CF:บทที่ 708 พัฒนา
ในขณะที่สหพันธรัฐจักรวาลกำลังออกไปต่อสู้กับตัวทำลายล้างอยู่นั้น, เขตดาวของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
อาจจะพูดได้ว่าเขตดาวแห่งนี้ไม่ใช่เขตดาวเล็กๆอีกต่อไปแล้ว, อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวัน, ผู้คนทั้งหมดที่ได้กลายมาเป็นผู้อยู่อาศัยกลุ่มแรกที่นี่นั้นต่างก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ในเขตชุมชนที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่, ชาวบลูแมนต่างก็กำลังวุ่นวาย
"พี่เออซี่, พี่ทราบข่าวรึยังว่าบริษัทนั้นเขาเปิดรับสมัครผู้คนเข้าทำงานในเร็วๆนี้นะ, ลุงแลนตี้ที่คุณชื่นชมเองก็เป็นผู้ที่จัดการรับสมัครนี้เองด้วยนะ" คนที่พูดอยู่นั้นเป็นเด็กชายชาวบลูแมนที่ดูจ้ำม่ำและน่ารัก
ส่วนอีกคนคือเออซี่, ด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆของเขา, จึงดูแล้วคล้ายกับอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ในหนัง, แต่เขาดูโง่กว่าเล็กน้อย
แต่ก่อนที่เออซี่จะทันได้ตอบอะไร, ก็มีบางคนที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะขึ้นมาและพูดขึ้น "มีแต่คนโง่อย่างพวกแกเท่านั้นแหละที่ไปนับถือคนอย่างแลนตี้น่ะ, ถ้าไม่ใช่เพราะเขาล่ะก็ พวกเราชาวบลูแมนคงได้หลอกใช้อารยธรรมคาร์ลไปแล้ว"
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว, เออซี่ก็หันมามองข้างหน้าด้วยความโกรธ
แต่แล้วก็มีชายหนุ่มอีก 3 คนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันแต่สวมเสื้อผ้าที่ดูดีกว่ายืนขึ้นมาขวางเขาไว้
เด็กน้อยที่เพิ่งพูดกับเออซี่นั้นก็พูดขึ้นมาด้วยความโกรธ "พวกคุณต่างหากที่เป็นคนทรยศของชาวบลูแมน, ถ้าไม่ใช่เพราะลุงแลนตี้, พวกเราคงต้องอยู่ภายใต้การกักขังของพวกคนเลวในอารยธรรมคาร์ล"
"มีแต่พวกแกเท่านั้นแหละ, ที่ชื่นชอบที่รกร้างอย่างนี้, แต่พวกข้าอยากออกไปจากที่นี่โว้ย"
เมื่อเออซี่คิดถึงเรื่องที่เขาได้ยินมาในวันนี้, ไม่นานนักเขาก็สงบลงได้, และพาหนูน้อยเดินออกไปอีกทาง
"อย่าไปคุยกับพวกเขา, อีกไม่นานพวกเขาจะสำนึกผิดเอง"
สถานการณ์เช่นนี้, กับชาวบลูแมนที่อาศัยอยู่บนดาวแห่งนี้นั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ
มีคนที่ไม่พึงพอใจกับการโยกย้ายอำนาจผู้นำของชาวบลูแมน ซึ่งทำให้พวกเขานั้นสูญเสียผลประโยชน์ที่พวกเขาเคยได้รับไป ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจอู๋ฮ่าวเหริน
ในมุมมองของพวกเขา, ถ้าไม่มีอู๋ฮ่าวเหริน, พวกเขาคงจะยังได้ร่วมงานกับอารยธรรมคาร์ลอยู่, หากเปรียบกับอารยธรรมคาร์ลแล้ว, ดวงดาวที่ยังไม่พัฒนาของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นถือว่าล้าหลังมาก
ดังนั้น, กลุ่มคนที่ไม่พอใจได้เริ่มการปลุกระดมชาวบลูแมนคนอื่นๆให้เดินเรื่องขอความต้องการจากอู๋ฮ่าวเหรินเพิ่มขึ้น และคิดถึงผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับตามมา
ในบ้านหลังที่ผู้นำชาวบลูแมนอาศัยอยู่นั้น, แลนตี้และเหล่าผู้อาวุโสต่างก็มองดูข่าวที่พวกเขาได้รวบรวมมาในช่วงเวลานี้ และสีหน้าของพวกเขานั้นก็บูดเบี้ยวขึ้นมา
"สิ่งที่ลุงอิกนาสพูดไว้ถูกต้องจริงๆด้วย, ยังมีบางคนที่มีแรงจูงใจแอบแฝงซ่อนตัวอยู่ในหมู่ชาวบลูแมนของพวกเราจริงๆด้วย" แลนตี้พูดอย่างช่วยไม่ได้
ผู้อาวุโสตบลงไปที่ไหล่เขาแล้วพูดขึ้น "มันไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอก, ในตอนที่อารยธรรมคาร์ลนั้นได้มาตกลงแลกเปลี่ยนกับพวกเรานั้น พวกเขาเองก็ได้ส่งคนของพวกเขามาปลุกปั่นชาวบลูแมนของพวกเราให้เกิดการต่อต้านเช่นกัน"
"แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกันดี? พวกเราจะต้องไม่ปล่อยให้คนพวกนี้ปลุกความสามารถของตัวเองขึ้นมาได้, ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะทำให้สถานการณ์ได้แย่ไม่กว่านี้แน่
"คุณลาโรน่าครับ ผมคิดว่าพวกเราควรที่จะดำเนินการตามแผนนั้นนะครับ, ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นชาวบลูแมนก็จริงอยู่ แต่ถ้ายังให้พวกเขาอยู่ที่นี่ต่อไปก็คงได้แต่สร้างปัญหาให้, และคงไม่มีประโยชน์อะไรต่อชาวบลูแมนในอนาคตแน่ครับ, นอกจากนี้คุณอู๋นั้น....."
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ, ถึงแม้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นจะไม่เคยพูดออกมาก็จริง, แต่พวกเขาก็เข้าใจได้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ใช่คนที่ใจดีแน่ๆ, หากดูจากวิธีการที่เขาปฏิบัติต่อชาวคาร์ลแล้ว
"ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยพวกเขาไปเถอะ, ถ้าพวกเขาต้องการที่จะไปแล้วล่ะก็ให้พวกเขาไป"
---------------------------------------------
หลังจากที่คนพวกนี้ได้ตัดสินใจแล้ว, ข่าวก็ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในหมู่ชาวบลูแมน
ในหมู่ชาวบลูแมนที่รู้สึกขอบคุณอู๋ฮ่าวเหรินและคนที่พึงพอใจมากกับชีวิตที่นี่อยู่แล้วนั้น, ก็ได้มีบางคนในกลุ่มนั้นที่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเบื้องบนถึงได้ปล่อยข่าวเช่นนี้ออกมา
อย่างไรก็ตาม, เมื่อพวกเขาพบว่ามีใครบางคนที่อยู่ในหมู่พวกเขาที่มีความคิดเช่นนี้, พวกเขาก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมา
ณ ห้องออฟฟิศของอู๋ฮ่าวเหริน, เมื่อเขาได้รับทราบข่าวนี้ เขาก็ส่ายหัว
"ดูเหมือนผมคงจะคิดมากเกินไป, บางครั้งการเล่นบทเป็นคนใจดีมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีนะเนี่ย
"ฮ่าๆ, คุณเข้าใจแล้วสินะ" พ่อค้าพลังงานพูดขึ้นมาพร้อมกับยิ้ม
ส่วนก้อนแร่ก็พูดขึ้นมาบ้าง "การจัดการกับคนพวกนี้, บางครั้งคุณก็ต้องโหดเหี้ยมบ้าง"
"คุณลองใช้วิธีการของข้าดูบ้างไหม?" พ่อค้าอาวุธกล่าว
"พวกคุณก็คิดมากเกินไป, วิธีการแบบนั้นน่ะมันไม่ง่ายที่จะใช้ตอนนี้แล้วล่ะ, ตอนนี้ผมยังอยู่แค่ขั้นต้นของแผนการพัฒนาเองนะ, ถ้าเกิดใช้แผนนั้น, มันจะทำให้มีชื่อเสียงในแง่ลบแทนน่ะสิ, เอาเถอะ ตราบเท่าที่ยังมีชาวบลูแมนอาศัยอยู่ที่นี่, พวกเขาก็ยังเพียงพอต่อความต้องการของผมอยู่ดี, อย่างไรก็ตามมันคงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะที่จะให้ชาวบลูแมนที่ออกไปจากที่นี่กลับมาแล้วล่ะ"
หลังจากที่พูดคุยอยู่กับคนพวกนี้ต่ออีกซักพัก, แล้วทุกคนๆก็ออฟไลน์ไป, ที่อนาคตในเวลานี้นั้น เพราะเรื่องของตัวทำลายล้างแล้ว, อารยธรรมต่างๆจึงได้เริ่มการหลอมรวมกัน
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว, การพัฒนาทางด้านวิทยาการและเทคโนโลยีก็ได้เป็นไปอย่างรวดเร็ว, จากที่พวกเขาว่ามา, ตอนนี้เข้าใกล้กับอารยธรรมสูงสุดเข้าไปแล้ว, หากเป็นเช่นนี้อารยธรรมสูงสุดคงได้ถือกำเนิดแน่
ดังนั้นใช่ช่วงเวลานี้, แต่ละคนจึงยุ่งมากกับการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการและเทคโนโลยีทั้งหมด
อู๋ฮ่าวเหรินเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆเช่นกัน, หลังจากที่เขาออกมาจากออฟฟิศ เขาก็ได้มุ่งหน้าไปที่ศูนย์กลางการผลิตยานอวกาศทันที
ศูนย์กลางการผลิตยานอวกาศขนาดยักษ์ในเวลานี้ได้ยึดพื้นที่ไปจนเกือบจะครึ่งหนึ่งของดวงดาว
หากมองดูดาวดวงนี้จากไกลๆ, ก็จะมองเห็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่อยู่บนดาวดาวงนั้น, อุปกรณ์ต่างๆที่อยู่รอบๆกำลังทำการขยายที่นี่ออกไปอยู่เรื่อยๆ
เดิมที, อู๋ฮ่าวเหรินต้องการสร้างฐานทัพแห่งนี้ให้กลายเป็นฐานบัญชาการของยานรบที่เคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆได้, แต่ไม่นานมานี้เขาก็คิดว่าความคิดนี้มันช่างเพ้อฝันเกินไปหน่อย
ด้วยขนาดของมันที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆทำให้การป้องกันของสิ่งก่อสร้างนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง, และถ้าทำให้มันเคลื่อนไหวได้ด้วยแล้ว, มันคงได้ชนเข้ากับดาวเคราะห์น้อยจนตัวอาคารพังเสียหายแน่
มีเพียงป้อมปราการทหารที่สร้างเอาไว้รอบๆจุดที่กำหนดเอาไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยของสิ่งก่อสร้าง
ด้วยเหตุผลนี้, อู๋ฮ่าวเหรินจึงไม่อนุญาตให้สร้างยานอวกาศขณะที่ผลิตอาวุธไปด้วย, แต่โชคดีที่ได้สร้างป้อมปราการเอาไว้, ชิ้นส่วนของหุ่นยนต์ที่ผลิตเสร็จแล้วนั้น, สามารถที่จะจ้างช่างเทคนิคมืออาชีพมาประกอบให้เสร็จได้
และเพื่อที่จะสร้างฐานทัพสร้างยานอวกาศและระบบป้องกันรอบๆฐาน, กำไรทั้งหมดที่อู๋ฮ่าวเหรินได้มาจากการสร้างเกราะส่วนบุคคลได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ด้วยความเร็วเช่นนี้, ถ้าเขาไม่สามารถขายชุดเกราะรบรุ่นใหม่ได้, เขาคงจะต้องขุดหาสมบัติเสียแล้ว
หากเทียบกับชาวบลูแมนแล้ว, ผู้คนจากอารยธรรมอเล็กซ์ที่ได้มาที่นี่นั้น ถึงแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ยินยอมเซ็นสัญญาที่โหดร้ายกับฟิวเจอร์กรุ๊ป
อย่างไรก็ตาม, เมื่อพวกเขาได้เห็นแผนการสร้างยานอวกาศของอู๋ฮ่าวเหรินแล้วและเทคโนโลยีด้านยานอวกาศที่ได้รับมาจากอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, ความไม่เต็มใจเหล่านั้นก็ได้หายไปในทันที
ทีละคนๆ, พวกเขาได้สวมวิญญาณผู้บ้าคลั่งเทคโนโลยีไป, และพวกเขาต่างก็ทำการศึกษาพื้นฐานเทคโนโลยีต่างๆด้านยานอวกาศที่ได้รับมาจากอู๋ฮ่าวเหรินอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อฮาวาโกกลับมาจากศูนย์กลางทดลองยานอวกาศ, เขาก็พบกับเพื่อนเก่าของเขาที่เดินออกมาจากศูนย์กลางการเรียนรู้และถามขึ้น "วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ได้อะไรมาบ้างมั๊ย?"
"ฮ่าๆ, ได้มามากกว่าที่คิดเลยล่ะ, มีความรู้พื้นฐานด้านยานอวกาศแปลกๆมากมายเลยล่ะ, ข้ารู้สึกว่าหากเราหลอมรวมความรู้เหล่านี้เข้าด้วยกันทั้งหมดได้นะ, ความสามารถด้านเทคนิคของข้าจะต้องเพิ่มขึ้นไปอีก 2 ขั้นเลยล่ะ"
"มันเยี่ยมมากเลยล่ะ, ตอนแรกข้าก็ไม่อยากมาหรอกนะ, แต่พอได้เห็นคนพวกนั้นมาทีละคนๆแล้ว, ข้าก็รู้สึกว่าไม่มาไม่ได้แล้ว"
"จะว่าไป, ข้าได้ข่าวมาว่า, เจ้าพวกเด็กฝึกงานที่มาพร้อมกับพวกเรานั้น, มีศักยภาพซ่อนเร้นอยู่มากเลยล่ะ, พวกนายไม่คิดจะไปรับมาเป็นลูกศิษย์ซักคนสองคนบ้างรึไง?"
"ข้ารู้เรื่องนี้ดีกว่าเจ้าเสียอีก, และข้าก็รับมาแล้วด้วย" เขาพูดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม
"แล้วก็ไม่บอกข้าบ้างเลย, ข้าจะต้องไปเลือกลูกศิษย์ของข้าบ้างแล้ว, ต้องรีบไปเลือกหาคนดีๆเอาไว้ก่อนที่จะมีใครมาแย่งไปเสียแล้วล่ะ"
ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเอง, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้เข้ามาที่ศูนย์กลางผลิตยานอวกาศ, และยืนอยู่ด้านหน้าของจอแสงขนาดใหญ่, เขาจึงเริ่มทำการดัดแปลงข้อมูลเหล่านั้นทันที
0 ความคิดเห็น