CF:บทที่ 440 ยานขนส่งออกตัว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 440 ยานขนส่งออกตัว

ในตอนกลางคืน อู๋ ฮ่าวเหรินไปที่ศูนย์วิจัยในภูเขา นั่งลงในรถเหาะแล้วหายไปในท้องฟ้ายามค่ำคืนทันที

การพัฒนาทะเลทรายเป็นไปได้ด้วยดี พืชพันธุ์เริ่มโตออกมา กำแพงเมืองก็สร้างเสร็จไปกว่าครึ่งแล้ว

หุ่นยนต์จำนวนมากกำลังสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในเมือง ทั้งเมืองนี้คือเมืองสามมิติ

ปัจจุบันยังไม่มีสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์อะไร แต่หลังจากที่มันสร้างเสร็จแล้วเขาเชื่อว่าทั้งโลกต้องตกตะลึงกับมันแน่

ในเมืองนี้ ระบบขนส่งทั้งหมดอยู่บนท้องฟ้า อู๋ ฮ่าวเหรินจะใช้เทคโนโลยีการลอยตัวที่นี่

ด้วยเหตุผลนี้เขาจึงต้องขนทรัพยากรกลับมาจากท้องฟ้า และเนื่องจากเมืองนี้มีแต่สิ่งก่อสร้างสามมิติหลายจุดจึงต้องใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

แล้วเขาก็คิดจะสร้างท่าอากาศยานสำหรับยานอวาศขนาดใหญ่ที่ด้านนอกตัวเมืองด้วย ทรัพยากรที่จะขนกลับไปยังอนาคตจะเก็บไว้ที่ฐานอวกาศแล้วค่อยขนส่งมายังโลก

ตอนนี้ยานขนส่งจึงต้องเอาอุปกรณ์บางอย่างไปด้วยเมื่อกลับมาในครั้งถัดไป การสร้างฐานอวกาศก็จะได้เริ่มอย่างเป็นทางการ

โชคดีที่พ่อค้าพลังงานได้คิดถึงสภาพของเขาไว้แล้ว บนยานขนส่งจึงมีหุ่นยนต์ต่าง ๆ จำนวนมากเขาเลยไม่ต้องสร้างมันเพิ่ม

ถัดจากเมืองก็จะเป็นเมืองภาพยนตร์ที่จะฉายภาพด้วยอุปกรณ์ฉายภาพเสมือนจริงซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่เช่นกัน

งานถ่ายทำภาพยนตร์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะดำเนินการกันที่นี่ ในเมืองนี้ไม่มีสิ่งก่อสร้าง สิ่งก่อสร้างทั้งหมดจะฉายด้วยอุปกรณ์ฉายภาพเสมือนจริง ดังนั้นมันจึงเป็นเมืองมายาที่เปลี่ยนแปลงได้ ฉากเสมือนจริงสามารถเปลี่ยนไปได้ด้วยการตั้งค่า

เช่นนี้ก็สามารถถ่ายหนังในเมืองเสมือนนี้แล้วสร้างฉากแบบไหนก็ได้ที่ต้องการ

เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินไปถึงทะเลทรายมันก็เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว เขาเลือกพื้นที่เรียบและโล่งจากนั้นจึงนำเอายานขนส่งออกมาจากคลังเก็บของระบบซองแดง

ด้วยบทเรียนจากครั้งล่าสุด อู๋ ฮ่าวเหรินจึงนั่งลงก่อนที่จะเอามันออกมา เขาไม่อยากค้างอยู่ในท่าที่ไม่สบายซึ่งกินเวลากว่าครึ่งชั่วโมง

เมื่อยานทั้งลำปรากฏในทะเลทรายแล้ว ถึงแม้ว่าอู๋ ฮ่าวเหรินจะเคยเห็นมันในโลกอนาคตมาก่อนแล้ว แต่ยานรบทรงพลังสุดเจ๋งนี้ก็ยังทำให้เขาตื่นเต้นเล็กน้อยได้อยู่

ยืนอยู่ตรงหน้ายานขนส่งนี่แล้ว เขาก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นเล็กมากราวกับเป็นมด

ยานขนส่งลำนี้รูปร่างเหมือนปลาดาบดูโดยรวมแล้วมันก็ดูเรียวบาง ปืนวงแหวนทั้งสองโคจรไปรอบยานขนาดใหญ่นี่เหมือนกับที่ดาวเทียมโคจรไปรอบโลก ผิวสีเทาของมันทำให้ดูไม่เด่นในความมืดและทำให้ดูเหมือนเป็นเนินเขา

เห็นทรายเริ่มจมตัว อู๋ ฮ่าวเหรินจึงขับรถเหาะไปยังประตูห้องควบคุมหลักของยานขนส่ง ครั้งนี้เขาไม่ได้โง่เหมือนครั้งที่แล้ว เขาได้อ่านคำอธิบายของยานขนส่งนี้มาล่วงหน้าแล้ว

ทันทีที่วางฝ่ามือลงบนหน้าจอในห้องควบคุมหลักของยาน หน้าจอก็มีแสงปรากฏขึ้นมาทันทีพร้อมกับเสียงสังเคราะห์ดังขึ้นว่า “สวัสดีเจ้านาย ยานขนส่ง k-873 พร้อมให้บริการ”

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพียงระบบปัญญาประดิษฐ์ระดับต่ำ ซึ่งแย่กว่าปัญญาของนักสำรวจมาก

แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ โดยทั่วไปแล้วยานขนส่งแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีระบบปัญญาขั้นสูงมากนัก เพราะยานขนส่งต้องอยู่ในขบวนขนส่งขนาดใหญ่ซึ่งจะมีนายเรือขับมัน

“ชื่อ K-873 มันเรียกยากไปหน่อย งั้นจากนี้จะเรียกนายว่ายานอวกาศยูนิเวอร์ไซด์ล่ะกัน แล้วฉันก็หวังว่านายจะเดินทางท่องอวกาศได้อย่างราบรื่นไร้อุบัติเหตุ”

“ขอบคุณสำหรับการตั้งชื่อให้ผม ยูนิเวอร์ไซด์พร้อมให้บริการ”

“เปิดท้องยานให้ฉันดูก่อน นายจะต้องทำการขนส่งทรัพยากรชุดแรกกลับมาด้วยตัวเอง”

เมื่อท้องยานเปิดขึ้นอย่างช้า ๆ อู๋ ฮ่าวเหรินก็เห็นกำแพงเหล็กที่ไม่มีการตกแต่งใด ๆ ซึ่งเทียบกับยานอวกาศส่วนตัวนั่นไม่ได้ เลย

ทั้งยานนั้นดูเรียบง่ายมาก แล้วยังมีพื้นพี่พักผ่อนขนาดเล็ก ด้านนอกห้องคนขับก็เป็นห้องเก็บหุ่นยนต์ต่าง ๆ และคลังเก็บของขนาดใหญ่

คลังเก็บของนั้นกินพื้นที่กว่า 80% ของยาน กำแพงของคลังเก็บของนั้นสามารถเปิดออกได้ ซึ่งทำให้หุ่นยนต์ขนของเข้า-ออกได้ง่าย

อู๋ ฮ่าวเหรินขับรถวนไปทั่วภายในไม่ช้าเขาก็ขับออกมา เพราะว่ามันน่าเบื่อมากนอกจากหุ่นยนต์แล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ที่จริงแล้วมันก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากกำแพงเหล็ก

สำหรับปืนวงแหวนที่ล้อมอยู่รอบนอก เขาก็เอามันไปลองยิงเล่นแบบไม่มีเหตุผลไม่ได้

ยิ่งกว่านั้นต่อให้เขาอยากลองยิงมันจริง เขาก็ไม่กล้าลองที่นี่แน่ หากเขาไม่ระวังเขาอาจจะสร้างปรากฎการณ์ที่วิทยาศาตร์อธิบายไม่ได้กลางทะเลทราย

“ยูนิเวอร์ไซด์ เดินเครื่องได้”

“รับทราบเจ้านาย เริ่มการเดินเครื่อง”

อู๋ ฮ่าวเหรินนั่งดูยานลอยตัวขึ้นอย่างช้า ๆ อยู่ในรถ ไม่กี่นาทีมันก็ลอยขึ้นไปหลายร้อยเมคร

“กระสวยที่ 1 ทำงาน กระสวยที่ 2 ทำงาน กระสวยที่ 3 กำลังสะสมพลังงาน...”

จุดเด่นของยานขนส่งนี้น่าจะเป็นเครื่องยนต์ ถ้ามันแล่นด้วยความเร็วสูงสุดมันจะเร็วเท่ากับยานรบได้เลย

การออกแบบของมันเน้นไปที่การหลบหนี เมื่อเจอกับโจรสลัดอวกาศ สำหรับยานขนส่งที่ยานคุ้มกัน สิ่งที่ตัดสินความเป็นความตายเลยก็คือความเร็ว

แน่นอนว่าเทียบกับยานอวกาศส่วนตัวที่ลำเล็ก ความเร็วของยานขนส่งก็ด้อยกว่าเพราะขนาดของมัน

ทว่าหากเทียบกับความเร็วของจรวจบนโลกปัจจุบันแล้วเร็วกว่าแบบไม่เห็นฝุ่น

พอแสงพลังงานสีเงินปรากฏใต้ตัวยาน ยานขนส่งทั้งลำก็ถูกห่อหุ้มด้วยโล่พลังงาน และหายตัวไปจากทะเลทราย

อู๋ ฮ่าวเหรินเห็นแสงพุ่งไปยังท้องฟ้าเพียงชั่วพริบตาแล้วยานขนส่งก็ได้ออกไปอยู่นอกโลกแล้ว

เมื่อมันสลัดอุปกรณ์ในวงโคจรโลก มันก็แล่นออกจากระบบสุริยะอย่างรวดเร็ว

อู๋ ฮ่าวเหรินไม่คาดว่า ตอนนี้ ณ สถานีอวกาศนอกโลกมีชายสองคนกำลังมองจุดที่ยานขนส่งเพิ่งจะหายตัวไป

“มาร์คเมื่อกี้ฉันตาฝาดไปรึเปล่า? นั่นมันอะไรกัน?”

“ยานอวกาศ ยานอวกาศลำใหญ่!”

“ยานนั่นดูเหมือนจะสลัดอะไรออกมานะ รีบไปดูซิว่ามันคืออะไร”

คนในสถานีอวกาศเริ่มไปตรวจสอบสิ่งที่ยานลำนั้นสลัดออกมา

ขณะนี้ฝ่ายภาคพื้นดินก็รับรู้ถึงสถานการณืผิดปกติในสถาณีอวกาศจากสายฉุกเฉิน

“กำลังทำอะไรกันอยู่ แล้วทำไมถึงมีปัญหาเรื่องข้อมูลล่ะ?”

“พวกเราเจอยานอวกาศ ยานอวกาศที่ลำใหญ่มาก ดูเหมือนว่ามันจะทิ้งอะไรบางอย่างไว้เรากำลังตามหามัน”

“มาร์คมานี่สิ ฉันเจอมันแล้ว ตรงนั้นมีอะไรบางอย่างอยู่ดูเหมือนว่ามันกำลังเคลื่อนไหวด้วย”

หลังจากได้ยินข้อมูลเมื่อครู่ ฝ่ายภาคพื้นดินจึงรีบถาม

“อะไรนะพูดอีกทีซิ”

“ยานอวกาศ เราเพิ่งเห็นยานอวกาศขนาดใหญ่บินออกมาจากโลกแล้วปล่อยอะไรบางอย่างออกมา เราเจอมันแล้วจะส่งให้ดูในอีกสักครู่”

“เว้นระยะห่างไว้อย่าเข้าใกล้ ระวังอันตรายด้วย”

“รีบรายงานรัฐบาลเร็วเข้าว่าสถานีอวกาศนานาชาติได้เจอยานอวกาศออกมาจากโลกและทิ้งบางอย่างเอาไว้”

ไม่ช้าข่าวก็ได้แพร่ไปถึงบางประเทศ พวกเขาตกใจเล็กน้อยแล้วก็ต่างสงสัย


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น