RC:บทที่ 224 จะยอมแพ้หรือจะยอมตาย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 224 จะยอมแพ้หรือจะยอมตาย


“โจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่พวกนายมีอีกครั้ง แต่ต้องตามที่ฉันสั่ง มังกรดำ สุนัขนรกสองหัวจะต้องโจมตีจากจุดเดียวกัน อย่าโจมตีแยกกันล่ะ” หลิน เฟิงว่าขึ้น


“ขอรับ นายท่าน” เป็นอีกครั้งที่กลุ่มสัตว์วิญญาณฮึกเหิมขึ้นก่อนจะคำรามก้องฟ้า


มังกรแสงโผบินไปสู่ฟากฟ้าก่อนจะปล่อยลูกบอลแสงไปจนถึงระดับขีดสุด แสงจ้ามากเสียจนทำให้ภูเขาทั้งลูกสว่างขึ้นมา สว่างยิ่งกว่าเวลากลางวันเสียอีก


ทั้งนี้ยังมีพวกสัตว์วิญญาณที่อยู่ใกล้แสงของหลิน เฟิงด้วย พวกมันทุกตัวต่างรู้สึกถึงพละกำลังที่ไม่มีวันเหน็ดเหนื่อย ร่างทั้งร่าง พละกำลังและความแข็งแกร่งนั้นค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล


คลื่นแสงแห่งความมืด!


ไฟนรก!


จากนั้นมังกรดำและสุนัขนรกก็เข้าโจมตีทันที พวกมันไปเจอกันบนกลางอากาศ ก่อนจะสร้างการโจมตีด้วยพลังงานขนาดใหญ่ ก่อนจะพุ่งไปที่ตัวน้ำเขียวเท้าปุย


“ใบมีดเงาเลือด ตัดเงา”


นอกจากนี้ เมื่อพวกมันปล่อยพลังโจมตีออกไป หลิน เฟิงเองก็ใช้มีดใบมีดเงาเลือด ทันใดนั้นเองแสงสีดำจากใบมีดก็พุ่งออกมา ในขณะเดียวกัน ทั้งสามต่างโจมตีประสานไปบนกำแพงน้ำที่ไหลวนไปมาจนเกิดเป็นรูใหญ่ขึ้นมาในทันที


“ปีกวายุศักดิ์สิทธิ์”


อีกฝั่งหนึ่งนั้น ราชาหมาป่าขาวกระโดดลอยขึ้นไปบนฟ้า กระพือปีกไปมา ก่อนที่ดาบขนนกอันแหลมคมจะเผยออกมามากมาย โดยดาบขนนกแต่ละเส้นนั้นแหลมคมเป็นอย่างมากจนชวนขนลุก


นี่คือทักษะและพลังเหนือธรรมชาติที่ราชาหมาป่าขาวได้เรียนรู้หลังจากที่วิวัฒนาการเป็นสัตว์วิญญาณระดับสูงแล้ว ขนปีกนกศักดิ์สิทธิ์นั้นทรงอานุภาพเป็นอย่างยิ่งและมีพลังมากกว่าใบมีดลมที่เคยใช้เป็นหลายเท่า


ความเร็วของดาบขนนกนี้ว่องไวเอามากๆ ทันทีที่ขนนกพวกนั้นโผล่ขึ้นมา มันก็พุ่งเข้าไปในกำแพงน้ำของสัตว์วิญญาณตัวดังกล่าว โดยไม่รอช้า พวกเขาจึงทะลุผ่านกำแพงน้ำเข้าไปก่อนจะจัดการโจมตีสัตว์วิญญาณนั้น


ในตอนนี้ หลิน เฟิงก็ร่วมโจมตีด้วย ส่วนอีกฟากหนึ่งของสัตว์วิญญาณระดับสูงนั้น ด้วยพลังและความสามารถของราชาหมาป่าขาวนี่เอง การโจมตีจากทั้งสองฝั่งก็มาถึงในคราวเดียวกัน พลังดังกล่าวไม่สามารถประเมินได้ การโจมตีที่แต่ละฝ่ายปล่อยมานั้นเพียงพอที่จะทำให้บาดเจ็บสาหัสได้เลย


“ฮืออออ”


ในตอนนั้นเอง ตัวน้ำเขียวเท้าปุยเมฆก็ส่งเสียงโหยหวนขึ้น จากนั้นก็หลับตาลง แต่ทว่ากลับไม่หลบการโจมตีอันแข็งแกร่งที่พุ่งเข้ามาจากทั้งสองด้าน


ณ จังหวะที่การโจมตีมาถึง ตัวน้ำเขียวเท้าปุยลืมตาขึ้น ดวงตาของมันเปล่งแสงสีน้ำเงินเพียงแวบนึง จากนั้นเขากวางบนหัวของมันก็ส่องแสงสีน้ำเงินออกมา แล้วจากนั้นคลื่นที่เหมือนกับน้ำสีน้ำเงินก็ออกมาจากในนั้น หมุนไปรอบๆเหมือนเข็มขัด


การโจมตีอันรุนแรงจากทั้งสองฝ่ายนั้นเข้ามาบรรจบในที่สุด โดยโจมตีไปที่เข็มขัดน้ำด้วยความเร็ว จนน้ำที่หมุนวนไปมานั้นก็ได้ปะทะเข้ากับพลังโจมตีที่มาจากทั้งสองฝั่ง ก่อนจะส่งเสียงบางอย่างออกมา แล้วจากนั้น พลังพวกนั้นต่างก็ถูกแช่แข็ง


“เป็นตัวที่แข็งแกร่งอะไรแบบนี้ จัดการกับพลังที่มาจากทั้งสองฝั่งได้ในคราวเดียวกัน” หลิน เฟิงตกใจอย่างมากและแทบไม่อยากจะเชื่อ


ในตอนนี้ ร่างของน้ำเขียวเท้าปุยก็ได้หายไป เห็นแต่น้ำสีน้ำเงินหมุนวนไปมาอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งพลังของทั้งสองฝั่งอ่อนลงจนหมดไปเอง


“เอ่อ แล้วตัวน้ำเขียวเท้าปุยล่ะ” กลุ่มสัตว์มองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของมันเพราะจู่ๆก็หายไปเลย แล้วต่อมาน้ำสีน้ำเงินนั้นก็กลายเป็นไอลอยไป


“อย่าให้ไอน้ำนั่นหนีไปได้ มันจะต้องเป็นตัวน้ำเขียวเท้าปุยแน่” หลิน เฟิงส่งเสียงลั่น


บนโลกใบนี้ ยังมีเรื่องที่น่าสงสัยอีกมาก พวกเขาเองก็ยังไม่ค่อยรู้จักพวกมันมากนัก และไม่รู้เลยว่าพวกมันมีความสามารถในด้านใด


ในตอนนี้ หลิน เฟิงจ้องทิศทางที่ไอน้ำนำไปโดยที่ที่มันลอยไปนั้นคือที่ที่เขาปลูกผลวิญญาณ


“นี่มันต้องการหนีไปพร้อมกับผลไม้ของฉันอย่างนั้นสินะ” พลันหลิน เฟิงก็ฉุกคิดขึ้นมา


เมื่อแน่ใจแล้ว ต่อมา ไอน้ำสีน้ำเงินก็เปลี่ยนเป็นรูปร่างของตัวน้ำเขียวเท้าปุยที่มีร่างเป็นน้ำสีน้ำเงิน บินไปยังทิศทางที่ผลวิญญาณของหลิน เฟิงตั้งอยู่


 “ต้นไม้ปีศาจ ระวังผลวิญญาณด้วย ตัวน้ำเขียวเท้าปุยกำลังตรงไปที่นั่น สิ่งที่มันต้องการคือผลวิญญาณ” หลิน เฟิงเอ่ยเตือนอย่างร้อนใจ


“ขอรับ นายท่าน” เสียงของต้นไม้ปีศาจดังขึ้น


“ตามไป อย่าให้มันหนีไปได้” หลิน เฟิงตามพวกสัตว์วิญญาณไปติดๆ


ในตอนนี้ ไอน้ำดังกล่าวดูอ่อนล้าลงอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าการโจมตีประสานจากทั้งสองฝั่งจะกินพลังมันไปพอสมควรทีเดียว


ตัวน้ำเขียวเท้าปุยวิ่งจ้ำเพื่อตรงไปยังทิศทางที่ผลวิญญาณอยู่ด้วยความเร็วสูง จนไม่กี่วินาทีก็เข้ามาในพื้นที่ที่ต้นวิญญาณนั่นอยู่


แต่ทว่าในตอนนั้นเอง เถาวัลย์มากมายก็โผล่ขึ้นมาต่อหน้ามันนับไม่ถ้วน ก่อนจะม้วนตัวเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ล้อมตัวมันไว้อย่างรวดเร็ว


ด้วยความเร็วที่มากเกินไป กว่าจะไหวตัวทันก็สายเสียแล้ว ตาข่ายต่อตาข่ายขนาดใหญ่ล้อมตัวมันไว้ก่อนที่ร่างของมันจะตกลงมาบนพื้นอย่างแรง


“เยี่ยมเลย ในที่สุดก็จับเจ้านั่นได้” หลิน เฟิงพอใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นว่าสัตว์วิญญาณตัวนั้นถูกจับได้แล้ว แต่ก่อนที่ความสุขจะอยู่กับเขาได้ไม่กี่วินาที เขาของตัวน้ำเขียวเท้าปุยก็ได้เปล่าแสงสีขาวออกมา จนต่อมามันก็ได้ทลายตาข่ายที่ถักทออย่างหนาของต้นไม้ปีศาจออกไป


“บ้าแล้ว สัตว์วิญญาณนี้มันไม่ธรรมดาแล้ว” หลิน เฟิงว่าขึ้น


แต่ทว่าเรี่ยวแรงของต้นไม้ปีศาจกลับมีมากกว่านั้น เมื่อตัวน้ำเขียวเท้าปุยทลายตาข่ายที่ต้นไม้ปีศาจทำขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถบินออกมาได้ แล้วทันใดนั้นเอง กิ่งไม้ปีศาจหลายกิ่งที่ทั้งคมและหนาก็พุ่งตัวออกมา ในตอนนี้ ต้นไม้ปีศาจไม่เหมือนกับตัวเดิมที่สร้างตาข่ายขนาดใหญ่อีกแล้ว


ร่างของต้นไม้ปีศาจขยายใหญ่ขึ้น พร้อมกับหน่อแหลมคมบนตัวมันที่อาบยาพิษร้ายแรงและนี่คือทักษะของปีศาจ


ก้านของต้นไม้ปีศาจที่มีลักษณะยวบยาบไปมาเหมือนหนวดปลาหมึกที่ยื่นยาวออกมา ก้านของพวกมันพันเข้ากับขาของตัวน้ำเขียวเท้าปุย ส่วนก้านอีกส่วนหนึ่งเข้าพันธนาการร่างของมันไว้ ก่อนที่ก้านอีกหลายเส้นจะแทงเข้าที่เท้าของตัวน้ำเขียวเท้าปุยเข้า


อูวว… 


เท้าปุยนั้นส่งเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างมากออกมา


เพราะโดนแทงแบบนี้ ไม่ใช่แค่รู้สึกเจ็บเท่านั้น แต่นี่ยังมีพิษของต้นไม้ปีศาจติดมาด้วย


จากนั้นต้นไม้ปีศาจจึงเหวี่ยงตัวน้ำเขียวเท้าปุยกระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรง เสียงดึงตึงลั่นไปทั่วบริเวณ สัตว์วิญญาณตัวนั้นนอนทรุดลงดับพื้นพลางร้องคร่ำครวญไปมา ราวกับร่างกำลังจะแหลกสลาย


“ฮู่ว นี่เพราะความเก่งของต้นไม้ปีศาจนะเนี่ย เลยจับตัวน้ำเขียวเท้าปุยมาได้ภายในไม่กี่นาที” หลิน เฟิงเอ่ยชม


“เฮ้ยๆๆ” เมื่อได้ยินคำชมแบบนั้น รอยยิ้มหม่นๆก็ปรากฏขึ้นบนต้นไม้สูงต้นดังกล่าวที่อยู่ไม่ไกลจากเท้าของตัวน้ำเขียวเท้าปุยซึ่งมีท่าทีอับอายอย่างมาก


“ก็นี่ถ้าเราไม่ได้กินพลังวิญญาณของเจ้านี่เข้าไปเลยล่ะก็ มันก็เป็นแค่น้ำที่มีพลังความสามารถในการหลบหนีได้แค่นั้น ไม่อย่างนั้นต้นปีศาจจะจับตัวมันไปได้ได้อย่างไร” มังกรแสงกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่เหนื่อยล้า


ในบรรดาสัตว์วิญญาณด้วยกันนั้น มังกรแสงนั้นใช้พลังไปเยอะที่สุด เพราะแค่พลังแสงศักสิทธิ์ของมันเองนั้นก็ถือว่าเป็นความสามารถพิเศษแล้ว รวมกับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมแต่กินพลังวิญญาณไปมากโข


“เอาล่ะ ถ้าฉันกลับไปเมื่อไหร่ ฉันจะให้รางวัลนายนะ” หลิน เฟิงว่าขึ้น ก่อนจะเข้าไปหาตัวน้ำเขียวเท้าปุย


“ถ้านายคิดจะเอาไป นายตายแน่” เมื่อมาถึง หลินเฟิงก็พูดขึ้น ในขณะเดียวกันนั้นเอง ในมือของเขามีใบมีดเงาเลือดก่อนจะจ่อไปที่คอของมัน


สัตว์วิญญาณตัวดังกล่าวเป็นสัตว์วิญญาณระดับสูง ที่อยู่มาแล้วเป็นหมื่นๆปี มีอายุที่มากและเจ้าเล่ห์พอๆกับมนุษย์ ดังนั้น เมื่อเขารู้แบบนี้ จึงได้พูดเข้าประเด็นตรงๆ


“ฉันรู้ว่าที่นายมาที่นี่เพื่ออะไร เรื่องผลไม้วิญญาณน่ะ ฉันให้นายได้นะเพื่อจะก้าวไปถึงระดับ S แต่นายต้องทำงานให้ฉัน เอาล่ะที่นายต้องทำก็คือตอบฉันมาว่าจะทำหรือจะตาย” หลิน เฟิงว่าขึ้น


“พูดมา จะยอมทำหรือจะยอมตาย...”


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น