RC:บทที่ 225 ที่หนึ่ง
ในตอนนี้ ตัวน้ำเขียวเท้าปุยถูกก้านองุ่นของต้นไม้ปีศาจพันธนาการแน่นหนารวมถึงหนามขนาดใหญ่บนก้านพวกนั้นเองก็แทงลึกเข้าไปในร่างของสัตว์วิญญาณตัวนั้นที่อาบไปด้วยยาพิษร้ายแรง เรื่องที่จะหลบหนีคงเป็นไปไม่ได้
เมื่อได้ยินข้อเสนอที่หลิน เฟิงพูดมา การที่มันจะเลือกว่าจะตายหรือจะรอดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
“ข้า ข้าจะรับใช้ท่านด้วยความจริงใจ” ในตอนนั้นเอง ตัวน้ำเขียวเท้าปุยจึงกล่าวออกมาอย่างอ่อนแรง น้ำเสียงเหมือนผู้หญิงสาว
เมื่อความตายกำลังจะมาเยือน มันจึงต้องเลือกที่จะเอาตัวรอด เพื่อจะได้ไม่ต้องตาย
“เอ๊ะ หรือว่านี่จะเป็นตัวเมีย” หลิน เฟิงตะลึง ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติในเวลาต่อมา
แม้ว่าผู้รับใช้ที่เข้ามาภักดีจะสูญเสียอิสรภาพไป แต่หลิน เฟิงก็ให้สัญญาว่าจะช่วยให้มันไปถึงระดับ S ให้ได้ และเมื่อใดที่มันไปถึงระดับ S แล้ว ทั้งพละกำลังและชีวิตของมันก็จะเพิ่มขึ้นมหาศาล
เมื่อต้องเห็นช่วงชีวิตมนุษย์มาเป็นเวลาหลายปี แต่สิ่งนี้กลับไม่มีผลอะไรกับสัตว์วิญญาณเลย
“ดี ต้นไม้ปีศาจ ปล่อยมันไป” หลิน เฟิงสั่ง
“ขอรับ นายท่าน แต่ว่า นายท่าน ถ้าเขาหนีไปได้อีกก็จับยากแล้วนะครับ” ต้นไมีปีศาจที่สะบักสะบอมเล็กน้อยว่าขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง ฉันมั่นใจว่ามันเองก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น และเพราะว่ามีของอยู่ไม่กี่อย่างที่สามารถช่วยให้มันไปถึงระดับ S ได้ในสภาพออร่าแบบตอนนี้ หรือถ้าจะให้ได้พูดก็ต้องบอกว่าไม่มี ไม่อย่างงั้นแล้ว มันคงไม่เสี่ยงให้ตัวเองโดนเพราะเข้ามาขโมยออร่าของเราไปหรอก” หลิน เฟิงกล่าว
“อ๋อ ได้ครับ” เมื่อกล่าวเช่นนั้น ก้านเถาวัลย์ที่พันธนาการจากร่างของต้นองุ่นปีศาจที่รวมตัวกันพร้อมกับหนามแหลมก็ค่อยๆคลายตัวออกก่อนจะปล่อยมันไป
ตุบ!
หลังจากที่ปีศาจองุ่นรวบรวมก้านของมันคืนมา ร่างของตัวน้ำเขียวเท้าปุยก็ล้มลงกับพื้น อ่อนระโหยโรยแรง ร่างทั้งร่างโดนก้านองุ่นโจมตี อีกทั้งยังโดนพิษของรากต้นองุ่นปีศาจแทงไปทั่ว บาดแผลเต็มไปด้วยเลือดสีดำ
“ปีศาจต้นไม้ ช่วยมันถอนพิษ” หลิน เฟิงออกคำสั่ง
“รับทราบ”
จากนั้นต้นไมีปีศาจจึงยื่นก้านของมันออกไปก่อนจะแตะเบาๆลงบนร่างของตัวน้ำเขียวเท้าปุย จากนั้นหลิน เฟิงจึงได้เห็นว่าพิษทั้งหมดบนร่างของมันนั้นถูกดูดออก
หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว ตัวน้ำเขียวเท้าปุยจึงลุกขึ้นก่อนจะจ้องไปที่พวกเขา
“ท่านราชาหมาป่าขาว วางร่างมันลงแล้วรักษาก่อนเถอะ แล้วถ้าผลไม้สุกเมื่อไหร่ก็ค่อยเอาให้มันนะครับ” หลิน เฟิงกล่าว
“ได้เลย”
หลังจากตกลงเรื่องของตัวน้ำเขียวเท้าปุยเรียบร้อยแล้วนั้น หลิน เฟิงจึงขอตัวกลับไปนอนเป็นระยะเวลานาน
เวลาไม่กี่วันผ่านไปไวเหมือนโกหก
“เสี่ยวเฟิงๆ” ในวันนั้นเอง หลิน เฟิงก็ตื่นขึ้นด้วยเสียงเคาะประตูรัวๆ
“ใคร ใครกันมาส่งเสียงดังแบบนี้” หลิน เฟิงกล่าวด้วยความโมโห
“ฉันเอง ผู้ใหญ่บ้าน ฉันมีเรื่องจะบอกนายด้วย ผลออกมาแล้วล่ะ ฮ่าๆ” ผู้ใหญ่บ้านพูดไปหัวเราะไป
“ผลของเรื่องอะไรครับ” หลิน เฟิงถามขึ้น
“ก็ผลลัพธ์เรื่องการประเมินหมู่บ้านยังไงล่ะ มานี่สิ เปิดทีวีดูก่อน หมู่บ้านเรากลายเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงไปแล้วนะ” ผู้ใหญ่บ้านว่าอย่างตื่นเต้น
“การประเมินหมู่บ้านงั้นหรือ” เมื่อได้ยินแบบนั้น หลิน เฟิงก็รู้สึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะแต่งตัวแล้วเดินออกมา
“แล้วผลเป็นยังไงครับ พวกเราอยู่ลำดับไหน” หลิน เฟิงเอ่ยถาม
ตามที่เขาคิดไว้ หมู่บ้านของพวกเขาน่าจะติดอยู่ในลำดับต้นๆ แต่ไม่กล้าพูดหรอกว่าอยู่ลำดับที่หนึ่ง แต่ที่แน่ๆคือหมู่บ้านของพวกเขาจะต้องติดอยู่ในลำดับต้นๆแน่
“ฮ่าๆ ที่หนึ่งๆ มานี่สิ เปิดทีวี ช่อง GTV สิ” ผู้ใหญ่บ้านโบกไม้โบกมือไปมาอยู่ใต้ทีวี LCD ของหลิน เฟิงก่อนจะกดรีโมทคอนโทรล
เมื่อเปิดทีวีแล้ว ก็เปลี่ยนเป็นสถานีทีวีช่องจังหวัด G และสิ่งที่ฉายอยู่ในตอนนี้
“สวัสดีครับ ท่านผู้ชม วันนี้เราจะมาประกาศผลของการประเมินหมู่บ้านในจังหวัด G อันดับหนึ่งหมู่บ้านลั่วหยาง อันดับสองหมู่บ้านเฟิงเอ๋อ อันดับสามหมู่บ้านไป๋ตางและอันดับสี่...หมู่บ้านเล็กๆที่น่าตกใจที่สุดและไม่เคยมีชื่อเสียงมาก่อนเลย นั่นก็คือหมู่บ้านลั่วหยาง” ในทีวีนั้น พิธีกรสาวยืนพูดอยู่ตรงหน้าจอหลายจอที่ส่องมาที่เธอ
“หมู่บ้านนี้เป็นสถานที่ไม่กี่ที่ล่าสุดในการประเมินก่อนหน้านี้ ดิฉันเองก็คิดไม่ถึงว่าหมู่บ้านนี้จะได้ที่หนึ่งไปในครั้งนี้ ตอนนี้ เดี๋ยวเรามาดูทิวทัศน์ของหมู่บ้านลั่วหยางกันนะคะ” จากนั้นพิธีกรสาวจึงชี้ไปที่วิวของหมู่บ้านลั่วหยางในวิดีโอ
สิ่งที่เห็นมีแค่รูปภาพที่เหมือนกับแดนเทพนิยาย มีดอกไม้เต็มไปหมด ดูหรูหรา มีเมฆล้อมรอบราวกับสวรรค์บนดิน
“อันดับที่หนึ่งเลย คาดไม่ถึงไปหน่อยแฮะ” หลิน เฟิงถูจมูกก่อนจะพูดขึ้น
“ช่าย ฮ่าๆ ขอบใจนายจริงๆนะ ฮ่าๆ” ผู้ใหญ่บ้านหยุดหัวเราะไม่ได้ และเขาก็มีความสุขมากๆ
“ดูมีความสุขมากขนาดนี้ ดูแล้วน่าจะมีข่าวดีมากกว่านั้นนะครับ” หลิน เฟิงว่าขึ้นยิ้มๆ
“ฮ่าๆ เห็นเลยใช่ไหม ก็ถ้าได้รางวัลที่หนึ่ง ก็ต้องมีรางวัลไงล่ะ ได้ทั้งกองทุนการก่อสร้างหมู่บ้านเป็นจำนวนล้านนึง โครงการสนับสนุนหลายๆอย่างและอื่นๆอีก พูดทีเดียวก็ไม่หมดหรอก” ผู้ใหญ่บ้านกล่าวอย่างตื่นเต้น
“แล้วมีอะไรอีกไหมครับ” หลิน เฟิงรู้สึกว่าผู้ใหญ่บ้านไม่ต้องพูดอะไร ก็เห็นได้แล้วจากรอยยิ้มบนใบหน้านั้น
“ฮ่าๆ มีสิ และเป็นข่าวใหญ่ที่สุดด้วย ฟังนะ ฮ่าๆ” ผู้ใหญ่บ้านว่า เท้าวางอยู่บนโซฟาในบ้านของหลิน ก่อนจะปล่อยให้หลิน เฟิงพูดอะไรไม่ออกอยู่แบบนั้น
“ว่ามาครับ อย่าอ้อมค้อม พูดมาเลยครับ เร็วๆ” หลิน เฟิงเร่งเร้า
“ฮ่าๆ ก็ที่ฉันได้เลื่อนขั้นยังไงล่ะ ดีใจกับฉันสิ ฮ่าๆ” ในขณะที่ผู้ใหญ่บ้านกล่าวเช่นนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่ได้
“อ้อ ยินดีด้วยครับ แล้วตำแหน่งอะไรครับ เจ้าหน้าที่อาวุโสหรือเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ครับที่คุณถูกย้ายเข้าไปทำในเมือง” หลิน เฟิงถามพอเป็นมารยาท
“ผู้เฒ่าอาวุโสที่ฉันบอกเธอครั้งก่อนที่เขาต้องออกเพราะอายุมากแล้วไง เขาน่ะมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำซ่งที่มาตรวจสอบเมื่อคราวก่อนด้วย และด้วยการแนะนำของผู้นำซ่งและการที่หมู่บ้านเราได้ที่หนึ่งในจังหวัด G ครั้งนี้ ฉันก็เลยมีแรงผลักดันไงล่ะ” ผู้ใหญ่บ้านเต้นไปมาด้วยความตื่นเต้น
“อืม ใช่ ทนรอขอความช่วยเหลือจากคุณในอนาคตข้างหน้าไม่ไหวเลยล่ะครับ” หลิน เฟิงกล่าว
“แล้วที่ฉันมีในวันนี้ล่ะ มีได้อย่างไร ก็เพราะแสงนำทางอย่างนายไงล่ะ ฉันยินดีทุ่มเทกับงานให้นายได้อยู่แล้วในอนาคต” ผู้ใหญ่บ้านกล่าวขึ้น
“อย่าเพิ่งรีบสัญญาสิครับ เพราะคุณเองก็ยังไม่รู้เลยว่าผมทำธุรกิจอะไร แล้วอีกอย่าง ผมมีเรื่องหนึ่งที่อยากให้คุณช่วยด้วยตอนนี้” จู่ๆหลิน เฟิงก็จำขึ้นมาได้ว่ามีบางอย่างที่เขาได้วางแผนไว้มาเป็นเวลานาน
“บอกมาสิว่าต้องการอะไร แล้วเดี๋ยวฉันจะทำให้นายเอง” ผู้ใหญ่บ้านว่าขึ้นพลางตบอก
“ผมอยากเช่าสถานที่สักที่ในภูเขาข้างหลังหมู่บ้านของเราครับ”
“ภูเขานั่นน่ะหรือ มันเป็นภูเขาแห้งแล้ง เธอจะเช่ามันไปทำอะไร” ผู้ใหญ่บ้านไม่เข้าใจ
“ก็นั่นล่ะครับ มันเป็นการพัฒนาด้านธุรกิจ ผลไม้พื้นบ้าน เพาะพันธุ์สัตว์และอื่นๆ คุณคิดว่าเป็นไงครับ” หลิน เฟิงมองไปที่เขาอย่างคาดหวัง
“นี่น่ะเรื่องเล็ก และภูเขาแห้งแล้งลูกนั้นก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ ถ้าเธอเช่ามันไป ปลูกผลไม้ เลี้ยงสัตว์ ทำคอกสัตว์ ฉันก็จะได้ผลงานทางการเมืองไป เธอทำได้ไหมล่ะ” ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยอย่างพอใจ
“วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีอะไรแบบนี้ ดีมากเสียจนมีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นเต็มไปหมด” วันนี้ ผู้ใหญ่บ้านเจอแต่สิ่งดีๆ และไม่เคยรู้สึกมีความสุขมากขนาดนี้เลย
“แต่...”
0 ความคิดเห็น