RC:บทที่ 232 ถูกจับตามอง
"นายท่าน รอเดี๋ยว ข้าสงสัยว่าพวกเรากำลังถูกจ้องมองอยู่!" ขณะที่พวกเขากำลังจะเดินไปข้างหน้า มังกรดำก็รีบออกมาจากหว่างคิ้วของหลินเฟิงแล้วเอ่ยอยู่ตรงคอของเขา
"นายก็คิดแบบนั้นด้วยเหรอ? ตั้งแต่ฉันก้าวเข้ามาก็รู้สึกหวาดผวาเหมือนกำลังถูกบางสิ่งจ้องมองอยู่! " หลินเฟิงกล่าว
"ข้าก็รู้สึกเช่นกัน ถึงแม้การรับรู้ของข้าจะไม่พบสัตว์วิญญาณเลยแต่ข้าก็รู้สึกเหมือนถูกจ้องมองอยู่เสมอราวกับว่ามันอยู่บนหลังของข้า!" มังกรดำที่พันอยู่บนคอของหลินเฟิงมองไปรอบ ๆ แล้วพูดอย่างระมัดระวัง
"หวังหาน ตู๋กัง หยุดก่อน อย่าเพิ่งเดินไปข้างหน้า!" ตั้งแต่มังกรดำพูดขึ้นมาเหมือนกัน หลินเฟิงก็รู้แล้วว่าจะต้องเกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน
คนหนึ่งรู้สึกไม่สบายตัวซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นปฏิกิริยาของร่างกายเอง แต่หากเป็นมากกว่าสองคนนั่นหมายถึงจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ๆ
"มีอะไรเหรอ? พี่เฟิง! " เมื่อหวังหานและตู๋กังได้ยินคำเตือนของหลินเฟิง พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ต้องหยุดอย่างไร้สาเหตุ
"ฉันก็ไม่รู้ พวกนายเตรียมตั้งรับไว้ พวกเรากำลังถูกบางอย่างจ้องมองอยู่!" หลินเฟิงกล่าว
"เรากำลังถูกเฝ้ามองเหรอ?" หวังหานกับตู๋กังรู้สึกช๊อคแล้วมองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว
"นายท่าน ข้ารู้สึกถึงมันอีกครั้งแล้ว แต่ก็ยังหาแหล่งที่มาไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นจึงมีได้เพียงคำตอบเดียว!" มังกรดำพูดอย่างหนักใจในเวลานี้
"เหนือกว่านายงั้นเหรอ?" มังกรดำในเวลานี้เป็นสัตว์วิญญาณระดับกลางขั้นสุดท้าย แต่ความแข็งแกร่งของมันไม่อาจเทียบได้กับสัตว์วิญญาณระดับกลางขั้นสุดท้ายทั่ว ๆ ไป แม้แต่สัตว์วิญญาณระดับกลางขั้นสูงสุดก็ยังด้อยกว่าเป็นเพราะเลือดของมังกรที่แท้จริงไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งประดับ
ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยเพราะสิ่งที่จะอยู่เหนือการรับรู้ของมังกรดำได้มีเพียงสัตว์วิญญาณที่มีระดับสูงกว่าเท่านั้น
"นายท่าน ข้ารู้สึกแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ข้าเข้ามาในป่า นั่นคงเป็นเหตุผลที่สัตว์วิญญาณตัวนี้คงไม่ได้ติดตามเรามานานแล้วใช่ไหม?" มังกรดำถาม
"ถ้าเราไม่ได้ถูกจับตามองมาตั้งแต่แรก เราก็ไม่ควรที่จะทำให้ตัวเองผิดหวังสิ นอกจากนี้เรายังมากันตั้งสามคนแล้วยังมีสัตว์คู่หูอีกด้วย! ถ้าเขาตามเรามานาน เขาก็คงจะรอโอกาส หรือไม่ก็... กำลังรอพรรคพวก! " หลินเฟิงนึกถึงความเป็นไปได้ขึ้นมาอย่างทันที
"นายท่าน นายท่าน ข้ารู้สึกว่ามีสัตว์วิญญาณที่ทรงพลังหลายตัวกำลังมุ่งมาที่นี่ รีบหลบเร็ว!" ขณะที่หลินเฟิงกำลังพูด เสียงจากต้นไม้ปีศาจก็ดังขึ้นมา
"ฉันว่าไม่ทันแล้ว ฝ่ายตรงข้ามได้ทำการซุ่มโจมตีแล้ว!" หลินเฟิงพูดด้วยเสียงต่ำ
เวลานั้น มีเสียงกรอบแกรบดังอยู่รอบ ๆ เสียงทั้งหนาทึบและน่ากลัว หลินเฟิงรับรู้ได้ว่ามันมาจากทุกทิศทาง และจำนวนก็ดูเหมือนจะมากเกินสองสามตัวจนเกือบจะถึงสิบ!
"ต้นไม้ปีศาจ นายไปอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่เพื่อช่วยสนับสนุนเรา! มังกรแห่งแสงจงออกมาแล้วซ่อนตัวอยู่ที่พื้น รอคำสั่งจากฉัน! " หลินเฟิงรู้สึกว่ามีสัตว์วิญญาณอยู่ใกล้ๆ จึงพยายามคิดหาทางออก
"มังกรดำ, เสี่ยวเฮย นายทั้งคู่จงออกมา เสี่ยวเฮยนายปกป้องตู๋กัง หวังหานนายมีสัตว์คู่หูของตัวเองดูแลตัวเองแล้วกันนะ!" หลินเฟิงถ่ายทอดกลวิธีทันที
"ครับนายท่าน!" แต่ละคนที่มีหน้าที่เป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้วรอวิกฤติการณ์ที่กำลังเข้ามาใกล้
ซ่า ซ่า! มันดังขึ้นเรื่อย ๆ
โบร๋วว!
ทันใดนั้นก็มีหมาป่าตัวหนึ่งร้องโหยหวนอยู่ในป่าด้านหลังของพวกเขา จากนั้นหมาป่าสีน้ำเงินเข้มตัวใหญ่ที่มีประกายแสงสีฟ้าอยู่รอบตัวก็วิ่งตรงมาหาตู๋กังอย่างรวดเร็ว!
"เสี่ยวเฮย เตรียมรับมือ!"
ขณะที่หมาป่าสีน้ำเงินเข้มกำลังวิ่งเข้ามา หลินเฟิงก็เห็นได้อย่างทันทีและรีบเตือนเสี่ยวเฮย
"กรร!"
มีเสียงคำรามออกมาจากเสี่ยวเฮยและหัวขนาดมหึมาทั้งสองหัวก็ปล่อยลูกไฟสีดำออกมาระดมยิงใส่หมาป่ายักษ์อย่างพร้อมเพรียงกัน
แต่น่าอัศจรรย์ที่แสงบนตัวของหมาป่าน้ำเงินเข้มได้ปกคลุมและป้องกันการโจมตีของเสี่ยวเฮยหมานรกไว้ได้
ด้านบน!!!
เวลานี้ มังกรดำได้คำรามออกมาแล้วขยายขนาดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว รัศมีพลังและหางของมังกรขยายออกมาแล้วมังกรก็สบัดหางตรงไปที่หมาป่าน้ำเงินเข้ม
หมาป่าน้ำเงินเข้มไม่คิดว่ามังกรดำจะทรงพลังเป็นอย่างมาก ขณะที่มังกรดำปล่อยพลังมังกรออกมามันก็ได้รับผลกระทบทำให้การเคลื่อนไหวของมันอ่อนแอลงเป็นอย่างมากจึงส่งผลให้รับการโจมตีจากมังกรดำเข้าไปเต็ม ๆ
แต่หมาป่าก็ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก แม้จะไม่ได้ล้มลงแต่มันกลับหมอบลงเพราะคิดว่าอยู่บนพื้นจะปลอดภัยมากกว่าจากนั้นก็แสดงอาการเยาะเย้ยแบบมนุษย์ออกมาซึ่งทำให้หวังหานประหลาดใจมาก
สัตว์วิญญาณตัวหนึ่งแสดงอาการเยาะเย้ยได้เหมือนมนุษย์ ใครได้เห็นอย่างนี้คงจะหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
วู้ว!
จากนั้นก็มีเสียงหอนเสียงหนึ่ง เสียงนั้นดังกว่าเดิมและอยู่ใกล้ตัวเขามาก
ซ่า ซ่า!
หมาป่าตัวหนึ่งปรากฏขึ้นมาทั่วทั้งตัวของหมาป่ายักษเป็นสีน้ำเงินเข้ม มันกำลังแยกเขี้ยว ดวงตาที่หิวโหยกำลังจ้องมองมาที่พวกเขาทั้งสาม
"อืม หมาป่าพวกนี้เป็นสัตว์วิญญาณประเภทไหนกัน? ทุกตัวดูเหมือนจะมีพลังที่แข็งแกร่ง!" เมื่อมองไปยังหมาป่าสีน้ำเงินเข้มที่อยู่รอบตัวเขา หลินเฟิงก็อยู่นิ่ง ๆ แล้วถามมังกรดำ
ข้อมูลของมังกรดำนั้นลึกลับ มันสามารถจำสัตว์วิญญาณทั่ว ๆ ไปได้ ถึงอย่างนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีสัตว์วิญญาณตัวไหนที่มังกรดำยังไม่รู้จัก แน่นอนว่าครู่ถัดมาหลินเฟิงก็ได้ยินชื่อของหมาป่ายักษ์สีน้ำเงินเข้มเหล่านี้จากมังกรดำ
"นี่คือหมาป่าสายฟ้านรก มันเป็นสัตว์วิญญาณที่ฉลาดแกมโกงและดุร้ายเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ฉลาดแกมโกงและดุร้ายเพียงเท่านั้น แต่มันยังโด่งดังเช่นกัน!" มังกรดำเอ่ย
"ฉลาดแกมโกง? ดุร้าย? แล้วยังมีชื่อเสียงอีกด้วย? พูดแต่จุดเด่น สิ่งสำคัญคือจุดอ่อนของมันอยู่ตรงไหน! " ขณะที่หลินเฟิงกล่าว เขาก็มองไปรอบ ๆ เวลานั้นก็มีหมาป่าสายฟ้าเข้มเดินออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ
ในเวลาอันสั้นที่หมาป่าสายฟ้านรกพวกนี้ออกมา หลินเฟิงก็นับจำนวนพวกมันทั้งหมด
"ไม่ต้องนับหรอก หมาป่าสายฟ้านรกมักจะมีไม่เกินสิบ อย่างมากก็แปดหรือเก้า!" มังกรดำเอ่ย
"นายรู้ได้ไง?" หลินเฟิงไม่อยากจะเชื่อเขาเลยนับมันอีกครั้ง พวกมันมีจำนวนเก้าตัว
"ข้ากล่าวแล้วว่าหมาป่าสายฟ้านรกทั้งฉลาดแกมโกงและดุร้าย เมื่อใดก็ตามที่กลุ่มของมันมีจำนวนถึงสิบ พวกมันจะฆ่าตัวที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้นในห่วงโซ่อาหาร พวกมันจึงมักจะอยู่บนระดับสูงสุดเสมอ!"
"และถ้าราชาหมาป่าแก่, ได้รับบาดเจ็บ, หรืออ่อนแอลง มันก็จะถูกฆ่าแล้วแทนที่ด้วยหมาป่าสายฟ้านรกตัวอื่น ดังนั้นเมื่อมีคนเผชิญหน้ากับหมาป่าสายฟ้านรกก็มักจะมีแปดหรือเก้าตัว และแต่ละตัวก็ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง!" มังกรดำเอ่ย
"ไม่ใช่จะบอกว่าตอนนี้โชคของพวกเราก็ไม่ได้เลวร้ายนักใช่ไหม?" หลินเฟิงมองไปที่เหล่าหมาป่าสายฟ้านรกที่อยู่ตรงหน้า
แน่นอนว่าหลินเฟิงรับรู้ได้ว่าพลังของหมาป่าสายฟ้านรกพวกนี้ไม่ธรรมดาและความแข็งแกร่งของพวกมันแต่ละตัวก็ใกล้เคียงจนเกือบจะเท่ากัน
หลินเฟิงมองไปรอบ ๆ มีครั้งหนึ่งที่เป็นหมาป่าสายฟ้าที่โจมตีหลินเฟิง นอกนั้นก็เป็นสัตว์วิญญาณขั้นกลางสูงสุด ปรากฏการณ์แบบนี้ช่างหากได้ยากในธรรมชาติ
"ดูเหมือนว่าตัวนี้จะเป็นราชาหมาป่านะ!" หลินเฟิงมองดูอย่างถี่ถ้วนแล้วพบว่าราชาหมาป่านั้นแตกต่างไปจากหมาป่าสายฟ้าตัวอื่น ๆ
0 ความคิดเห็น