RC:บทที่ 238 เย่เฉียวผู้เย่อหยิ่ง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 238 เย่เฉียวผู้เย่อหยิ่ง


"มังกรแสงจงเข้าไปใกล้อย่างช้าๆ หาที่ซ่อนตัวแล้วรอสบโอกาส!" หลินเฟิงสั่งมังกรแสงเข้าไปใกล้หุบเขาอย่างเงียบๆ


เมื่อหลินเฟิงมาถึงบริเวณนี้เขาก็พบว่าเป็นคนละพื้นที่ก่อนหน้านี้ พลังวิญญาณของที่นี่แข็งแกร่งมากจนเกือบจะเท่าสวนหลังบ้านของเขา


ยิ่งไปกว่านั้น อาณาบริเวณก็กว้างใหญ่ไพศาลและมีพลังวิญญาณในหุบเขาสูงมากจนส่งผลให้พืชผลที่ขนาบข้างหุบเขานั้นอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีต้นไม้, ผลไม้ และสิ่งของทางวิญญาณอื่น ๆ อีกมากมายที่เจริญเติบโตขนาบอยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่ง


เมื่อมองเห็นสถานที่แห่งนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกละโมบ แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังรู้สึกได้ว่าหุบเขาแห่งนี้ไม่ธรรมดา ดูเหมือนชั้นบรรยากาศที่ลอยอยู่เหนือเมฆจะเป็นอันตรายชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ  นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรให้ดูอีก


"เอ่อ ความรู้สึกกดดันอันแข็งแกร่งที่มากเกินไปอย่างนี้ มันจะต้องมีบางสิ่งที่น่ากลัวอยู่ใต้หุบเขานี้อย่างแน่นอน มันจะแข็งแกร่งไหมนะ ไปดูกันเถอะ!" หลินเฟิงวาดหวังขึ้นในใจของเขา


ขณะเดียวกัน หลินเฟิงก็ยังคงคาดเดาถึงสิ่งที่น่าสนใจที่อยู่ภายใต้หุบเขา ในช่วงเวลาตั้งแต่ที่ตระกูลตงฟางเข้ามาครอบครองหุบเขา ทำไมพวกเขาถึงไม่กล้าลงไปล่ะ? มันจะต้องเกิดปัญหาขึ้นในนั้นอย่างแน่นอน หลินเฟิงยังคงประหม่าอยู่เล็กน้อยเลยไม่ลงไป


ขณะนั้นบริเวณขอบของหุบเหวก็มีผลไม้สีชมพูสองลูกแขวนอยู่บนต้นไม้ พวกมันมีทั้งกลิ่นที่หอมยั่วยวนและน่าหลงใหล


เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาใกล้กับเย่เฉียวก็เรียกสัตว์คู่หูของตัวเองออกมาคนละตัว สัตว์ใต้พันธะของเย่เฉียวเป็นเสือดาวไร้ขนสีดำล้วนซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวดูแข็งแกร่ง


ตรงหน้าของหยินเหลียนเย่คือแมงป่องสีม่วง แมงป่องตัวนี้ต่างไปจากแมงป่องธรรมดาทั่วไปตรงที่มันมีสีม่วงไปทั่วทั้งตัว มันทำให้หลินเฟิงรู้สึกถึงความอันตรายได้มากกว่าเสือดาวดำของเย่เฉียวซะอีก 


"มังกรดำ เสือดาวดำตัวนี้กับแมงป่องม่วงตัวนั้นคือสัตว์วิญญาณอะไร? มีจุดเด่นตรงไหนบาง? ฉันมักจะรู้สึกว่าแมงป่องม่วงตัวนั้นอันตรายขึ้นมานิดนึง!" หลินถามขณะที่มองไปข้างหน้า


"เสือดาวดำกับแมงป่องม่วงพวกนี้ไม่ธรรมดา สายเลือดของพวกมันอยู่เหนือกว่าระดับ S เสือดาวดำมีฉายาว่าเสือดาวผีตาทองคำ มันเป็นสัตว์วิญญาณที่ว่องไวเป็นอย่างมาก แมงป่องม่วงก็ไม่ธรรมดา มันคือแมงป่องมังกรม่วง มีพิษเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับพิษของมันได้ สายเลือดของมันอย่างน้อยที่สุดก็อยู่ในระดับ SS"


"ยกตัวอย่างเช่น หนามที่แหลมคมของต้นไม้ปีศาจมีความเป็นพิษสูงมากหลังจากที่แทงเข้าไปในคน พวกเขาก็จะมึนงง, อ่อนเปลี้ย, อ่อนแรงและตายลงหลังจากนั้นเป็นเวลานาน แต่ทว่าพิษของแมงป่องนั้นสามารถฆ่าผู้มีพลังหรือสัตว์วิญญาณในระดับเดียวกันให้ตายลงได้ในเสี้ยววินาที!"


"แข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?" หลินเฟิงตกตะลึง


"แน่นอน! ตัวตนของผู้หญิงคนนั้นก็คงจะไม่ธรรมดาไม่อย่างนั้นเธอจะสามารถหาสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งหาได้ยากอย่างนี้เหรอ " มังกรดำวิเคราะห์


ขณะที่หลินเฟิงกับมังกรดำกำลังสื่อสารกันอยู่ คนอื่น ๆ ก็ได้เรียกสัตว์คู่หูของตัวเองออกมาเผชิญหน้ากับนกดาบกินวิญญาณที่อยู่บนหน้าผาของหุบเขาลึกอย่างไม่กล้าประมาท


"ขึ้น!" เย่เฉียวเป็นคนแรกที่เริ่ม เขาแสดงตัวตนต่อหน้าหญิงสาวแสนสวยได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เขาปลดปล่อยสัตว์ออกมาก็รีบกระตุ้นพลังวิญญาณแล้วจากนั้นก็โจมตีฝูงนกกินวิญญาณ


ในชั่วขณะที่เขาพุ่งเข้ามา กรงเล็บอันแหลมคมราวกับโลหะหนึ่งถึงสองอันก็ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา ด้วยความดำที่มันวาวและแสงสีดำบนใบมีด เมื่อได้เห็นในครั้งแรกหลินเฟิงก็รู้ได้เลยว่ามันไม่ได้เป็นแค่ของธรรมดาทั่วไปแน่ๆ


เมื่อเขาเปลี่ยนรูปพลัง กรงเหล็กสีดำทั้งสองอันก็ปลดปล่อยเงาเสมือนซึ่งเป็นเงาของกรงเล็บโลหะทั้งสองอันขนาดมหึมาแล้วปล่อยคลื่นพลังต่อสู้ออกมา


เย่เฉียวพุ่งไปด้านหน้า กระโดดขึ้นสูงและจากนั้นกรงเล็บทั้งสองก็ขว้างใส่ฝูงนกดาบกินวิญญาณ สัญลักษณ์กรงเล็บขนาดใหญ่สองอันปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า


อาวุธวิญญาณที่บินได้นี้ตัดเข้าใส่ฝูงนกที่ร้องเสียงประหลาด พวกที่อ่อนแอหลายตัวไม่ทันได้หลบหนีก็ถูกกรงเล็บอันหนึ่งเข้าฉีกกระชาก เลือดและขนนกปลิดปลิวไปทั่วท้องฟ้าและร่วงลงมา


กากา!


พวกนกที่เหลืออยู่ต่างก็ถูกการเคลื่อนไหวของเย่เฉียวทำให้หวาดกลัว พวกมันค่อยๆถอยเข้าไปหลบด้านหลังของอีกตัวแล้วส่งเสียงเรียกซ้ำไปซ้ำมา


"ฮ่า ฮ่า ฉันไม่คิดเลยว่าพวกมันจะอ่อนแอกันขนาดนี้!" เย่เฉียวเอ่ยเย้ยหยันแล้วยิ้มไปที่ตงฟางเหลียนในขณะที่พูดอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก


ดูเหมือนว่าแม้จะปราศจากนาย ตงฟางเหลียน เขา เย่เฉียวก็ยังไปเอาผลไม้บรรลุฌาณได้สำเร็จ


"ฮ่า ฮ่า แค่ฆ่าตัวที่อ่อนแอที่สุดไปไม่กี่ตัวนายก็มีความสุขซะแล้ว ไว้ค่อยรู้สึกทีหลังเถอะ!" ตงฟางเหลียนมองดูคำพูดยุแหย่ของเย่เฉียวแล้วรู้สึกว่าช่างนาขัน เพราะในความคิดของเขา เย่เฉียวและชีวิตของพวกเขาต่างหากที่ยากที่จะปกป้องแต่พวกเขายังมีพลังเหลือเฟือมายั่วยุเขาอีก


แน่นอนว่าเป็นเพราะความอิเหล่ะเขะข่ะที่นกดาบกินวิญญาณพวกนี้แสดงออกมา มันรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อดิ่งตัวลงมายังพวกเขา


"นี่มันมาอีกแล้ว แล้วไงล่ะ? ดูที่กรงเล็บเพชรของฉันสิ!" เย่เฉียวโบกมืออีกครั้งและอาวุธวิญญาณทั้งสองก็ปรากฏอยู่ในท้องฟ้า


แต่เวลานี้มันไม่ได้แสดงผลอย่างชัดเจนเหมือนคราวก่อน เพราะนกดาบกินวิญญาณเหล่านี้ได้ตั้งรับไว้แล้ว หนึ่งในนั้นทำแค่เพียงแบ่งงาน, หลบหลีกอาวุธทั้งสองและจากนั้นก็บินลงมาใส่เย่เฉียว


ขณะเดียวกันนกกินวิญญาณพวกนั้นก็กระพือปีกของตัวเองแล้วในอากาศก็ปรากฏใบมีดราวกับมีดโลหะออกมา ตัดลงมาที่เย่เฉียว


รวมแล้วมีการโจมตีใส่มากกว่าสิบถึงยี่สิบครั้ง แต่ละการโจมตีถึงจะไม่แข็งแกร่งมากนักแต่เมื่อนำมารวมกันมากกว่ายี่สิบมันก็จะน่ากลัวขึ้นมา


เป็นที่แน่นอนแล้วว่าหลังจากการโจมตีของเย่เฉียว เขาก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่ทำให้ชาหนังศีรษะ นกจำนวนเป็นโหลพร้อมกับใบมีดอีกโหลนึงกำลังบินอยู่ในอากาศ


ความเร็วของใบมีดนั้นเร็วมากจนเย่เฉียวหลบหลีกไม่ทันดังนั้นเขาจึงต้องใช้กรงเล็บแข็งทั้งสองมาต้านบรรดาใบมีดบินไว้


แต่ใบมีดมีจำนวนเป็นโหล เขาจะต้านคนเดียวไหวได้อย่างไร


ติ๋ง ติ๋ง!


หลังเสียงการปะทะจบไปหนึ่งชุด เย่เฉียวก็ล้มลงอยู่ใต้ใบมีดเหล่านี้และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ไม่สาหัสก็เป็นเพราะใบมีดบินส่วนมากบินเลยไปด้านหลัง


เวลานั้นเย่เฉียวก็เศร้าใจไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อกี้นี้เขาแค่อยากจะโอ้อวดให้หยินเหลียนเย่ได้เห็นจึงพุ่งนำเข้าไปเพียงลำพังและในตอนนี้เขาก็ถอยไม่ได้อีกแล้ว


"พี่เย่เฉียว ระวังตัวด้วย!" ขณะนั้นหยินเหลียนเย่ก็รีบเดินออกมาแล้วโยนร่มสีดำที่เหมือนกับอาวุธออกมาจากมือของเธอ


ร่มดำอันนั้นกางออกอย่างรวดเร็วแล้วป้องกันใบมีดที่หล่นมาจากท้องฟ้า ใบมีดเป็นโหลๆ แต่ละอันตกกระทบลงบนร่มสีดำแต่ร่มกลับไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ เลย


"ช่างเป็นอาวุธวิญญาณที่ทรงพลัง มันสามารถป้องกันการโจมตีที่แข็งแกร่งได้โดยไม่เสียหายเลย! ดูเหมือนตัวตนของหญิงสาวคนนี้จะไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก! " หลินเฟิงคิดขึ้นในใจ


หลินเฟิงรู้ดีว่าเครื่องมือวิญญาณระดับต่ำทั่ว ๆ ไป ไม่สามารถต้านรับใบมีดมากมายที่ปล่อยมาจากนกกินวิญญาณได้ ร่มดำอันนี้สามารถทนรับแรงโจมตีที่แข็งแกร่งได้ ระดับของวัสดุที่ใช้ผลิตจะต้องแตกต่างออกไปแน่


แม้หลินเฟิงจะคาดเดาว่าหญิงสาวน่าจะมีทั้งตัวตนเบื้องหลังที่น่ากลัวและมีทักษะอันแข็งแกร่งไม่อย่างนั้นเธอจะไปเอาร่มดำมาได้อย่างไร เพราะอาวุธวิญญาณนั้นอยู่นอกเหนือขอบเขตของพลังวิญญาณระดับต่ำ แม้ว่าจะมีพลังวิญญาณระดับต่ำมันก็ยังถือว่าเป็นของชั้นนำ


ร่มดำของหยินเหลียนเย่สามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดที่ส่งออกมาได้ แต่ก็ยังคงเหลือฝูงนกกินวิญญาณที่กำลังหวาดกลัวและซ่อนอยู่ด้านหลังของพวกเดียวกัน คอยท้าทายพวกเขาทั้ง ๆ ที่มันยังหลบหลังพวกเดียวกันเองอยู่


ก๊า!!!


"ระวังนะ..."


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น