CF:บทที่ 369 ประชุมบริษัท

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 369 ประชุมบริษัท

 

เป็นที่รู้ดีว่าหลิงเมิ่งเสวี่ยนั้นมักจะอยู่ภายใต้การดูแลของใครสักคนเสมอ, แต่ตอนนี้เธอกลับถูกปล่อยให้นั่งอยู่เพียงลำพังในสวนคนเดียว, ซึ่งมันอาจเกิดปัญหามากมายตามมาได้

 

บางทีเธออาจได้ยินเสียงของเขาเปิดประตูบ้าน, หลิงเมิ่งเสวี่ยจึงได้หันหัวมาทางด้านนี้, ดวงตากลมโตที่เป็นประกาย, เธอนั้นทำท่าทีสงสัยและมีสีหน้าที่น่ารัก

 

ดูจากสีหน้าของเธอ, อู๋ฮ๋าวเหรินก็รู้ได้ทันทีว่าเธอยังไม่ได้หายเป็นปกติดี, อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้เดินไปหาเธอ, เขาต้องการที่จะยืนยันการฟื้นตัวของหลิงเมิ่งเสวี่ย

 

นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ และมองดูที่ใบหน้า, ก่อนที่อู๋ฮ่าวเหรินจะยิ้มและถามขึ้น "ทำไมคุณถึงมานั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ?"

 

"ชานชานกับจ๋วนจ๋วนยังไม่กลับมาค่ะ, คุณย่าบอกว่าหนูเข้าไปในห้องร้องเพลงคนเดียวไม่ได้, คุณย่าจึงบอกให้หนูรออยู่ที่นี่ก่อน พอชานชานกับจ๋วนจ๋วนกลับมาแล้วถึงไปร้องเพลงได้ค่ะ"

 

มองดูเธอพูดถึงเสี่ยวชานและจ๋วนจ๋วนพร้อมกับยิ้ม, และสีหน้าที่ไม่พอใจเหมือนกับเด็กเมื่อบอก

ไม่ให้เธอเข้าห้องร้องเพลง อู๋ฮ่าวเหรินก็ยิ้มออกมา

 

การฟื้นตัวของเธอนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก, ตอนนี้เธอมีความคิดความอ่านเหมือนกับเด็ก 5 ขวบแล้ว, แต่อู๋ฮ่าวเหรินก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าการที่เธอชอบร้องเพลงนั้น เกี่ยวข้องอะไรกับการหายตัวไปของหลิงหยิ่งหรือไม่

 

แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความคิดความอ่านของเธอแล้ว, คิดว่าเธอไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับหลิงหยิ่ง

 

อู๋ฮ่าวเหรินเดินเข้าไปในห้อง, ก่อนจะหยิบคอมพิวเตอร์ออกมาแล้วพูดขึ้น "มาสิ, ผมจะพาคุณไปที่ห้องร้องเพลงเอง"

 

"พวกชานชานยังไม่กลับมา, หนูจะรอพวกชานชานกลับมาก่อนค่ะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูเธอแล้วก็ส่ายหัว และวางคอมพิวเตอร์ไว้บนโต๊ะ, ในนั้นมีวิดีโอเพลงอยู่ด้วย ซึ่งเป็นเพลงที่ร้องโดยหลิงหยิ่ง

 

แล้วเปิดวิดีโอขึ้นมาและปล่อยให้เธอดูอยู่ที่นี่, แล้วอู๋ฮ่าวเหรินก็กลับไปที่ห้อง

 

"จี้, จากสถานการณ์ในปัจจุบัน, เมื่อไรเธอถึงจะหายดี?"

 

"จากการตรวจสอบของข้อมูล, คาดว่าน่าจะฟื้นตัวเต็มที่ในอีก 3 เดือน, แต่ทว่าในเรื่องของการรับรู้ จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้, ปัจจุบันเธอยังมีความคิดความอ่านเหมือนกับเด็กอยู่, จึงเป็นไปไม่ได้ที่ฟื้นคืนจิตใจและมีความคิดความอ่านเหมือนกับผู้ใหญ่ได้ในทันที"

 

"ทำไมล่ะ? ผมรู้สึกว่าเธอมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าเด็กทั่วๆไปนะ"

 

เด็กนั้นสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ปีต่อปี, และการเปลี่ยนแปลงของหลิงเมิ่งเสวี่ยนั้นก็รวดเร็วกว่าเด็กทั่วๆไป

 

"ยังไม่แน่ชัด,

บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับพลังวิญญาณก็ได้, พลังวิญญาณที่เข้มแข็งของเธออาจจะทำให้เธอมีความสามารถในการรับรู้เร็วกว่าเด็กทั่วๆไป"

 

ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามแบบนี้, คนที่มีปัญหาด้านIQ.นั้นสามารถรักษาได้ก็จริงอยู่, แต่ก็ยังดูจะแตกต่างจากเธออยู่ดี

 

เมื่อคิดถึงการเปลี่ยนแปลงของหลิงเมิ่งเสวี่ย, อู๋ฮ่าวเหรินก็เริ่มจัดเรียงบทเพลงของหลิงหยิ่งจากอายุของเธอ

 

จากสถานการณ์ในปัจจุบันของหลิงเมิ่งเสวี่ยแล้ว, มันก็น่าสนใจที่จะให้เธอร้องเพลงพวกนี้โดยเรียงตามอายุของเธอ

 

-----------------------------------------------

 

วันต่อมา, เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินได้มาถึงที่บริษัท, บางทีเขาอาจจะพลาดอะไรไป, ทันทีที่พวกเขาเจอกับพนักงาน, พวกเขาก็จะทำทีท่าตกใจกันทันที

 

เมื่อหวังหลานมองเห็นอู๋ฮ่าวเหริน, เธอก็ตกใจในทันทีและรีบพูดขึ้นอย่างรีบร้อน

 

"ท่านประธาน, คุณกลับมาแล้วเหรอคะ"

 

"ก็ใช่ ทำไมรึ? คุณไม่เจอผมแค่ครึ่งเดือน, ผมดูเปลี่ยนไปมากเลยรึไง?"

 

มองดูที่สายตาของเธอ, อู๋ฮ่าวเหรินก็หันมาดูตัวเองและก็ไม่พบว่ามีอะไรเปลี่ยนไป, เขาจึงถามอย่างสงสัย

 

"ไม่ค่ะ, คุณไม่ได้เปลี่ยนไปเลยค่ะ, ท่านประธาน"

 

"ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยไปแจ้งทุกคนให้ทราบหน่อย, ว่าอีกเดี๋ยวเราจะประชุมกัน"

 

มองหวังหลานที่รีบเดินออกไป, อู๋ฮ่าวเหรินก็พูดขึ้น "จี้, ตรวจสอบให้หน่อยว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นในบริษัทช่วงนี้บ้าง?"

 

"ไม่มีอะไรผิดปกติ, เพียงแต่มีข่าวบางอย่างของคุณที่ถูกเผยแพร่ของไปทั่วในบริษัทค่ะ"

 

"ข่าวอะไรรึ?" อู๋ฮ่าวเหรินถามอย่างสงสัย

 

มองดูข่าวที่ขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์, อู๋ฮ่าวเหรินก็ถึงกับอึ้ง, เขาไม่คิดว่าจะมีข่าวลือแบบนี้เกิดขึ้นมาได้

 

มีบางคนในบริษัทที่เชื่อว่าเขานั้นมีอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิจัยที่สุดยอดกลางทะเล, เทคโนโลยีทั้งหมดของบริษัทนั้นบางที่ก็น่าจะมาจากองค์กรนั้นด้วย

 

ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า, แม้แต่คนในบริษัทเองก็ยังสงสัยเรื่องนี้ด้วย, ดูเหมือนเรื่องของการโอนย้ายเป้าหมายจะสำเร็จดีมาก

 

แน่นอนว่า, มันมีผลกระทบในแง่ลบกับภาพลักษณ์ของเขาในบริษัท ซึ่งดูเหมือนจะมีผลกระทบในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

 

อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัว, มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร, ถ้าพวกเขาสงสัยก็ปล่อยให้สงสัยไป

 

"ก๊อกๆๆ"

 

"เข้ามาได้"

 

"ท่านประธานคะ, พร้อมที่จะเริ่มประชุมแล้วค่ะ"

 

เข้าไปในห้องประชุม, อู๋ฮ่าวเหรินก็จ้องมองมาที่ผู้คนที่อยู่ในห้องประชุม และมองดูสีหน้าของพวกเขาทุกคน, ดูเหมือนว่าข่าวลือนี้จะไม่ค่อยมีผลอะไรกับพวกพนักงานเก่าๆในบริษัท

 

"เป็นอย่างไรกันบ้างกับงานที่ผมมอบหมายให้พวกคุณทำในครึ่งเดือนที่ผ่านมา?"

 

หลิวหมิงเยี่ยพูดขึ้น, "หัวหน้าคะ, พวกเราได้รวบรวมข้อมูลของผู้คนทั้งหมดที่เข้าร่วมการคว่ำบาตรในครั้งนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ"

 

"ดีมาก, เดี๋ยวผมจะบอกวิธีการจัดการคนพวกนี้ให้คุณไปดำเนินการทีหลัง, แล้วก็เซี่ยเสวี่ย คุณกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลไปดำเนินการประกาศรับสมัครรับคนเข้าทำงานในบริษัทดนตรีของเราบนเว็บไซต์ของบริษัททีนะ"

 

เซี่ยเสวี่ยผงกหัว, ก่อนจะหยิบเอกสารขึ้นมาและพูดขึ้น "ได้ค่ะ, หัวหน้า ฉันจะไปรีบไปดำเนินการแล้วรีบกลับมาค่ะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองมาที่ตงจี๋, ที่เป็นผู้จัดการของบริษัทก่อสร้างที่เพิ่งจ้างเข้ามาใหม่, และถามขึ้น "การจัดการบริษัทก่อสร้างเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?"

 

"หัวหน้าครับ, พนักงานที่พวกเราจ้างมาทั้งหมดนั้น ผมได้พาพวกเขาไปที่เขตการก่อสร้างหยวนหมิงหยวนเพื่อทำการฝึกแล้วครับ

 

อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัวแล้วพูดขึ้น "เมื่อตอนที่ผมกลับมา, ผมได้ยินมาว่าอำเภออวิ๋นหลงกำลังจะถูกพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษอยู่, ซึ่งอีกเดี๋ยวคงได้วางแผนกันใหม่, เมื่อถึงตอนนั้นพวกคุณจะต้องไปเข้าร่วมกับแผนการก่อสร้างด้วย เมื่อถึงเวลานั้นพวกคุณก็น่าจะมีความรู้ด้านการก่อสร้างด้วยวัสดุพวกนี้แล้ว, ศึกษาให้หนักล่ะ"

 

"ได้ครับหัวหน้า, ผมสัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ลุล่วงครับ"

 

มองดูน้ำเสียงและการกระทำของชายคนนี้, อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกเหมือนว่าเขานั้นเป็นทหารยังไงอย่างงั้น, บางทีเขาอาจจะคิดมากเกินไป, อู๋ฮ่าวเหรินจ้องมองไปที่เขาอย่างสงสัย

 

ตอนนี้เขาไม่ได้มีท่าทีอะไรมากนัก อู๋ฮ่าวเหรินจึงส่ายหัวแล้วพูดขึ้นต่อ "พวกคุณมีอะไรจะรายงานอีกมั๊ย?"

 

"หัวหน้าครับ, ผมมีเรื่องจะรายงานครับ"

 

เป็นหวังจี๋ที่พูดขึ้นมา, ในตอนแรกเขาก็รู้สึกแปลกๆอยู่, เพราะคนในแผนกคอมพิวเตอร์ไม่ค่อยชอบที่จะมาเข้าร่วมประชุม, แต่คราวนี้หวังจี๋กลับมาเข้าร่วมประชุมซะงั้น

 

"มีอะไรเกิดขึ้นกับแผนกคอมพิวเตอร์ของคุณอย่างงั้นรึ?"

 

"หัวหน้าครับ, พวกเราได้ออกแบบซอฟแวร์โทรศัพท์มือถือขึ้นมา, แต่ผมรู้สึกว่าระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันยังไม่สามารถที่จะใช้งานร่วมกับซอฟแวร์ที่พวกเราทำขึ้นมาได้ครับ, ดังนั้นพวกเราจึงอยากที่จะวิจัยเรื่องของโทรศัพท์มือถือน่ะครับ"

 

ทันทีที่หวังจี๋ได้พูดออกมา, ทุกคนต่างก็มองมาที่เขาอย่างประหลาดใจ, เพราะพวกเขาไม่คิดว่าคนจากแผนกคอมพิวเตอร์นั้นต้องการที่จะเปิดสายโทรศัพท์มือถือด้วยตัวเอง

 

แม้แต่อู๋ฮ่าวเหรินยังประหลาดใจ, เรื่องของโทรศัพท์มือถือนั้นเขาก็เคยวางแผนเอาไว้เหมือนกัน, แต่ยังไม่คิดที่จะพูดถึง, เพราะเขาต้องการที่จะรวมโทรศัพท์มือถือเข้ากับเทคโนโลยีฉายภาพจำลอง

 

อู๋ฮ่าวเหรินจึงถามเขาอย่างสงสัย "มีใครในแผนกคอมพิวเตอร์ของคุณที่เคยทำงานด้านโทรศัพท์มือถือบ้างไหม?"

 

"ไม่ครับ, แต่พวกเราได้ศึกษาเรื่องของโทรศัพท์มือถือชั้นนำของโลกอยู่, ในตอนนี้ถ้าเราใช้เทคโนโลยีในปัจจุบันของเรา มาเป็นหัวข้อในการวิจัย, พวกเราก็น่าจะสามารถสร้างระบบปฏิบัติการ, ชิ้นส่วน และอุปกรณ์ขึ้นมาเองได้ อีกทั้งชิ้นส่วนด้านอิเล็กทรอนิกส์ของพวกเราก็ดูเหมือนจะล้ำสมัยกว่าหลายๆบริษัทด้วยครับ"

 

หวังจี๋ไม่ได้พูดออกมา, แต่จริงๆแล้ว พวกเขาได้ทำการศึกษาอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด และพบว่าถ้าใส่อุปกรณ์บางอย่างลงไปเพิ่ม, มันก็จะกลายเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีระบบฟังชั่นที่สุดยอด

 

ดังนั้น, พวกเขาจึงต้องการที่จะสร้างโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเป็นของตัวเอง, และทำระบบปฏิบัติการขึ้นมาด้วยตัวเอง, เพื่อใช้งานร่วมกับซอฟแวร์ที่พวกเขาทำขึ้นมา, เช่นเดียวกับแอปเปิ้ล

 

อู๋ฮ่าวเหรินก็ยิ้มขึ้นมา, เพราะเขาไม่คิดว่าพวกเขานั้นจะมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาได้จึงพูดขึ้น "ในเมื่อพวกคุณอยากที่จะศึกษาเรื่องของโทรศัพท์มือถือ, ถ้างั้นก็ให้แผนกคอมพิวเตอร์จัดตั้งแผนกวิจัยโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเอง"

 

"แล้วก็, คุณน่าจะรู้กฏของบริษัทดีอยู่แล้ว, คุณต้องจัดการปัญหาด้านบุคลากรด้วยตัวเอง, เดี๋ยวผมจะส่งข้อมูลบางอย่างไปให้, เป็นแนวคิดเรื่องของโทรศัพท์มือถือที่ผมมีอยู่, เอาไปลองดู"

 

ซึ่งคราวนี้, มันเป็นเพียงแค่แนวคิดจริงๆ, การรวมเทคโนโลยีเครื่องฉากภาพจำลองเข้ากับเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมันจะต้องเป็นผลงานที่สุดยอดมากในอนาคตแน่, ตอนนี้เขาก็อยากทำให้สำเร็จ เพียงแต่ติดบางปัญหาอยู่, และปัญหาหลักๆคือเรื่องของอุปกรณ์และชิ้นส่วน

---------------


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น