RC:บทที่ 237 นกกินวิญญาณ
"พี่เย่เฉียว เราลองมาคุยดี ๆ กับรุ่นพี่เถอะ" หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหาแล้วกล่าว
หญิงสาวคนนี้คือแฟนของเย่เฉียว เรียกได้ว่าเป็นแฟนในอุดมคติเลยก็ว่าได้ เป็นเพราะเย่เฉียวต้องการนำผลไม้ระดับ A มามอบให้เธอ เธอจึงตกลงเป็นแฟนกับเขา
เธอชื่อ หยินเหลียนเย่ อยู่ในระดับ B สูงสุดเหมือนกันกับเขา เวลานี้เย่เฉียวกับเธอต้องการบรรลุถึงระดับ A ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมาที่นี่เพื่อนำผลไม้ระดับ A ทั้งสองลูกมาช่วยให้พวกเขาบรรลุขั้นได้
เย่เฉียวขอร้องพี่ชายเรื่องผลไม้สองลูกนี้มานานกว่าเขาจะยอมตกลง โดยต้องใช้แรงทรัพย์เป็นจำนวนมากเพื่อไปขอแลกจากตระกูลตงฟาง
สิ่งที่หลินเฟิงยังไม่รู้ก็คือพี่ชายของเขาคือรองประธานสมาคมชิงหลงที่มีพลังระดับ S แม้เขาไม่อาจเทียบได้กับสิบตระกูลผู้นำ แต่ก็มีชื่อเสียงโด่งดังในโลกแห่งพลัง
และชิงหลงก็ยังสนิทกับตระกูลตงฟางแห่งสิบตระกูลผู้นำเป็นอย่างมาก พี่ชายของเขาคงยอมปล่อยให้เย่เฉียวมาที่นี่เพื่อเอาผลไม้ไปใช้บรรลุสู่ระดับ A
เดิมที ตงฟางเหลียนจะต้องช่วยให้พวกเขานำผลไม้วิญญาณมาได้และคอยเฝ้าปกป้องในช่วงที่พวกเขากำลังบำเพ็ญจนสามารถบรรลุระดับ A ได้สำเร็จ
แต่สิ่งที่เขาไม่ได้คาดฝันก็คือไม่รู้ว่าเย่เฉียวไปทำให้ตงฟางเหลียนไม่พอใจได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่ตงฟางเหลียนนั้นถือเป็นคนที่รับผิดชอบต่อผู้อื่น เหตุการณ์เลยออกมาเป็นแบบนี้ได้
"หืม คุยดี ๆ กับเขาเหรอ? ไม่มีทางซะหรอก? ฉันไม่เชื่อหรอกว่าหากวันนี้ไม่มีตงฟางเหลียนแล้วเย่เฉียวคนนี้จะเอาผลไม้มาไม่ได้! " เย่เฉียวเอ่ยอย่างแค้นเคือง
"พวกนายทั้งหมดตามฉันมา ฉันไม่เชื่อหรอกว่าถ้าไม่มีตงฟางเหลียนแล้วจะเอาผลไม้มาไม่ได้!" จากนั้นเย่เฉียวและคนอื่น ๆ ก็เตรียมตัวเพื่อไปเอาผลไม้มาเอง
ตงฟางเหลียนมองดูพวกเขาอย่างเย้ยหยันแล้วกล่าวว่า: "คุณเย่เฉียว คุณควรระวังตัว หากเกิดสิ่งใดขึ้น ตงฟางเหลียนผู้นี้จะไม่ขอรับผิดชอบ!"
"ฮึ่ม อย่ามาอวดเก่งนักนะตงฟางเหลียน คอยดู ถึงจะไม่มีนายพวกเราก็จะเอาผลไม้วิญญาณทั้งสองลูกนี้มาให้ได้!" เย่เฉียวจ้องมองไปยังตงฟางเหลียนแล้วหันหน้าหนีเพราะทุกเวลาที่มองไปมากยิ่งขึ้น เขาก็รู้สึกเหมือนหัวใจติดขัด
เย่เฉียวไม่รู้ตัวเลยว่าหญิงสาวข้างเขามีสีหน้าผิดหวัง และเด็กสาวอีกสองคนที่อยู่กับเธอก็แสดงสีหน้าเช่นเดียวกัน
"ตงฟางเหลียน? นี่คือป่าบรรพกาลภายใต้การปกครองของตระกูลตงฟางอย่างนั้นเหรอ? "หลินเฟิงสงสัยขึ้นมาอย่างทันที
เวลานี้หลินเฟิงรู้สึกได้ว่าศัตรูของเขาไม่อาจอยู่รวมกันได้จริงๆ เขาฆ่าตงฟางเสียงแล้วยังเข้ามาในอาณาเขตของตระกูลตงฟางอีก
"หากเป็นตระกูลตงฟางแล้วไม่มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้แก่พวกเขาฉันคงจะเศร้าใจแย่!" หลินเฟิงมีแผนขึ้นมาในใจอย่างรวดเร็วพร้อมกับริมฝีปากคลี่ยิ้มออกมา
แม้เวลาที่หลินเฟิงหัวเราะเขาจะดูเป็นคนที่ร่าเริงและใจดี แต่พอเข้าสู่โหมดแก้แค้นเขาก็มีด้านมืดและโหดร้ายมากเช่นกัน
"งั้นก็โชคดีนะ!" ตงฟางเหลียนพูดจบและคิดในใจ " น่าแปลกที่นายไม่ยอมขอร้องให้ฉันไปเอาผลไม้วิญญาณพวกนั้นมาให้ นายคิดว่าจะเอามาได้ง่าย ๆ เหรอ?"
"ถ้าผลไม้ทั้งสองลูกนั้นเอามาได้ง่าย ๆ ตระกูลคงไม่ส่งฉันที่มีระดับ A สูงสุดมาด้วยหรอก! แค่หาใครก็ได้มานำทาง นายถึงขนาดต้องมาเชิญฉันผู้มีพลังระดับ A มางั้นเหรอ? " ตงฟางเหลียนมองไปยังเหล่าผู้คนแล้วคิดขึ้นมาในใจ
แต่ในเวลานี้เย่เฉียวและลูกทีมได้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ตงฟางเหลียนก็ยังทำตัวราวกับเทพเจ้าแก่ๆที่ยืนกอดอกเอาหลังพิงต้นไม้และมองดูเย่เฉียวอย่างเอื่อยเฉื่อย
ตงฟางเหลียนเชื่ออย่างหมดใจว่าเย่เฉียวจะเข้ามาหาเขาเพราะหากพวกเขาอยากได้ผลไม้วิญญาณสองลูกนั้นโดยใช้เพียงผู้มีพลังระดับ B หรือแม้จะเป็นระดับ A เริ่มต้นที่พลังกำลังปะทุออกมาก็ยังคงถือว่าเป็นอันตรายต่อชีวิตอยู่
แม้เย่เฉียวจะมีลูกทีมหลายคน แต่พวกเขาต่างก็ทั้งอ่อนแอจึงยากที่จะรับงานใหญ่ได้ไม่ว่าจะมีคนมากเท่าใดก็ตามก็ยังถือว่าเล็กน้อยอยู่ดี
"มา ๆ ผู้ชายเดินนำออกมาและเตรียมต่อสู้ มีใครที่เอาผลไม้สองลูกนั้นออกมาจากการปกป้องของนกประหลาดนั่นได้ไหม? เมื่อกลับออกไปจะมีรางวัลให้ชุดใหญ่เลย" เย่เฉียวเอ่ยกับชายทั้งสามที่อยู่ด้านหลังของเขา
"เยี่ยมเลยพี่ใหญ่ ไปสู้กันเถอะ!" ชายคนหนึ่งรีบเห็นด้วยอย่างทันทีและอีกสองคนก็พยักหน้าอย่างตื่นเต้น
"และเธอสองคนก็ด้วย เมื่อเหลียนเย่กับฉันบรรลุพลังระดับ A ได้ พวกเราจะตอบแทนเป็นอย่างดี!" จ้าวหลงไม่ลืมอีกสองคนที่มากับเหลียนเย่
รวมทั้งหมดเป็นเจ็ดคน เย่เฉียวกับหยินเหลียนเย่ที่แข็งแกร่งที่สุด ชายระดับ B หนึ่งคนและทีเหลืออยู่ระดับ B กลาง
"ทุกคน นั่นไม่ใช่แค่นกที่ไม่สมประกอบหรอกเหรอ? ดูสิ! " เย่เฉียวมองไปยังตงฟางเหลียนแล้วเอ่ยเยอะเย้ย
"โอ้ ช่างไร้เดียงสา นายคิดว่ามีสัตว์วิญญาณแค่ไม่กี่ตัวคอยปกป้องเหรอ?" ตงฟางเหลียนเยอะเย้ยในใจแต่เขาก็ไม่ได้พูดออกมาเพราะเขาอยากให้เย่เฉียวได้รับบทเรียนที่จำอย่างไม่ลืมเลือน
ถึงอย่างนั้น ตราบใดที่เย่เฉียวกับคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ยังไม่ตายก็ไม่ต้องสนใจคนอื่น ๆ ที่ตายไป เวลานั้นสิ่งที่เขาต้องพูดทั้งหมดก็คือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในป่าและใครจะพูดอะไรก็ช่าง เดิมทีป่าบรรพกาลก็เต็มไปด้วยสัตว์วิญญาณที่อันตรายเป็นอย่างมากจึงเป็นเรื่องปกติหากจะมีอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อย
เย่เฉียวกับคนอีกไม่กี่คนเดินเข้าไปใกล้มันแล้วนกประหลาดพวกนั้นก็เริ่มร้องออกมา น้ำเสียงของพวกมันนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก
"มังกรดำ สัตว์วิญญาณพวกนั้นคืออะไร?" หลินเฟิงเอ่ยถาม
"นายท่าน นี่คือนกดาบกินวิญญาณ มันเป็นสัตว์วิญญาณที่ทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอเป็นอย่างมาก! ปากของมันเหมือนกับคมมีดที่สามารถฉีกร่างของสัตว์วิญญาณระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย" มังกรดำนึกก่อนจะตอบออกมา
จากนั้นมันก็ตอบเสริม: " เหตุผลที่พวกมันทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอก็เพราะพลังต่อสู้ของมันนั้นแข็งแกร่งมาก แต่การต้านรับพลังนั้นแย่มาก แม้ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์วิญญาณในระดับกลางและสูง การป้องกันพลังของพวกมันก็ยังไม่ดีเท่าสัตว์วิญญาณระดับต่ำทั่วไป!"
"ตราบใดที่มันไม่ได้ต่อสู้หรือต่อต้าน ก็สามารถฆ่าได้ง่ายมากแต่นกดาบกินวิญญาณนี้เป็นพวกสัตว์วิญญาณที่มีสังคมจึงน่าจะมีมากกว่าที่เห็นอยู่!" มังกรดำกล่าว
"มากกว่านั้น?" ในขณะที่หลินเฟิงกำลังตัวสั่นอยู่นั้น บริเวณนั้นยังมีอยู่ค่อนข้างน้อยสักเจ็ดหรือแปดตัวได้
แต่วินาทีถัดมา พวกมันจึงได้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเย่เฉียวเดินเข้ามาใกล้ ๆ พวกนกต่างก็กรีดร้อง เสียงแหลมสูงนั้นดังไปทั่วป่าและยังคงดังต่อไป
มีเสียงเหมือนบางสิ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ กำลังกระพือปีกของพวกมัน เวลานั้นเย่เฉียวอยู่ติดกับภูเขาแล้ว ทันใดนั้นก็มีนกพุ่งขึ้นมาจากด้านล่างซึ่งแต่ละตัวไม่ได้อ่อนแอเลย
พวกมันมีจำนวนเกินกว่ายี่สิบโดยตัวที่อ่อนแอที่สุดนั้นอยู่ในระดับสัตว์วิญญาณระดับต่ำ ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ระดับกลางและระดับสูงสุด ส่วนตัวที่ทรงพลังมากที่สุดหรืออาจจะเป็นราชานกมีเพียงเส้นไหมบางๆที่กั้นไว้แค่นั้นก่อนที่มันจะบรรลุข้ามไปเป็นสัตว์วิญญาณขั้นสูงสุดได้
เวลานี้ พวกมันกำลังกินผลน้ำเต้าวิญญาณหลายๆชนิดอยู่ ดูเหมือนว่ามีผลน้ำเต้าวิญญาณสองลูกที่ถูกเตรียมไว้ให้ราชาแห่งนกวิญญานเพื่อให้บรรลุเป็นสัตว์วิญญาณขั้นสูงได้ เมื่อพวกมันเห็นว่าเย่เฉียวกำลังเข้ามาใกล้ นกมากกว่า 20 ตัวก็รีบบินออกไปในทันทีพร้อมกับทำเสียงแหลมสูงและรุนแรงเปรียบเสมือนว่าพวกมันกำลังเตือนอยู่จริง ๆ
ตอนนี้ ผู้คนที่อยู่ด้านหลังเย่เฉียวก็เริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว พวกมันมีมากกว่ายี่สิบ อ่า นกดาบกินวิญญาณที่มีมากกว่ายี่สิบตัว ช่างเป็นกลุ่มที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้นะ คนอื่น ๆ ต่างก็มองไปที่นกประหลาดเหล่านี้พร้อมกับสั่นด้วยความกลัว
กระทั่งมีบางคนที่เริ่มถอยกลับ ถอยกลับทีละคนทีละคน
"อย่าไปกลัว จงปลดปล่อยสัตว์คู่หูออกมาและต่อสู้เพื่อฉัน..."
0 ความคิดเห็น