RC:บทที่ 45 ผมมีวิธี
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เวลา 6 โมงเย็น ซู หยวนเฟิงกับหยาง เจียนซื่อก็ยังไม่กลับมา
ในตอนนี้ คนกลับมากันเกือบหมดแล้ว มีเพียงแค่ซู หยวนเฟิง หยางเจียนซื่อและบอดี้การ์ดทั้งสองคนของพวกเขาที่ยังไม่กลับมา
หกโมงคือเวลาที่กำหนดไว้ แต่พวกเขาก็ยังไม่กลับมาและนั่นอาจหมายความว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น
บางที อาจจะเจอสถานการณ์แบบเดียวกับที่เจา หลงเจอก็ได้ พวกเขาอาจจะโดนหมูป่าทำร้าย หรืออาจจะเจอแบบหวัง หาน ที่เจอหมีดำตัวใหญ่ พวกเขาอาจจะกำลังโดนหมีรุมล้อมอยู่และอาจจะอื่นๆอีก
แต่สถานการณ์ที่พวกเขาเจออาจจะน่าเป็นห่วงกว่าก็ได้เพราะพวกนั้นไม่ได้กดเครื่องส่งสัญญาณเลยตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ดังนั้นจึงไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้าง
โทรศัพท์ก็ไม่มีให้ติดต่อ ซ้ำยังไม่มีใครกลับมาอีก หยาง เจียงหลิงรู้สึกร้อนรน นี่ก็หกโมงแล้ว เริ่มมืดแล้ว สถานการณ์เริ่มอันตรายขึ้นทุกทีๆ
เราทุกคนต่างรู้ว่าสัตว์ป่านั้นมักจะตื่นในตอนกลางคืน ในกรณีที่พวกเขาเผชิญกับสัตว์ดุร้ายพวกนั้น ผลที่ตามมาก็ไม่อาจจินตนาการถึง
“ทำไงดีๆ” หยาง เจียงหลิงในตอนนี้เดินไปเดินมา ก้าวช้าบ้างเร็วบ้าง มองตรงโน้นทีตรงนี้ที เธอหวังเพียงแค่จะได้เจอซู หยวนเฟิงและหยาง เจียนซื่อ
แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ หยาง เจียนหลิงก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้น
“เจิง ยี่ชาน มานี่หน่อย ฉันจะบอกนายว่าเพราะนายสามคนน่ะจัดการแข่งล่าห่วยๆแบบนี้ไงล่ะ นี่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับน้องของฉันล่ะก็ ฉันจะถลกหนังพวกนายออกมาแน่”
หยาง เจียนหลิงหายใจแทบไม่ออก พร้อมมุ่งเป้าไปที่เจิง ยี่ชาน
เพราะว่าตอนนี้ มีเพียงเจิง ยี่ชานที่ยังปลอดภัยดีอยู่ หยาง เจียนหลินจึงไม่มองหน้าเขาเลย
“พี่หลิง ผมก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะกลับมาช้าขนาดนี้ แม้ว่าซู หยวนเฟิงจะไม่ค่อยรอบคอบนักแต่เขาก็เป็นคนที่เชื่อถือได้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะยังไม่กลับมาแบบนี้นี่นา”
เมื่อเจิง ยี่ชานเห็นว่าหยาง เจียนหลิงโกรธ เขาก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่กล้าที่จะเถียงอะไรกลับไป ทั้งยังรู้ว่าน้องสาวตนหายไปรู้สึกแย่แค่ไหน
“แต่ไม่ว่าจะยังไงนะ พี่หลิง นี่ ทีมสนับสนุนมีเครื่องติดตามสัญญาณหรือเปล่า แสดงตำแหน่งของซู หยวนเฟิงกับหยาง เจียนซื่อให้พวกเขาเห็นที” พลันเจิง ยี่ชานก็คิดถึงเรื่องนี้ก่อนจะเอ่ยขึ้น
ทีมสนับสนุนมีเครื่องรับสัญญาณซึ่งจับสัญญาณสถานที่ที่สัญญาณส่งไป แล้วจากนั้นก็จะส่งไปช่วยผู้บาดเจ็บหรือไม่ก็ขนส่งเหยื่อกลับมา
“ก็ไม่เร็วนักหรอก” หลังจากนั้น พวกเขาก็มาถึงทีมสนับสนุน แต่ตำแหน่งของซู หยวนเฟิงไม่ได้แสดงขึ้นบนคอมพิวเตอร์ของทีมสนับสนุน
“เป็นอย่างงี้ได้ไปได้ยังไง ทำไมถึงไม่แสดงบนหน้าจอล่ะ” ยังไม่ทันที่เจิง ยี่ชานจะได้พูดอะไร หยาง เจียนหลิงก็คว้าตัวผู้นำของทีมอาสาสมัครมาก่อนจะตะโกนใส่
“พี่หลิง สัญญาณที่นี่อาจจะไม่ดีก็ได้หรือไม่ก็เป็นที่บอดสัญญาณ ผมก็เลยจับสัญญาณไม่ได้” หัวหน้าอธิบายอย่างร้อนรน
“อย่ามัวพูดมาก ถ้าไม่ขึ้นแบบนี้ ฉันก็ต้องหาวิธีอื่นโดยทันที และถ้าหาใครไม่เจอเลย ฉันก็จะทำลายบริษัทนี่ทิ้ง” หยาง เจียนหลิงว่าอย่างโกรธๆ
“พี่หลิง นี่...”
“อะไรอีกล่ะ เร็วเข้า เรียกคนพวกนั้นไปสิ” หยาง เจียนหลิงว่าขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด
“ไม่ได้ พี่หลิง นี่ก็เกือบจะมืดแล้ว พอตอนเย็น ผมจะไปตามหาคุณหนูรองที่ภูเขา ทั้งป่า ทั้งภูเขา มันจะไม่เหมือนกับการหาเข็มในกองฟางไปหน่อยหรือครับ
นอกจากนี้ คนพวกนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไป” เจิง ยี่ชานว่าขึ้นด้วยความรู้สึกอับอาย
“ฉันไม่สน แล้วอีกอย่างถ้าฉันไม่เจอน้องสาวของฉันภายในวันนี้ล่ะก็ พวกนายก็จะไม่ได้กลับกันเลยสักคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งนาย” หยาง เจียนหลิงชี้ที่จมูกของเจิง ยี่ชานพลางเอ่ยขึ้ย
“นี่มัน โอ๊ย...” คำพูดของหยาง เจียนหลิงทำให้เจิง ยี่ชานพูดอะไรไม่ออกเลย
“ก็ไม่รู้สินะว่าใครกำลังขัดใจฉัน จนต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับฉันได้ยังไง”
เจิง ยี่ชานทำอะไรไม่ถูกไปชั่วครู่ แต่เมื่อเขานึกถึงอาการมือหักของเจา หลงแล้วนั้น ซู หยวนเฟิงที่ยังคงคิดถึงเรื่องนี้อยู่ก็รู้สึกว่าตนโชคดีไป
เจิง ยี่ชานคิดวิธีอื่นไม่ออกไปชั่วครู่ เขาแค่ทำตามคำพูดของหยาง เจียนหลิง และเขาก็ไม่ต้องการขัดใจยัยป้าของตนด้วย โดยเฉพาะการที่มีคนเบื้องหลังอย่างเธอที่เป็นตัวคอยบังคับเขาอยู่
“เฮ้ย ทุกคน เงียบก่อนและฟังฉัน” เจิง ยี่ชานตะโกนเสียงดัง
“เกิดอะไรขึ้น ไปดูกันเถอะ” ผู้คนรอบๆเราต่างเข้ามารวมตัวกัน บางคนก็คิดว่าพวกเขากำลังจะประกาศลำดับที่ในการแข่งขันและมอบรางวัล พวกเขาจึงรีบกลับมา
ในขณะที่หลิน เฟิง หวัง หานและคนอื่นๆยังคงอยู่ที่เดิม
“สวัสดี ทุกคน หลังจากที่ล่ากันมาแล้ว ขึ้นลงเขากันมาคงเหนื่อยกันมากสิท่า ตอนนี้...”
เจิง ยี่ชานยังพูดไม่ทันจบ หยาง เจียนหลิงก็ขัดขึ้น
“เข้าประเด็นซักที อย่ามัวแต่พูดเรื่องอื่น” หยาง เจียนหลิงพูดขึ้นอย่างร้อนรน
“ใช่ๆ จริงด้วย” เจิง ยี่ชานพยักหน้าอย่างรีบๆ ก่อนจะพูดต่อ
“ใช่แล้วล่ะ ควรจะถึงเวลาประกาศลำดับการแข่งขันและมอบรางวัลให้ทุกคน แต่ทว่าเรามีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นครับ”
“อย่างแรก นายน้อยเจา หลง หนึ่งในผู้จัดการแข่ง ถูกหมูป่าโจมตีในการแข่งครั้งนี้และได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล”
“อย่างที่สอง ผู้สนับสนุนท่านอื่นๆ อย่างนายน้อยซู หยวนเฟิงนั้นก็ยังไม่กลับมา แล้วคนที่ไปกับเขาก็คือ หยาง เจียนซื่อ จนตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ชีวิตพวกเขากำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย ดังนั้นการแจกรางวัลจึงต้องระงับไปก่อนชั่วคราว”
ผู้จัดการแข่งขันทั้งสามท่าน สองคนไม่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้นการแจกรางวัลจึงต้องล่าช้าออกไปชั่วคราว
“นอกจากนี้ ผมยังหวังว่าพวกคุณจะช่วยเราออกไปที่ป่าเพื่อตามหานายน้อยซู หยวนเฟิงและคุณหยาง เจียนซื่อ” เจิง ยี่ชานพูดทุกอย่างในเฮือกเดียวจนแทบไม่หายใจ
“ว่าไงนะ นี่กี่โมงแล้วล่ะ อีกครึ่งชั่วโมงก็จะมืดแล้ว คุณยังจะให้พวกเราไปที่ป่าภูเขาเพื่อหาคนอีกงั้นหรือ ตลกแล้ว” ทันทีที่เจิง ยี่ชานพูดจบ ก็มีคนว่าขึ้นมาในทันที
“ใช่ๆ พวกเรานี่วิ่งรอบป่าภูเขาเลยนะ แล้วตอนนี้พวกเราก็เหนื่อยมากด้วย ใครจะไปเหลือแรงตามหาคนในภูเขาอีกล่ะ ไม่มีวัน”
“ใช่ๆ ไม่หาล่ะ ให้รางวัลมาเลยเร็วๆ เราจะได้กลับบ้านสักที” ถ้าใครบางคนไม่รอรับรางวัล พวกเขาก็จะกลับกันก่อนเลย
“ผมควรทำยังไงดี พี่หลิง พวกเขาก็เพิ่งออกมาจากป่า เหนื่อยกันไปหมด ไม่มีใครไปเลย” เจิง ยี่ชานว่าขึ้นด้วยท่าทีหมดหวัง
“ผมมีวิธีครับ” ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงๆหนึ่งแทรกเข้ามาในหูของทั้งสองคน และคนๆนั้นก็คือหลิน เฟิง
“นายงั้นหรือ” เจิง ยี่ชานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้เห็นหลิน เฟิง เพราะเขาเองลึกๆก็ประทับใจในตัวผู้ชายคนนี้อยู่เล็กน้อย
เมื่อหลิน เฟิงและเจา หลงเผชิญหน้ากัน เขาก็เห็นได้อย่างชัดเจน แม้แต่เขาเองยังไม่กล้าขัดใจเจา หลงแบบนั้นเลย ด้วยเหตุนั้นหลิน เฟิงจึงทำให้เขานึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อยในตอนนั้น
“นายเป็นใคร” ในตอนนั้นเอง หยาง เจียนหลิงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เชื่อหลิน เฟิงมากนัก หรือไม่งั้นเธอก็ไม่ได้ชื่นชมเขามากนัก
วันนี้ หลิน เฟิงใส่ชุดธรรมดา ดูเหมือนยาจก แต่เมื่อเธอมองเข้าไปในดวงตาของหลิน เฟิง เธอก็รู้สึกว่าชายคนนี้ให้ความรู้สึกบางอย่างที่เอ่ยออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
“ไม่ต้องสนหรอกครับว่าผมเป็นใคร แค่ขอให้รู้ไว้ว่าผมมาช่วยคุณ” หลิน เฟิงไม่ได้นึกโกรธกับอาการดูถูกของหยาง เจียนหลิงนัก เพียงแค่พูดอย่างใจเย็น
“บอกมา วิธีไหน...”
0 ความคิดเห็น