดหินในครั้งนี้จะไม่มีอะไรผิดพลาด 

 

ในตอนที่เธอกำลังตัดหินก้อนใหญ่นี้อยู่นั้น หญิงสาวที่มากับหน้ากากขาวบริสุทธิ์ก็เดินเข้ามาภายในนั้นพร้อมกับเด็กสาวที่ติดสอยห้อยตามเธอมา

 

“นายหญิง พวกเราเข้ามาที่นี่ทำไมกันคะ? นี่มันที่ชุมนุมของพวกนักพนันนี่!” เด็กสาวด้านหลังพูด 

 

“ที่นี่น่ะปลอดภัยที่สุด รวมถึงสงบสุขที่สุดที่จะได้เป็นอิสระนี่ มาดูกันดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างวันนี้!” เสียงของหญิงสาวนั้นดูเยือกเย็นนิดหน่อยและตาของเธอก็จ้องมองลงมายังคนทั้ง 4 ที่กำลังดูการตัดหินอยู่ตรงหน้าเธอ 

 

“นั่น หลงเช่าเทียน ผู้นำของตระกูลลึกลับที่ติด 1 ใน 10 ตระกูลชั้นเลิศ ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาที่แบบนี้ด้วย!” หญิงสาวมองไปยังชายที่สวมหน้ากากมังกรสีเขียวแล้วกระซิบกระซาบ 

 

“นายหญิง คนที่ใส่หน้ากากแพนด้านั่นน่าจะมาจากตระกูลตู๋กูนะคะ ฉันคิดว่าที่เสื้อของเขาน่าจะมีโลโก้ประจำตระกูลติดไว้!” เด็กสาวที่อยู่ด้านหลังเธอพูดต่อ 

 

“ใช่ นั่นคือ ตู๋กูหวู่ชาง 1 ในลูกศิษย์แขนงย่อยของตระกูลตู๋กู คนๆนั้นแข็งแกร่งมากๆ!” หญิงสาวพยักหน้า 

 

“แล้วคนที่สวมหน้ากากจิ้งจอกนั่นล่ะคะ? ฉันไม่เห็นจุดเด่นจากเขาเลย” เด็กสาวถามขึ้นมา 

 

“ถ้าฉันเดาไม่ผิดนะ เธอน่าจะเป็น แม่มดจิ้งจกราตรี จากกลุ่มที่ 5 ขององค์กรมืด!” หญิงสาวมองตามก่อนจะพูดอย่างใจเย็น 

 

“ว้าววว นายหญิงเจ๋งไปเลยค่ะ รู้จักพวกนี้หมดเลย!” เด็กสาวเอ่ยชมด้วยความตื่นเต้น

 

“ไม่ นั่นยังมีอีกคน ชายที่เพิ่งจะทำลายความสามารถระดับ A ได้คนนั้นฉันก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่ แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใครกันแน่!” หญิงสาวมองไปยังหลินเฟิงและกระซิบกระซาบ 

 

มันใช้เวลากว่า 10 นาทีในการตัดหิน และนั่นมันทำให้หลินเฟิงเกือบจะหลับขึ้นมาจริงๆแล้ว 

 

“นั่น ดูนั่น! นายเห็นอะไรบางอย่างมั้ย!? อะไรบางอย่างน่ะ!” เหล่าผู้ชมเริ่มตะโกน

 

เพียงแค่เหลือบมอง หลินเฟิงก็เห็นว่านั่นคือโล่วงกลมที่ทำจากเหล็กกล้าเงาวับ พร้อมทั้งลายประหลาดบนผิวและมีกลไกซ่อนอยู่เต็มไปหมด 

 

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าคนตัดหินชั้นนี้นั้นมีฝีมือและพลังที่สูงกว่าชายชราด้านล่างอยู่มาก นั่นเพราะว่านี่เพียงแค่ 10 นาที ไม่เพียงแค่ของที่อยู่ด้านในจะถูกตัดออกมาได้แล้ว มันยังถูกขัดเงาจนเงาวับอีก 

 

“เอาล่ะทุกๆท่าน หินโบราณก้อนนี้ได้ถูกตัดออกแล้ว ดูเหมือนว่าภายในนี้จะเป็นโล่ทรงกลม ฉันยังไม่รู้ถึงพลังของมัน ดังนั้นในตอนนี้ขอเชิญเจ้าแห่งการประเมินของพวกเรา ออกมาประเมินพลังของของชิ้นนี้ด้วยค่ะ” นักตัดหินสาวพูด

 

เมื่อสิ้นเสียงของเธอ ชายคนหนึ่งก็ลงมาจากเคาเตอร์ด้านหลังเธอ คนๆนั้นดูอายุราวๆ 40-50 ปี บรรยากาศรอบๆตัวของเขานั้นมั่นคงและหนาแน่นมาก ราวกับอยู่บนภูเขาเลย 

 

หลินเฟิงรับรู้ได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย อย่างน้อยๆคนๆนี้ก็ไม่ได้อยู่ระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าเขาแน่ ถึงจะคิดอยู่แล้วว่าต้องมีคนที่เก่งกว่าเขาอยู่ แต่ก็ไม่คิดว่าที่ตลาดมืดแห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่ซึ่งเหล่าผู้มีพลังระดับสูงสามารถอยู่ด้วยกันได้ ที่แห่งนี้มีผู้ใช้พลังมากมายรวมถึงหลากหลายรวมๆตัวกันอยู่ 

 

“ปรมาจารย์ นี่ของท่าน!” หญิงสาวส่งต่อโล่นั้นให้กับชายวัยกลางคน 

 

หลังจากที่รับเอาโล่ทรงกลมไปแล้ว ชายวัยกลางคนนั้นก็ตรวจดูอย่างละเอียดก่อนที่จะขมวดคิ้วและปลดปล่อยพลังออกมา ร่างกายของเขามันเหมือนจะระเบิดออกและจากนั้นจึงค่อยๆอัดพลังเข้าไปภายในโล่นั้น

 

ครู่หนึ่ง โล่ดังกล่าวก็เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อหน้าต่อตาทุกคน รวดลายบนผิวมันนั้นเปล่งแสงครู่หนึ่ง จากนั้นโล่ทั้งหมดก็ชิดแน่นกันโดยปราศจากรอยแยกใดๆเหมือนเป็นเหล็กชิ้นเดียว 

 

แต่พอมองดีๆก็พบว่าพวกรวดลายแปลกๆพวกนั้นกำลังจัดระเบียบกันใหม่อยู่ และในเวลาอันสั้น มันก็กลายเป็นโล่ขนาดใหญ่ที่ซึ่งช่องว่างของมันมีลำแสงขึ้นมาอุดรอยพวกนั้นไว้ ดูแฟนตาซีเวทย์มนต์แบบสุดๆ!

 

ผ่าง!

 

ชายวัยกลางคนนั้นรัวหมัดใส่โล่ขนาดยักษ์นั้นทันที แต่มันก็ทำได้แค่สั่นนิดหน่อย ไม่มีความเสียหายใดๆ

 

“โล่ทรงกลมนี่ อยู่ในระดับ S เป็นโล่ที่เกิดจากการตกผลึกของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโบราณผนวกเข้ากับพลังจิต ค่าของมันนั้นอยู่ที่ 150000 หินวิญญาณ!” ชายสูงวัยนั้นพูดจากที่ทดสอบไม่นาน 

 

“หา!? 150000!?” ผู้คนที่ได้ยินต่างก็พากันตกใจรวมถึงหลินเฟิงด้วย 

 

ไม่มีใครคาดคิดว่าเจ้าหน้ากากมังกรสีเขียวที่จ่ายไปเพียง 90000 หินวิญญาณนี่จะเปิดได้ของที่มีมูลค่าถึง 150000 หินวิญญาณเช่นนี้ นี่มันผลประโยชน์ก้อนใหญ่เลย!

 

“ขอบคุณมาก ท่านปรมาจารย์ ฮ่าๆๆๆ”

 

“คนต่อไป!” นักตัดหินสาวสวยเริ่มตัดหินก้อนที่สองต่อ 

 

หินก้อนนี้มาจากชายผู้ที่สวมหน้ากากแพนด้า มันไม่ได้ใหญ่มาก และเกือบจะเท่าๆกับก้อนของชายที่สวมหน้ากากมังกรสีเขียวก่อนหน้า ราคาของมันคือ 80000 หินวิญญาณ 

 

หญิงสาวตัดหินก้อนนี้ด้วยความเร็วเท่าเดิม หลังจากไม่กี่นาทีผ่านมา บางสิ่งบางอย่างก็ปรากฏขึ้น มันเหมือนมุมของภูเขาน้ำแข็ง แต่คนอื่นๆไม่สามารถเห็นได้ชัดเพราะว่าแสงของมันนั้นดูริบหรี่เสียเหลือเกิน 

 

เมื่อเห็นสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว หญิงสาวก็รีบตัดหินด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น ไม่นานนักทุกคนก็ได้เห็นรูปร่างที่แท้จริงของมัน มันคือตะเกียง ตะเกียงที่ดูประหลาด! 

 

ในตอนที่มันถูกตัดออกมา ไส้ตะเกียงภายในนั้นยังมีไฟติดอยู่ ซึ่งส่องแสงอ่อนๆออกมาตลอดราวกับมันพร้อมจะดับได้ทุกเมื่อ แต่กระนั้นมันก็เหมือนกับเรือที่ลอยอย่างอ้างว้างในทะเลที่ซึ่งสามารถต้านแรงคลื่นแรงลมหนักๆได้อย่างสบายๆ 

 

“นี่มันตะเกียงวิเศษอะไรกัน ขนาดอยู่ในหินโบราณก็ยังมีไฟติดอยู่ ไฟนี่ สามารถรุกไหม้ตลอดเวลาตั้งแต่เข้ามาอยู่ในหินโดยไม่ดับเลยงั้นเหรอ...”