RC:บทที่ 227 โอกาสทองมาแล้ว จะไม่คว้าไว้หรือ
“สวัสดีครับ” หลิน เฟิงรับโทรศัพท์ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ
“สวัสดี นั่นใช่คุณหลิน เฟิงหลินหรือเปล่าครับ” เสียงชายวัยกลางคนดังขึ้นมาจากปลายสายด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ใช่ครับ ผมชื่อหลิน เฟิง แล้วขอโทษนะครับ คุณคือใครครับ” หลิน เฟิงสงสัย
เมื่อได้ยินเสียงวัยกลางคนดังออกมา หลิน เฟิงก็รู้สึกแปลกใจ เพราะเขากล้ายืนยันได้เลยว่าไม่เคยได้ยินเสียงของชายคนนี้มาก่อน และพวกเขาก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วย
เขาจึงสงสัยว่าชายวัยกลางคนคนดังกล่าวนั้นรู้เบอร์โทรกับชื่อเขาได้อย่างไร นี่ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่
“งั้น สวัสดีครับ คุณหลิน เฟิง ผมเป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านจิ้นชานเอง และอยู่ไม่ไกลจากคุณด้วย” อีกฝ่ายตอบมา
“หมู่บ้านจิ้งชานงั้นหรือ อ๋อ สวัสดีครับ แล้วนี่คุณรู้เบอร์โทรผมได้ยังไงกันครับ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า” หลิน เฟิงถามขึ้น
หลิน เฟิงเองก็เพิ่งจะมีเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองก็ตอนจบมหาวิทยาลัยแล้ว โดยทั่วไป จะมีคนอยู่ไม่กี่คนที่รู้ ส่วนคนอื่นๆก็ไม่มีใครรู้ ดังนั้นหลิน เฟิงจึงรู้สึกแปลกใจ
“หมู่บ้านจิ้นชานงั้นหรือ ไม่ใช่หมู่บ้านสุดท้ายที่มีการประเมินไปงั้นหรือ แล้วนี่ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านนั้นจะมาขอร้องอะไรเรากัน” หลิน เฟิงพึมพำอย่างแปลกใจ
“ฉันได้เบอร์โทรของเธอมาจากผู้นำซ่ง และไม่ใช่แค่ฉันที่ได้นะ แต่คนอื่นๆก็ได้ไปเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่อันดับที่โหล่ๆในการประเมินหมู่บ้าน” ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านจิ้งชานอธิบาย
“ว่าไงนะ นี่ท่านผู้นำซ่งให้อะไรกับเขาไปนี่ ให้เบอร์โทรผมเนี่ยนะ แบบนี้ผมก็เปลี่ยนเบอร์ไม่ได้สิ” แล้วหลิน เฟิงก็ไม่ได้กล่าวอะไรต่อ
“ไม่นะไม่ ผู้นำซ่งเขาบอกว่า หมู่บ้านของเราอยู่อันดับที่ 30 อันดับสุดท้าย ต้องโดนตรวจสอบเป็นครั้งที่สอง และถ้าพวกเราสอบตกอีก ตำแหน่งฉันก็คงป้องกันไว้ได้ยากแล้ว เขาบอกว่าพวกเราจะต้องใช้ความรู้แบบมืออาชีพในการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมและการย่อยสลายขยะ ฉันก็เลยหวังว่าจะขอให้นายช่วยเราได้ไหม” ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านจิ้นชานเอ่ยขึ้น
มีหมู่บ้านเป็นแสนๆหมู่บ้านในจังหวัด G และอยู่ลำดับสุดท้ายอย่าง 30 ด้วยเหตุที่ว่าสภาพแวดล้อมนั้นไม่ต่างจากบ่อขยะเลย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าจะต้องโดนตรวจสอบอีกเป็นครั้งที่สอง
“อ๋อ เข้าใจแล้วครับ” ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น หลิน เฟิงก็ร้องออกมา เพราะเขากำลังกังวลเรื่องที่ไม่มีแหล่งทรัพยากรขยะ แล้วมาตอนนี้ กลับมีคนยื่นข้อเสนอนี้มาให้ โอกาสทองมาแล้ว จะไม่คว้าไว้หรือ
“เรื่องนี้ผมช่วยคุณได้ แต่ผมคงไม่ได้ช่วยคุณฟรีๆหรอกนะ ผมจำเป็นต้องทำเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเป็นก่อนอย่างแรก คุณจะยินยอมให้ผมไปดูวันพรุ่งนี้หรือมะรืนก็ได้นะ แต่ถ้าผมไปไม่ได้ก็อย่าว่ากันล่ะครับ” หลิน เฟิงว่าขึ้นก่อนจะกล่าวออกไป
ในความคิดเห็นของหลิน เฟิง เรื่องนี้นั้นยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว ไปช่วยพวกเขาจัดตั้งที่เก็บขยะ บ่อบำบัดของเสีย ฯลฯ ไม่ใช่แค่ใช้มือถือกับพวกน้ำเน่าและทรัพยากรอื่นๆได้เท่านั้น แต่ยังทำให้อันดับพวกเขาขึ้นอีกต่างหาก ดีที่สุดทั้งสองโลกเลย
“ไม่ว่าหรอก พวกเราเองก็เข้าใจว่าคุณพยายามได้ดีที่สุดที่จะสละเวลามาทำให้เราดู เบื้องบนให้เวลามาแค่สองเดือนเท่านั้น ถ้าทำไม่ได้ล่ะก็ ฉันได้หลุดจากตำแหน่งแน่ และตราบใดที่ราคาที่คุณเสนอมาไม่มากจนเกินไปล่ะก็ พวกเราก็จะหาวิธีการทำให้ดีที่สุดด้วย” อีกฝ่ายกล่าวขึ้นอย่างกังวล
หลิน เฟิงเองก็รู้มาว่าคนพวกนี้นั้นยักยอกเงินไปเป็นจำนวนหลายแสนทุกๆปี แม้ว่าจะไม่มีเงินเป็นล้าน แต่พวกเขาก็คงจะไม่ว่าอะไรหรอกถ้าหลิน เฟิงจะเรียกเงินสัก3-5แสน
เพราะเมื่อเทียบกับตำแหน่งที่ตนอยู่ เงินจำนวนเป็นแสนนั่นคงไม่คณามือนัก
“ได้สิ เดี๋ยวผมจะไปในวันพรุ่งนี้และก็วันมะรืนด้วย แต่ผมขอประเมินไว้ว่าน่าจะประมาณ 300000 ถึง 500000 ครับ ขึ้นอยู่กับขนาดของหมู่บ้านคุณ ระดับมลพิษของขยะ ฯลฯ ถ้าคุณรับได้ ผมก็จะไป แต่ถ้ารับไม่ได้ พวกเราก็คงต้องไม่เสียเวลา” หลิน เฟิงกล่าวไว้ล่วงหน้า
“ได้ ได้เลยๆ ราคาอยู่ในช่วงที่รับได้ มาหาเราให้เร็วที่สุดเลยนะ” เมื่อได้ยินราคาครั้งแรก ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านจิ้งชานก็รู้สึกโล่งอกเพราะคิดว่าหลิน เฟิงจะบอกราคาสูงกว่านี้
ถ้าให้ราคามาอยู่ในระหว่าง 300000 กับ 500000 หยวน ราคาก็จะพอๆกับเงินที่ทางรัฐส่งมาให้จัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ดูตกใจไม่น้อยที่ดูเขาจะไม่ละโมบเรื่องเงินเลย
“เอ่อ ผมขอดูก่อนนะว่าพรุ่งนี้ผมจะมีเวลาไหม หรืออาจจะเป็นวันมะรืน ถ้ามีเวลาผมก็จะไป”
“รับทราบ ได้เลย ขอบใจนะ คุณหลิน” หลังจากพูดจบ ปลายสายก็ถอนใจเฮือกใหญ่ จากนั้นจึงวางสาย
“ฮ่าๆ ก็แค่ห่วงเรื่องไม่มีทรัพยากรกับเงิน นี่ไม่ใช่ว่าจู่ๆฟ้าก็ส่งให้ใครสักคนนำทรัพยากรกับเงินมามอบให้” หลิน เฟิงพอใจอย่างเงียบๆในใจ แต่ก่อนที่เขาจะได้มีความสุขต่อ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ทันทีที่หลิน เฟิงเห็น มันคือชื่อของท่านผู้นำซ่ง เขาจึงรีบรับในทันที
“สวัสดีครับ ท่านผู้นำซ่ง” หลิน เฟิงกล่าวอย่างสุภาพ นี่ล่ะคือเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง แล้วหลิน เฟิงจะทำตัวไม่สุภาพใส่ได้อย่างไร
“นี่ เสี่ยวเฟิง นายเป็นยังไงบ้าง ดังใหญ่แล้วนะตอนนี้ หมู่บ้านนายก็ด้วย ตอนนี้มีคนมากมายเลยนะที่ตั้งตารอจะไปเยี่ยมชมหมู่บ้านนายน่ะ” ปลายสายเอ่ยชื่นชมในทันที
“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะอานิสงส์ของผู้นำซ่งทั้งสิ้นครับ ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะจากทีมช่างกล้องคุณภาพของท่านล่ะก็ หมู่บ้านของเราคงไม่ได้มาถึงขนาดนี้แน่” หลิน เฟิงเองก็ไม่ลืมที่จะสาธยายบุญคุณไปด้วย นี่ถ้าไม่ใช่เพราะผู้นำซ่งถ่ายรูปอย่างเอาจริงเอาจังอีกทั้งยังพยายามอย่างมากที่จะเผยแพร่แล้วล่ะก็ หมู่บ้านของหลิน เฟิงก็คงไม่ได้อันดับหนึ่งมาง่ายดายขนาดนั้น
“ไม่ๆๆ หลักๆเลยนี่ก็เพราะสภาพแวดล้อมและทิวทัศน์ในหมู่บ้านนายต่างหากที่ดีเยี่ยม ไม่อย่างงั้นแล้ว จะให้พวกเราพยายามสักแค่ไหน ผลตอบรับก็ไม่ออกมาดีขนาดนี้หรอก อย่าถ่อมตัวไปเลยน่า”
“แล้วก็ ฉันจะบอกอะไรนายให้อย่าง ฉันเอาเบอร์โทรศัพท์ของนายให้กับผู้ใหญ่บ้านของอำเภอจิ้งเฟิงที่อยู่รั้งท้ายอันดับที่ 30 ไว้ด้วย คาดว่าพวกเขาน่าจะโทรมาหานายเร็วๆนี้นะ ถ้านายมีเวลาล่ะก็ จัดการให้พวกเขาหน่อยเถอะ สภาพแวดล้อมของพวกเขาน่ะเลวร้ายจริงๆ” ซ่งกล่าว
“ตอนนี้ อำเภอจิ้งเฟิงเองก็ได้รับคำชื่นชมหนาหูเลยจากผู้มีอำนาจเบื้องบน เพราะเป็นสิบหมู่บ้านที่ติดอยู่ในสามอันดับแรก มีหมู่บ้านลั่วหยาง จิ้งชุยและผิงหยาน และฉันก็ได้ยินมาว่าสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านทั้งสองนั่นก็มาจากฝีมือของนายด้วย ทั้งการบำบัดสิ่งปฏิกูลเอย ที่เก็บขยะรวมถึงพวกดอกไม้และพืชด้วยก็มาจากนาย ใช่ไหม” ผู้นำซ่งกล่าวอะไรออกมามากมายในตอนนั้น หลิน เฟิงเองก็คาดไม่ถึงว่าท่านจะมองอะไรได้ทะลุปรุโปร่งเช่นนี้
“ใช่แล้วครับ ในหลายหมู่บ้านนั้น พวกเขาขอให้ผมช่วยพวกเขา ทั้งแบ่งที่เก็บขยะและบ่อบำบัดของเสีย และยังซื้อดอกไม้และของอื่นๆไปด้วยครับ” หลิน เฟิงตอบ
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าการประเมินครั้งก่อนล้วนแต่ตกอันดับกัน แต่ครั้งนี้กลับเข้ารอบสิบอันดับแรก เป็นเรื่องที่ดีมากเลย เพราะนายทำให้ทางอำเภอน่ะได้รับคำชื่นชมมากมายเลยนะ แต่ในขณะเดียวกัน อำเภอของเราก็โดนวิจารณ์หนักอยู่เหมือนกัน” ท่านผู้นำซ่งเอ่ยเสริม
“อะไรนะครับ หลังจากชื่นชมแล้ว ก็มาวิจารณ์กันงั้นหรือ ผมได้ยินถูกใช่ไหมครับนี่” เมื่อหลิน เฟิงได้ยินแบบนั้น เขาก็ไปไม่เป็นเลย พลางคิดว่าได้ยินผิดอีกต่างหาก
“นายได้ยินถูกแล้ว”
“ทำไมเป็นอย่างงั้นล่ะครับ” หลิน เฟิงไม่เข้าใจ
“พวกเราต่างได้รับคำชมอย่างมากเพราะเป็นสามหมู่บ้านที่ติดอยู่ในสิบอันดับแรกของเมือง อย่างลั่วหยาง จิ้งชุยและผิงหยานที่นายเป็นคนสร้างขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายหมู่บ้านใน 30 อันดับแรก อำเภอของเราน่ะถือว่าเป็นเกือบจะหนึ่งในสามของทั้งหมดเลย เป็นจำนวนเก้าแห่งจากหมู่บ้านทั้งหมดที่มีมลพิษ” ท่านผู้นำซ่งเอ่ยด้วยความโกรธ
“เก้าเลยหรือครับ มากแค่ไหนกันเชียว แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะถูกวิจารณ์...” เขากล่าว
0 ความคิดเห็น