CF:บทที่ 652 หุ่นยนต์ปรากฏตัว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

หลังจากเอาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาพูดกับคนในระบบซองแดง พวกเขาก็ตัดสินกันว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างยานเหาะกับตัวบุคคลที่กำลังทำภารกิจแน่ๆ

“นายจะทำลายยานเหาะทั้งโบราณสถานทิ้งเลยเหรอ?”

ในตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า ทุกครั้งที่มียานเหาะถูกทำลาย ก็จะมีคนที่หายตัวไป ดังนั้นแล้วถ้าทำลายยานเหาะได้ทั้งหมด ก็จะไม่มีใครเหลืออยู่ในโบราณสถานแห่งนี้

“ถ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจะใช้วิธีนี้ต่อไปก็ได้ แต่มันจะดีกว่าถ้าไม่ใช่วิธีนี้นะ”

“ทำไมล่ะ?”

“ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่เจอไอ้สิ่งที่ดูจะเป็นอุปกรณ์ที่มี AI อยู่ในโบราณสถานแห่งนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี 1 ไม่ก็ 2 ครั้งที่นายทำลายยานเหาะนั่น ถึงแม้ว่าตัวโบราณสถานจะไม่โต้ตอบนาย แต่ถ้าทำมากกว่านี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้”

ทันใดนั้นอู๋ฮ่าวเหรินก็นึกขึ้นได้ ว่าเขานั้นถูกจับตามองโดยโบราณสถานอยู่ และตัวเขาเองก็ทำอะไรไม่สะดวกหากพลังงานของที่นี่ยังไม่หมด ดังนั้นแล้วหากยานเหาะถูกทำลายหมด มันก็จะไม่มีอะไรที่คอยใช้พลังงานของที่นี่อยู่

แล้วถ้าเป็นแบบนี้ ทั้งชีวิตก็คงไม่พอ…

ในระหว่างที่อู๋ฮ่าวเหรินกำลังคิดเรื่องเมื่อครู่อยู่นั้น พวกคนที่ถูกส่งออกไปข้างนอกเองต่างก็กำลังครุ่นคิดเช่นกัน

“บ้าเอ้ย! เกิดอะไรขึ้นน่ะ!? ใครทำ! ฉันเกือบจะทำสำเร็จแล้ว เกือบจะทำสำเร็จแล้วเชียว! ทำไมกัน!!”

ไม่มีใครคิดว่าเขาเป็นบ้าไปหรอก เพราะทุกคนต่างก็อยู่ในอารมณ์คล้ายๆกันหมดนั่นแหละ โดยเฉพาะเขาที่เกือบจะทำสำเร็จแล้ว…

“ฉันเห็นนะว่าอะไรที่โจมตียานเหาะนั้น...” คนๆหนึ่งกระซิบขึ้นมา

ทุกคนต่างหันไปมองตามเสียงเพื่อรอฟังคำที่จะหลุดออกมาต่อ

“หุ่นยนต์ หุ่นยนต์มันโจมตียานนั่น! สิ่งที่เหมือนกับหุ่นยนต์!”

“ถ้าเกิดว่าเจ้าเครื่องจักรนั่นถูกส่งมาด้วยฝีมือใครซักคน แบบนี้เราต้องหาเงื่อนงำกันแล้วนะ!”

พวกเขารู้แล้วว่าคนที่โจมตียานเหาะนั้นยังไม่ตาย! และดูเหมือนว่าจะเป็นคนๆเดียวกับที่โจมตียานเหาะลำแรกด้วย!

ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนั้นถูกสร้างและอยู่ในโบราณสถานแห่งนั้นได้อย่างไร แต่ในเมื่อพวกเขารู้แล้วว่ามีสิ่งนั้นอยู่ พวกเขาจะไม่ปล่อยให้มันหนีไปได้เด็ดขาด!

แต่โชคร้ายไปหน่อย เพราะพวกเขาไม่รู้ว่านั่นเป็นหุ่นยนต์ติดอาวุธหนักของอู๋ฮ่าวเหรินที่เจ้าตัวไม่เคยเอาออกมาโชว์ให้เห็น

มันเป็นหุ่นยนต์พิเศษ

นั่นเพราะว่าเทคโนโลยีของมันก้าวหน้าเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด มันเลยทำให้แม้ตัวอู๋ฮ่าวเหรินเองก็ไม่กล้าที่จะใช้มัน

ดังนั้นมันจึงเป็นหุ่นยนต์ที่พันธมิตรจักวาลไม่มีข้อมูลของมันมาก่อน

แน่นอนว่าถ้าหากอู๋ฮ่าวเหรินเอาหุ่นยนต์ตัวนี้ออกมาในซักวันหนึ่ง มันคงได้เป็นปัญหาแน่ๆ

ข่าวนี้กระจายไปอย่างรวดเร็วภายนอกโบราณสถาน โดยมีเนื้อความว่า ใครบางคนในโบราณสถานแหกกฏและใช้หุ่นยนต์โจมตียานเหาะ

ไม่นานนักกลุ่มคนที่ถูกส่งออกมาเพราะยานเหาะถูกทำลายก็มารวมตัวกัน

“พวกเราต้องหาทางบอกข่าวนี้ให้คนภายในโบราณสถานได้รู้ ไม่งั้นหากเจ้านั่นเริ่มโจมตีอีก มีหวังได้มีคนถูกส่งออกมาแบบไม่รู้ตัวเรื่อยๆด้วย”

“ใช่! เอาจริงๆถ้านายอยากจะหาทางบอกเขาเรื่องนี้นะ ให้นายบอกให้พวกเขาตามหาเจ้านั่นไปเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา”

กลุ่มคนเหล่านี้เริ่มเคลื่อนไหว หลายๆคนภายในกลุ่มเองก็มาจากกองกำลังใหญ่ นั่นจึงทำให้ข่าวนั้นแพร่กระจายรวดเร็วไปอีก

เมื่อทุกคนที่เข้าไปภายในโบราณสถานรับรู้เรื่องที่ว่ามีคนที่สามารถโจมตียานเหาะได้ พวกเขาเริ่มแพร่กระจายข่าวกันเองเพื่อให้มันไปถึงหูคนที่ยังไม่รู้สถานการณ์ตอนนี้ด้วย

เกือบชั่วโมง ข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปจนหมด ยกเว้นแค่บางคนเท่านั้นที่ไม่ได้ข่าว

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่รู้ด้วยว่าใช้หุ่นยนต์โจมตีอย่างไรให้ไม่โดนกฏของโบราณสถานเล่นงาน

ตอนนี้ เหล่าคนที่อยู่ภายในโบราณสถานต่างก็ทำภารกิจที่ได้รับอย่างเคร่งครัด ระหว่างนั้นก็คอยสังเกตรอบๆตัวไปด้วยว่ามีหุ่นยนต์แปลกๆตามที่ได้ยินข่าวมาหรือเปล่า

ตัดมาทางอู๋ฮ่าวเหริน ที่เข้ามายังห้องที่ทุกคนถูกส่งออกไปกันหมดแล้ว มองไปยังรอบๆห้องและเข้าใจในสถานการณ์รวมถึงสิ่งที่พวกเขาก่อนหน้ากำลังทำอยู่

“คนที่สร้างโบราณสถานนี่ ชัดเจนเลยว่าเป็นพวกไร้รสนิยมสุดๆ นี่เขาตั้งชื่อให้เจ้าพวกนี้จริงๆดิ”

“มันจะดีกว่าถ้านายเลิกเอาเรื่องของคนอื่นมาคิดให้หนักหัวนะ หรือไม่ก็รีบๆเดินให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้หาไอ้ของที่ต้องการให้เสร็จๆ ให้ตายเถอะ นายไม่น่าไปทำให้โบราณสถานนี่ตื่นขึ้นมาเลย”

“มันเป็นการคัดเลือกหาผู้สืบทอดของโบราณสถานน่ะ ถ้าใครก็ตามที่ทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ ก็จะใช้ประโยชน์จากโบราณสถานนี้ได้”

“โอ้ ถ้างั้นแล้วนายก็ช่วยรีบๆเลยละกัน ไม่งั้นคนอื่นๆอาจจะมายึดที่นี่ไปซะก่อนก็ได้นะ”

ต่อให้พวกคนในซองแดงไม่เตือน เขาก็เข้าใจสถานการณ์ดีอยู่แล้ว การที่อารยธรรมหนึ่งๆจะทิ้งซากโบราณสถานไว้ มันต้องไม่ใช่ไว้ให้ดูต่างหน้าอยู่แล้ว แต่เพื่อสืบทอดอารยธรรมของพวกเขาต่อไป

แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ดี ผนึกทั้งหมดของโบราณสถานแห่งนี้คงถูกคลายหมดแล้วด้วยพลังงานอวกาศ และมันทำให้กองกำลังจากต่างจักรวาลเข้ามาที่นี่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น โบราณสถานที่กำลังใช้พลังงานภายในของตัวเองอยู่นั้น ดูท่าจะไม่มีพลังมากพอที่จะเลือกผู้สำเร็จได้ด้วยตัวเองด้วย

นักวิจัยพูดเสริม “ การที่มรดกชิ้นนี้เลือกหาผู้ที่จะมาสืบทอด นั่นมันหมายถึง ภายในนี้ยังมีข้อมูลอะไรซ่อนไว้อยู่หรือเปล่า?”

“อาจจะใช่ อู๋ฮ่าวเหริน เร่งมือขึ้นอีก” นักธุรกิจพลังงานเร่ง

พวกเขากระวนกระวายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคโบราณ โดยเฉพาะหลังจากที่สัญญาณเตือนภัยของผู้พิทักษ์เขตแดนดังขึ้น เขารู้ว่ารอบๆจักวาลที่พันธมิตรจักวาลตั้งอยู่ ยังมีจักวาลใหญ่ๆขนาบข้างอยู่อีก

อู๋ฮ่าวเหรินเองก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในยุคนั้น ยุคที่จู่ๆอารยธรรมที่ทรงพลังมากมายก็เกิดพังพินาศกันขึ้นมา คุณรู้อะไรไหม เขาน่ะ มีข้อมูลมากกว่าเหล่าคนที่อยู่ในซองแดงซะอีกนะ

ในกลุ่มพิเศษ จากห้วงเวลาสู่อีกห้วงเวลา คำบางคำได้หลุดออกมาและนั่นทำให้อู๋ฮ่าวเหรินได้ข้อมูลมากมายมาครอบครอง

ตัวอย่างเช่น บางจักรวาลยังคงเชื่อมต่อกันอยู่ หรือไม่ก็บางจักรวาลยังคงมีสงครามครุกกรุ่นอยู่้ เป็นต้น

โดยเฉพาะอารยธรรมยาเคอ ที่ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับหัวใจของห้วงเวลาและจักรวาล ดูเหมือนว่าที่นั่นจะมีตำนานอยู่เต็มไปหมดในยุคสมัยนั้น

บางถ้อยคำที่ได้ยินมาก็กล่าวว่า ผู้คนเรียกอารยธรรมนี้ว่า อารยธรรมแห่งตำนาน

อู๋ฮ่าวเหรินรีบออกจากห้องและไม่ได้เคลื่อนย้ายอะไรภายใน รางวัลของคนพวกนั้นที่ซึ่งทำภารกิจสำเร็จไม่ได้ล่อตาล่อใจเขาเลย

มันเป็นเพียงแค่ภาพวาดอาวุธ ตราบใดก็ตามที่เขาเข้าถึงคลังข้อมูลของอาวุธได้ เจ้าสิ่งนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่เอาไว้โยนลงหม้อต้ม

ยิ่งไปกว่านั้น อู๋ฮ่าวเหรินไม่สามารถเลียนแบบอารยธรรมนี้ได้ด้วย ไม่แม้แต่จะสามารถเดินตาม เพราะในยุคนี้เราขาดแคลนวัตถุดิบอีกหลายอย่าง การเดินตามอารยธรรมโบราณก็ไม่ต่างอะไรกับเดินบนถนนที่ร้างซึ่งไร้ผู้คนสัญจร

เครื่องมือบางอย่างของอารยธรมมโบราณนั้นไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ในยุคนี้ นั่นเพราะว่าวัตถุดิบหลายๆอย่างไม่สามารถหาได้อีกแล้ว และเมื่อไม่มีวัตถุดิบ เราจะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร

เมื่อใกล้ถึงห้องเก็บข้อมูลอาวุธ อู๋ฮ่าวเหรินก็มองหายานเหาะลำอื่นๆที่อยู่บริเวณนั้น

คิดหาปัญหาที่อาจจะเกิดหากทำลายยานพวกนั้น อู่ฮ่าวเหรินก็ยกเลิกความคิดที่จะทำลายยานพวกนั้นไป และ การรีบวิ่งเข้าไปก็ด้วย

กลุ่มของคนอื่นที่เสร็จภารกิจเองก็มายังที่นี่อย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ติดว่าทำลายยานไม่ได้ กลุ่มนี้อาจจะกลายเป็นกลุ่มที่ 3 ที่โดนกำจัดไปแล้ว

ในเมื่อยานก็ทำลายไม่ได้ และถ้าหากบุ่มบ่ามรีบเข้าไปก็จะต้องถูกคนพวกนั้นเจอตัวแน่ๆ

คนพวกนั้นต้องทำภารกิจให้สำเร็จก่อน จึงจะได้มาซึ่งอะไรซักอย่าง แล้วถ้าเกิดเขาหาไอ้สิ่งนั้นเจอก่อน เขาก็จะได้มาทั้งหมด…

อู๋ฮ๋าวเหรินคิดว่า หากใครก็ตามที่ได้เป็นผู้สืบทอดโบราณสถานแห่งนี้ แล้วคนๆนั้นดันมาพบว่าไม่มีอะไรดีๆเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว คนๆนั้นจะแสดงอาการบ้าคลั่งออกมาได้ขนาดไหน

เมื่อคลังข้อมูลอาวุธปรากฏต่อสายตาของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว เขาก็ค้นพบว่าเจ้าสิ่งนี้มันเหมือนกับห้องสมุดดีๆห้องหนึ่งเลย

จะเข้าไปก็กังวลเกี่ยวกับอันตรายโดยรอบ ดังนั้นแล้วอู๋ฮ่าวเหรินจึงสร้างหุ่นยนต์ออกมาเป็นจำนวนมากและเริ่มตรวจดูพื้นที่รอบๆนั้นอย่างเคร่งครัด