CF:บทที่ 380 ปล่อยดาวเทียมได้สำเร็จ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 380 ปล่อยดาวเทียมได้สำเร็จ

 

ใน 5 วันต่อมา, จำนวนผู้คนที่เข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลงได้พุ่งขึ้นสูงถึง 1.5 พันล้านคน, ถ้าระบบเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับไม่ใช่ของผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว, บางทีก็อาจจะล่มไปแล้วก็ได้

 

ถึงจริงๆแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินจะได้เซอร์เวอร์ขนาดใหญ่มาจากในซองแดงก็เถอะนะ

 

มีผู้เข้าร่วมการแข่งมากมาย, แน่นอนว่า, ผลที่ได้ออกมาก็ดีด้วย, มีมากมายหลายคนที่ได้คะแนนถึง 100 คะแนนอยู่

 

ในปัจจุบัน, คนเหล่านี้ก็ได้รับการแจ้งเตือนมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ปว่าให้เตรียมพร้อมที่จะมาที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อให้มาเข้ารับการทดสอบรอบที่ 2

 

ถ้าไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องของเสียงล่ะก็, พวกเขาก็จะได้เซ็นสัญญากับฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อที่จะสร้างบทเพลงที่เป็นของพวกเขาขึ้นมา

 

โปรแกรมคัดเลือกนักร้องอันนี้ได้สร้างชื่อเสียงด้านดนตรีให้กับฟิวเจอร์กรุ๊ปพอสมควร, นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าร่วมมากมายในขั้นตอนนี้ด้วย, ในตอนนี้ทุกคนต่างก็สงสัยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปกับนักร้องที่ได้รับเลือก?

 

โดยเฉพาะผู้คนที่ได้รับคัดเลือกไปนั้นล้วนแต่มีเสียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ, ถ้าพวกเขาได้ร้องเพลงขึ้นมา จะไม่ฆ่าคนตายจริงๆหรือ?

 

จากที่เห็นการตอบโต้ของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง, ครั้งนี้จึงไม่มีใครออกมาคัดค้านอะไร แต่ก็บอกด้วยว่าการดำเนินการของฟิวเจอร์กรุ๊ปในครั้งนี้นั้นเหมือนเป็นแค่การแสดง

 

แน่นอนว่า, เหล่านักร้องที่มีชื่อเสียงมากมายก็รู้สึกไม่ค่อยดีกับฟิวเจอร์กรุ๊ปในเรื่องนี้

 

แม้แต่ตัวเจ้าของเสียงพวกนั้นเองก็ยังสงสัยเลยว่า พวกเขาจะร้องเพลงได้จริงๆเหรอ?

 

ณ ฟิวเจอร์กรุ๊ป, ผู้คนในแผนกเพลงเองต่างก็รู้สึกต้องเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการคัดเลือกในครั้งนี้, หลังจากที่พวกเขาได้ทำการศึกษากันอย่างหนักจากข้อมูลทางด้านดนตรีที่อู๋ฮ่าวเหรินได้ให้พวกเขามา

 

"ครูโจว, คุณว่าอย่างไรบ้าง? คุณพอที่จะจับใจความข้อมูลพวกนี้ได้บ้างไหม?"

 

"มันยากมากเลย แต่ก็เกือบจะเข้าใจทั้งหมดละ, ความรู้ทางด้านดนตรีของหัวหน้านั้นมาจากพวกนี้นี่เอง, บางอย่างมันแตกต่างจากเดิมมากและก็คาดไม่ถึง, ฉันอยู่ในวงการนี้มาตั้ง 15 ปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน"

 

"โฮ่ โฮ่, ครูโจว คุณก็รู้นี่ว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปที่พวกเราทำงานอยู่นี่เป็นบริษัทในตำนาน, ดนตรีที่คาดไม่ถึงแบบนี้, กับบริษัทแบบนี้ ข้ารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย"

 

"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ, ฉันก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเมื่อคนพวกนั้นมาร้องเพลงและทำการบันทึกเสียง แล้วผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร?"

 

ณ ห้องแล็บ, อู๋ฮ่าวเหรินกำลังสนใจอยู่กับเรื่องอื่นอยู่, วันนี้ดาวเทียมของเขานั้นจะถูกส่งขึ้นไปพร้อมๆกับดาวเทียมดวงอื่นของทางรัฐและปล่อยขึ้นสู่บนฟ้าพร้อมกัน

 

ณ ศูนย์ส่งดาวเทียมจิ่วเฉวียน, มีกลุ่มคนที่กำลังรุมล้อมอุปกรณ์ต่างๆ, เพื่อทำการตรวจเช็คครั้งสุดท้าย

 

"ทุกสิ่งปกติดี, แต่ผมยังกังวลเรื่องของดาวเทียมตัวนี้อยู่, พวกเราไม่จำเป็นต้องตรวจเช็คอย่างละเอียดจริงๆเหรอครับ?" นักวิจัยคนหนึ่งมองมาที่ดาวเทียมที่ดูแปลกๆของอู๋ฮ่าวเหริน

 

"ไม่จำเป็น, คุณทำการติดตั้งดาวเทียมดวงนี้เหมือนกับดาวเทียมทั่วๆไปก็พอ, ไม่จำเป็นต้องไปจัดการตรงอื่นมากนัก"

 

แน่นอนว่า, เหล่าช่างเทคนิคพวกนี้ไม่รู้ว่าได้มีผู้เชี่ยวชาญ 3 กลุ่มที่ได้ทำการตรวจสอบดาวเทียมดวงนี้หลังจากที่ถูกส่งมาแล้ว, แต่ก็น่าเสียดายที่ พวกเขาพบว่าหลังจากที่อู๋ฮ่าวเหรินได้ทำการดัดแปลงแล้ว ดาวเทียมดวงนี้ก็ไม่สามารถเปิดด้วยอุปกรณ์ทั่วไปได้อีก

 

พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะชำแหละดาวเทียมดวงนี้โดยที่ไม่รู้ถึงระบบการทำงานของอุปกรณ์ภายนอกของดาวเทียมดวงนี้ได้ด้วย

 

ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา, พวกเขาคงไม่สามารถที่จะอธิบายอะไรกับฟิวเจอร์กรุ๊ปได้แน่, เพราะเทคโนโลยีดาวเทียมบางอย่างที่พวกเขาใช้นั้นก็ได้มาจากฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วย, ถ้าเกิดมีปัญหาบาดหมางอะไรกับทั้งสองฝ่ายขึ้นมา, มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่

 

ส่วนเรื่องของอันตราย, พวกเขานั้นก็ไม่ได้กังวลเลยว่า ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะทำอันตรายอะไรต่อประเทศด้วย

 

"ท่านผู้นำครับ, ดาวเทียมพร้อมที่จะปล่อยแล้วครับ"

 

"ถ้างั้นก็ทำตามแผนการ, พวกเราไปที่ศูนย์เฝ้าระวังเพื่อไปดูประสิทธิภาพของเทคโนโลยีดาวเทียมที่ได้มาจากเจ้าหนูนั่นกันเถอะ"

 

ศูนย์เฝ้าระวังที่ปักกิ่งเองก็ได้ทำการติดต่อกับศูนย์ส่งดาวเทียมจิ่วเฉวียนอย่างใกล้ชิดเพื่อทราบถึงสถานการณ์ของที่นั่นได้ตลอดเวลา

 

ทุกครั้งที่มีอะไรเกิดขึ้นกับดาวเทียม ก็จะส่งผลกระทบกับจิตใจของผู้คนมากมาย, เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมา, ก็จะหมายถึงความสูญเสียที่มหาศาล

 

ผู้คนในศูนย์เฝ้าระวังนั้นวุ่นวายกันอย่างมาก, ทุกคนต่างก็ตั้งใจอยู่ที่ผลการทดสอบของข้อมูลที่ได้รับมาทั้งหมดกันอยู่

 

การมาถึงของท่านผู้นำนั้นก็ไม่ได้รบกวนสต๊าฟเหล่านี้เลย, แค่ติดตามมากับผู้รับผิดชอบงานนี้เท่านั้น, และมองดูผลการตรวจสอบต่างๆที่ได้รับมาจากสต๊าฟ

 

"ท่านผู้นำครับ, ทุกอย่างอยู่ในสภาพพร้อมแล้วครับ"

 

"ดีมาก, เพิ่มการตรวจสอบให้เข้มขึ้นไปอีก, พวกคุณต้องทำงานหนักกันหน่อยนะ"

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา, เมื่อดาวเทียมได้ทำการโคจรมาใกล้จีนมากที่สุดแล้ว, ด้วยการสั่งการจากศูนย์ควบคุม, จรวดก็ได้ทำการจุดระเบิดและเริ่มปล่อยจรวด

 

ณ ห้องแล็บ, อู๋ฮ่าวเหรินเฝ้าดูการปล่อยจรวดผ่านดาวเทียม

 

"จี้, คอยเฝ้าตรวจดูข้อมูล อย่างใกล้ชิดด้วย, อย่าให้มีปัญหาอะไร"

 

ภาพการปล่อยจรวดนั้นเป็นอะไรที่น่าดูชมมาก โดยเฉพาะไฟที่ออกจากท้ายนั่น, เมื่อคลื่นอาการที่ผลักดันออกมา จรวดก็ค่อยๆยกตัวสูงขึ้นไป แล้วจากนั้นความเร็วก็จะค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

จนในที่สุดมันก็จะพุ่งขึ้นสูงสุดอยู่ที่ความเร็ว 8 กิโลเมตรต่อวินาที, ซึ่งเมื่อเฝ้าดูจากพื้นดินแล้ว มันอาจจะดูช้ามาก, แต่จริงๆแล้วความเร็วในระดับนี้เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก, มันเร็วกว่าความเร็วของกระสุนปืนไรเฟิลทั่วไปถึง 7 เท่าเลยนะ

 

"มันยังคนเสถียรดีและไม่มีปัญหาอะไร"

           

มันไม่มีปัญหาอะไรใน 50 วิแรก, ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดที่อันตรายจุดแรก, และเมื่อตัวขับเคลื่อนจรวดขั้นแรกได้ถูกแยกตัวออกไป, ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จรวดในขั้นที่สองก็ทำหน้าที่ยกดาวเทียมต่อไป

 

แน่นอนว่า, ยังมีอีกจุดที่อันตรายมากอีกจุด อย่างในตอนที่ตัวขับเคลื่อนขั้นตอนที่ 2 ได้แยกตัวออกก่อนที่จะถึงวงโคจร, ถ้ามีอะไรผิดปกติขึ้นมา, จรวดก็จะเกิดการระเบิดขึ้นในอวกาศ

 

จี้ได้ทำการตรวจสอบผลกระทบจากสภาพอากาศที่จะส่งผลกับจรวด, เผื่อจะมีปัญหาอะไร ตราบเท่าที่ดาวเทียมถูกส่งออกจากโลกและพ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลกได้แล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่กังวลเรื่องของอันตรายที่จะเกิดขึ้นแล้ว

 

เพราะในเวลานั้น, ระบบขับเคลื่อนที่ติดตั้งอยู่ในดาวเทียมนั้นจะสามารถใช้ส่งตัวเองเข้าสู่วงโคจรได้

 

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นการแยกตัวขั้นแรกของจรวดจบลงและสถานการณ์ยังเป็นไปอย่างปกติดีอยู่, ตราบเท่าที่ไม่มีอันตรายอะไรในขั้นตอนนี้, พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรแล้ว

 

"จี้, เซ็ตข้อมูลของดาวเทียมตามแผนของพวกเราได้"

 

ถึงแม้ว่าดาวเทียมจะถูกส่งขึ้นโดยทางรัฐก็จริง, แต่พวกเขาก็ได้ตกลงกันแล้วถึงเรื่องของการใช้งานของดาวเทียมและการควบคุมดาวเทียมโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

จริงแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินได้ทำการตรวจเช็คอุปกรณ์เฝ้าระวังของประเทศผ่านดาวเทียมแล้ว, เมื่อดาวเทียมได้เข้าสู่วงโคจรแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็จะสามารถควบคุมอุปกรณ์เฝ้าระวังนี้โดยตรงได้

 

นอกจากอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, ยังมีผู้คนอีกกลุ่มที่เฝ้าดูข่าวการปล่อยดาวเทียมนี้อย่างใกล้ชิด

 

นั่นคือจื่อหยงและเหล่าช่างเทคนิคของบริษัทรถยนต์, ผู้ซึ่งรอคอยการทดสอบระบบไร้คนขับของรถอยู่สถานที่ทดสอบที่สร้างขึ้นใหม่ในอวิ๋นหลง

 

"ผมไม่รู้เลยว่าพวกจะสามารถทำได้สำเร็จตามที่คุณอู๋แห่งฟิวเจอร์กรุ๊ปบอกไว้หลังจากที่ดาวเทียมถูกปล่อยออกไปแล้วได้หรือไม่"

 

"มันจะต้องสำเร็จสิ, พวกเราได้ทำการทดสอบระบบ AI. ที่ติดตั้งอยู่บนรถแล้ว, ถึงแม้จะปราศจากการนำทางของดาวเทียม, รถก็ยังสามารถขับแบบอัตโนมัติต่อไปได้ผ่านทางกล้องที่ติดอยู่ในรถอยู่ดี"

 

"จริงแล้ว, ดาวเทียมน่ะเป็นแค่ตัวช่วยเท่านั้น, เพราะจากแนวคิดของคนๆนั้น, รถทุกคันในจีนจะต้องติดตั้งระบบ AI. เช่นนี้บนรถทุกคัน, ซึ่งจะทำให้พวกเราสามารถรู้ถึงสถานะของรถทุกคนบนท้องถนน, จะมีหรือไม่มีดาวเทียม, ก็จะไม่ส่งผลกระทบอะไรอย่างมากกับรถไร้คนขับแน่นอน"

 

"มันก็จริงครับ จากข้อมูลการทดสอบในช่วงที่ผ่านมานี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ารถนั้นสามารถใช้ระบบไร้คนขับได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร, ในทางกลับกัน ในแง่ของการตัดสินใจ, มันอาจจะดีกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำ"

 

ผู้คนมันตัดสินใจผิดพลาดเมื่อถึงสภาวะคับขัน, แต่ระบบ AI. นั้นจะไม่,

 

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยระบบนี้ ถึงแม้จะมีคนขับอยู่ก็ตาม แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา, ระบบ AI. จะทำงานเองโดนอัตโนมัติเพื่อที่จะจัดการและหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้น

 

เมื่อการรายงานทางทีวีบอกว่าจรวดขั้นที่สองได้ทำการแยกตัวออกไปแล้ว และดาวเทียมได้ถูกปล่อยเข้าสู่วงโคจรแล้ว ทุกคนต่างก็โล่งอก

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังฉลองอยู่นั้น, อู๋ฮ่าวเหรินก็เฝ้าดูสถานการณ์ของดาวเทียมและทำการตั้งค่ามัน, ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแอบใช้ดาวเทียมของคนอื่นแล้ว


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น