CF:บทที่ 395 โศกนาฏกรรมของญี่ปุ่น

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 395 โศกนาฏกรรมของญี่ปุ่น

 

ข้อมูลที่ถูกปล่อยมาก่อนหน้านี้พวกเขายังสามารถที่จะพูดแถออกไปได้, แต่วิดีโอที่ถูกปล่อยออกมาในคราวนี้มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าเป็นการตัดต่อขึ้นมา

 

ในวิดีโอนี้ค่อนข้างโหดร้ายเกินไปนิดหน่อย, มีคนที่ถูกฆ่าในวิดีโอที่ถูกปล่อยออกมาในรอบนี้ด้วย

 

โดยเฉพาะหลังจากที่หุ่นยนต์สัตว์ประหลาดพวกนั้นปรากฏออกมา, ผู้คนต่างอดไม่ไหวที่จะกำหมัดแน่น และรู้สึกอยากที่จะต่อยหน้าคนขึ้นมา

 

"ต้องฆ่า, ฆ่าคนพวกนี้แม่งให้หมด, นี่มันไร้มนุษยธรรมแล้ว, มันไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉานเลยไม่ใช่รึไง?"

 

"มันโหดร้ายเกินไปแล้ว, ผมไม่รู้หรอกนะว่าคนเหล่านี้มีความรู้สึกรู้สากันบ้างมั๊ย? บ้าเอ๊ย, ผมอยากที่ฆ่าไอ้สัตว์พวกนี้แล้ว"

 

"คนพวกนี้ตายหมดแล้วล่ะ, แต่คำถามคือตอนนี้ไม่ว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะออกมาแถลงการณ์อะไร, ศูนย์วิจัยนี้จะต้องตั้งโดยรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างแน่นอน อาจรวมถึงให้การสนับสนุนโดยรัฐบาลญี่ปุ่นเองด้วย"

 

"ไอ้พวกรัฐบาลญี่ปุ่น, ถ้าพวกเขายังจะกล้าบอกว่าวิดีโอพวกนี้ตัดต่อและเป็นหลักฐานปลอมอีก, พวกเขาก็คงตาบอดแล้วล่ะ? พวกคนที่ฆ่าคนในวิดีโอก็เป็นเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นในข้อมูลก่อนหน้า, และท้ายที่สุดก็นักวิจัยนั่น ก็เป็นไอ้โรคจิตที่เสนอการวิจัยนี้ขึ้นมา"

 

"พวกเขาไม่ยอมรับมัน ทั้งๆที่มีประเทศมากมายยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้, โดยเฉพาะที่โดนหนักสุดเลยคือผู้ลี้ภัยจากประเทศตะวันออกกลาง, พวกเขาคิดว่าพวกเขานั้นได้ไปยังที่ปลอดภัยและจะมีชีวิตที่ดีขึ้น, แต่สุดท้ายก็กลับกลายเป็นนรก"

 

เมื่อเผชิญเข้ากับวิดีโอนี้ และข้อมูลที่เผยแพร่ออกมารอบนี้, ผู้คนมากมายก็ได้ออกมาเดือดดาลกันอย่างมากและเรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้

 

ประเทศต่างๆที่สนับสนุนญี่ปุ่นและโจมตีจีนก็ได้พากันเงียบในทันที

 

เนื้อหาของวิดีโอนี้ค่อนข้างช็อคโลกอย่างมาก, และภาพก็ยังบอกได้อย่างชัดเจนถึงเหตุการณ์นี้

 

ในตอนนี้เหล่าคนที่ยังยืนกรานอยู่ข้างญี่ปุ่น, เมื่อเรื่องนี้ถูกยืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องจริง พวกเขาก็ได้ถูกตีหน้าว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ก็มีผู้คนจากบางประเทศที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อนั้นด้วย, ในตอนนี้พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องของคนที่หายสาปสูญแล้ว, พวกเขาต่างก็ค้นหาว่าคนพวกนี้ได้ถูกพาตัวไปโดยญี่ปุ่นเพื่อไปเป็นตัวอย่างการทดลองปีศาจนี้หรือเปล่า

 

ตอนนี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นต่างก็กระวนกระวาย, เพราะวิดีโอเหล่านี้ได้ผลักพวกเขาไปสู่ขอบเหวแล้ว

 

พวกประเทศต่างๆที่เคยออกมาสนับสนุนพวกเขาต่างก็พากันเงียบในเวลานี้, และมีบางประเทศที่ได้ถามมาเป็นการส่วนตัวว่าพวกเขาได้ทำการทดลองนี้จริงๆหรือไม่

 

ญี่ปุ่นรู้ดีว่าผลจะออกมาอย่างไร ถ้าเรื่องนี้ได้เป็นที่รู้กันทั่วเมื่อไร, ผลลัพท์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร

 

ดังนั้น,

พวกเขาจึงได้รีบปล่อยข่าวและออกมายืนกรานว่าวิดีโอและข้อมูลทั้งหมดบนโลกอินเตอร์เน็ทนี้เป็นหลักฐานปลอมที่ปล่อยออกมาโดยบางประเทศที่มีแรงจูงใจแอบแฝง

 

ทางสหรัฐอเมริกา, ซึ่งตอนแรกออกมาสนับสนุนรัฐบาลญี่ปุ่น, ได้ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก, เพราะพวกเขานั้นได้ร่วมมือกับญี่ปุ่นในปฏิบัติการทางทหารในการข่มขู่จีนไปแล้วด้วย

 

และตอนนี้ข่าวก็ได้รายงานว่ารายชื่อผู้สูญหายที่ออกมานี้, มีคนอเมริการวมอยู่ด้วย, ถ้าพวกเขาไม่เข้าตรวจสอบเรื่องนี้, มันจะให้ผู้คนในประเทศโกรธาแน่

 

ปัญหาคือรัฐบาลอเมริกาได้ทำการศึกษาจากข้อมูลและวิดีโอที่ถูกปล่อยออกมาบนโลกออนไลน์แล้วว่าญี่ปุ่นเป็นคนทำจริง

 

ณ เพนตาก้อน, มีกลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังหารือกันถึงเรื่องนี้อยู่

 

"ท่านประธานาธิบดีครับ, พวกเราควรที่จะทิ้งระยะห่างออกจากญี่ปุ่นเสียตอนนี้เลยนะครับ, ถ้าเรื่องนี้ได้รับการยืนยันขึ้นมา มันจะส่งผลมาถึงพวกเราด้วย, ยิ่งไปกว่านั้น ในรายชื่อนั้นมีพลเมืองอเมริการวมอยู่ด้วยนะครับ"

 

"ผลกระทบของเรื่องนี้หนักมาก, โดยเฉพาะผู้คนที่ทำการทดลองนี้, จากข้อมูลที่เผยแพร่ออกมา มีไม่ต่ำกว่า 1,000 คนที่ถูกฆ่าในการทดลองของรัฐบาลญี่ปุ่นนี้, บางทีอาจจะมีบางคนที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในวิดีโอพวกนี้ด้วยก็ได้"

 

"ปัญหาในตอนนี้คือพวกเราได้เข้ามายุ่งเกี่ยวและการสนับสนุนพวกเขาอยู่, ในเวลานี้ ถ้าพวกเราไม่ถอนเรือรบของพวกเราออกมา ญี่ปุ่นก็จะเป็นปัญหาได้, และถ้าญี่ปุ่นโดนคว่ำบาตรเพราะเรื่องนี้, พวกเราจะไม่สามารถพี่งพาญี่ปุ่นต่อต้านจีนได้อีก"

 

"อันดับแรก, หยุดพักปฎิบัติการทางทหารในญี่ปุ่นก่อน, จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง, พวกเราจะต้องลดปัญหาที่จะตามมาให้มากที่สุด, พร้อมกันนั้นก็ส่งคนไปที่ญี่ปุ่นเพื่อไปถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

ขณะที่ทางสหรัฐกำลังหารือเรื่องนี้กันอยู่, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้เปิดเผยข้อมูลสุดท้ายออกมา

 

ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากคอมพิวเตอร์ในฐานทัพนั้น, ญี่ปุ่นต้องการที่จะใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อที่จะสร้างหุ่นยนต์และครอบครองโลก

 

มีแผนการนี้เขียนไว้โดยละเอียดด้วย, โดยเฉพาะเป้าหมายแรกในการโจมตีนั้นไม่ใช่จีน, แต่เป็นพันธมิตรอย่างสหรัฐอเมริกา

 

ยิ่งไปกว่านั้น, เนื้อหาที่ปรากฏออกมานั้นคล้ายคลึงกับตอนที่ญี่ปุ่นกำลังวางแผนโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ในสงครามโลกครั้งที่ 2, แต่ทว่าที่พวกเขาจะโจมตีนั้นไม่ใช่เพิร์ลฮาร์เบอร์ แต่เป็นเพนตาก้อนของสหรัฐอเมริกา

 

พวกเขาต้องการที่จะเข้าควบคุมเจ้าหน้าที่รัฐบาลทั้งหมดของอเมริกาด้วยแผนโจมตีกระทันหัน แล้วจากนั้นก็จะบรรลุผลในการเข้าควบคุมสหรัฐ

 

ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่น, ในตอนแรกจะออกมาปฏิเสธในเรื่องนี้ และประณามข่าวลือนี้

 

แต่ในเวลานี้, รัฐบาลสหรัฐนั้นยินดีอย่างมาก, ถ้าเรื่องการทดลองลับของญี่ปุ่นนี้เป็นเรื่องจริง พวกเขาก็จะสามารถอ้างได้ว่าสหรัฐไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้

 

ในขณะเดียวกัน, พวกเขาเองก็โกรธญี่ปุ่นที่ต้องการจะทำเช่นนี้ด้วยเช่นกัน

 

เรือรบสหรัฐได้เริ่มถอนตัวออกจากน่านน้ำใกล้จีน, เรือรบเหล่านี้มุ่งหน้าไปยังน่านน้ำญี่ปุ่นแทน ซึ่งแน่นอนว่าหมายถึงการขู่ญี่ปุ่น

 

แน่นอนว่า เป็นเพราะทางรัฐบาลสหรัฐเองก็ได้กังวลถึงข้อมูลสุดท้ายที่ออกมานี้ด้วย, และเป็นการแจ้งเตือนไปยังญี่ปุ่นว่าพวกเขาสามารถถล่มญี่ปุ่นได้ตลอดเวลาถ้าพวกเขาไม่ซื่อสัตย์

 

นายกของญี่ปุ่นได้รีบร้องขอพบกับประธานาธิบดีสหรัฐ แต่เขาก็ปฏิเสธ, ทางสหรัฐเองก็ต้องการที่จะอัดรัฐบาลญี่ปุ่นเหมือนกัน

 

ในเวลานี้, ไม่มีใครที่สนใจเรื่องปัญหาเรื่องหุ่นยนต์จีนโจมตีญี่ปุ่นอีกแล้ว, ตอนนี้ทุกคนต่างก็ต้องการที่จะรู้ว่าญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยที่ไร้มนุษยธรรมนี้จริงๆหรือไม่

 

ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะออกมายืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง, แต่เรื่องบางอย่างก็ไม่อาจปกปิดเอาไว้ได้

 

ยกตัวอย่างเช่น, ในตอนที่เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นรีบรุดหน้าไปที่ฐานทัพลับเพื่อทำการช่วยเหลือนั้น ก็ได้มีผู้ลี้ภัยตะวันออกกลางบางคนที่ถูกส่งมาที่ฐานทัพลับนั้นได้หลบหนีออกไป

 

เมื่อข่าวเรื่องนี้ได้ปรากฏขึ้นมา, พวกเขาก็เข้าใจว่าที่ๆพวกเขากำลังจะถูกพาตัวไปนั้นเป็นเช่นไร

 

ข้อมูลที่ถูกปล่อยออกมาโดยคนเหล่านี้นั้นได้ลุกไปไวราวกับจุดไฟบนน้ำมันเบนซิน, ซึ่งทำให้น้ำมันเบนซินลุกติดไฟในทันที

 

และเมื่อมีการขุดคุ้ยมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ, หลักฐานทั้งหมดก็ได้บ่งชี้มาว่ามีบางอย่างผิดปกติกับฐานทัพลับของญี่ปุ่น

 

ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็ตื่นตระหนกกับเรื่องนี้เพราะมีหลายประเทศที่เรียกร้องให้ญี่ปุ่นออกมาชี้แจงในเรื่องนี้

 

ต่อจากนี้ก็คงไม่ต้องให้อู๋ฮ่าวเหรินชี้นำแล้ว, เขาเชื่อว่าประเทศเหล่านั้นและผู้คนจะสามารถหาความจริงได้เอง และทำให้ญี่ปุ่นตกอยู่ในปัญหาแน่

 

เมื่อใดที่เรื่องของการทดลองในญี่ปุ่นนั้นได้รับการยืนยันแล้ว, จะต้องมีคนที่จะต้องออกมารับผิดชอบอย่างแน่นอน

 

ด้วยการก้าวก่ายของสหประชาชาติ, ญี่ปุ่นก็ตกอยู่ในสถานะที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว, ในเวลานี้ทางรัฐบาลจีนเองก็ได้เข้ามาร่วมด้วย เพื่อเป็นการตอบสนองต่อการให้ร้ายรัฐบาลจีนของรัฐบาลญี่ปุ่น พวกเขาจึงได้ขอเข้าร่วมกับทีมสอบสวนของสหประชาชาติด้วย

 

เมื่อเรื่องนี้ไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไปแล้ว, ในตอนแรกเจ้าหน้าที่รัฐบาล 3 คนได้ออกมาทำเซ็ปปูกุและทิ้งคำสารภาพเอาไว้, ได้พูดถึงสิ่งที่พวกเขาได้ทำลงไป, และตอนนี้พวกเขาก็ได้ขอบคุณในการตายของพวกเขา

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่อีก 4 คนรวมถึงนักวิจัยบางคนได้ออกมาทำเซ็ปปูกุและเขียนคำสารภาพทิ้งไว้ด้วยเช่นกัน

 

นี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้สถานการณ์นี้เย็นลงได้

 

จากนั้นทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ออกมาขอโทษสาธารณชนและยืนยันว่ามีการวิจัยเรื่องนี้จริง, ซึ่งมีบางเจ้าหน้าที่ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นควบคุมการสืบสวนหาบุคลากรที่เกี่ยวข้อง, รวมถึงผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ทั้งหมด


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น