CF:บทที่ 498 ความเปลี่ยนแปลงหลังการสกัดกั้นล้มเหลว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 498 ความเปลี่ยนแปลงหลังการสกัดกั้นล้มเหลว


เหตการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ทันระวัง เขารู้ว่ามีซากยานมนุษย์ต่างดาวบนโลก แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีมนุษย์ต่างดาวที่มีชีวิตอยู่บนโลกด้วย


ในอวกาศ มีลำแสงพุ่งออกจากโลกอย่างรวดเร็ว


ข้อมูลอย่างหนึ่งที่ถูกดักจับโดยเครือข่ายป้องกันดาวเทียม ซึ่งทำให้อู๋ ฮ่าวเหรินอารมณ์ดีขึ้น


คนที่หลบหนีออกจากโลกไม่ได้คิดเลยว่าอารยธรรมระดับต่ำจะมีเทคโนโลยีที่ทรงพลัง การปิดบังของชาวญี่ปุ่นเหล่านั้นทำให้เขาประเมินพลังทางเทคโนโลยีที่อู๋ ฮ่าวเหรินมีต่ำไป


ดังนั้นเมื่อมียานรบขนาดเล็กปรากฏขึ้น เขาก็เร่งพลังงานในยานหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง หวังที่จะหลบหนีออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว


"เราจับเขาด้วยความเร็วนี้ไม่ได้แน่" จี้เตือนอู๋ ฮ่าวเหริน


เขามองสำแสงนั้นในหน้าจอ แล้วพูดด้วยความหดหู่ "ฆ่าเขาซะ"


ยานรบขนาดเล็กนั้นเปิดใช้งานระบบอาวุธในทันที แล้วลำแสงก็พุ่งโจมตียานที่กำลังหนีอย่างรวดเร็ว


ภายในยานหลบหนี มนุษย์ต่างดาวมองเห็นที่ลำแสงที่กำลังจู่โจมเขาจึงเร่งพลังงานภายในยานหลบหนีอย่างร้อนรน


"เร็วเข้า เร็วเข้า..."


เร็วขึ้นอีกนิดเขาก็จะสามารถกระโดดข้ามมิติสั้น ๆ ได้แล้วก็เขาก็จะสลัดยานรบที่ตามเข้ามาพ้น แม้ว่ามันจะสูญเสียพลังงานไปมาก และเรือชูชีพก็มีแนวโน้มที่จะอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อได้


แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกแล้ว


ประกายแสงปรากฎขึ้นในดวงดาวห่างไกล อู๋ ฮ่าวเหรินมองไปยังแสงที่ค่อย ๆ หายไปและสั่งให้ยานรบขนาดเล็ก สำรวจรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว


"เกิดอะไรขึ้น? ถ้าไม่ใช่เพราะยิงโดนทำไมจู่ ๆ มันก็หายไปล่ะ?"


จี้วิเคราะห์สาเหตุและไม่ช้าก็ให้คำตอบ


“เขาหลบหนีไป โดยการกระโดดข้ามมิติพิเศษ อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเข้าเข้าสู่การกระโดดข้ามมิติไป เขาก็โดนการโจมตีของเราด้วย”


อู๋ ฮ่าวเหรินพูดอย่างกังวลว่า "สถานการณ์แบบนี้ เขาจะสามารถหลบหนีไปได้รึเปล่า?"


“ฉันก็ไม่รู้ เราต้องรู้ว่าเขาเป็นอารยธรรมแบบไหนเพื่อกำหนดความเป็นไปได้ในการหลบหนี อย่างไรก็ตามจากการวิเคราะห์สถานการณ์เมื่อครู่นี้ ถึงแม้ว่าเขาจะหนีไปได้ เขาก็ไม่เหลือพลังงานมากนัก เขาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อโลกไปชั่วเวลาหนึ่ง"


“บ้าเอ๊ย ให้ดาวเทียมค้นหาอวกาศโดยรอบเผื่อจะหาตัวเขาได้"


อู๋ ฮ่าวเหรินเข้าใจดี ว่าตอนนี้มันไร้ประโยชน์ที่จะพูดอะไร มันเป็นความผิดของเขา


"นายสืบได้รึเปล่าว่าเขามาจากไหน"


จี้วงกลมรอบพื้นที่หนึ่งบนแผนที่โลกและพูดว่า "มาจากที่ไหนสักแห่งในพื้นที่นี้ ซึ่งไม่สามารถระบุชัดเจนได้"


หลังจากที่ได้ดูแผนที่ซักพักอู๋ ฮ่าวเหรินก็คิดว่าเป็นฝีมือญี่ปุ่นอีกแล้ว


เทคโนโลยีในประเทศนี้เกี่ยวข้องกับอารยธรรมต่างดาวและยังเป็นอารยธรรมที่ชั่วร้ายเสียด้วย


มีอารยธรรมที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ภายใต้การการปราบปรามของพันธมิตรจักรวาลอย่างสมบูรณ์ ซึ่งหากเป็นอารยธรรมนั้นอู๋ ฮ่าวเหรินจะหนักใจยิ่งกว่านี้ เพราะมันเป็นอารยธรรมกระหายเลือดและชั่วร้าย


หากคนที่หลบหนีไปกลับมาก็อาจจะนำภัยพิบัติมาสู่โลกด้วย


เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในอนาคต แต่ทำไมมันถึงเกิดขึ้นตอนนี้? มันเป็นผลของปรากฎการณ์ผีเสื้อกระพือปีกจริง ๆ หรือ?


และเขาก็ยังสามารถใช้หัวใจแห่งเวลาและมิติได้ด้วย มันจะได้รับผลกระทบจากกฎของจักรวาล อู๋ ฮ่าวเหรินมองไปยังดวงดาวที่ห่างไกล ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเข้ากลุ่มพิเศษนั่นเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้


ในเวลานี้จู่ ๆ จี้ก็พูดขึ้นว่า "ฉันพบแล้ว ยานชูชีพแบบเดียวกับที่พ้นไป จากแบบของยานชูชีพนี้ ในกรณีที่กระโดดข้ามิติจะถูกบังคับให้ตกอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่ก่อนหน้านี้ยานชูชีพได้ถูกเราโจมตีไปด้วย แม้ว่าพลังของการโจมตีจะน้อยมาก แต่ก็จะสร้างความเสียหายให้กับยานชูชีพ"


"แล้วจะเกิดอะไรขึ้นในกรณีนี้?"


“ถ้าไม่ตายก็ยังเสียหายหนัก ไม่มีทางที่จะกู้ชีวิตในยานชูชีพนั้นได้ในเวลาสั้น ๆ หากไม่มีแหล่งพลังงานชีวิตในนั้นก็จะไม่รอด”


นี่เป็นข่าวดี บอกได้ว่าถึงคนในยานหลบหนีจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็จะยังไม่เป็นภัยคุกคามโลกในช่วงเวลาสั้น ๆ


ตราบใดที่เขามีเวลาถึงสามปี เขาก็จะสามารถพัฒนายานรบอวกาศที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงได้


ในตอนนั้นระบบการป้องกันรอบระบบสุริยะก็จะเสร็จสมบูรณ์ด้วย แม้ต้องเผชิญกับสงครามก็จะไม่ถึงกับไร้ทางสู้แน่นอน


เทคโนโลยีของเขาก้าวหน้ากว่าพันธมิตรอวกาศในยุคนี้มาก ดังนั้นในการเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวสิ่งเดียวที่เขาขาดอยู่ก็คือเวลาเท่านั้น


หลิว เหมยหรู เห็นอู๋ ฮ่าวเหรินออกมาแล้วจึงถามด้วยความกังวลว่า "มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?"


"ไม่เป็นไร พี่เหมยหรูผมจะพาพี่ไปดูรอบ ๆ ที่นี่ พี่เห็นเนบิวลาอันสวยงามตรงนั้นไหม? เราไปดูกันเถอะ"


เขาไม่ต้องการให้คนอื่นมากังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต่อให้คนอื่นรู้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร


หลิว เหมยหรูสังเกตคิ้วที่ขมวดอยู่ของอู๋ ฮ่าวเหริน แม้ว่าเธอจะรู้ว่า อู๋ ฮ่าวเหรินมีบางสิ่งในใจ แต่เธอก็จะไม่ถามอีก


ราวกับพี่ใหญ่ เธอจับมือของอู๋ ฮ่าวเหรินและพูดว่า "แม้ว่านายจะรู้ความลับเยอะมาก แต่ก็อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป บางอย่างก็เป็นไปอย่างที่มันเป็น”


อู๋ ฮ่าวเหรินตกใจเล็กน้อย สัมผัสถึงมืออันอ่อนโยนของเหมยหรูแล้วก็รู้สึกดีขึ้น


"ขอบคุณพี่เหมยหรู ผมไม่เป็นไร" จากนั้นเขาก็หันไป ตะโกนเสียงดังไปยังอวกาศว่า "สักวันหนึ่งมนุษย์จะกลายเป็นอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลนี้!"


หลิว เหมยหรูเห็นอู๋ ฮ่าวเหรินที่ตอนนี้ก็ยิ้มออกแล้ว เธอก็ยิ้มอย่างสดใส


หลังจากนั้นพักหนึ่งเขาก็ถามว่า "พี่เหมยหรู ผมดูเสียสติรึเปล่า?"


"ไม่นี่ เมื่อกี้นายดูน่ารักมากเลยนะ นายดูไม่เป็นเหมือนตัวนายตอนปกติเลย"


นั่นทำให้อู๋ ฮ่าวเหรินเกาหัวของเขา เขาอายจนไม่รู้จะพูดอะไร ตั้งแต่ที่เขามีระบบซองแดงเขาก็ซ่อนตัวตนของเขาและไม่ค่อยแสดงอารมณ์ต่อหน้าคนอื่น


อันที่จริงการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ก็เกิดขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว ภายหลัง เพราะการพัฒนาที่รวดเร็วเขาจึงไม่ได้สนใจอะไรมันมาก


พูดอีกอย่างก็คือเขายังเป็นเพียงชายหนุ่มในช่วงอายุยี่สิบ ไม่ใช่ชายแก่อายุกว่าครึ่งร้อย บางครั้งการแสดงออกของเขาก็ตกต่ำจริง ๆ


"เอาล่ะ ไหนพาฉันไปดูเนบิวลาสิ จำไว้ด้วยว่านายไม่ใช่พวกคนแก่ คนหนุ่มก็ควรจะมีชีวิตแบบคนหนุ่ม พี่เหมยหรูของนายยังเปลี่ยนไปได้ นายเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดในโลก แล้วนายจะกลัวอะไร"


อู๋ ฮ่าวเหรินตอบด้วยรอยยิ้มว่า "พี่เหมยหรู พี่พูดถูก ผมจะกลัวอะไรกันนะ ฮ่า ๆ ดูเหมือนผมจะเริ่มเข้าใจแล้ว ไปกันเถอะพี่เหมยหรู ผมจะพาพี่ไปดูเนบิวลา"


เขาจับมือหลิว เหมยหรูและวิ่งไปที่ชานชาลาข้าง ๆ เขา ถ้าเป็นแต่ก่อน อู๋ ฮ่าวเหรินจะไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน


ณ ฐานในญี่ปุ่น เห็นมนุษย์ต่างดาวหลบหนีไปได้ กลุ่มคนญี่ปุ่นนี้ก็ไม่ได้สนใจ


พวกเขาเริ่มศึกษาเทคโนโลยีที่มนุษย์ต่างดาวมอบให้และเส้นทางแห่งความชั่วร้ายก็ก่อตัวขึ้นในญี่ปุ่น


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น