CF:บทที่ 251 คลื่นลมมักสงบก่อนพายุจะมา

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 251 คลื่นลมมักสงบก่อนพายุจะมา


บางครั้งสิ่งต่างๆล้วนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากเสียจนต้องกลับมาเริ่มต้นกันใหม่


การแข่งขันปัญญาประดิษฐ์เป็นเรื่องที่คุยกันไม่รู้จบแม้จะผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ อิทธิพลจากเรื่องดังกล่าวยังไม่จางหาย กูเกิลเองก็สูญเสียไปมากกับการแข่งครั้งนี้


เมื่อถึงเดือนสิงหาคม อู๋ ฮ่าวเหริน กำลังจะปล่อยข่าวเรื่องเครื่องยนต์ แต่เขากลับได้รับข่าวที่คาดไม่ถึงเสียก่อน


“คุณแน่ใจใช่ไหมว่าทางรัฐจะส่งคนมาจัดการกลางเดือนนี้เลย”


อู๋ ฮ่าวเหริน เองก็คาดไม่ถึงว่าจื่อหยงจะโทรหาอู๋ฮ่าวเหรินและถึงเขาจะได้รับแจ้งล่วงหน้าแล้วแต่ก็ยังรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้รับข่าวเช่นนี้อยู่ดี


“ยืนยันแล้วว่าข้อมูลที่ผมได้มา มาจากรัฐ บันทึกเรื่องนี้ไว้ด้วยนะ แล้วจากนั้นเราก็จะร่วมมือกับประเทศเพื่อที่จะประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ออกไป เราต้องดิ้นรนที่จะผลักดันวัสดุเส้นใยพืชออกไปในครั้งเดียว ถ้าเป็นแบบนั้นประเทศพวกนั้นก็จะไม่มีเครื่องจักรย้อนศรมาหาเรา”


ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งยาก ถ้าโรงงานวัสดุเส้นใยพืชเคยได้รับการปล่อยออกไปแล้วครั้งหนึ่ง บริษัทพลาสติกหลายๆที่จะต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน


อิทธิพลจากเรื่องนี้ทำให้ใครหลายๆคนตื่นตกใจและมีแนวโน้มที่จะเกิดความปั่นป่วนในตลาดนานาชาติ


“เข้าใจล่ะ เดี๋ยวคุณแจ้งผมด้วยถ้างั้น แล้วเดี๋ยวผมจะเผยแพร่ข้อมูลของวัสดุเส้นใยพืชนี้ให้เลย”


อู๋ ฮ่าวเหรินไม่รู้ว่าประเทศต้องการจะทำอะไรกับวัสดุเส้นใยพืชนั้นแต่ที่เขามั่นใจแน่ๆก็คือตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว


อย่างที่อู๋ ฮ่าวเหรินคิดไว้ ตอนนี้ประเทศต้องการการปฏิบัติการครั้งใหญ่จริงๆเพื่อจะทำให้มั่นใจว่าข้อมูลจะไม่ถูกเปิดเผย โดยเรื่องต่างๆมีกองทัพเป็นผู้จัดการโดยตรง


เมื่อต้องเจอกับสถานการณเช่นนี้ อู๋ ฮ่าวเหริน ก็พร้อมที่จะเลื่อนการประชาสัมพันธ์เทคโนโลยีเครื่องยนต์ออกไป แผนจัดการเรื่องวัสดุเส้นใยพืชจะเริ่มขึ้น เมื่อเรื่องนี้ถูกปล่อยออกไป และพอถึงตอนนั้นก็จะไม่มีผลกระทบมากนัก


เนื่องด้วยเรื่องนี้ อู๋ ฮ่าวเหรินจึงวางงานตรงหน้าก่อนจะขอให้หุ่นยนต์ผู้ช่วยตัวใหม่ช่วยเขาทำชิ้นส่วนหุ่นยนต์และเตรียมตัวพักผ่อน


...


ในตอนเช้า พนักงานฟิวเจอร์กรุ๊ปต่างรวมตัวกันที่จัตุรัส บางคนก็พาลูกและครอบครัวมาด้วย


“วันนี้เจ้านายขอให้เรามาชิมอาหารอร่อยๆนายรู้ไหมว่าเป็นอาหารอะไร”


“ไม่รู้สิ ก็สงสัยอยู่ แต่ไม่ว่าเจ้านายจะนำอะไรมา ของนั้นต้องเป็นของดีแน่นอน”


“ที่รัก


นี่เป็นข้อตกลงที่ยอดเยี่ยมสำหรับฟิวเจอร์กรุ๊ปของคุณเลยนะคะ ฉันเองก็สามารถมาเวลาไหนก็ได้ “ หญิงสาวมองสภาพแวดล้อมในการทำงานของกลุ่ม อดอิจฉาไม่ได้


ที่นี่มีต้นไม้วางกันเรียงรายรวมถึงพืชล้ำค่าต่างๆ


บางชนิดนั้น อู๋ ฮ่าวเหริน ก็นำมาจากเกษตรกร


“ไม่มีงานในบริษัทงานไหนที่เหมาะสมกับคุณหรอก แต่ถ้าในอนาคตมีงานที่เหมาะสมกับคุณล่ะก็ผมจะแจ้งคุณเป็นลำดับแรกเลย เอาล่ะ ถ้าคุณหางานทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำงาน เพราะยังไง เงินเดือนของผมก็สามารถเลี้ยงคนได้ทั้งครอบครัวเลย”


“ไม่ล่ะ อยู่บ้านมันน่าเบื่อจะตาย”


หญิงวัยกลางคนกล่าวกับบุตรสาว “ฟังนะ นี่คือฟิวเจอร์กรุ๊ป แม่ทำงานที่นี่ แถมเงินเดือนก็สูงกว่าของลูกในทุกๆเดือนอีก”


 “โธ่ แม่ อย่าว่าหนูแบบนี้สิ ถ้าหนูเข้าร่วมฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ล่ะก็ พวกเขาต้องจ่ายเงินให้หนูมากกว่าแม่แน่ๆ แล้วก็นะแม่ บรรยากาศที่นี่คือดีมากจริงๆ หลังเลิกงานหนูคงไม่ชินกับบรรยากาศข้างนอกแน่ๆ”


หลิว เหมยหรู่เดินไปพลางเอ่ยขึ้น “ขึ้นมา ใครๆเขาก็ขึ้นมาบนรถบัสหมดแล้ว เอาล่ะ ไปกันเลย”


“พี่หลิว เจ้านายไม่ยอมเปิดบริษัทจัดเลี้ยงจริงๆสินะ ใช่ไหม” ลู่ เผิงเฟยถามขึ้น


“ใครจะไปรู้ นายอาจคิดเรื่องนี้มาก่อนแล้วก็ได้”


ที่ที่พวกเขาจะไปวันนี้คือฟาร์มที่ อู๋ ฮ่าวเหรินเช่าพื้นที่หยวนหมิงหยวนไว้ในตอนที่ปลูกพืชจากอวกาศเพื่อใช้เป็นอาหาร


แต่ตอนนี้ ภูเขาที่ล้อมรอบพื้นที่บริเวณนั้นมีการปลูกพืชหลายชนิดและได้รับการดูแลเป็นพิเศษ


ข้างนอกฟาร์ม ยังมีหมู่บ้านที่สร้างขึ้นอีกหลายหลังซึ่งเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับช่วงหน้าร้อน


ในภายภาคหน้า ทางกลุ่มจะกลายเป็นฐานแจกจ่ายอาหาร ภูเขาและพื้นดินที่ล้อมรอบนั้นอู๋ ฮ่าวเหรินจับจองไปแล้วโดยสมบูรณ์


เพียงเชื่อมต่อหยวนหมิงหยวนเวียนกันเป็นรูปวงกลม


นายอำเภอในอำเภอหยุนหลงได้ทำสัญญาในพื้นที่นี้ให้กับอู๋ ฮ่าวเหรินโดยตรง และเขาก็รู้ว่าอู๋ ฮ่าวเหรินต้องการที่จะตัดผ่านถนนจากฟิวเจอร์กรุ๊ปไปยังหยวนหมิงหยวน


ตราบใดที่เขาไม่มาทำลายพืชผักในหุบเขานี้มากนัก ก็ไม่มีปัญหา


 “ที่นี่สวยใช่ไหมล่ะ แล้วสร้างขึ้นเมื่อไหร่กันนะ ไม่รู้เรื่องเลย”


“สวยมากเลยค่ะ เจ้านาย แล้วนี่กำลังจะสร้างสวนขนาดใหญ่ขึ้นด้วยใช่ไหมคะ”


ลิว หมิงเยว่มองทิวทัศน์โดยรอบด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เธอรู้มาว่าเจ้านายเป็นคนซื้อที่แห่งนี้ แต่เธอก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะปลูกพืชพรรณที่นี่ด้วย


“ทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว เร็วเข้าเถอะ ส่วนประกอบของพวกคุณพร้อมแล้ว และเราก็มีวิธีที่จะจัดการกับส่วนผสมพวกนี้รวมถึงวิธีปรุง ก็แบบนี้ล่ะ ถ้าอยากกินก็ต้องทำเอง”


อู๋ ฮ่าวเหรินนั่งลงตรงนั้น แต่งกายด้วยชุดตัวเก่าไม่เหลือภาพของเจ้านายเลยสักนิด แต่ดูเหมือนเกษตรกรมากกว่า มีชุดย่างบาร์บีคิวตรงหน้าและเขาก็กำลังอบพืชลักษณะแปลกๆ


ภาพเช่นนี้ของอู๋ ฮ่าวเหริน เป็นที่ชินตาของลูกจ้าง แต่ในขณะที่บรรดาสมาชิกครอบครัวที่ติดตามมาล้วนมองอู๋ ฮ่าวเหริน ด้วยสายตาแปลกๆ ไม่เข้าใจถึงภาพลักษณ์ของเขาในตอนนี้


ไม่นาน ส่วนประกอบของที่นี่ต่างก็ดึงความสนใจของพวกเขาไปเพราะพวกตนไม่เคยพบเจอมาก่อน


“พี่หลิว นี่คืออะไรหรือคะ” โจ้ว หลานถามขึ้นพลางถือจานที่ดูเหมือนหัวไชเท้าแต่มีผิวที่หนา


 “ตัวนั้นไม่ได้เป็นที่รู้จักนัก โจวอี้ มันคือเจนโล”


“หนูเห็นชื่อของมันแล้ว แต่ทำไมหนูถึงไม่เคยเห็นอาหารแบบนี้มาก่อนเลย”


“เพราะเจ้านายเป็นคนพัฒนามันขึ้นมาเอง เธอก็ต้องไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่แล้วจ้ะ ดูผลการทดสอบนี่สิ ยิ่งกินเธอก็จะยิ่งโตไวนะ”


โจ้ว หลานมองข้อมูลที่ อู๋ ฮ่าวเหรินขอให้ผู้คนทดสอบอยู่ข้างๆพืชชนิดหนึ่ง ก่อนจะมองไปยังสถานที่ที่ หลิว เหมยหรู่ชี้ไป เธอรู้สึกดดัน จากนั่นจึงพาโจ้วหลานเดินไปสถานที่ที่ใช้ส่วนประกอบเหล่านี้


อู๋ ฮ่าวเหรินจะไม่นำส่วนประกอบออกไปจากที่นี่ เว้นเสียแต่ว่าทุกอันจะต้องนำไปให้คนในบริษัทกินกันเท่านั้น


เมื่อได้เห็นส่วนประกอบแปลกๆพวกนี้ ทุกคนก็เริ่มมีปฏิกิริยา แม้ว่าพวกเขาอยากรู้ว่าส่วนประกอบพวกนี้เอามาจากที่ไหนแต่ก็ไม่มีใครเอ่ยปากถาม


ไม่ช้า พนักงานในส่วนทั้งของพื้นที่ปรุงอาหารก็เริ่มแสดงทักษะอันล้ำเลิศในการทำอาหาร ซึ่งรับรองว่ามีบางคนที่ไม่สามารถหากินแบบนี้ได้ที่ไหนแน่นอน


เป้าหมายของ  อู๋ ฮ่าวเหริน ในวันนี้นั้นช่างเรียบง่าย เพียงแค่มั่นใจว่าอาหารนั้นจะถูกปากทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับขั้นตอนถัดไปที่จะปลูกพืชที่นี่ยังคงต้องตัดสินใจอยู่


เมื่อได้ยินว่าอาหารอร่อย เขาเพียงแค่ยิ้ม ในตอนนี้มีส่วนประกอบอยู่ไม่มากนักที่มาจากซองแดง มีเพียงแปดชนิด


ยิ่งไปกว่านั้น เขาเลือกแต่เฉพาะวัตถุดิบบางตัวในแปดชนิดซึ่งคล้ายคลึงกับพืชบนโลก ดังนั้น แม้ว่าคนอื่นๆจะเห็นพืชพรรณพวกนี้ พวกเขาก็จะได้ไม่แปลกใจ


ผลสุดท้ายปรากฏว่ามีส่วนประกอบจากพืชสองชนิดเท่านั้นที่ดูจะไม่ถูกปากทุกคน


มื้ออาหารทดลองอันประสบความสำเร็จนี้ทำให้พนักงานต่างพึงพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขารู้ว่าส่วนผสมนั้นจะกลายเป็นส่วนประกอบพิเศษสำหรับบริษัทของฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกเขาจึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ


พวกเขาคิดว่าอู๋ ฮ่าวเหรินจะใช้ส่วนผสมเหล่านี้เพื่อเริ่มกิจการบริษัทรับจัดเลี้ยง


จากฟาร์มกลับมาถึงบ้าน อู๋ ฮ่าวเหรินจึงเข้าระบบซองแดง วันนี้ เขาอยากจะจบเหรียญพลังงานที่จุดสุดท้ายแล้วจากนั้นจึงค่อยอัพเกรด


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น