CF:บทที่ 368 กลับสู่จีน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 368 กลับสู่จีน

 

หลังจากที่อยู่บนเกาะนี้ได้ 3 วันและทำการผลิตบางอุปกรณ์ที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทำได้เสร็จ, อู๋ฮ่าวเหรินก็ออกจากเกาะมาในตอนมืด

 

ตอนที่เขากลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง, เขาก็มาถึงบริเวณอ่าวท่าเรือเซินเจิ้นแล้ว

 

มองดูสายที่ไม่ได้รับร้อยกว่าสายในโทรศัพท์แล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็คิดว่า คงจะมีหลายคนที่ตามหาตัวเขาในหลายวันมานี้

 

ก่อนอื่น, เขาต้องโทรหาที่บ้านเพื่อบอกเรื่องความปลอดภัยของเขาก่อน

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นรู้ดีว่าถ้าเขาโทรออกไปแล้ว, พวกเบื้องบนจะต้องรู้ที่อยู่ของเขาได้อย่างรวดเร็วแน่

 

อย่างที่เขาคิด, เมื่อสัญญาณโทรศัพท์ของเขาได้ถูกส่งออกไป, เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองก็ได้จับสัญญาณหาที่อยู่ของเขาได้ทันที

 

จากนั้น, ข่าวนี้ก็ได้ถูกส่งไปให้ท่านผู้นำทันที, เพื่อที่ตามหาอู๋ฮ่าวเหริน ผู้คนในหน่วยข่าวกรองต่างก็วุ่นวายกันอย่างหนักในหลายวันมานี้

 

เพราะข่าวเรื่องการหายตัวไปของอู๋ฮ่าวเหรินนั้น พวกเขานั้นไม่รู้ว่าข่าวนี้รั่วไหลออกไปอย่างไร, ทำให้ประเทศต่างๆมากมายออกตามหาตัวเขาเป็นการใหญ่, โดยเฉพาะญี่ปุ่นกับอเมริกา ที่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะตามหาอู๋ฮ่าวเหรินให้พบ

 

เพื่อที่จะจับตัวอู๋ฮ่าวเหรินให้ได้ในคราวนี้, พวกเขาได้ใช้จ่ายเงินไปเป็นจำนวนมหาศาล, แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็คว้าน้ำเหลว ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศนี้แย่ลงไปอีก

 

"ท่านครับ อู๋ฮ่าวเหรินเพิ่งจะโทรศัพท์ติดต่อหาครอบครัวของเขาครับ, พวกเราจับตำแหน่งของเขาได้ที่อ่าวในท่าเรือเซินเจิ้นครับ"

 

"ดี, ดีมาก, รีบไปแจ้งกองทหารที่ประจำการณ์อยู่ที่นั่นให้รีบไปตามหาตัวเขาทันที, พวกเราจะต้องรีบไปคุ้มกันตัวเขา"

 

หลายวันที่ผ่านมานี้ตอนที่อู๋ฮ่าวเหรินหายตัวไปนั้น, เขาไม่ได้พักผ่อนเลย, ทางสถาบันวิจัยก็ได้เข้ามาศึกษาอาวุธที่ถูกใช้โดยหุ่นยนต์บนเรือกู้ซาก

 

นอกจากเทคโนโลยีปืนแม่เหล็กไฟฟ้าแล้ว, สถาบันวิจัยได้ทำการศึกษาและทำความเข้าใจปืนยิงลำแสง แต่ก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้เลย แม้แต่จะลองทำเลียนทำแบบก็ไม่สำเร็จ

 

รวมกับเรื่องข่าวที่รั่วไหลออกไป, ทำให้ต่างประเทศรู้ข่าวว่าอู๋ฮ่าวเหรินหายตัวนั้น, ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นไปอีก

 

ตอนนี้อู๋ฮ่าวเหรินกลับมาปรากฏตัวแล้ว, ทำให้ท่านผู้นำถึงกับรู้สึกโล่งอก

 

"แล้วหน่วยข่าวกรองได้ข้อมูลมาบ้างมั๊ยว่า เขากลับมาปรากฏตัวที่นั่นได้อย่างไร?"

 

"ไม่ครับ, ตอนนี้ทางหน่วยข่างกรองกับตรวจสอบอยู่, แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ"

 

"แล้วพบเบาะแสเรื่องของบริษัทเงินทุนบ้างไหม?"

 

"ไม่เลยครับ,

จากข้อมูลของบริษัทเงินทุนที่เราพบมานั้นเป็นข่าวลวงทั้งหมดครับ, ซึ่งน่าจะมีการใช้เทคโนโลยี AI. เข้าช่วยครับ, พวกเราได้ลองตรวจสอบจากเรื่องนี้, แต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไรกลับมาเลยครับ"

 

"ดูเหมือนว่าเบาะแสทั้งหมดจะอยู่ที่ตัวเขาอย่างเดียวสินะ"

 

เลขาณุการกระซิบกระซาบ "ท่านครับ, คุณต้องการจะถามเขาโดยตรงเลยไหมครับ?"

 

ท่านผู้นำนั่งคิดอยู่พักหนึ่ง, ก่อนจะตอบกลับไป "ถามไปก็คงไม่ได้คำตอบอะไร, แถมจะให้ผิดใจกันเสียด้วยซ้ำ, ในเมื่อพวกเขาไม่กลัวว่าพวกเราจะรู้, ก็แสดงว่าพวกเขาคงจะได้เตรียมหาทางแก้ไว้แล้ว"

 

ถึงแม้ท่านผู้นำจะไม่ได้พูดอะไรออกมา, แต่เขาก็เข้าใจ, ในเมื่อมีเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย, ก็ย่อมจะต้องมีเทคโนโลยีที่ทรงพลังมากมายด้วยเช่นกัน

 

"จับตาดูเอาไว้ก็พอ แล้วเดี๋ยวพวกเราก็จะพบเบาะแสเอง"

 

สำหรับเรื่องของอู๋ฮ่าวเหริน, ทางประเทศนั้นไม่คิดที่จะทำอะไรโง่ๆหากไม่รู้ถึงพลังที่อยู่เบื้องหลังเขาให้ดีก่อน

 

หากพวกนั้นเปลี่ยนข้าง, และสิ่งของไฮเทคถูกส่งให้กับประเทศอื่นแทน, ความสูญเสียก็จะมหาศาลอย่างแน่นอน

 

ในปัจจุบัน, เทคโนโลยีที่ได้มาจากอู๋ฮ่าวเหรินนั้นทำให้กองทัพจีนนั้นมีความหวังที่จะสู้ได้ทัดเทียมกับอเมริกาขึ้นมา

 

แน่นอนว่า, มันจะดีกว่าถ้าพวกเขาสามารถค้นพบพลังอันลึกลับอันนั้นได้, พวกเขาก็ไม่ชอบสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้แบบนี้เช่นกัน

 

-----------------------------

 

 

อู๋ฮ่าวเหรินไม่คิดว่าการต่อสู้ในครั้งนั้นจะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ขนาดนี้, มีกลุ่มทหารได้เข้ามาล้อมท่าเรือแห่งนี้แล้ว

 

เมื่อเรือของเขาเทียบฝั่งมา, ผู้บังคับบัญชาของกองทหารที่ประจำการณ์อยู่ที่นี่ก็ได้มารอรับเขาแล้ว

 

ผู้คนบนท่าเรือต่างก็ตกใจและมาดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่นี่

 

"เกิดอะไรขึ้นที่นั่นงั้นเหรอ? มีเรือลักลอบค้ายาเข้ามารึไง?"

 

"ไม่น่าใช่, น่าจะเป็นการต่อสู้ที่ใหญ่กว่านั้น, ในบริเวณ 500 เมตร ถูกล้อมรอบโดยกองทัพหมดแล้ว, และเมื่อกี้นี้ก็มีกองทหารเดินตรวจตราอยู่ด้านนอกท่าเรือด้วย"

 

"ดูเหมือนจะเห็นรถจากกองทัพขับเข้าไปเมื่อกี้นี้ด้วย, มีคนใหญ่คนโตมาตรวจรึไงนะ?"

 

"ไม่น่าจะใช่หรอก? ถ้าจะเป็นการตรวจจริง, ก็คงไม่มีคนใหญ่คนโตมาออกตรวจตอนกลางคืนหรอก!"

 

ทั้งท่าเรือได้ถูกปิดผนึกเรียบร้อยแล้ว, แม้แต่ตำรวจก็ไม่สามารถเข้ามาได้

 

คนที่รับผิดชอบท่าเรือแห่งนี้ก็รู้สึกตกใจอย่างมากและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

ในเวลานี้, เขาจึงได้โทรศัพท์ เพื่้อถามหาข่าว

 

ทันทีที่เขาขึ้นฝั่งมา เขาก็พบชายสองคนเดินเข้ามาหาเขา, หนึ่งในนั้นแต่งตัวมาในเครื่องแบบของกองทัพ และพูดขึ้น "สวัสดีครับคุณอู๋, ผมชื่อว่าหยวนเช่าหัว เป็นผู้บังคับบัญชาของกองทหารที่ประจำการณ์อยู่ที่นี่ครับ, ซึ่งท่านผู้บัญชาการได้สั่งให้พวกเรามาคุ้มกันคุณครับ"

 

"สวัสดีครับ, ท่านผบ.หยวน ขอรบกวนด้วยนะครับ"

 

"คุณอู๋ครับ, เชิญทางนี้ครับ, คุณจะอยู่ภายใต้การต้อนรับของกองทัพในคืนนี้"

 

ทันทีที่เขาขึ้นมาในรถ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา, หลังจากที่มองดู ก็พบว่าเป็นจื่อหยง

 

ดูเหมือนว่าพวกเบื้องบนคงจะส่งเขามาเพื่อทดสอบฉันว่าเป็นสายลับหรือไม่

 

"ฮัลโหล, โทรมาได้เหมาะเจาะพอดีเลยนะ"

 

"ฮ่าๆ, ข้าไม่มีทางเลือกนี่นา, นายก็น่าจะเข้าใจนะ, ดูเหมือนว่าผมคงจะโทรมาเปล่าประโยชน์แล้วล่ะ"

 

หลังจากที่จื่อหยงพูดจบประโยค, เขาก็ยิ้มให้กับคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าเขา เขากางมือของเขาออกมาและทำสีหน้าแบบช่วยไม่ได้

 

"ถ้างั้นผมก็ขอพูดตรงๆนะ, เพราะผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน, ผมคงบอกคุณได้แค่ว่า ผมเองก็ต้องการให้แผ่นดินแม่ของผมแข็งแกร่งขึ้นมาเช่นกัน"

 

"เข้าใจแล้ว, รีบกลับมาไวๆละกัน, พื้นที่สำหรับใช้ทดสอบรถของพวกเราสร้างเสร็จแล้ว, ไม่กี่วันหลังจากนี้, หลังจากที่ดาวเทียมถูกปล่อยออกไปแล้ว, มันก็จะได้เริ่มทดสอบล่ะ"

 

"เสร็จแล้วสินะครับ, เร็วมาก, ผมน่าจะกลับไปถึงวันพรุ่งนี้แหละ, มีหลายอย่างในบริษัทที่รอให้ผมกลับไปจัดการอยู่เหมือนกัน"

 

อู๋ฮ่าวเหรินวางหูโทรศัพท์ไป, จื่อหยงก็มองมายังเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองที่อยู่ตรงหน้าเขาและพูดขึ้น "ผมบอกแล้วถ้าให้ผมโทรด้วยเบอร์นี้ไป ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มอยู่ดี, และผมก็รู้จักเจ้าหนูนั่นดีด้วย, ว่าเขาไม่มีทางทำร้ายประเทศของเขาแน่"

 

แน่นอนว่า, ถึงแม้จื่อหยงจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่พวกคุณก็อย่าไปบังคับเขา ทำให้เขาต้องทำร้ายแผ่นดินแม่ตัวเองก็แล้วกัน

 

"มันไม่มีข้อมูลอะไรงั้นสินะ อย่างน้อยก็ประโยคที่ว่า "ผมเองก็ต้องการให้แผ่นดินแม่ของผมแข็งแกร่งขึ้นมาเช่นกัน" ดูเหมือนจะมีความหมายแอบแฝงไว้มากเลยนะ"

 

จื่อหยงไม่ได้สนใจเขามากนัก, ยังไงเขาก็ไม่เชื่อที่คนพวกนี้พูดอยู่ดี

 

"โอเค, หน้าที่ของผมจบแล้ว, ผมไม่กวนคุณแล้วล่ะนะ"

 

สีหน้าของจื่อหยงที่ทำราวกับว่ากำลังขับไล่พวกเขาอยู่นั้น, เหล่าหน่วยข่าวกรองก็ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้และเดินออกไป, พวกเขานั้นอยู่นิ่งๆไม่ได้, ต้องรีบไปรายงานเรื่องนี้ในทันที

 

เมื่อท่านผู้นำได้ยินคำตอบของอู๋ฮ่าวเหริน, เขานั่งลงเงียบๆอยู่ตรงนั้นอยู่พักใหญ่

 

หลังจากที่พักผ่อนในบ้านรับรองในเขตทหารหนึ่งคืน, ตอนแรกอู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าจะมีการคุยอะไรกันที่นี่, แต่ไม่คิดว่าจะเป็นหนึ่งคืนที่ผ่านไปอย่างเงียบสงบ, และเช้าวันต่อมาภายใต้การคุ้มกันของทหารในชุดนอกเครื่องแบบ 2 คน เขาก็นั่งเครื่องบินเดินทางกลับมา

 

เมื่อเขาได้กลับมาถึงอำเภออวิ๋นหลง, มันก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว และเขาก็ไม่ได้กลับมาที่นี่เป็นเวลาถึงครึ่งเดือน, การเปลี่ยนแปลงของที่นี่ทำให้เขารู้สึกทึ่งมาก, ถนนหนทางทำใหม่หมดและสะอาดมาก, แม้แต่บ้านเรือนก็ดูเหมือนจะซ่อมแซม

 

นั่งลงบนรถและมองดูการเปลี่ยนไปข้างนอก, อู๋ฮ่าวเหรินก็ถามคนขับรถ "เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ"

 

"หัวหน้า, คุณคงจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงในอำเภออวิ๋นหลงอยู่สินะครับ ผมได้ยินมาว่าทางรัฐได้ดำเนินการแผนยุบรวมอำเภอ, นอกจากแถวบ้านเรือเก่าๆพวกนี้, พวกบ้านที่กระจุกกันอยู่เละเทะก็ได้รื้อถอนสร้างใหม่หมด, ดูเหมือนทางรัฐตั้งใจที่จะสร้างที่นี่ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษน่ะครับ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกอึ้ง, ได้ก่อสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นเพื่อเตรียมรองรับผลงานและการขยายตัวของฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

แต่ทว่า, ดูเหมือนโรงงานมากมายของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะไม่ได้สร้างอยู่ในอำเภออวิ๋นหลงนี้สิ

 

แทนที่จะไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปก่อน, เขามุ่งตรงกลับไปที่บ้านของเขาในหมู่บ้านซุยฉุยก่อน

 

ทันทีที่เขามาถึงที่บ้าน, เขาก็พบหลิงเมิ่งเสวี่ยอยู่ในสวน นั่งอยู่เพียงลำพังใต้ต้นไม้ในสวน อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาจนเอามือวางไว้บนหัว และสายตาเขาก็นิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

----------------


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น