RC:บทที่ 57 ได้รับเศษกระดาษ
“นายน้อย คุณต้องการตัวผมงั้นหรือครับ” ชายวัยกลางคนที่มีเคราบางๆคนนั้นถามขึ้น
ชายคนดังกล่าวเป็นคนตัวเล็ก ส่วนสูงน่าจะอยู่ที่ประมาณ 160 เซนติเมตร รูปร่างผอมแห้ง
เขาสวมหมวกเล็กๆ แววตาดูไม่น่าไว้ใจ เดินหลังค่อม จนทำให้ใครต่อใครเห็นว่าเขาเหมือนหนู
“คุณลั่ว มาได้ตรงเวลาจังเลยครับ ผมมีอะไรจะให้คุณดู แล้วคุณจะต้องสนใจ” เจา หลงกล่าวขึ้นกับคุณลั่ว
“หืม อะไรหรือครับ” คุณลั่วชักอยากรู้ ก่อนจะถามขึ้น
“ดูนี่สิครับ เจ้านี่คือจิตวิญญาณสัตว์ป่าที่คุณพูดถึงใช่ไหม” เจา หลงเปิดภาพในวิดีโอการล่าของเจ้าดำน้อยของหลิน เฟิงและกระบวนการฆ่าหมีดำของมันให้คุณลั่วดู
“หืม นี่มัน เป็นไปได้ยังไง สุนัขล่าเนื้อทั่วไปทำแบบนี้ไม่ได้” ลั่วมองรูปภาพในวิดีโอบนมือถือนั่นก่อนจะพูดขึ้นอย่างอึ้งๆ
“การฆ่าหมูป่าได้เพียงตัวหนึ่งก็ต้องฟลุคบวกกับโชคช่วย แต่หมาป่าดำตัวนี้กลับฆ่าหมูป่าสี่ตัวได้หมด เป็นเรื่องไม่ปกติแล้วนะครับ” คุณลั่วยังคงรู้สึกอึ้งที่ได้เห็นหมูป่าตัวโตสี่ตัวถูกเสี่ยว เฮยฆ่าตาย
“และยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลยที่จะล่าหมีดำตัวใหญ่นั่นที่มีน้ำหนักมากกว่า 300 จิน เจ้านี่ที่แม้แต่เสือกับสิงโตยังกลัวไม่สามารถถูกฆ่าให้ตายได้ด้วยสุนัขล่าเนื้อเพียงหนึ่งหรือสองตัวเลย” เจ้าสุนัขล่าเนื้อนี่คงอยู่เหนือกว่าสัตว์ป่าทั่วไปแน่
“งั้น คุณลั่วครับ คุณคิดว่านี่จะเป็นจิตวิญญาณสัตว์ป่าที่คุณพูดถึงหรือเปล่า” เจา หลงเอ่ยถาม
“ผมก็ไม่รู้ เพราะจิตวิญญาณสัตว์ป่าแต่ละตัวจะมีความสามารถและพลังเฉพาะตัว อย่างเช่น บางตัวก็สามารถควบคุมไฟได้ บางตัวก็ใช้ดินทำนายอนาคตได้ หรือบางตัวก็สามารถปล่อยฟ้าแลบฟ้าร้องได้ และอีกมากมายครับ แต่ที่พวกเราดูนี่ไม่เห็นจะแสดงอะไรออกมาเลย” คุณลั่วอธิบาย
“แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจ เจ้าสุนัขล่าเนื้อนี้ไม่ใช่สุนัขล่าเนื้อธรรมดาเลย จากร่างกาย ความแข็งแรง ความเร็วของมันและอื่นๆอีกนั้นมันเหนือขอบเขตของสัตว์ป่าแล้ว ไม่ใช่แม้แต่จิตวิญญาณสัตว์ป่าด้วย นี่น่าจะเป็นการวิวัฒนาการเพื่อไปสู่จิตวิญญาณสัตว์ป่า ถ้าพวกเราได้...”
คุณลั่วมองหมาป่าสีดำนั่นบนหน้าจอ ดวงตาเต็มไปด้วยความละโมบ อยากครอบครองและความปรารถนารูปแบบอื่นๆ
“ประเมินได้ว่าหมาป่าล่าเนื้อตัวนี้ที่เหมือนลูกของผมนั้นกำลังวิวัฒนาการไปสู่จิตวิญญาณสัตว์ป่าครับ ถ้าลูกของผมได้กลืนมันลงท้องไปล่ะก็ ลูกผมจะต้องวิวัฒนาการเป็นจิตวิญญาณสัตว์ป่าที่แท้จริงแน่นอน” คุณลั่วมองประเด็นตรงนี้อย่างตื่นเต้นสุดๆ
“เอ่อ คุณลั่ว บังเอิญว่าเจ้าของหมาป่าดำตัวนี้มีเรื่องกับผมอยู่ เข้าใจไหม ที่มือผมได้รับบาดเจ็บแบบนี้ก็เพราะเขานั่นล่ะ คุณต้องช่วยผมเอาคืนมันรวมถึงกำจัดความโกรธบ้าๆนี่ไปให้พ้นด้วย”
เจา หลงกล่าวอย่างชั่วร้าย
“ถ้าจะให้พูดง่ายๆก็คือ ธุระของนายน้อยก็คือธุระของลั่ว จิวชานด้วย หลังจากที่ผมแก้ปัญหาที่อยู่ในมือได้แล้ว ผมจะช่วยคุณกำจัดผู้ชายคนนั้นให้พ้นทางทันทีเลย” คุณลั่วพูดขึ้น กระดกลิ้นเข้าออกไปมาก่อนจะเลียมุมปาก
“ขอบคุณมาก คุณลั่ว” เจา หลงเอ่ยขอบคุณ
“ขอรับ นายน้อย ขอให้หายไวๆนะครับ ขอตัวก่อนนะครับ...”
วันต่อมา เป็นเวลาสว่างแล้ว ดวงอาทิตย์ก็กำลังส่องแสงไปยังบ้านของหลิน เฟิงที่ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง
เขาไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน สาเหตุเพราะได้เงินมาถึง 400000 หยวน ซึ่งนั่นเล่นเอาเขาหลับไม่ลงจนถึงรุ่งสาง
“ไม่นะ วันนี้ตื่นสายแฮะ องุ่นก็ยังไม่ได้ส่งไปให้หัวหน้าเติ้งเลย” เมื่อคิดได้ว่าวันนี้ยังไม่ได้ส่งองุ่น เขาจึงลุกขึ้นมาจากเตียงในทันใด
ติ๊งๆๆๆๆๆ
ในตอนนั้นเอง เสียงมือถือของหลิน เฟิงก็ดังขึ้น เป็นหัวหน้าเติ้งนั่นเองที่โทรมา
“สวัสดีครับ หัวหน้าเติ้ง”
“อ้าว เสี่ยงเฟิง นายเอาองุ่นมาให้หรือยังวันนี้ ที่ร้านฉันคนเต็มไปหมดแล้ว ที่รอองุ่นนายเนี่ย” เจาว่าขึ้น
“อ่า เกือบจะถึงแล้วครับ รอแป๊บนึง เดี๋ยวผมจะไปถึงที่นั่นในอีกไม่นานครับ” หลิน เฟิงตอบไปอย่างมึนๆ
“อือฮึ โอเค งั้นรีบหน่อย ไม่งั้นฉันคงรับมือที่นี่ไม่ไหวแน่”
“ครับๆ”
หลังจากนั้น หลิน เฟิงก็วางหูโทรศัพท์ สวมรองเท้าอย่างเร่งรีบ ไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะหยิบองุ่นไปในทันที
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดหลิน เฟิงก็นำตะกร้าองุ่นสองใบไปที่ร้านผลไม้แสนอร่อย
“แย่จังนะ ตอนที่ฉันยุ่ง ไม่มีใครไปหยิบองุ่นมาเลย ดูท่าแล้วฉันคงจะต้องหาใครสักคนมาช่วยฉันตรงนี้แล้วล่ะ” หลิน เฟิงคิดขึ้นมาในขณะที่ขี่รถมอเตอร์ไซต์
“ช่างเถอะ หรือไม่งั้นก็หาคนมาทำงานตรงนี้แทนเรา แบบนั้นน่าจะดีกว่า คงไม่แพงอะไรมากมายหรอก” หลิน เฟิงคิดว่าเขาเองก็มีเงินมากกว่าสี่แสนแล้ว การหาคนมาทำงานให้ก็น่าจะเป็นเรื่องกล้วยๆ
“แต่ก็นะ ฉันจะต้องสร้างสถานีเก็บขยะ บ่อบำบัดน้ำเสียเท่าที่จะเป็นไปได้ แบบนั้นน่าจะมีทรัพยากรขยะไหลมาอย่างต่อเนื่องแน่ๆ”
“ใช่ ก็แค่ทำมันขึ้นมา แล้วค่อยกลับมาหาวิธี ตอนนี้อยู่ 400000 ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการสร้างสถานีขยะกับบ่อบำบัดน้ำเสียแล้ว”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลิน เฟิงก็รอไม่ไหวที่จะไปบ้านและหาหนทางสร้างสิ่งนั้น ถ้าแบบนั้นเขาก็จะสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับเมืองนี้ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นชั่วครู่ หลิน เฟิงก็เข้ามาในเมือง เพียงแค่มาถึงที่หน้าประตูร้านผลไม้แสนอร่อย เขาก็ต้องอึ้งกับผู้คนที่อยู่ตรงหน้าเขา
ในตอนนั้นเอง ตรงประตูมีกลุ่มคนอยู่เป็นร้อย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่อยู่ในวัยประมาณสามสิบถึงสี่สิบปี
“หลิน เฟิง ในที่สุดนายก็มา ร้านอยู่ไม่ได้แน่ถ้าไม่มีองุ่นของนาย แม้แต่ลูกสะใภ้ฉันยังติดใจองุ่นนายเลย”
“นายสองคนมาสายนะ วันนี้ ฉันออกไปยืนข้างนอกร้านไม่ได้เลย และก็ไม่รู้ว่านายไปปลูกท่าไหนองุ่นถึงอร่อยแบบนี้”
“ขอโทษด้วยนะครับ ผมหลับเพลินไปหน่อย” หลิน เฟิงกล่าวขอโทษอย่างรีบเร่ง
“โอเค ในอนาคตฉันจะให้นายเพิ่มอีก นี่ไม่พอขายแล้ว ต้องขยายชั้นวางของให้ไวแล้ว นายรู้อะไรไหม” หัวหน้าเติ้งพูดขึ้น
“โอเคครับ ผมจะทำงานให้หนักเลย...”
หลังจากที่องุ่นพร้อมแล้ว หลิน เฟิงก็ขี่มอเตอร์ไซต์กลับบ้าน ผ่านสถานีขยะสถานีใหญ่ แล้วมือถือของเขาก็สั่นขึ้นอีกครั้ง
“ติ๊ง ฉันเจอกองเศษกระดาษเป็นสิบตันเลย นายจะเอาไหม”
“ตี๊ง ฉันเจอกองเศษกระดาษเป็นสิบตันเลย นายจะเอาไหม”
หลังจากได้ยินเสียงนั่น หลิน เฟิงก็หยุดรถอย่างรีบร้อนก่อนจะหมุนตัวหันไปมองก็เห็นว่ามีกองเศษกระดาษมหึมา รวมถึงเปลือกกระดาษ หนังสือและเศษกระดาษอื่นๆ
มีเศษกระดาษเหลือทิ้งจำนวนมากครอบครองพื้นที่ในสามของกองขยะมหาศาลทั้งหมด ประเมินแล้วน่าจะเป็นสิบตัน
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีบางคนที่พยายามจะผูกเศษกระดาษนี้ไว้ด้วยเชือก พวกเขากำลังจะดึงเอามันออกไป เพื่อจะเอาไปขายเป็นเงิน
เป็นไปไม่ได้ที่หลิน เฟิงจะกำจัดเศษกระดาษเหลือทิ้งพวกนี้ด้วยหลุมดำจากในมือถือของเขาต่อหน้าคนอื่นๆ นอกจากนี้ นี่ก็เป็นผลลัพธ์จากการทำงานซึ่งนี่ดูไม่มีจริยธรรมเอาเสียเลย
ด้วยเหตุนั้น หลิน เฟิงจึงหยุดรถก่อนจะเข้าไปในกองขยะ มันทั้งใหญ่และว่างเปล่ารวมทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วย
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหม” ชายสวมผ้าปิดปากคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น
“สวัสดีครับ ผมขอถามอะไรคุณหน่อย คุณขายเศษกระดาษพวกนี้หรือเปล่าครับ ตันหนึ่งขายเท่าไหร่ ผมคิดว่าก็น่าจะทั้งหมดนี้นะ” หลิน เฟิงถามขึ้น
“ปกติแล้ว หนึ่งตันจะขึ้นๆลงๆอยู่ที่ 1000 หยวนถึง 2000 หยวนนะ นี่เป็นราคาประเมินไว้สำหรับหนึ่งตัน ถ้าคุณต้องการทั้งหมด ผมจะให้เลยไปเลย 2000 หยวนต่อตัน” ชายคนนั้นว่า
“ทั้งหมดนี่ล่ะที่ผมต้องการ เดี๋ยวผมจ่ายเลย” จากนั้นหลิน เฟิงก็หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อจ่ายเงิน 20000 หยวน
“โอเค แล้วคุณอยู่ที่ไหน ต้องการให้ผมหารถให้ไหมครับ” ชายคนนั้นพูดขึ้นอย่างพอใจ
“ไม่ล่ะครับ คุณไปก่อนได้เลย เดี๋ยวผมจะขนไปทีหลังเอง...”
0 ความคิดเห็น