RC:บทที่ 265 ทุ่งหินโบราณ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ที่นี่ก็ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียว ตราบใดที่พวกเราสามารถสลัดให้คนที่ตามมาหลุดออกไปได้!“ หลังจากที่หลินเฟิงจ่ายหินวิญญาณไป 3000 ก้อนแล้ว พวกเขาทั้งสามก็เข้าไปภายในซุ้มนั้น
แน่นอนว่าหลังจากที่พวกเขาเข้าไป คนที่ตามมานั้นก็ได้หยุดลง พวกเขาไม่กล้าที่จะจ่ายหนักขนาดนี้เพื่อตามเข้าไป มันแพงมากๆ เพราะงั้นพวกเขาจึงตัดสินใจรอให้พวกหลินเฟิงออกมาแทน
เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว หลินเฟิงก็พบว่าภายในนี้นั้นต่างกับข้างนอกอยู่มากๆเลย นั่นเพราะว่าภายนอกมันทั้งเงียบและน่ากลัว แต่ภายในนี้กลับมีเสียงอะไรต่อมิอะไรไม่รู้เต็มไปหมด
เมื่อพวกเขามองไปด้านใน พวกเขาก็พบว่าภายในนี้นั้นมีผู้คนอยู่นับร้อย และพวกคนที่อยู่ภายในนี้นั้นล้วนสวมเสื้อผ้าหรูหราพร้อมทั้งเปล่งรัศมีความแข็งแกร่งกันออกมาให้เยอะแยะไปหมด
“ไอ้ซุ้มหินนี่มีจุดประสงค์เพื่ออะไรกันแน่น่ะ?” หลินเฟิงถาม
“นายไม่รู้จัก ทุ่งหินโบราณ งั้นเหรอ?” หวังฮ่าวหมิงถามด้วยความประหลาดใจ
“ไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้นเลย นี่น่ะ เป็นเกมที่พวกคนรวยเค้าเล่นกัน คนธรรมดาอย่างพวกเราน่ะ รู้กันไม่กี่คนหรอก! ยิ่งไปกว่านั้นนะ นี่น่ะเป็นทุ่งหินโบราณเลย เพราะงั้นคนที่จะมาอยู่ในนี้ได้ต้องเป็นพวกคนรวยแถมยังต้องมีพลังด้วยนะ!” เติ้งเทียนฟูพูด
“นายรู้ใช่ไหมว่าคนธรรมดาบางคนก็ชอบพวกทุ่งหินอะไรแบบนี้มากๆ? มันมีหินแปลกๆที่สามารถเจอได้หลังจากตัดเอาจากหินก้อนใหญ่ เพราะงั้นมันจึงมีหลายคนที่มาเพื่อสะสมอะไรพวกนี้ไงล่ะ!” หวังฮ่าวหมิงอธิบายเสริม
“ก็เคยได้ยินอยู่หรอกนะ แต่ไอ้ทุ่งหินโบราณนี่ปกติเขามาทำอะไรกันล่ะ?” หลินเฟิงยังคงสับสนอยู่
“จริงๆมันก็เหมือนๆกันนั่นแหละ ทุ่งหินโบราณนี่ก็มาเพื่อหาหินมาตัดเหมือนกัน แต่ว่านะ หินที่ได้จากในนี้น่ะ จะแตกต่างจากหินธรรมดาไม่น้อยเลย!” หวังอธิบาย
“ต่างกันยังไงเหรอ?”
“พวกหินโบราณเหล่านี้สามารถพบได้ตามโบราณสถานบางแห่ง ที่ซึ่งมีโอกาสที่จะเก็บพวกของโบราณไว้ด้วย ซึ่งพวกคนโบราณบางทีก็เก็บเอาพวกของวิเศษ หรือแม้แต่พวกไข่สัตว์เลี้ยงโบราณระดับสุดยอด ทักษะโบราณ หรือแม้แต่ยาแปลกๆที่อยู่ในยุคโบราณก็มี!” หวังฮ่าวหมิงพูด
“จริงเหรอ!?” หลินเฟิงตกใจ
“แน่นอน แต่ก็นะ หินโบราณหลายก้อนก็ไม่มีอะไร ดีไม่ดีบางก้อนเป็นของปลอมด้วย ถ้าจะให้พูดคือ มันอยู่ที่ตาดีได้ตาร้ายก็เสีย รวมไปถึงโชคของแต่ละคนด้วย” หวังยังคงอธิบายต่อ
“แล้วก็พวกหินดิบพวกนี้น่ะยังสามารถใช้พนันหรือแม้แต่ใช้ในการทำธุรกิจก็ได้ด้วยนะ นายพอจะเห็นข้อได้เปรียบของมันได้หรือยัง?” เติ้งเทียนฟูเองก็เข้าไปร่วมสนทนาด้วย
“น่าสนใจจริงๆ เพราะงั้นเราเข้าไปดูกันเถอะ!” พูดเสร็จทั้งสามก็รีบเข้าไปด้านในผสมปนเปไปกับกลุ่มคนที่กำลังแออัดนั้นในทันทีเลย เพื่อที่จะได้ดูสิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้แบบสดๆ
ในตอนนั้นพวกเขาอยู่กันที่ชั้นแรก มันมีหินดิบมากมายอยู่ตรงกลางที่ซึ่งมีทั้งเล็กและใหญ่โดยมีเหล่าผู้คนมากมายกำลังมุงมันอยู่
บนหินแต่ละก้อนนั้นมีราคาติดไว้อยู่ ราคาที่ต่ำที่สุดคือ หินวิญญาณระดับต่ำ 1000 ก้อน กลไกราคาเป็นไปตามปกติ ยิ่งก้อนใหญ่ก็ยิ่งแพงขึ้น นั่นเพราะว่ามันดูเหมือนจะมีอะไรที่จะอยู่ในนั้นได้ และแน่นอนว่าหากได้อะไรกลับมาจากการตัดหิน มูลค่าของมันย่อมสูงกว่าราคาที่ติดไว้อยู่แล้ว
ทั้ง 3 นั้นต่างก็กำลังหาหินที่ตัวเองถูกโฉลกไม่ต่างกับคนอื่นๆ และ ณ เวลานั้นมีคนสามคนที่กำลังคลุกคลีอยู่กับกองหินทั้งหลาย พวกเขาหาซ้ายทีขวาทีเดินไปข้างหน้าแล้วถอยกลับมาบ้างทำแบบนี้ซ้ำๆอย่างรอบคอบที่สุด
ในเวลาไม่นาน มีคน 3 คน ได้ซื้อหินโบราณมา คนแรกเลือกหินโบราณที่มีราคา 3000 หินวิญญาณ คนที่สองเลือกหินโบราณราคา 5000 หินวิญญาณ และคนสุดท้ายเลือกเอาหินโบราณราคา 10000 หินวิญญาณมา
ทั้งสามเดินไปยังสถานที่ที่ซึ่งไม่ไกลจากจุดที่หลินเฟิงกำลังหาหินโบราณอยู่นัก ที่นั่นมีชายแก่ที่มากับ “มีดทรงประหลาด” ผู้ที่ซึ่งดูเหมือนจะกำลังรอพวกเขาอยู่
“ตาเฒ่านั่นทำอะไรน่ะ?” หลินเฟิงถาม
“นายไม่เห็นมีดในมือเขาหรือไง? มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วสิว่ามาตัดหินน่ะ หลังจากที่นายเลือกหินโบราณได้แล้ว นายต้องเอาไปให้เขา และเขาจะช่วยนายตัดหินโบราณพวกนี้เพื่อองศาและมุมที่ดีที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ของที่อาจจะอยู่ด้านในได้รับความเสียหายได้” หวังอธิบาย
“โอ้ เข้าใจแล้ว แต่มันตัดเองไม่ได้เหรอ?” ความอยากรู้อยากเห็นนี้ทำให้เขาเหมือนเด็กๆ หลินเฟิงถามไม่หยุดเลย
“ก็ได้ แต่นายตัดมันได้เหรอ? นายจะทำยังไงถ้านายพลาดแล้วทำของข้างในพังล่ะ?”
“อ้อ เข้าใจแล้ว!” หลินเฟิงพยักหน้าและมองทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าต่อ
ในตอนนี้ทั้งสามส่งหินของพวกเขาให้ชายแก่ไปตัดแล้ว เขารับเอาหินพวกนั้นมาและจับมีดเล่มเล็กๆในมือไว้ให้มั่น ถึงแม้ว่ามันจะเล็ก แต่มันก็คมมากๆ
มีดเล่มนั้นผ่าลงไปบนหินก้อนแรกช้าๆ เศษเม็ดกรวดเล็กๆตกลงมาจากรอยผ่านั้นราวกับมันไม่ต้องใช้แรงในการผ่าเลย
หลินเฟิงนั้นมองวิธีที่ชายชราใช้มีดนั้นตัดหินด้วยความเป็นเอกลักษณ์ ถึงจะดูทั่วๆไป แต่มันก็ดูชำนาญเอาเสียมากๆเลย
เขาเห็นชายชราค่อยๆกดมีดลงไปเรื่อยๆ และสิ่งที่อยู่ภายในหินก้อนเล็กนั้นก็ค่อยๆโผล่ออกมา
เพียงไม่นาน ผู้คนก็ได้เห็นคริสตัลใสอยู่ที่ใจกลางของหินโบราณก้อนนั้น ที่ซึ่งมีสีน้ำเงินเข้มนิดหน่อยและดูสวยมากๆ
“นั่นมันคริสตัลสีน้ำเงินนี่! ตัวคริสตัลใสและข้างในมีสีน้ำเงินเปล่งประกายอยู่! นี่มัน หินวิญญาณระดับสูง!” ผู้คนต่างพากันตะโกนขึ้นมา
“หินวิญญาณระดับสูง? มันคือหินวิญญาณระดับสูงงั้นเหรอ!”
“พระเจ้า! หมอนี่ทำกำไรเป็นบ้าเลย! เขาจ่ายไปแค่ 3000 แต่ได้หินวิญญาณระดับสูงกลับมาเนี่ยนะ!?”
“อ่า ก็ไม่ได้โชคดีอะไรขนาดนั้นหรอก ได้บ่อยๆน่ะ”
“...”
ในทันทีที่ผู้คนได้ยินว่าหินวิญญาณระดับสูงปรากฎขึ้นหลังจากการผ่าครั้งนี้ พวกเขาก็ตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก บางคนอิจฉา และบางคนก็เสียใจที่ไม่ได้เลือกหินโบราณก้อนนั้น
“หินวิญญาณระดับสูง? มันคืออะไรน่ะ? มันต่างกับทั่วๆไปยังไงงั้นเหรอ?” หลินเฟิงถาม เพราะตัวเขาเองนั้นรู้จักแค่หินวิญญาณระดับต่ำเพราะงั้นจึงไม่รู้ว่าหินวิญญาณระดับสูงเป็นอย่างไร
“หินวิญญาณระดับสูงก็คือหินวิญญาณที่อยู่สูงกว่าระดับต่ำและระดับกลาง หินวิญญาณระดับต่ำ 100 ก้อนจะได้หินวิญญาณระดับกลาง 1 ก้อน และเช่นกัน หินวิญญาณระดับกลาง 100 ก้อนก็จะได้หินวิญญาณระดับสูง 1 ก้อน”
“งั้นมันหมายความว่า หินวิญญาณระดับสูง 1 ก้อนเทียบเท่ากับหินวิญญาณระดับต่ำ 10000 ก้อนเลยงั้นเหรอ!? แล้วชายคนนั้นดันได้มันมาบ่อยๆด้วยเนี่ยนะ!” เมื่อหลินเฟิงได้ยินดังนั้นเขาก็เข้าใจถึงมูลค่าของหินวิญญาณระดับสูงขึ้นมาทันที
“ที่พูดมามันก็ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด!” หวังฮ่าวหมิงพูด
“ทำไมล่ะ?” และคำพูดของอีกฝ่ายก็ทำหลินเฟิงสงสัย
“การแลกหินวิญญาณระดับสูงด้วยหินวิญญาณระดับต่ำ 10000 ก้อนนั้นเป็นเรื่องง่ายๆก็จริง แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแลกด้วยเรทนั้น!” เขามองไปยังหลินเฟิงที่ดูสับสนสุดๆ หวังฮ่าวหมิงก็พยายามอธิบายเพิ่ม
“นั่นเพราะว่าพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในหินวิญญาณระดับสูงน่ะ เป็นพลังที่บริสุทธิ์ที่ซึ่งเทียบกับหินวิญญาณระดับต่ำไม่ได้เลยยังไงล่ะ!” เติ้งเทียนฟูนั้นพูดเสริมมาได้ทันเวลา
“โอ้! เข้าใจแล้ว!” หลินเฟิงนั้นไม่เคยรู้อะไรแบบนี้มาก่อนเลย เพราะงั้นครั้งนี้เขาถือว่าเขาเองก็ได้รับรู้อะไรมาเยอะเหมือนกัน
“ดูนั่นๆ หินก้อนที่ 2 กำลังจะโดนผ่าแล้วนะ!” ในตอนนั้นเหล่าผู้คนที่อยู่ด้านหลังก็ตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
เพียงแค่ชำเลืองมอง หลินเฟิงก็เห็นว่าหินโบราณก้อนนั้นที่กำลังโดนผ่ามีขนาดใหญ่กว่าก้อนก่อนหน้าเป็นเท่าตัวเลย
เขามองไปยังชายชราที่กำลังใช้มีดตัดตามมุมของหินจากด้านบนและค่อยๆเข้าไปยังด้านในทีละนิดๆ
แต่อย่างไรก็ตาม มันดูน่าประหลาดใจหน่อยๆที่ว่าผ่ามาขนาดนี้แล้วยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรเลยหรือเห็นอะไรเลย
“หรือบางทีหินนี่อาจจะเป็นแค่หินไร้ค่า...”
0 ความคิดเห็น