RC:บทที่ 46 หยาง เจียนหลิงคนสวย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 46 หยาง เจียนหลิงคนสวย


 “แล้วฉันจะต้องทำยังไง” ท่าทีของหยาง เจียนหลิงยังคงดูเย็นชา แต่ก็ยังมีความรู้สึกกังวลและโกรธเล็กน้อยอยู่ในนั้น


“ก็ ผมคิดวิธีออกแล้วล่ะ แต่ท่าทางเย็นชาของคุณทำให้ผมลืมมันไปหมดเลย ขอโทษนะครับ ผมขอตัวก่อนละกัน” หลิน เฟิงกางมือออกไปก่อนจะหันหลังเดินกลับ


ยังไงก็เหอะ นี่ไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่แล้ว จากที่เคยตั้งใจจะให้ความคิดเห็นบางอย่างกับพวกนั้น แต่ยัยเจ๊นี่ดูไม่สำนักเลยนี่สิ ก็ได้ 


 “นี่ เดี๋ยวสิ นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” หยาง เจียนหลิงกรีดเสียง


“รู้สิครับ แต่รู้ไปแล้วมันจะทำอะไรผมได้ล่ะครับ” หลิน เฟิงเดินย้อนกลับไปยังฝูงชนด้วยท่าทีที่เฉยเมย


“นาย หยุดนะ” หยาง เจียนหลิงเดินมาก่อนจะคว้าไหล่ของเขา


“โอ๊ะ จะทำอะไรครับเนี่ย ผมจะบอกให้นะ ไม่เกี่ยวว่าคุณเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายแล้วผมจะให้หรือไม่ให้หรอกนะ” จากนั้นเขาก็ปัดมือหยาง เจียนหลิงออกไป


“นาย ก็ดี” หยาง เจียนหลิงอยากจะหั่นหมอนี่เป็นแปดส่วนเสียจริง ไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้ามาพูดคุยกับเธอแบบนี้เลย


“ผมรู้ตัวครับว่าผมสบายดี ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาพูดหรอก และถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับบ้านก่อนล่ะ ลัน ลัน ลา” หลิน เฟิงว่าขึ้นด้วยท่าทีสุขใจก่อนจะกระโดดกลับลงไปยังฝูงชน


“หมอนี่มันกล้าดีมาก ไม่สงสัยเลยเรื่องที่ไปท้าตีท้าต่อยกับเจา หลง แม้แต่พี่หลิง​เองยังกล้ามาแหย่ด้วย แถมยังสำเร็จทั้งคู่อีกต่างหาก”


เดิมที เจิง ยี่ชานเองก็กลัวเวลาที่หยาง เจียนหลิงเหวี่ยงวีน แต่เมื่อเขาเห็นว่าหลิน เฟิงกล้าพูดกับหยาง เจียนหลิงแบบนี้ เขาก็รู้สึกชื่นชมอย่างมาก


“ก็บอกวิธีที่นายว่านั่นมาสิ” หยาง เจียนหลิงดึงหลิน เฟิงกลับมาอีกครั้งพลางถามขึ้น


“ผมไม่อยากพูดเรื่องนั้น ท่าทีเย็นชาของคุณทำเอาผมกลัว ผมก็เลยลืมไปชั่วขณะ” หลิน เฟิงว่าขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง เหมือนว่านี่ไม่ใช่เรื่องตลก


 “ฮึ่ม ดี ถ้าฉันรู้ว่าวิธีของนายไม่ได้ผลล่ะก็ ก็ให้มันรู้ไปว่าฉันจะไม่ฆ่านาย” หยาง เจียนหลิงกระซิบ


“คุณพูดว่าไงนะ” เสียงของเธอเบามากเมื่อเป็นเสียงกระซิบ หลิน เฟิงได้ยินเพียงบางส่วน


“เปล่า ไม่มีอะไร น้องชาย นายบอกคนอื่นๆได้ไหมว่านายคิดยังไง มานี่สิ”


ทันใดนั้นเอง เสียงเยือกเย็นของหยาง เจียนหลิงก็หันไปพูดกับเสี่ยว ลั่วลี่ หลังจากพูดเสร็จ เธอก็ผลักอกหลิน เฟิงด้วยหมัดเล็กๆของเธอ


“ชิ”


การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วนั้นทำให้หลิน เฟิงกับเจิง ยี่ชานต้องสูดหายใจเอาอากาศเย็นเข้าปอด ตัวสั่นสะท้าน


“นี่คือพี่หลิงที่ฉันรู้จักใช่ไหมนี่” เจิง ยี่ชานว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ


เจิง ยี่ชานกับหยาง เจียนหลิงเองก็รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว โดยที่พวกเขาทั้งคู่ต่างไม่เคยเปิดเผยว่าตัวเองรู้สึกอะไรยังไงมาหลายปีแล้ว


เขาไม่เคยเห็นหยาง เจียนหลิงเปิดเผยความรู้สึกอย่างเป็นอิสระขนาดนี้มาก่อน พร้อมกันนั้นเขากลับรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่มาจากข้างหลัง


“เธอเปลี่ยนไปจริงๆ งั้นหรือ เอาเป็นว่าผู้หญิงก็แบบนี้ล่ะ ผู้หญิงยังไงก็คือผู้หญิง ระวังจะไม่ได้แต่งงานก็แล้วกัน” หลิน เฟิงว่าขึ้น


“เจ้านี่ พูดตรงเป็นบ้า นี่เขาแพ้ใช่ไหม แม้แต่พี่หลิงยังกล้าเข้าไปจีบ ดูแล้วฉันน่าจะไปเรียนรู้จากหมอนี่บ้าง ถ้ามีโอกาสอ่ะนะ” เจิง ยี่ชานรำพึงรำพรรณกับตัวเองเบาๆ


 “นายว่าไงนะ” หยาง เจียนหลิงหันไปมองขวับ ส่วนเจิง ยี่ชานรู้สึกเหมือนตนกำลังตกไปในถ้ำน้ำแข็ง


“เปล่า ไม่มีอะไรครับ” แม้แต่จะก้าวถอยหลังก็ยังกลัวเสียด้วยซ้ำ


“หึ แม้แต่นายด้วยงั้นสิ บอกฉันมาว่านายพูดว่าอะไร” น้ำเสียงของหยาง เจียนหลิงในตอนนี้ไม่มีความเยือกเย็นอีกแล้ว แต่ฟังดูสุภาพและสงบ


“ก็เกือบจะเหมือนเดิมนั่นแหละครับ อย่างแรกเลย ทีมสนับสนุนมีคนตรวจสอบสัญญาณหรือเปล่าครับ เราต้องไปที่นั่นก่อนเพื่อดูว่าพวกเขาหาที่ตั้ง...” หลิน เฟิงว่าขึ้น


 “นั่นคือสิ่งที่นายคิดงั้นหรือ พวกเราเองก็คิดเรื่องนี้กันมานานแล้ว เสียเวลาจริงๆ...” หยาง เจียนหลิงแทรกขึ้นโดยไม่รอคำแนะนำจากหลิน เฟิง


“เอ่อ คุณจะอดทนฟังอีกสักนิดและทำตัวให้เป็นผู้หญิงอีกสักหน่อยได่ไหมครับ คุณรู้ได้ไงว่าผมคิดเหมือนคุณหรือเปล่า” หลิน เฟิงเงียบไปก่อนจะพูดขึ้นมาตรงๆ


“งั้น ฉันจะบอกให้นะ พวกเราเห็นสัญญาณแล้วแต่ยังหาตำแหน่งพวกเขาไม่เจอเลย ว่าต่อสิ” หยาง เจียนหลิงอยากจะรู้จริงๆว่าชายคนนี้มีวิธีจริงๆหรือแค่มาก่อกวนเฉยๆ


“ตำแหน่งของพวกเขาที่อยู่ก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ได้ตรวจสอบเลย ถ้าทำแบบนั้น คุณก็จะสามารถเห็นว่าสัญญาณนั่นอยู่ที่ไหนเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ โดยไม่จำเป็นต้องหาทั่วป่าทั่วเขาแบบนี้เลย”


“อย่างที่สอง สิ่งที่พูดมานี่ช่วยลดเวลาที่เราจะหาได้อย่างมหาศาลเลย ว่าไหมครับ คนสวย” หลิน เฟิงกล่าวขึ้นโดยไม่ลืมที่จะใส่คำว่าคนสวยเข้าไปด้วย


หยาง เจียนหลิงรู้สึกดีแล้วในตอนนี้ อดไม่ได้ที่จะโล่งอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคำว่าคนสวยในประโยคท้าย


หลังจากที่หยาง เจียนหลิงพบตำแหน่งของซู หยวนเฟิงก่อนที่พวกเขาจะหายไปกับทีมสนับสนุนแล้วนั้น คนเก่งๆในนั้นทั้งหมดต่างก็ใจเย็นลงเล็กน้อย เพราะอย่างน้อยก็ได้รู้แล้วว่าพวกเขาหายไปที่ไหน จากนั้นค่อยมาหาทิศทางกันอีกที


“ฉันยอมรับนะว่านี่เป็นวิธีที่ดี แต่นายก็เห็นใช่ไหมว่าคนที่นี่ไม่เต็มใจที่จะช่วยพวกเราหาเลย เรามีกันแค่นี้จะหากันได้ยังไงล่ะ จะมั่นใจได้อย่างไร” หยาง เจียนหลิงหลุดท่าทีเย็นชาก่อนจะเอ่ยจากใจจริง


“มั่นใจได้อย่างไรน่ะหรือ ผมบอกได้เลยว่าผมแน่ใจแค่สิบเปอร์เซ็นต์ คุณจะเชื่อไหม ฮ่าๆ ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจล่ะก็ เรียกคนพวกนั้นมารวมตัวกันสิ” หลิน เฟิงว่าขึ้นพลางยิ้มๆ อาจจะตลกเล็กน้อยแต่ก็จริงจังด้วย


“เอ่อ นี่นายฟังฉันอยู่ใช่ไหม ฉันบอกว่าคนพวกนั้นไม่ได้ตั้งใจจะมาช่วยเราหาพวกเขาเลยเมื่อตอนเย็น แล้วจะเรียกมาได้ยังไง” หยาง เจียนหลิงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงผิดหวัง


“ฮ่าๆ ก็ง่ายๆเองไม่ใช่หรือครับ” หลิน เฟิงส่ายหน้าพลางรู้สึกว่าพวกเขาช่างโง่นัก


“ง่ายๆงั้นหรือ แล้วถ้าคนเขาไม่ไป คุณจะทำอะไรได้ล่ะ” หยางเจียนหลิงถามขึ้น


 “ใช่แล้ว เราบังคับคนอื่นไม่ได้” เจิง ยี่ชานเสริมขึ้น


“พวกคุณก็อ้างแต่เรื่องจนเรื่องรวย พวกคุณน่ะไม่มีอะไรยกเว้นเงินแถมยังไม่มีสมองอีกต่างหาก ก็พวกเขาไม่อยากไป คุณจะไม่ใช้เงินกำจัดเรื่องวุ่นๆพวกนี้หรือไง ”


“ใครจะอยู่ได้โดยไม่มีเงิน ตราบใดที่มีเงินเหลือเฟือ อย่าว่าแต่พวกคุณจะไปหาใครสักคนที่ภูเขาในเย็นนี้เลย ต่อให้ดวงจันทร์พวกเขาก็หาให้คุณได้” หลิน เฟิงว่าขึ้น


“เออ จริงด้วย ทำไมฉันถึงโง่อย่างงี้นะ ทำไมถึงไม่คิดเรื่องนี้กันเนี่ย”  จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปที่ฝูงชน


“เงียบๆกันก่อน ตอนนี้ โปรดช่วยหานายน้อยซู หยวนเฟิงกับหยาง เจียนซื่อ...” แล้วทันใดนั้นเองเจิง ยี่ชานก็ถูกขัดจังหวะขึ้นก่อนที่ตนจะพูดจบ


“อย่าตะโกน พวกเขาบอกว่ายังไงก็จะไม่ให้ไป ใครจะขึ้นไปบนเขาเพื่อตามหาคนในเวลาเย็นๆแบบนี้กันล่ะ อาจถึงตายเลยใช่ไหม  แล้วถ้าไปเจอสัตว์ป่าเข้าล่ะ”


“คืองี้ หยุดตะโกน แล้วรางวัลล่ะจะให้ไหม ถ้าไม่ให้ เราจะได้กลับ เพราะยังไงเราก็จะไม่ไปที่ภูเขาแน่”


“...” 


“ไม่ต้องห่วงนะ ทุกคน ฟังฉัน ใครก็ตามที่ช่วยคนในภูเขาได้วันนี้จะเพิ่มเงินให้อีก 300 หยวน รับเป็นเงินสดเลย” เสียงของเจิง ยี่ชานนั้นก้องมากเสียจนทับเสียงของผู้คนได้


“นอกจากจะเพิ่มอีกสามร้อยแล้ว ก็จะเพิ่มลงในค่าลงทะเบียนเป็นหกร้อยด้วย”


“แต่กลางคืนน่ะ สัตว์ป่ามันออกมาเยอะจะตาย ทางไปภูเขาก็ขรุขระ จะมีอันตรายอะไรก็ไม่รู้รออยู่ที่ภูเขานั่นน่ะ ฉันไม่ไปหรอก”


“ใช่ๆ ถ้าคุณมีเงินจ่ายได้ คุณก็จ่ายด้วยชีวิตตัวเองสิ ผมก็ไม่ไป”


“ไม่ไป”


“เงียบก่อน ถ้าพวกคุณช่วยไปหาคนบนภูเขาล่ะก็ พวกคุณจะได้รับเพิ่มอีก 700 รวมค่าธรรมเนียมการสมัครแล้วด้วยก็จะเป็น 1000 โควตานี้มีจำนวนจำกัดและไม่มีวันหมดอายุ” เมื่อนั้น คนบางคนก็เกิดความลังเล หลิน เฟิงจึงกล่าวด้วยเสียงอันดัง


“อะไรกัน หนึ่งพันหรือ ฉันไปๆ”


“งั้นฉันก็จะไปด้วย ขอลงชื่อก่อน”


“ฉันก็จะลงชื่อด้วย”


สักพัก ผู้คนทั้งหมดในนั้นต่างก็เข้ามารุมแย่งชิงเพื่อรับเงินรางวัลในครั้งนี้


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น