CF:บทที่ 560 การล้มของตลาด

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 560 การล้มของตลาด

 

รู้สึกคันๆที่จมูก, อู๋ฮ่าวเหรินลืมตาขึ้นมาแล้วก็พบเมิ่งเสวี่ยที่กำลังจับปลายผมของเธอและปัดไปมาที่จมูกของเขา

 

เขายื่นแขนของเขาออกมาและจู่โจมหลิงเมิ่งเสวี่ย

 

"อ๊ะ! คุณตื่นซักที"

 

"เดี๋ยวเถอะ, มาแกล้งสามีของคุณแบบนี้ อยากรู้ใช่มั๊ยว่าผมจะลงโทษคุณยังไง?"

 

ไม่นานนัก, ก็มีเสียงร้องที่น่าอายดังมาจากในห้อง, โชคดีที่ยังเป็นตอนเช้าอยู่จึงยังไม่มีใครมาเรียกพวกเขา, ไม่อย่างนั้นคงมีคนได้ยินเสียงของงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิไปแล้ว

 

หลิงเมิงเสวี่ยที่กำลังเหนื่อยอ่อนมองดูอู๋ฮ่าวเหรินด้วยเขินอาย, เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่เธอก็หน้าแดงขึ้นมา

 

เธอผลักอู๋ฮ่าวเหรินออกแล้วพูดขึ้น "ที่รัก, ลุกขึ้นเถอะ พวกเรายังเหลือพิธีไปเยี่ยมบ้านของฉันอีกนะ"

 

ก่อนและหลังแต่งงาน, หัวใจของหลิงเมิ่งเสวี่ยก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง

 

อู๋ฮ่าวเหรินจูบที่ริมฝีปากอันเย้ายวนของเธออยู่สักพักแล้วจึงพูดขึ้น "ไม่ต้องกังวลไปหรอก, บางทีพวกผู้ใหญ่อาจจะต้องการให้พวกเราตื่นสายกันก็ได้นะ"

 

ตอนแรกหลิงเมิ่งเสวี่ยไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูด, แต่เมื่อมองมาที่รอยยิ้่มเจ้าเล่ห์ของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, เธอก็ตอบสนองทันที

 

กำปั้นเล็กๆของเธอทุบลงไปที่หน้าอกที่เหมือนกระดานของอู๋ฮ่าวเหรินรัวๆ, ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยเสียงนุ่มๆของเธอ "คนบ้า, ไม่สนใจแล้ว"

 

มองดูหลิงเมิ่งเสวี่ยที่กำลังใส่เสื้อผ้า, อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้สึกเร่าร้อนขึ้นมา, ทำให้ต้องใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมงในการใส่เสื้อผ้า

 

แน่นอนว่า, มันต้องใช้เวลานานมากเพราะอู๋ฮ่าวเหริน

 

ทันทีที่เขาออกมาจากห้อง, อู๋ฮ่าวเหรินก็พบจี้ที่ดูเหมือนกำลังตามหาเขาอยู่, เขาก็เลยสงสัยขึ้นมา, เพราะเขาได้สั่งไว้เมื่อวานว่า ถ้าไม่มีเรื่องด่วนอะไร, เขาจะหยุดทำงานในช่วงนี้

 

"มีอะไรงั้นรึ?"

 

เหล่าผู้นำจากประเทศต่างๆได้กลับไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ, ดูเหมือนจะมีบางอย่างเกิดขึ้นบนโลกค่ะ"

 

"งั้นเหรอ, มีอะไรที่ทำให้พวกเขายอมทิ้งการชมยานรบแล้วรีบออกไปทันทีงั้นสินะ?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ, เพราะจากสถานการณ์แล้ว คนเหล่านั้นจะต้องอยู่ต่อเพื่อชมยานรบต่ออีกสักพัก, ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะรีบกลับหมดตั้งแต่เมื่อคืน

 

"ดูเอาเองเถอะค่ะ"

 

เมื่อเขาได้เห็นเหตุการณ์บนโลก, อู๋ฮ่าวเหรินก็ถึงกับตัวแข็งทื่อ, ข้อความเขียนไว้ตรงตัวว่า "ระบบเศรษฐกิจของทั้งโลกล้มแล้ว

 

ใช่, มันเพิ่งล้มเมื่อคืน, มันเกิดขึ้นกะทันหันและรวดเร็วมาก

 

เรื่องที่เศรษฐกิจของโลกจะล้มนั้น, อู๋ฮ่าวเหรินได้คาดการเอาไว้นานแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นตอนนี้  

 

เมื่อเขาลองคิดดู, เขาก็เข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น, ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะการปรากฏตัวของยานรบได้ทำให้คนบางคนได้เข้าใจอะไรบางอย่าง

 

ในเวลานี้, บนโลก รัฐบาลของประเทศต่างๆกำลังจัดการเรื่องระบบเศรษฐกิจที่ล้มระเนระนาด

 

การล้มของระบบเศรษฐกิจนั้น, อันดับแรกและแรกสุดเลย โดยเริ่มจากตลาดโลหะ, ราคาของทองและเงิน, ซึ่งเคยมีค่ามากกลับดิ่งลงเหวในชั่วข้ามคืน

 

โลหะอื่นๆเองก็ได้รับผลกระทบในระดับต่างๆกัน, แม้แต่ราคาของเพชรก็ยังแย่เลย

 

เหตุผลที่ระบบเศรษฐกิจเกิดการล้มนั้น น่าจะเป็นผลพวงมาจากการวิเคราะห์ในเว็บบอร์ดของฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

หลังจากที่ได้ถ่ายทอดสดการปรากฏของยานรบ, มีบางคนที่ได้ทำการวิเคราะห์ผลกระทบของยานรบ

 

ซึ่งจากการวิเคราะห์นี้, ทำให้แร่มีค่าต่างๆอย่างทอง, น้ำมันและเพชรกลายเป็นแร่หายากที่ไม่ต้องการอีกต่อไป

 

จริงๆแล้ว, การวิเคราะห์นี้ได้มีเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ตอนที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้แยกตัวออกและรวมรวมทรัพยากรต่างๆจากดาวอื่นๆในจักรวาล

 

ในตอนนั้น, ยังไม่ใครล่วงรู้ถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการสร้างยานอวกาศของฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

ดังนั้น, ในชั่วข้ามคืน ตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมด้านโลหะทั้งหมด, หุ้นถึงกับดิ่งลงเหว โดยที่หนักสุดคือทอง และตามมาด้วยพลังงานอย่างน้ำมัน

 

แต่ความตกต่ำทางเศรษฐกิจเช่นนี้ ไม่สามารถทำให้เกิดการล้มของระบบเศรษฐกิจได้, แต่ทว่า จำนวนคนงานจำนวนมากที่ต่างพากันลาออก, ในตอนเช้าของวันที่ควรจะยุ่งที่สุดเช่นนี้ แต่กลับมีคนนั่งรถบัสมาเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

 

การล้มของเศรษฐกิจจึงได้เริ่มขึ้น และไม่มีใครที่สามารถหยุดยั้งได้, เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าหนทางเดียวที่จะเดินทางไปต่อในอนาคตได้คือ การเรียนรู้เทคโนโลยีที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเผยแพร่ออกมาให้ได้

 

บางบริษัทที่เกี่ยวข้องกับแร่มีค่าต่างๆ

ในตอนเช้าของวันนี้ ต่างก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

 

เช่นเดียวกับบริษัทห้างทองที่มีชื่อเสียง, พวกเขานั้นได้แต่อ้ำอึ้ง, เพราะไม่คิดว่าเวลานั้นจะมาถึงเร็วขนาดนี้

 

จงหนานไห่, ท่านผู้นำได้มองดูข้อมูลที่เลขาธิการได้รวบรวมมาให้ทั้งคืน

 

"เป็นอย่างไรบ้าง?"

 

"แย่มากครับ, โชคยังดีที่ พวกเราได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนล่วงหน้าแล้ว, ไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้เจอปัญหามากมายแน่"

 

"เฮ้อ, ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้, ก็น่าจะร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ปไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว"

 

เลขาธิการมองท่านผู้นำโดยที่ไม่ได้พูดอะไร, เขารู้ดีว่าท่านผู้นำนั้นรู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์จะต้องเป็นเช่นนี้

 

"ไม่เป็นไรหรอกครับ, มันเป็นอะไรที่ไม่มีใครคาดคิดอยู่แล้วครับ"

 

ด้วยอิทธิพลของจีนนั้นสถานการณ์จึงดีกว่าประเทศอื่นๆ, เพราะก่อนหน้านั้น แรงงานทั้งหมดในจีนได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นหุ่นยนต์หมดแล้ว

 

ถึงแม้อุตสาหกรรมทั้งหมดจะล้มลงไป, ชีวิตของผู้คนทั้งประเทศก็จะไม่ได้รับผลกระทบนี้ไปด้วย

 

แน่นอนว่า, สถานการณ์เช่นนี้จะไม่คงอยู่ได้นานมากนัก ถ้ายิ่งนานไปเรื่อยๆ ปัญหามากมายก็จะพอกพูนจนปิดเอาไว้ไม่มิด

 

ส่วนประเทศที่ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเอาไว้ก่อนก็ได้รับผลกระทบอย่างสาหัส, เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอาหาร, เสื้อผ้า, บ้านเรือน และการคมนาคมต่างก็ได้รับผลกระทบกันหมด, ซึ่งทำให้เกิดปัญหาอย่างหนักในประเทศนั้นๆ

 

กลุ่มเจ้าหน้าที่ในเพนตากอนของสหรัฐอเมริกาในเวลานี้ต่างก็มีสีหน้าที่บูดเบี้ยว, พวกเขาไม่คิดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะมาแบบไม่ทันตั้งตัวขนาดนี้

 

"วัตถุดิบต่างๆที่พวกเราสำรองไว้ใช้จะอยู่ได้นานขนาดไหน?"

 

"อาหารไม่ใช่ปัญหาครับ, แต่ของใช้จำเป็นบางอย่างน่าจะไม่เพียงพอครับ"

 

"แล้วเรื่องการเตรียมหุ่นยนต์มาใช้แทนมนุษย์ไปถึงไหนแล้ว?"

 

ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันของพวกเรา, พวกเราเพิ่งจะสามารถแก้ปัญหาบางอย่างไปได้แล้ว, แต่ว่าก็เป็นไปไม่ได้ที่จะให้อยู่ในระดับเดียวกันกับฟิวเจอร์กรุ๊ปครับ"

 

"ทำไม?"

 

"ดูเหมือนฟิวเจอร์กรุ๊ปจะมีเทคโนโลยีบางอย่างที่ไม่ได้เผยแพร่ออกมาครับ, ตัวอย่างเช่นระบบปัญญาของหุ่นยนต์ครับ ซึ่งของหุ่นยนต์ที่พวกเราผลิตขึ้นมานั้นมีปัญญาที่ต่ำมากครับ"

 

ทั้งประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆต่างก็ส่ายหัวช่วยไม่ได้, พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาควรที่จะหันหน้าเข้าหาฟิวเจอร์กรุ๊ปในเวลานี้

 

ส่วนสถานการณ์ในยุโรปก็ไม่ได้ดีเช่นกัน, ถึงแม้ว่าจะมีบางคนที่ยังทำงานอยู่ แต่คนจำนวนมากก็ได้เลือกที่จะลาออกจากงานเพื่อมาเรียนรู้เทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

แต่ที่ไม่น่าคาดคิดที่สุดก็คือแอฟริกา, สถานที่ที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่ำติดดิน แต่กลับได้รับผลกระทบน้อยที่สุด อาจจะแทบจะพูดได้ว่าไม่ได้รับผลกระทบเลยก็ว่าได้

 

สำหรับพวกเขาแล้ว, ชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปจากเดิม, มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลง

 

แน่นอนว่า เพราะมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นในแอฟริกา, จึงทำให้ระบบเศรษฐกิจของแอฟริกานั้นไม่ได้รบผลกระทบอะไร"

 

การล้มของเศรษฐกิจเช่นนี้, ประเทศที่พัฒนาไปมากเท่าไร, ก็ยิ่งได้รับผลกระทบมากขึ้นเท่านั้น

 

อู๋ฮ่าวเหรินที่อยู่บนยานรบนั้นก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา เมื่อเขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปของโลก

 

เพราะเขารู้ดีว่าอีกเดียวประเทศต่างๆจะต้องมาหาเขาในไม่ช้า, เพราะในปัจจุบันมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

 

ปัญหาเช่นนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว, และยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานมากเท่าไร ก็จะยิ่งเป็นปัญหามากขึ้นเท่านั้น

 

ด้วยโอกาสนี้, เขาก็จะได้ลงมือทำหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่เขาจะควรทำมานานแล้ว

 

จริงๆแล้ว, เขาสามารถที่จะลงมือทำได้แต่แรกแล้ว, ด้วยการใช้กำลังข่มขู่บีบบังคับ แต่ในเวลานี้พวกเขาจะต้องมาขอร้องให้เขาช่วยเหลือพวกเขาแทนแล้ว



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น