CF:บทที่ 561 รัฐบาลที่เป็นอัมพาต

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 561 รัฐบาลที่เป็นอัมพาต

 

ใน 3 วันที่ผ่านมา, อู๋ฮ่าวเหรินและครอบครัวต่างก็อาศัยอยู่บนยานรบและยังไม่ได้ลงมา, แม้แต่พนักงานส่วนใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเองก็ยังอยู่ที่นั่นต่อเพื่อที่จะศึกษาเรื่องของยานรบ

 

ในเวลานี้บนโลก, ตัวแทนจากประเทศต่างๆได้ถูกส่งมาที่เมืองทะเลทรายและถูกให้รอคอยอยู่ที่นี่เป็นเวลา 3 วันแล้ว, ถึงแม้พวกเขาจะไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยังคงรอคอยอยู่ที่เมืองทะเลทราย

 

เนื่องจากการล่มสลายของเศรษฐกิจทั่วโลก, ทำให้การจัดการดูแลขั้นพื้นฐานต่างๆของรัฐบาลในหลายๆประเทศไม่สามารถดำเนินการต่อได้

 

ด้วยการลาออกเป็นจำนวนมากของแรงงาน, ทำให้จำนวนบริษัทที่ล้มละลายมีเพิ่มมากขึ้น

 

อาจจะพูดได้ว่า มีเพียงบางบริษัทที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยในการดำรงชีวิตของผู้คน, เพราะด้วยคำสั่งที่ได้รับมอบหมายมาจากทางรัฐ ทำให้ยังมีคนงานทำงานอยู่ ในขณะที่บริษัทอื่นๆมากมายต่างก็ต้องเผชิญกับการล้มละลาย

 

ในเวลานี้ผู้คนที่มีความสามารถทั่วโลกต่างก็พยายามเรียนรู้เทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป, แม้แต่คนที่ไม่เคยเรียนทางด้านพวกนี้มาก่อน, พวกเขาก็เข้าร่วมต่อสู้ในเกมอารยธรรมแทน

 

บางทีจะมีเพียงอยู่อย่างเดียวที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็คือบรรดาชาวนาชาวไร่, ซึ่งถือว่าโชคดีที่คนเหล่านี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง, หลายๆประเทศจึงไม่ได้อยู่ในสภาวะไม่สงบ

 

ไม่อย่างนั้น, ประเทศต่างๆคงได้ยุ่งเหยิงไปแล้ว, แม้ว่ารัฐบาลเองก็รู้ถึงสถานการณ์นี้ดีอยู่แล้วแต่ก็คงสามารถคงอยู่ได้อีกไม่นาน

 

ในช่วงเวลานี้, บางผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนต้องบริโภคนั้นได้ถูกนำมาแจกจ่ายโดยของที่ทางรัฐกักตุนเอาไว้, แต่ถ้าปล่อยเนิ่นนานไป เพราะบริษัทมากมายต้องปิดตัวลง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่สามารถที่จะหาซื้อได้

 

เมื่อถึงตอนนั้น, ถ้าพวกเขาไม่จัดการให้ดี คงได้เกิดสงครามกลางเมืองแน่

 

ท้ายที่สุดแล้ว, คนเหล่านี้ก็พบว่าปัญหาคนทางเดียวที่จะรอดพ้นจากวิกฤตินี้ได้ก็คือฟิวเจอร์กรุ๊ป, มีเพียงการช่วยเหลือจากฟิวเจอร์กรุ๊ปที่จะสามารถช่วยให้พวกเขารอดไปได้

 

ดังนั้น, รัฐบาลต่างๆจึงได้ส่งตัวแทนมายังฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างด่วนที่สุด

 

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาถึงกับพูดไม่ออกคือ, อู๋ฮ่าวเหรินกับกลุ่มคนสำคัญต่างๆของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นยังอยู่กันบนยานรบในอวกาศ, จึงทำการติดต่อกับพวกเขาไม่ได้เลย

 

ในห้องประชุมขนาดใหญ่ในปักกิ่ง, กลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังนั่งประชุมกันอย่างกระวนกระวาย

 

ท่านผู้นำได้พูดขึ้นมาโดยไม่แสดงอารมณ์ว่า "ในตอนนี้พวกคุณทุกคนคงจะรู้ถึงสถานการณ์กันดีอยู่แล้ว, ผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มอีก, ใครมีความคิดที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไรบ้าง?"

 

ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เพราะไม่มีใครที่คิดหาหนทางรอดจากสถานการณ์นี้ได้เลย

 

พวกเขามองดูอย่างเงียบสงบ, ท่านผู้นำได้ถอนหายใจและพูดขึ้นมา "ในตอนนั้น, ฟิวเจอร์กรุ๊ปต้องการที่จะร่วมมือกับพวกเรา แต่พวกคุณส่วนใหญ่กลับปฏิเสธ, ในตอนนี้ พวกคุณก็ควรที่จะมีหนทางการแก้ไขสถานการณ์นี้สิ"

 

มีบางคนที่พอได้ยินเช่นนี้ก็ถึงกับทำสีหน้าบูดเบี้ยวขึ้นมา, และสำนึกผิดกับการตัดสินใจของเขา

 

โชคยังดีที่, พวกเขาไม่ได้อยู่เฉยๆ และได้ลงมือทำการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว

 

ไม่อย่างนั้น, ประเทศจีนอาจจะหนักกว่าประเทศอื่นๆเลยก็เป็นได้, จริงๆแล้วในเวลานี้ในประเทศจีนเองกำลังยุ่งเหยิงอยู่, และถ้าไม่ใช้กองทัพเข้าควบคุมล่ะก็, บางทีอาจจะเกิดสงครามกลางเมืองไปแล้ว

 

และประเทศต่างๆในยุโรปเอง, พวกเขาเองก็ไม่ได้ดีต่างจากคนอื่นเท่าไร, ในหลายๆประเทศตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายมาก

 

"ท่านผู้นำครับ, เรื่องนี้พวกเราผิดไปแล้วจริงๆครับ ในเวลานี้พวกเราจนปัญญาแล้วจริงๆครับ, และพวกเราก็ไม่รู้ด้วยว่าจะติดต่อกับฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างไรดีด้วยครับ? ในตอนนี้พวกเราจะขอสนับสนุนในการร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างแน่นอนครับ"

 

หลังจากที่ได้เห็นยานรบ, พวกเขาก็ได้สำนึกผิดกับการตัดสินใจของพวกเขา, ถ้าพวกเขาร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ปไปตั้งแต่ตอนนั้น, บางทีพวกเขาก็อาจจะได้รับผลประโยชน์ไปแล้ว

 

ในเวลานี้, การที่จะร่วมมือกับคนอื่นได้นั้น, ขึ้นอยู่กับทางฝ่ายนั้นอย่างเดียวแล้วว่าจะเห็นด้วยหรือไม่

 

"ในเวลานี้พวกเรายังทำการติดต่อไปยังบุคคลสำคัญต่างๆของฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ได้เลยครับ, พวกเขาน่าจะยังอยู่บนยานรบแล้วยังไม่ได้กลับมาครับ"

 

จริงๆแล้ว, ท่านผู้นำมีวิธีที่จะติดต่ออู๋ฮ่าวเหรินได้อยู่, แต่ตอนที่เขาพบว่าการบริหารภายในประเทศนั้นยังคงเสถียรภาพอยู่, และหุ่นยนต์ต่างๆก็ยังช่วยในการแก้ไขปัญหาด้านการดำรงชีวิตให้กับผู้คนอยู่ด้วย, เขาจึงยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร

 

ในเมื่อครั้งก่อนคนเหล่านี้ได้ต่อต้านนโยบายของเขา, เขานั้นรู้ดีว่ามีคนบางคนในรัฐบาลที่ยังกระด้างกระเดื่องกับเขา, เขาจึงคิดที่จะใช้โอกาสนี้ในการแก้ไขพวกนั้น

 

เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์นี้ในประเทศจีนกับประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงแล้ว, จะเห็นได้ว่าแย่กว่ามาก

 

เดิมทีประเทศเล็กๆจำนวนมากนี้ต่างก็ประสบปัญหาความวุ่นวายในประเทศอยู่แล้ว ยิ่งมาได้รับผลกระทบในครั้งนี้ทำให้การบริหารของรัฐบาลเกิดความล้มเหลวและทั้งประเทศก็เป็นอัมพาตไป

 

ยกตัวอย่างเช่น, ประเทศแท่งไม้(เกาหลี), ประเทศเกาะ(ญี่ปุ่น), และประเทศลิงที่กระโดดไปมา(เวียดนาม) และประเทศต่างๆที่อยู่ในตะวันออกเฉียงใต้

 

เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้, พวกเขาก็ได้เริ่มหันหน้าหาจีนเพราะพวกเขารู้ว่าเทคโนโลยีหุ่นยนต์ของจีนนั้นสามารถใช้แก้ไขปัญหาด้านการดำรงชีวิตของผู้คนได้

 

ถ้าเป็นเมื่อสมัยโบราณ, สมัยที่เศรษฐกิจของประเทศต่างๆยังไม่ได้เชื่อมถึงกันอย่างเช่นตอนนี้, สถานการณ์ก็คงจะไม่ย่ำแย่อย่างในปัจจุบันก็ได้

 

สถานการณ์การล่มสลายของตลาดทางการเงินทั้งหมดนั้น เรียกได้ว่าเป็นวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจที่สาหัสยิ่งกว่าวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งไหนๆ

 

ความผันผวนของราคาสิ่งของต่างๆ, ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ถึงกับล้ม และการล้มละลายของบริษัทจำนวนมหาศาลทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา

 

ถ้าไม่ใช่เพราะคนจำนวนมากต่างพากันอยู่ที่บ้าน และเรียนรู้เทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป ก็คงจะไม่เกิดปัญหาวุ่นวายเช่นนี้

 

แน่นอนว่า, ถ้าไม่มีของไฮเทคของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว ปัญหาเช่นนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นมา, และปัญหานี้มันก็ทับถมกันมาเรื่อยๆจนเกิดปัญหาขึ้นมา ราวกับอีกาที่ถมก้อนหินใส่ในเหยือกน้ำ

 

ในเวลานี้, ประเทศเล็กๆในทวีปยุโรป เมื่อเทียบกับประเทศใหญ่ๆแล้ว พวกเขาแย่ยิ่งกว่า, เพราะพวกเขาต้องนำเข้าสิ่งของมากมายอยู่แล้ว เพราะประเทศเหล่านั้นไม่มีกำลังการผลิตเลย

 

และเมื่อต้องเผชิญกับวิกฤตินี้, เมื่อพวกเขาต้องการที่จะนำเข้าข้าวของจำเป็นเหล่านั้น แต่กลับไม่สามารถนำเข้าจากที่ไหนได้เลย

 

นอกจากนี้, ปัญหานี้ยังไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด, ประเทศเล็กๆจำนวนมากเหล่านี้ต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ที่สุดคือเรื่องของระบบเงินตรา, ซึ่งถ้ายังไม่สามารถแก้ไขได้ ทั่วทุกประเทศคงได้ตกอยู่ในสภาวะสับสนอลหม่านแน่

 

เพื่อที่จะแก้ไขปัญหานี้, ผู้นำของประเทศในทวีปยุโรปต่างๆจึงได้มารวมตัวกันอีกครั้ง, แต่ในเวลานี้ พวกเขาล้วนแล้วแต่อ่อนล้า

 

ในหลายวันมานี้, ไม่มีผู้นำประเทศไหนเลยที่ได้พักผ่อนยังเพียงพอ

 

ในห้องประชุม, หลังจากที่ได้นั่งลง ผู้นำเหล่านี้ต่างก็มองหน้ากันเองและยิ้มอย่างบิดเบี้ยว

           

ส่วนผู้นำอังกฤษยังไม่ได้นั่งลงแล้วพูดขึ้นมา "ผมเชื่อว่าทุกคนนั้นคงจะอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกันหมด, มีเพียงสถานการณ์ของจีนที่ดีที่สุด และของสหรัฐอเมริกาที่ยังอยู่ในสภาพทรงตัวอยู่ได้, แต่ทว่าทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วสถานการณ์เช่นนี้จะไม่คงอยู่แบบนี้ไปตลอดแน่"

 

"สิ่งที่คุณพูดนั้นพวกเราเข้าใจกันดีอยู่แล้ว, ตอนนี้ปัญหาคือพวกเราจะหาทางแก้ไขกันยังไง?" ผู้นำฝรั่งเศสพูดขึ้นมาอย่างไร้หนทาง

 

"อืม, มันก็ขึ้นอยู่กับว่าทางฟิวเจอร์กรุ๊ปจะอยากแก้ปัญหานี้ให้พวกเราไหมล่ะนะ, ถ้าพวกเขายอมที่จะช่วยพวกเรา, ผมก็เชื่อว่าปัญหานี้ก็คงจะจบลงโดยไว"

 

แล้วเสียงก็เงียบไปทั้งห้องประชุม, เพราะทุกคนรู้ดีว่าถ้าเพียงเข้าหาฟิวเจอร์กรุ๊ป, ปัญหาเช่นนี้ก็จะจบลงโดยไว

 

แต่ทว่า, พวกเขาเองก็รู้ดีเช่นกันว่าการที่จะเข้าร่วมฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, หมายถึงว่าพวกเขาจะต้องวางทุกสิ่งทุกอย่างลง

 

ยิ่งไปกว่านั้น, การตัดสินใจนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากการเชิญชวนหมาป่าให้เข้ามาในห้อง, เมื่อถึงเวลานั้นประเทศก็จำเป็นต้องพึ่งพาฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างเดียวแล้ว

 

เหล่าผู้นำประเทศเล็กๆแห่งหนึ่งก็ได้พูดขึ้นมาว่า "ไม่สนหรอกว่าพวกคุณจะคิดยังไงกัน, แต่ประเทศของพวกเราตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าร่วมกับฟิวเจอร์กรุ๊ป, ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป, นี่คือทางที่พวกเราได้เลือกและจะไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้"

 

ผู้นำอีกประเทศหนึ่งก็พูดขึ้นมาบ้าง "ผมก็เชื่อเช่นนั้น และถ้าพวกเราร่วมมือกับฟิวเตอร์กรุ๊ปแล้ว, พวกเราก็จะสามารถก้าวเข้าสู่จักรวาลได้แน่นอน, ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่มายืนกรานปฏิเสธเรื่องนี้"

 

ด้วยคำพูดของผู้นำทั้งสองประเทศนี้, เหล่าผู้นำประเทศเล็กๆก็เริ่มมีปากมีเสียงบ้างแล้ว, ซึ่งพวกเขาทั้งหมดต่างก็ตกลงที่จะร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

ในเวลานี้, ก็มีผู้นำประเทศคนหนึ่งได้พูดขึ้นมา "บางทีพวกคุณคงจะไม่รู้ว่ามีบางประเทศที่ดุดันมากกว่าการร่วมมือกันของพวกเราเสียอีก, หลังจากวันนี้ไป พวกคุณก็น่าจะได้ข่าว"

 

ในความเป็นจริง, ผู้นำประเทศเล็กๆเหล่านี้ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วจริงๆ, พวกเขานั้นรู้ดีว่าจะเป็นอย่างไรถ้าพวกเขาหันหน้าไปร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

แต่ปัญหาในตอนนี้คือถ้าพวกเขาไม่ให้ความร่วมมือ, ประเทศของพวกเขาก็ได้เป็นอัมพาตแน่, ถ้าพวกเขาไม่รีบตัดสินใจเสียตอนนี้ พวกเขากังวลว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะไม่มีโอกาสที่แม้แต่จะได้เลือกด้วยซ้ำ

 

แล้วเมื่อถึงเวลานั้น, พวกเขาก็จะมีความสัมพันธ์เป็นอย่างอื่นกับฟิวเจอร์กรุ๊ป, แล้วพวกเขาก็กลัวว่าพวกเขานั้นจะได้ผลประโยชน์ที่น้อยลงไป



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น