CF:บทที่ 408 ปีศาจสาวสุดฮอต

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 408 ปีศาจสาวสุดฮอต

ที่ฟาร์มของฟิวเจอร์กรุ๊ป จื่อ หยงและอู๋ ฮ่าวเหรินกำลังนั่งอยู่ในบ้านพักพลางจ้องมองสาวสวยหยาดเยิ้มมาแต่ไกลที่กำลังดูพืชพรรณอยู่

ผมเธอผูกเป็นเปียยาว สวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังเท่ๆและกางเกงเป็นกางเกงหนังรวมถึงท่าทางที่ดูทะมัดทะแมงที่ทำให้ใครต่อใครว่าเหมือนผู้ชาย เว้นแต่หน้าตาภายนอกที่สวยแบบผู้หญิง

อู๋ ฮ่าวเหรินจิบชาก่อนจะถามขึ้น “คุณส่งผู้หญิงมาที่นี่ในเวลานี้ได้อย่างไร และดูหน่วยก้านเธอสิ ดูยังไงก็ไม่เหมือนชาวไร่ชาวสวนเลยสักนิด”

จื่อหยงที่กำลังทานผลไม้อยู่นั้น มองเด็กสาวคนดังกล่าวก่อนจะเอ่ยยิ้มๆ เธอชื่อ ตู้ ซิ่นถิง ชื่อเล่นว่า ยัยตู้พริกแสบ  เติบโตมากับการฝึกฝนแบบทหาร หัวหน้าเด็กของกองพันทหารที่อยู่ในป้อมที่ได้รับการขนามนามว่าหัวหน้าปีศาจหญิงจากกองพันในนั้น ก่อนขึ้นมัธยมปลาย ฉันเคยอยู่ในกองทัพกับพ่อของเธอ แล้วพอฉันไปเรียนวิทยาลัย ฉันก็ไม่รู้ว่าเส้นประสาทอันไหนในความคิดฉันที่ผิดปกติไป ก็เลยสมัครมาในส่วนของเกษตรกรรมนี่ล่ะ”

เมื่อได้เห็นท่าทีประหลาดใจของอู๋ ฮ่าวเหริน จื่อหยงจึงเอาผลไม้ที่เคี้ยวอยู่เต็มปากออกก่อนจะเริ่มพูดต่อ “จริงๆเวลานี้ควรจะเป็นศาสตราจารย์สูงวัยท่านหนึ่งที่เคยมาที่นี่ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมาแทน แต่จากที่เขาพูดๆกันนะ เธอคนนี้มานี่เพื่อป่วนนาย”

อู๋ ฮ่าวเหรินชี้ที่ตัวเอง ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย “ทำไมต้องมายุ่งกับผมด้วยล่ะครับ อีกอย่างผมเองยังไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ แล้วทำไมเธอถึงต้องทำอะไรแบบนั้นกับผมด้วย”

“แม้ว่าพวกนายจะไม่รู้จักกัน หลังจากที่ผู้อำนวยการเข้ามาดูแลเรื่องอาหารที่นี่แล้ว วิชาที่เธอเรียนกับครูเธอก็ถูกยกเลิกทันที ก็อย่างที่นายว่า ทำไมคนพวกนั้นถึงต้องมายุ่งกับนายด้วย”

เขาถึงกับหน้าซีด นี่ไม่ใช่หายนะหรอก แม้วิชาจะถูกยกเลิก เธอก็ควรไปหาคนที่ยกเลิกวิชานี้สิ

“ฮ่าๆ ยิ่งอยากรู้เลยว่าเธอจะก่อกวนฉันยังไง”

อู๋ ฮ่าวเหริน มองตู้ ซิ่นถิง  ไม่ว่าเธอจะเดินหรือเธอจะมองดูเย็นชาแค่ไหน ก็ไม่ให้ความรู้สึกถึงผู้หญิงเลยสักนิด แต่ดูเหมือนทหารหน่วยพิเศษในกองทัพมากกว่า

แน่ล่ะว่า ใบหน้าบอบบางแบบนั้น ดูเหมือนจะงุ่นง่านเล็กน้อยและทำให้ผู้คนรู้สึกไม่ถูกชะตา

ไม่ใช่ความงามแบบสุขุมหรือแม้แต่เหมือนกับเทพธิดา

ผู้คนไม่ได้คิดว่าตัวเองหน้าตาดีหรอก แน่นอน แต่อู๋ ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเพราะเธอเป็นผู้หญิงสวยหรอก ไม่งั้นก็นั่งดื่มชาสบายๆอยู่ตรงนี้ ไม่เข้าไปทักเธอ

ตู้ ซิ่นถิงจ้องมองอู๋ ฮ่าวเหรินที่กำลังดื่มชา นั่งย่นคิ้วอยู่บนเก้าอี้ถัดจากเธอ

เธอเข้ามาหยิบชาจากมือของอู๋ ฮ่าวเหรินก่อนจะยกขึ้นจิบเองสวยๆ

เมื่อเห็นแบบนี้ จื่อหยงก็ฉลาดพอที่จะไม่พูด เพื่อนของเขาหลายคนในโรงนอนทหารต่างพูดกับเขาเป็นเสียงเดียวกันเกี่ยวกับเรื่องของแม่ปีศาจสาวคนนี้

อู๋ ฮ่าวเหรินแสร้งทำเป็นมองเวลาก่อนจะเอ่ยขึ้น “สายแล้วล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วล่ะก็ ฉันขอตัวกลับก่อนละกัน”

ตู้ ซิ่นถิงวางแก้วลงก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างหยาบคาย “ก่อนแขกจะกลับ เจ้าบ้านก็พร้อมก็จะกลับเหมือนกันแบบนี้ ไม่สุภาพเอาเสียเลย”

เขารู้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อหาข้อผิดพลาดของเขา เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น ก็รู้เลยว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ก็โพล่งกลับไป”แขกหรือ ใครเป็นแขก เธอหรือ เหลา จื่อ”

จื่อหยงก็ไม่ได้วางแผนว่าตัวเองจะต้องเข้าไปเอี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเลย และเขาก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้ทั้งสองถึงจะพอใจ แต่ตอนนี้ต้องโดน อู๋ ฮ่าวเหรินลากเข้ามาเกี่ยวเสียแล้ว เขามองไปที่ อู๋ ฮ่าวเหรินตาละห้อย

แต่ถึงกระนั้น เขาก็กล่าวออกไปด้วยไหวพริบ “ผมมากินเมลอนตามที่คุณบอก แล้วผมก็เดินเข้าไปข้างในเพื่อดูว่าเมลอนพร้อมกินแล้วหรือยัง”

หลังจากจื่อ หยงเดินออกไป ตู้ ซิ่นถิง จึงพูดพลางกัดฟันกรอด “เพราะนายเลย ครูของฉันกับฉันเลยต้องมาศึกษาผลลัพธ์พวกนี้เป็นเวลาถึงสามปี กองกระดาษเป็นปึกๆเหมือนกับกองขยะไร้ประโยชน์ นั่นเป็นครึ่งชีวิตของครูฉันเลยนะ และตอนนี้พวกมันก็ไม่มีปะโยชน์ด้วย”

“เธอนี่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย และฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าครูของเธอกำลังศึกษาเรื่องอะไรอยู่ และถึงฉันจะทำ ฉันก็จะไม่เปลี่ยนเรื่องนั้นหรอกนะ”

“ใครบอกนายว่าฉันมาที่นี่เพราะอยากหาเหตุผล จุดประสงค์ของฉันก็คือจะมาจัดการนายเพื่อที่ครูฉันจะได้หายใจหายคอบ้าง”

เมื่อได้เห็นท่าทีตอบกลับทันควันของเธอนั้นเอง อู๋ ฮ่าวเหรินก็รู้สึกประหลาดใจ เธอไม่ได้เดินอยู่ในโรงนอนทหารบ่อยๆก็เลยไม่เคยได้ยินตำนานเรื่องของตัวเองในกองทัพเลยสินะ

อู๋ ฮ่าวเหรินก็ไม่เข้าใจขอบเขตด้านความแข็งแกร่งทางกายภาพในตอนนี้ของเขานัก แต่ที่แน่ๆก็คือว่า ถ้าเขาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่เขามีก็ล้มช้างได้สบายๆ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแรงธรรมดาๆของตู้ ซิ่นถิง   อู๋ ฮ่าวเหรินก็ไม่แม้แต่จะขยับ ก่อนจะจิบชาต่อไป

 “ฉันได้ยินว่าเธอเติบโตและอยู่ในโรงนอนทหารมาเป็นเวลานานแล้วสินะ แล้วเธอไม่เคยได้ยินเรื่องงานของฉันที่อยู่ในนั้นบ้างหรือ อืม แข็งแรงใช้ได้ หนักกว่าแรงของคนทั่วไปโดยเฉลี่ย นี่ถ้าเอามานวดให้ฉันหน่อยก็รู้สึกสบายเลย”

เมื่อเห็นว่าตนถูกอู๋ ฮ่าวเหรินพูดล้อกลับมา  ตู้ ซิ่นถิง ถึงกับหน้าขึ้นสีพลางจ้องกลับไปที่เขา ผมที่ปรกหน้าผากพลิ้วไหวไปตามลมที่พัดพา เธอรู้แล้วว่าไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่ แขนของ อู๋ ฮ่าวเหรินก็ไม่สะเทือนเลยสักนิด

ในตอนนั้นเอง จื่อหยงก็ออกมาก่อนจะพูดขึ้นยิ้มๆ “คุณควรรักษาพลังงานไว้จะดีกว่า อยู่ที่นี่ กินเมลอนให้เยอะๆ ผลไม้ที่นี่ล้วนเป็นของดีๆที่คุณหากินที่อื่นไม่ได้แล้วนะครับ”

เขามอง ตู้ ซิ่นถิงที่นั่งอยู่ จื่อ หยงถามขึ้น “คุณไม่ได้ไปโรงนอนทหารนานแค่ไหนแล้วครับ พ่อของคุณไม่ได้บอกเรื่องของชายคนนี้ก่อนจะออกมาหรอกหรือ”

“ก่อนจะมาที่นี่ ฉันยังไม่ได้กลับบ้านเลย”

เห็นได้ชัดว่าตู้ ซิ่นถิงมีความขัดแย้งกับพ่อของเธอเมื่อเขาได้เห็นใบหน้าขึงขังของเธอ

“ฉันไม่ได้กลับบ้าน ทำไมไม่ถามพวกอันธพาลนั่นก่อนล่ะ ไม่ได้ว่าเธอนะ แม้ว่าเธอจะโทรเรียกคนที่แกร่งที่สุดในกองทัพมา ยังไงเธอก็เอาชนะเขาไม่ได้หรอก รู้ไหม กระบวนการฝึกที่คุณเรียนน่ะ เขาบรรจุลงในกองทัพด้วย”

“เอาล่ะ คุณครูสอนธุรกิจ จะตำหนิฮ่าวเหรินไม่ได้นะครับ คุณเองก็เห็นฟาร์มแล้วก็ผลรายงานการตรวจสอบอีกมากมาย ตอนนี้ก็เห็นๆกันอยู่ว่าเราไม่ได้โกงคุณ”

“หึ”

ตู้ ซิ่นถิง มองไปที่ อู๋ ฮ่าวเหริน ถอนหายใจฮึดฮัด ก่อนจะหันกลับไปเหมือนเดิม

อู๋ ฮ่าวเหรินไม่สนใจอีกต่อไปพลางพูดขึ้น “ยังมีเมล็ดพืชที่เธอต้องการอยู่ในโกดัง เมล็ดทุกอันผ่านกระบวนการพิเศษมาแล้ว ส่วนเรื่องการวิจัย ฉันคิดวาคงพอแล้วล่ะ”

“ไม่ ฉันอยากจะศึกษาพืชทั้งหมดที่นี่ เมื่อฉันกลับไป ฉันจะใช้เมล็ดพืชพวกนั้นและสร้างห้องทดลองที่นี่”

“เดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะ ถ้าจะกลับก็บอกพวกเขาแล้วกัน”

อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้สนใจ ตู้ ซิ่นถิงอีกแล้ว เธอมองเขาด้วยแววตาโกรธเคือง ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ล่ะก็  อู๋ ฮ่าวเหรินคงตายไปไม่รู้กี่รอบแล้ว

“ฉันไม่ปฏิบัติตัวเป็นพิเศษกับผู้หญิงสวยๆหรอกนะ”

เมื่อมอง อู๋ ฮ่าวเหรินที่เดินจากไป จื่อ หยงก็พูดขึ้น “เขาพูดจริงนะครับ คุณควรเข้าใจฟิวเจอร์กรุ๊ปให้ดีๆ แล้วคุณจะได้เข้าใจว่าบริษัทนี้เป็นยังไงและเขาเป็นคนยังไง”

หลังจากพูดจบ จื่อ หยงก็ลุกขึ้นพลางคิดว่านี่เขากำลังช่วยผู้บังคับการตู้แก้ปัญหาเรื่องการแต่งงานของลูกสาวเขาหรือเปล่านะ

แต่อย่างไรก็ตาม มีคนบอกว่าผู้ใหญ่ทั้งสองของตระกูลหลิงกำลังจับตาดูเด็กผู้ชายคนนี้อยู่และหลิงเมิ่งเสวี่ยก็ดูจะกลับมาสุขภาพดีแล้ว เมื่อเทียบกับ หลิงเมิ่งเสวี่ยแล้วนั้น ตู้ ซิ่นถิงก็ดูจะไม่มีข้อดีเอาเสียเลยแถมยังมีแต่ข้อเสียเสียด้วยซ้ำ

เขาส่ายหน้า ไม่เข้าไปยุ่งเรื่องพวกนี้น่าจะดีกว่า เพราะถ้ามีปัญหาขึ้นมาในภายหลัง เขาก็คงดวงซวยไปด้วย

เมื่อจื่อ หยงกลับไปยังแผนกพนักงาน เขาจะไม่ได้กลับไปมือเปล่าเพราะอาหารที่นี่ดีมากจริงๆ

ตู้ ซิ่นถิงนั่งอยู่ตรงนั้น จิบชาพลางคิดถึงเหตุการณ์ในวันนี้

“อร่อยจังเลย หึ แต่เรื่องมันยังไม่จบหรอกนะ”

หลังจากที่เธอตัดสินใจที่จะกลับไป พอได้หยั่งเชิงอู๋ ฮ่าวเหรินอย่างระมัดระวังแล้ว จากนั้นจึงคิดที่จะใช้มาตรการโต้กลับ ยังไง เธอก็ต้องให้ครูได้พักหายใจบ้าง


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น