RC:บทที่ 102 เลือกซื้อเสื้อผ้า
หลินเฟิงเดินเข้าไปหลังจากที่มองหาร้านเสื้อผ้าโดยไม่ได้สนใจราคาและยี่ห้อร้านเลย เพราะว่าในตอนนี้นั้นหลินเฟิงรวยแล้ว มันเป็นความรู้สึกของคนรวยในทุกที่ที่เขาย่างก้าวเข้าไป
หลังจากที่หลินเฟิงเดินเข้าไป พนักงานต้อนรับผมยาวก็เดินเข้ามาหา มองดูเสื้อผ้าที่โทรมของหลินเฟิง สายตาของเธอแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความดูแคลน
แต่เมื่อเธอมองดูหลินเฟิงตลอดทั้งตัว เธอก็พบว่าถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะสวมเสื้อผ้าที่ดูโทรมเล็กน้อย แต่เธอกลับมีอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้
รูปใบหน้าเต็มแบบสามมิติ ผมสั้นสีดำ รูปร่างสูงและแข็งแรง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ รูปร่างหรือรูปลักษณ์ภายนอกดูเหมือนเป็นของหายากเมื่อเปรียบเทียบกับคนทั่วไป
ดังนั้นดวงตาที่หยิ่งยะโสของพนักงานต้อนรับก็หายไปพลัน แต่กลับเป็นรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าของเธอแทน
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะท่าน มีอะไรให้ฉันช่วยได้บ้างคะ?” พนักงานต้อนรับกล่าว
เธอจ้องหน้าของหลินเฟิงอยู่ตลอดเวลา ยิ่งมองเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาช่างหล่อเสียจริง เขาช่างเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดที่สุดที่เธอเคยเห็นมา
“โอ้ สวัสดี ไม่มีอะไรหรอก ฉันจะซื้อเสื้อผ้าใส่เองสักหน่อย!” หลินเฟิงตอบอย่างสุภาพ
“งั้น ลองเลือกดูก่อนนะคะ ถ้าท่านต้องการอะไร กรุณาเรียกฉันได้ตลอดเวลาค่ะ!”
หลังจากที่พูดจบ พนักงานต้อนรับคนนั้นก็นั่งลงอีกด้านหนึ่ง และมองดูหลินเฟิงอย่างเงียบๆ มันเป็นความรู้สึกที่เธอชอบมากขึ้น และมากขึ้น
หลินเฟิงรู้สึกประหลาดอยู่ข้างใน เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าราคามันจะแพงขนาดนี้ ซึ่งเขามองไม่เห็นเมื่อตอนอยู่นอกร้าน
แต่เมื่อหลินเฟิงมองเห็นราคาเสื้อผ้าแล้วเขาถึงกับตกใจ เพราะราคาเสื้อผ้าที่ถูกที่สุดของร้านนี้นั้นคือราคาสูงกว่า 700 หยวน
ในกรณีที่แพงที่สุดหลินเฟิงก็เกือบจะไม่สนใจ เพราะอย่างไรก็ตามหลินเฟิงยังคงมีเงินอยู่นิดหน่อย เขาไม่ได้ทำให้ยุ่งยากและเลือกเสื้อผ้าที่เขาชื่นชอบต่อไป
จากนั้นไม่นาน พนักงานต้อนรับผมสั้นก็เดินเข้ามาหา เช็ดมือของเธอด้วยกระดาษทิชชู่ ราวกับว่าเธอเพิ่งจะไปเข้าห้องน้ำมา
หญิงคนนี้ไว้ผมสั้นพลิ้วสวย แลดูเป็นคนใจดีและกล้าหาญ เธอดูเท่เสียเหลือเกิน
“เป็นไงบ้างเสียวหลิง? มีลูกค้าบ้างหรือเปล่า?” เธอพูดกับพนักงานต้อนรับคนที่ไว้ผมยาวขณะที่กำลังเช็ดมือ
“มีสิ อยู่ตรงโน้นไงล่ะ!” เสี่ยวหลิงชี้มือไปที่หลินเฟิงขณะที่พูด
“เอ๋? เสี่ยวหลิง นี่เธอปล่อยเจ้าบ้านนอกนี่เข้ามาได้ยังไงกัน?” หลานมองดูหลินเฟิงและพูดออกมา
ในเวลานี้ หลินเฟิงกำลังมองดูเสื้อผ้าอย่างพินิจพิเคราะห์ และเขาก็ยืนหันหลังให้หลานเจีย ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นเพียงแค่ด้านหลังที่โทรมๆ ของหลินเฟิง
“อ้าว พี่หลาน พูดแบบนี้ไม่ได้นะคะ พี่ต้องตกใจแน่ถ้าเขาหันกลับมาก!” เสี่ยงหลิงกล่าว
“โอ้? ผู้ชายคนนี้หล่ออย่างนั้นหรือ? แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรนะถ้าหล่อแต่จน ในยุคนี้เงินเท่านั้นที่เป็นสิ่งสำคัญ!”
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้นั้นเป็นพวกสัจนิยมและมีเหตุผล เป็นคนที่ไม่น่าจะเข้าสังคมด้วยนัก
“ตราบใดที่เธอมีเงินนะ จะหาผู้หญิงสวยๆ มาล้อมรอบตัวสักกี่คนก็ย่อมได้ แม้ว่าเธอจะขี้เหร่แค่ไหนก็ตาม!” พนักงานต้อนรับที่ชื่อหลานเจีย ส่ายศรีษะและพูดออกมา
“ไม่นะคะ พี่หลาน ท่านผู้นี้ไม่เหมือนคนอื่นๆ ถ้าพี่ไม่เชื่อพี่คอยดูก็แล้วกัน!” เสี่ยวหลิงไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ดังนั้นจึงทำได้แค่ปล่อยให้เธอเห็นด้วยตาตัวเอง
“โอ้? ได้สิ คอยดูก็แล้วกัน ผู้ชายคนนี้จะมีอะไรพิเศษอย่างที่เธอพูดกันเชียว ฉันหวังว่าคงจะไม่แย่เท่าไรนะ” หลานยังคงพูดต่อไป
“เอาล่ะ หลานเจีย เธอดูไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะไปเข้าห้องน้ำ!” จากนั้นเสี่ยวหลิงก็จากไป
ในขณะนั้นเอง หลินเฟิงก็หยิบชุดและเดินออกมา มันเป็นสูทสีดำ ที่ดูหล่อมากและเหมาะกับมาตรฐานของหลินเฟิง
“ขอโทษนะ คุณช่วยผมเลือกดูเนคไทและกางเกงที่เข้ากันกับสูทตัวนี้ทีสิครับ?” หลินเฟิงเดินเข้ามาพร้อมกับพูด
ในตอนนั้นหลานเจียกำลังรินน้ำ เมื่อได้ยินเสียงของหลินเฟิงเธอก็หันหน้าไปมองทันที
หลินเฟิงนั้นรู้สึกประหลาดใจกับหญิงสาวที่ดูเท่คนนี้ หลานเจีย เพราะเป็นบุคลิกที่ค่อนข้างหายาก
ในช่วงเวลาปกติผู้คนที่หลินเฟิงเห็นมักเป็นคนที่สุภาพอ่อนโยน ซึ่งขึ้นอยู่กับคนอื่นๆ พวกเขาไม่ค่อยเห็นผู้หญิงคนนี้ที่มีอารมณ์และวิญญาณที่ครอบงำอยู่ในสายเลือดของเธอ
ในเวลาเดียวกันหลินเฟิงก็รู้สึกทึ่ง แต่คนที่รู้สึกว่าน่าทึ่งกว่านั้นก็คือหลานเจีย ในขณะที่หลานเจียหันกลับมาเธอรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าช็อตขึ้นทันที เธอตกใจ เธอรู้สึกตกหลุมรักและยังคงยืนนิ่ง
“นี่ คุณครับ คุณโอเคไหม? ทำไมคุณไม่พูดอะไรล่ะ!” หลินเฟิงยกมือโบกตรงหน้าของเธอ
“โอ้ โอ้ ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ ฉันใจลอยไปหน่อย!” ใบหน้าของหลานเจียนั้นแดงก่ำ
“โอ้ ไม่เป็นไรครับ คุณช่วยผมเลือกเนคไทและกางเกงที่เข้ากับสูทตัวนี้หน่อยครับ?” หลินเฟิงยื่นเสื้อผ้าไปให้หลานเจีย
“โอ้ นี่ สูทตัวนี้ เดี๋ยวฉันช่วยดูให้ค่ะ! รอสักครู่นะคะ!” หลานพูดและวิ่งไปที่อีกด้านหนึ่งของห้อง
“อ้าว พี่หลาน เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือคะ? หน้าแดงยังกับลูกแอบเปิ้ลเลย นี่พี่เป็นไข้งั้นหรือคะ?” เสี่ยวหลิงพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของหลานเจีย แต่ก็ถูกหลานเจียปัดมือออก
“ไปตรงโน้นไป แต่ผู้ชายที่เธอพูดถึงนั่นหล่อมากเลยนะ เขาดูเร้าอารมณ์มาก เธอนี่ตาดีจริงๆ” หลานกล่าว
“ฮ่าฮ่า พี่หลาน พี่นี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ!” เสี่ยวหลิงพูดอย่างตกตะลึง
เธอรู้ดีว่ามีผู้คนมากมายที่กำลังหมายปองหลานเจีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหล่อๆ แม้แต่ทายาทของคนรวยและทายาทของนักการเมืองก็ต่างหมายปองเธอ แต่หลานเจียกลับไม่เคยมองใครเลย
ฉันไม่เคยคิดเลยว่าในตอนนี้จะได้เห็นพี่หลานเขินอายได้ขนาดนี้และใบหน้าแดงก่ำ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นอะไรเช่นนี้ตั้งแต่รู้จักกันมา
“มาสิ ไปหาเนคไทกับกางเกงที่เข้ากันกับสูทตัวนี้ เอาตัวที่ดูดีที่สุดเลยนะ!” หลานกล่าวขณะที่เอามือตบหน้าผากตัวเอง
“ดีที่สุดงั้นหรือ? หลานเจีย ไม่กลัวว่าเขาจะไม่มีเงินจ่ายงั้นหรือ?” เสี่ยวหลิงถาม
“ใช่ แต่ไม่เป็นไร ตราบใดที่เขาสามารถจะจ่ายครึ่งราคาได้ ฉันจะลดให้เขา 50% เลย!” หลานกล่าวด้วยน้ำเสียงใหญ่โต
“ว้าว หลานเจีย ฉันไม่เคยเห็นเธอใจดีกับฉันอย่างนี้เลย!” เสี่ยวหลิงกล่าว
“ไปสิ ไปทำงาน!” หลานเกรี้ยวกราดใส่
“โอ้!”
จากนั้นไม่นานนัก เสี่ยวหลิงก็กลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าสามชุด ในขณะที่หลินเฟิงกำลังนั่งรอและมองไปรอบๆ ตัวเธอ
“คุณคะ สามชุดนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ? ฉันเลือกชุดพวกนี้มาโดยยึดจากรูปร่าง ความมีเสน่ห์และส่วนสูงของคุณเลยนะคะ!” หลานเจียเดินมาพร้อมกับถือเสื้อผ้าสามชุดเข้ามาหลินเฟิง
“ผมขอลองดูก่อนได้ไหมครับ?” หลินเฟิงถาม
“แน่นอนค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะ เรามีห้องพิเศษเพื่อลองชุดค่ะ!” หลานเจียนำหลินเฟิงไปที่ประตูของห้องลองเสื้อและพูด
“ขอบคุณครับ!” หลังจากที่รับเสื้อผ้าเหล่านั้นมาไว้ในมือ หลินเฟิงก็เดินเข้าไปในห้องลองชุด
เมื่อหลินเฟิงกลับออกมา หลานเจียและเสี่ยวหลิงมองเห็นรูปลักษณ์ภายนอกของหลินเฟิง พวกเธอทั้งสองคนต่างพากันอ้าปากหวอ และสายตาของพวกเธอก็จับจ้องไปที่หลินเฟิง
0 ความคิดเห็น