RC:บทที่ 233 หมาป่าสายฟ้านรก
เมื่อนึกถึงอดีตอย่างถี่ถ้วน หลินเฟิงก็พบว่าสิ่งที่ทรงพลังมากที่สุดคือราชาหมาป่าสายฟ้านรกระดับสูง แม้ว่ารูปร่างจะไม่แตกต่างจากหมาป่าสายฟ้านรกมากนัก แต่ก็มีเส้นสีแดงหลายเส้นพาดผ่านอยู่บนหัวซึ่งทำให้ดูเหนือกว่าเป็นอย่างมาก
"ต้องทำอะไรบ้าง พี่เฟิง?" เมื่อหวังหานเห็นเป็นแบบนี้ เขาก็ประหม่ามากจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
เขาไม่เคยถูกสัตว์ร้ายมากมายจ้องมองมาก่อน แต่ละตัวแยกเขี้ยวและเปล่งพลังที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาออกมา
"ไม่เป็นไรน่า ไม่ใช่ว่าคราวที่แล้วเมื่อตอนที่พวกเราถูกตระกูลตงฟางล้อมไว้ก็ยังรอดมาได้นี่? แล้วก็ทำลายล้างพวกเขาได้ทั้งหมด! " หลินเฟิงเอ่ย
คราวที่แล้ว สถานการณ์ของหลินเฟิงก็คล้าย ๆ แบบนี้ ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็ใช้ความประมาทของอีกฝ่ายเพื่อเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างในชั่วครู่ จากนั้นก็ลงมือฆ่าพวกเขาอีกครั้งและในที่สุดก็รอดตาย
คราวนี้ก็แค่เปลี่ยนมาเป็นสัตว์วิญญาณ แม้ว่าหมาป่าสายฟ้านรกจะแข็งแกร่งและฉลาดแกมโกงเป็นอย่างมาก แต่สัตว์วิญญาณก็ยังคงเป็นสัตว์วิญญาณ สัดส่วนความฉลาดของพวกมันก็ไม่ดีเท่าของมนุษย์พอสมควร นอกจากนี้มันก็เป็นเพียงสัตว์วิญญาณไม่ใช่มนุษย์ที่ครอบครองความโดดเด่นในดินแดนหลัก
เนื่องจากผ่านการต่อสู้มามากมาย ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เวลานี้ระดับของหลินเฟิงคือ B ขั้นสุดท้ายพร้อมกับมังกรดำที่เข้าสู่สถานะล่าสุดก็ทำให้ขอบเขตของหลินเฟิงเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ
ยิ่งไปกว่านั้น หลินเฟิงก็มีทักษะทางจิตวิญญาณและสิ่งประดิษฐ์มากกว่าแต่ก่อน จนเรียกได้ว่า "มีความเชี่ยวชาญ" และยังมีสัตว์วิญญาณอีกหลายตัวที่ทำพันธะสัญญากับหลินเฟิง ความแข็งแกร่งของหลินเฟิงจึงไม่น้อยไปกว่าผู้ที่มีพลังระดับ A เลย
เวลานี้หลินเฟิงจึงไม่กลัวแต่กลับรู้สึกต้องพยายามมากขึ้นไปอีก
ที่จริงแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือหลินเฟิงต้องปรับปรุงเกราะรบระดับต่ำที่ได้มาเมื่อตอนที่เขาจัดการกับกองขยะเมื่อวาน เพื่อลองใช้ความสามารถในการต่อสู้ที่แท้จริงของชุดเกราะรบนี้
"ต้นไม้ปีศาจ สถานการณ์ของนายเป็นอย่างไรบ้าง? นายพบต้นไม้ที่มีอายุเกิน 100 ปีไหม?" หลินเฟิงกล่าวกับต้นไม้ปีศาจ
"พร้อมแล้วนายท่าน!" ตอนนั้นก็มีเสียงหนึ่งอยู่รอบตัว น้ำเสียงนั้นใหญ่และให้ความรู้สึกเหมือนเป็นชายชรา
ปรากฏว่าต้นไม้ปีศาจได้เจอกับต้นไม่ใหญ่อายุ 200 ปีอยู่ใกล้ ๆ ต้นไม้หนาเกินกว่าที่คนสามคนจะโอบได้
พลังของต้นไม้ปีศาจสามารถแบ่งได้เป็นสองแบบ หนึ่งคือพลังของตัวมันเอง อีกแบบคือพลังของต้นไม้ที่ถูกแฝงร่าง โดยปกติแล้วยิ่งอายุยืน ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของมันก็ยิ่งน่ากลัว
แน่นอนว่านี่ก็ถือเป็นประเภทในการให้คะแนนต้นไม้ด้วย เช่นบางต้นก็แข็งมากและบางต้นก็ราวกับฟองน้ำ
เวลานี้ต้นไม้ปีศาจกำลังเกาะติดอยู่กับต้นไม้ที่สูงตระหง่านอายุเกือบ 200 ปี ซึ่งใหญ่ที่สูงในบรรดาต้นไม้รอบ ๆ และเนื้อไม้ที่แข็งมากเป็นพิเศษก็ส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแกร่งของสัตว์วิญญาณระดับกลางขั้นสูงนี้
"เยี่ยมมาก มาเตรียมต่อสู้กัน เตรียมทำงานใหญ่ สัตว์วิญญาณพวกนี้ยกย่องให้พวกเราเป็นเหยื่อแต่พวกมันไม่รู้หรอกว่าใครกันที่จะเป็นเหยื่อ!" เมื่อมองไปยังหมาป่าสายฟ้านรกก็ทำให้หลินเฟิงเต็มไปด้วยวิญญาณแห่งการต่อสู้
เวลานี้ หลินเฟิงไม่ได้อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แม้จะเป็นสัตว์วิญญาณระดับสูงหนึ่งตัวกับแปดสัตว์วิญญาณระดับกลางขั้นสูง หลินเฟิงก็ยังไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนักเพราะเขามีพลังที่แข็งแกร่งนี้
บรู้ววว!
เพียงแค่ผู้นำของหมาป่าสายฟ้านรกคำรามขึ้นมา จากนั้นสัตว์วิญญาณทั้งแปดที่ยืนล้อมรอบก็คำรามดังขึ้นเรื่อย ๆ และต่อมาก็เข้ามาโจมตีคนทั้งสามโดยเริ่มจากหลินเฟิงก่อนคนอื่น
"เก็บราชาหมาป่าสายฟ้านรกให้ฉัน ส่วนตัวอื่นๆฉันจะมอบมันไปให้ต้นไม้ปีศาจจัดการ มีปัญหาอะไรไหม?" หลินเฟิงถามต้นไม้ปีศาจและมองไปยังหมาป่าสายฟ้านรก
"ไม่!" พลังของต้นไม้ปีศาจนั้นสามารถจัดการกับหมาป่าสายฟ้านรกพวกนี้ได้ เขาเลยอยากจะเหลือสัตว์วิญญาณระดับสูงไว้ฝึกฝีมือสักตัว
กรร!
ด้วยการโจมตีของหมาป่าสายฟ้านรก ราชาหมาป่าก็เคลื่อนไหวเช่นกัน แน่นอนว่าราชาหมาป่าตัวนี้ฉลาดกว่าหมาป่าสายฟ้านรกตัวอื่นมาก มันไม่ได้เข้ามาโจมตีตั้งแต่แรกแต่วิ่งไปรอบ ๆ ลานต่อสู้ราวกับมันกำลังมองหาโอกาสเหมาะ ๆ เพื่อเข้าจู่โจม
"โอ้ ถ้านายไม่เข้ามาโจมตี งั้นฉันจะไปหานายเองนะ! เกราะต่อสู้" หลินเฟิงเย้ยหยันจากนั้นก็กระตุ้นพลังวิญญาณ เกราะต่อสู้ก็ค่อย ๆ ห่อหุ้มไปทั่วร่างของหลินเฟิง
ตอนแรกเกราะจะอ่อนนุ่มและเหมือนจะไม่สามารถต้านทานอะไรได้ แต่เมื่อหลินเฟิงสูดลมหายใจ เกราะก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นโลหะที่มันวาวและแข็งแกร่ง
เมื่อการต่อสู้เริ่มอย่างสมบูรณ์ หลินเฟิงก็รู้สึกได้ว่าพลังกำลัง, ความแข็งแกร่งและด้านอื่น ๆ ของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แม้จะไม่สำคัญมากนักแต่ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะด้านการโจมตี
จากนั้นหลินเฟิงก็พุ่งตัวออกไปโดยถือใบมีดเงาเลือดไว้ที่มือซ้าย ปล่อยหมัดไฟโลกันต์ออกมาจากมือขวาแล้วพุ่งเข้าไปใส่ราชาหมาป่าของกลุ่มหมาป่าสายฟ้านรก
หลินเฟิงเหวี่ยงมือไปทางหมาป่าสายฟ้านรก ใบมีดเงาเลือดอันแหลมคมที่ส่องประกายสีแดงก็พรากชีวิตไปจากหมาป่าสายฟ้านรกระดับกลางสูงสุดตัวนั้นไปแล้ว
ก่อนที่จะทันได้ยินเสียงกรีดร้อง หมาป่าสายฟ้านรกก็นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นเรียบร้อยแล้ว
โฮก!!!
เมื่อเห็นอย่างนี้ จ่าฝูงของหมาป่าสายฟ้านรกก็ร้องคำรามขึ้นมาทันที เมื่อหยุดเสียงลงมันก็พุ่งเข้าใส่หลินเฟิงอย่างรวดเร็ว
มันรวดเร็วมากจนทันเห็นเพียงแค่สายฟ้าที่ส่องประกายอยู่รอบตัวมันและส่งเสียงเปรี๊ยะ เปรี๊ยะ ก้องสอดประสานซึ่งกันและกัน จากนั้นร่างทั้งร่างของมันก็หายตัวไปในทันที
เขาเห็นแสงไฟบินเข้าไปหาหลินเฟิง มันเร็วเกินกว่าที่หลินเฟิงจะทันรู้ตัว เวลานั้นหลินเฟิงเพิ่งฆ่าหมาป่าสายฟ้านรกไปหนึ่งตัว พลังวิญญาณในตัวของเขาเลยยังไม่ลดลงไป
เมื่อแสงไฟพุ่งเข้ามาถึงหลินเฟิง ทันใดนั้นมันก็กลายร่างกลับมาเป็นราชาหมาป่าสายฟ้านรกแล้วสะบัดกรงเล็บใส่หน้าอกของหลินเฟิง
ฟุ่บ!
หลินเฟิงกระอักเลือดออกมาเล็กน้อยแล้วถอยออกมา
หลินเฟิงประมาทเกินไป เขาไม่คิดว่าราชาหมาป่าสายฟ้านรกจะเก่งขนาดนี้ มันพุ่งเข้ามาหาเขาในชั่วพริบตาจนเขาไม่ทันรู้สึกตัวและถูกโจมตีเข้าอย่างจัง
พลังของกรงเล็บนี้ช่างน่ากลัว ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีของสัตว์วิญญาณขั้นสูงสุดนั้นเทียบเท่ากับการโจมตีอย่างเต็มรูปแบบจากผู้มีพลังระดับ A จะธรรมดาได้อย่างไร
แต่หลินเฟิงก็แค่กระอักเลือดเล็กน้อยเพราะขณะที่ราชาหมาป่าสายฟ้านรกสัมผัสตัวของเขา หลินเฟิงก็รู้สึกได้ว่าเสื้อเกราะได้กระจายพลังจากกรงเล็บนี้ออกไปเกือบหมดแล้ว
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น หลินเฟิงก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่มาก หากเขาไม่ได้สวมเกราะรบอยู่เขาก็คงจะตายไปแล้ว
ในเวลาเดียวกัน คนอื่น ๆ ก็ต่อสู้อยู่เช่นกัน หวังหานกับเหยี่ยวทองคำตัวโปรดของเขาต่อสู้อยู่กับหมาป่าสายฟ้านรกตัวหนึ่ง ตู๋กังกับเสี่ยวเฮยหมานรกก็ต่อสู้กับหมาป่าสายฟ้านรกอีกตัวหนึ่ง ส่วนมังกรดำนั้นต่อสู้เพียงลำพัง
ในกลุ่มพวกเขา มังกรดำทรงพลังมากที่สุด มันฆ่าหมาป่าสายฟ้านรกด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่ครั้ง สัตว์วิญญาณของตระกูลมังกรไม่เพียงแค่ทรงพลังเท่านั้นแต่ยังสามารถกดข่มระดับสายเลือดของสัตว์วิญญาณในระดับเดียวกันได้อีกด้วย มังกรดำเลยมักจะฆ่ามันได้ในเสี้ยววินาที
0 ความคิดเห็น