RC:บทที่ 42 สถานการณ์สุดเลวร้าย
“เออ ไม่ ไม่มีปัญหาเลยครับ นี่เป็นสุนัขล่าเนื้อที่แข็งแกร่งเสียจริงนะครับ ฆ่าหมูป่าสี่ตัวรวดในทีเดียวได้นี่ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ แถมแต่ละตัวก็มีน้ำหนักมากกว่า 200 จินเสียด้วย แต่ละตัวจะมีคะแนนห้าคะแนน รวมทั้งหมดเป็นยี่สิบคะแนน ดูสิ” หัวหน้าทีมสนับสนุนกล่าวขึ้น
“อืม รบกวนด้วยนะครับ” เมื่อหลิน เฟิงพูดจบเขาก็เดินจากไป
ในที่ที่หลิน เฟิงและคนอื่นๆอยู่นั้น มียานพาหนะหลายคันกำลังดึงเหยื่อกลับไปอยู่ โดยเหยื่อส่วนใหญ่นั้นจะเป็นกระต่าย ไก่ฟ้าไม่ก็เหยื่อตัวเล็กๆรวมถึงหมูป่าหายากขนาดเล็กและกลางหนึ่งหรือสองตัวและสัตว์อื่นๆ
“พี่หลิง นี่คือกระต่ายป่ากับหมูป่าขนาดกลางของคุณหนูซื่อเอ่อร์และนายท่านซู หยวนเฟิง ดูสิครับ ไม่เลวเลย” หัวหน้าทีมสนับสนุนว่าขึ้น
“อ๋อ เอ่อ ใช่ ก็ไม่เลวเลย แล้วพวกเขาโอเคดีใช่ไหม” หยาง เจียนหลิงถามขึ้น
“โอเคดีครับ เมื่อเรามาถึง พวกเขาต่างก็ไม่เป็นอะไร นอกจากนี้ มีคนปกป้องเธอมากมาย บอดี้การ์ดสองคนและหมาล่าเนื้อยักษ์ทั้งสามตัว ไม่ว่าอะไรก็ทำพวกเขาไม่ได้หรอกครับ” หัวหน้าทีมสนับสนุนกล่าวต่อ
“อ๋อ อืม ก็ดี แต่ยัยซื่อเอ่อร์เด็กน้อยคนนั้น ทั้งฉลาดและก็ดื้อ ฉันกลัวว่าซู หยวนเฟิงจะเอาเธอไม่อยู่น่ะสิ” หยาง เจียนหลิงกล่าว
ในความเป็นจริงแล้วนั้น หยาง เจียนหลิงไม่ได้นึกสนใจการล่าพวกนี้เลยสักนิด แต่น้องสาวของเธอ หยาง เจียนซื่อนี่สิที่ยืนกรานว่าจะมาให้ได้ และเธอก็เพิ่งเคยมาด้วย
เธอไม่อยากเดินไปมารอบๆป่า แมลงมีพิษ สิงสาราสัตว์ หินและไหล่เขาอยู่ที่ไหน แล้วฉันต้องทำยังไงถ้าเผลอไปบี้พวกมันเข้าโดยบังเอิญ
ดังนั้น เธอจึงเลือกที่จะอยู่กับทีมสนับสนุนแทนที่จะไปออกล่ากับน้องสาวของเธอและซู หยวนเฟิง แต่อย่างไรก็ตาม ยามนี้เธอชักจะกระสับกระส่ายเสียแล้ว ราวกับว่ากำลังจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น แต่เมื่อได้ยินว่าพวกเขายังอยู่ดี เธอก็รู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก
“ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว งั้นเดี๋ยวเราไปดูกันดีกว่าว่าคนเขาจับอะไรกันมาได้บ้าง” หยาง เจียงหลินเดินไปยังเหยื่อข้างหน้าอย่างช้าๆ
พลางสงสัยเมื่อได้เห็นเหยื่อตรงหน้า
มีเหยื่อทุกรูปแบบ มีตราไว้ในทุกๆที่รวมถึงหมายเลขบนตรานั้นที่บอกว่ามาจากใคร
หยาง เจียนหลิงเดินไปเดินมาข้างๆเหยื่อที่ส่วนใหญ่จะเป็นกระต่ายและไก่ฟ้า ส่วนหมูป่านั้นมีอยู่ไม่กี่ตัว
แต่อย่างไรก็ตาม ก้าวไปเพียงไม่กี่ก้าว ฉันก็เห็นหมูป่าซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 100 จินเป็นอย่างน้อย นี่เป็นหมูป่าขนาดกลางตัวแรกที่ฉันเห็นยกเว้นของซู หยวนเฟิง
“ใครเป็นคนล่าหมูป่า” หยาน เจียนหลิงถามชายคนที่วางเหยื่อใกล้ๆนั้นขึ้นอย่างไม่นึกสงสัย
“อ้าว พี่หลิง หมูป่าตัวนี้พี่ลั่ว หยวนเป็นคนล่ามาเอง เก่งมากๆเลยเนอะ จนตอนนี้ มีเพียงไม่กี่คนที่ล่าหมูป่าขนาดกลางแบบนี้ได้ คนที่ทำแบบนี้ได้มีแต่พวกมืออาชีพทั้งนั้น” ชายคนดังกล่าวคุยโว
“อ้อ” หยาง เจียนหลิงตอบกลับไปอย่างนิ่มๆ เพราะเธอไม่รู้ว่าการล่าหมูป่าแบบนี้มันลำบากแค่ไหน
โดยทั่วไปแล้ว หมูป่าขนาดกลางจำเป็นต้องใช้สุนัขล่าเนื้อถึงสามตัวในการจัดการรวมถึงทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์ในการทำเรื่องแบบนี้
อย่างที่ซู หยวนเฟิงเจอ หมูป่าเกือบจะทำให้สุนัขยักษ์สามตัวตู๋เกานั้นเผ่นแน่บไปซึ่งแสดงให้เห็นว่าการล่าหมูป่าขนาดกลางนั้นยากลำบากแค่ไหน
จากนั้น หยาง เจียนหลิงจึงก้มดูต่อ แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่ๆแล้ว เพราะเหยื่อส่วนใหญ่คือไก่ป่าและกระต่ายรวมถึงหมายเลขของทุกตำแหน่งนั้นมีขนาดตัวที่เล็กมาก
ตำแหน่งของพวกไก่ฟ้าหรือกระต่ายนั้นมีเยอะมาก หรือถ้าจะให้พูดก็คือคนที่ได้สามคะแนนนั้นต้องเป็นคนที่เก่งมากๆ
แต่ทันใดนั้นเอง เธอก็ได้เห็นหมูป่าตัวโตที่มีน้ำหนักถึง 200 จิน มีค่าห้าคะแนน ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกไม่เหมือนใคร
“ช่างเป็นหมูป่าที่ตัวโตอะไรแบบนี้ เขี้ยวสองข้างก็น่ากลัว ใครล่าพวกนี้มาเนี่ย” หยาง เจียนหลิงถามขึ้น
“เอ่อ คนที่ล่าคือคุณชานครับ ผมกล้าพูดได้เลยว่าเขาคือหนึ่งในผู้สมัครมาแรง เป็นตัวเต็งที่จะได้แชมป์ในครั้งนี้ สุนัขทั้งสามตัวของเขาคือมาสทิฟฟ์ทิเบตที่มาจากประเทศทิเบตจริงๆ การล่าจึงไม่ใช่ปัญหาครับ” ชายคนดังกล่าวตอบไป
“ใช่ครับ นายท่านเจิง ยี่ชานจึงอาจจะเป็นคนเดียวที่ล่าหมูป่าตัวใหญ่ได้ในตอนนี้” ชายอีกคนที่จัดวางเหยื่ออยู่เสริมขึ้น
“ไม่นะ ไม่ มานี่ มือของคุณหลงหัก พาเขาไปโรงพยาบาลเร็วเข้า”
“มีซี่โครงหักสองซี่ เร็วเข้า พาพวกเขาขึ้นไปโรงพยาบาล” ในขณะที่หยาง เจียนหลินมองเหยื่อที่อยู่บนพื้นอยู่นั้น รถออฟโรดก็ขับออกมาจากป่าอย่างรีบเร่ง แล้วก็มีคนยื่นคอออกมาจากหน้าต่างแล้วตะโกนขึ้น
รถพยาบาลที่เตรียมไว้แล้วนั้นก็วิ่งเข้ามารับเจา หลงและเจา จินไปโรงพยาบาลในทันที
“เกิดอะไรขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนี่ คุณหลง บาดเจ็บแบบนั้นได้ยังไง เขาก็อยู่กับสุนัขสามตัวนั่นไม่ใช่หรือ” ชายคนหนึ่งถามขึ้น
“ที่คุณพูดถึงก็คือหมาสามตัวนั่นใช่ไหมครับ” หัวหน้าจากรถสนับสนุนเปิดประตูรถก่อนจะชี้ไปที่รถ
ร่างของสุนัขสามตัวนอนตายอยู่ในรถคันดังกล่าว ถูกกินเสียครึ่งตัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าหมานักกัด หรือที่เรียกว่าสุนัขจอมกัดจ่าฝูงทั้งสองตัวได้สูญเสียร่างกายของมันไปเหลือเพียงแต่หัวๆเดียวที่หยิบมาได้
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง”
เมื่อพวกเขาได้เห็นรูปนี้ ก็ถึงกับสูดหายใจเอาอากาศเย็นเข้าไป หมูป่าแบบไหนที่พวกเขาเจอและการต่อสู้แบบไหนที่ทำเอาพวกเขาบาดเจ็บก่อนจะถ่ายรูปพวกนี้กัน
“คุณหลง พวกเขาอาจจะเจอเข้ากับฝูงหมูป่า”
ในความเป็นจริง คนที่เห็นทุกอย่างของเรื่องนี้คือหลิน เฟิง หมูป่าที่เป็นจ่าฝูงเป็นตัวลงมือฆ่าสุนัขจ่าฝูงสิบสมัยนั้นด้วยน้ำหนักกว่า 300 จิน มันเข้าไปกินอวัยวะภายในและร่างกาย เหลือทิ้งหัวไว้เพียงอย่างเดียว
ส่วนตัวที่เหลือก็มีสภาพเกือบจะเหมือนกัน ร่างกายถูกกินไปไม่มากก็น้อย
“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้นน่ะ ขอฉันดูหน่อย” หยาง เจียนหลิงเห็นว่าผู้คนมารวมตัวกันพลางรีบมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉันก็ไม่รู้ว่าถ้าฉันได้ดู มันจะกลายเป็นความกลัวแรกพบไปได้
มีร่างของสุนัขสามตัว ทุกตัวอาบไปด้วยเลือด มีหลุมใหญ่บริเวณหน้าท้องซึ่งมีทั้งเครื่องในและอวัยวะภายใน ช่างน่าขยะแขยง
สุนัขตัวที่ใหญ่ที่สุดไม่เหลือร่างกายแล้ว มีเพียงหัวและคอที่ถูกขย้ำพร้อมกลิ่นเหม็นเน่าโชยมา
“อ้วก”
เมื่อหยาง เจียนหลิงเห็นภาพตรงหน้า เธอก็อาเจียนออกมา เกือบจะเป็นลม แต่โชคดีที่ใกล้ๆนั้นมีคนรับใช้รับเธอไว้อยู่
“โทรหาซื่อเอ่อร์ เร็วเข้า บอกให้กลับมาเร็วๆ พวกเราจะกลับกันแล้ว ที่นี่อันตรายเกินไป” ในตอนนั้นเอง หยาง เจียนหลิงก็คิดถึงน้องสาวของตน หยาง เจียนซื่อ ขึ้นมาในทันที เพราะเธอกลัวว่าอาจจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ
“ครับ คุณหนู”
“ตรู๊ดๆ ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้” แต่ทว่า เมื่อคนรับใช้โทรออกไป กลับติดต่อไม่ได้
“ตรู๊ดๆ ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้” จากนั้น ฉันจึงโทรหาซู หยวนเฟิงอีกครั้ง แต่ก็ติดต่อไม่ได้อยู่ดี
“คุณหนูครับ ผมติดต่อไม่ได้ ในภูเขาอาจไม่มีสัญญาณก็ได้นะครับ” คนรับใช้ตอบกลับไป
สิ่งนี้ทำให้หยาง เจียนหลิงกังวลมากยิ่งขึ้น แต่เธอก็เลือกไม่ได้นอกจากต้องรอ
“โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ แล้วฉันจะทำยังไงดี ทำอะไรดี”
หยาง เจียงหลินไม่เคยรู้สึกกังวลมากขนาดนี้ แต่ตอนนี้เธอได้เห็นมือของเจา หลงที่หัก ซี่โครงเจา จินหัก และสถานการณ์เลวร้ายที่สุนัขล่าเนื้อพวกนั้นได้เจออีก เธอจึงเป็นกังวลอย่างช่วยไม่ได้
0 ความคิดเห็น