CF:บทที่ 252 จับกลุ่มเพื่ออัพเกรด

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 252 จับกลุ่มเพื่ออัพเกรด


ในช่วงนี้อู๋ ฮ่าวเหรินพบกับปัญหาก็คือเมื่อปริมาณของของโบราณมีจำนวนที่แน่นอน เหรียญพลังงานที่ใช้ประเมินค่าก็จะลดต่ำลง


เขารู้สึกสับสนเมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ หลังจากได้ปรึกษากับระบบซองแดง เขาจึงได้เข้าใจและกลายเป็นว่าการคำนวณค่าในระบบซองแดงสำหรับของโบราณนั้นก็ใช้แบบเดียวกันกับของโลกและไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียมากขึ้นด้วย


สิ่งเดียวที่มีค่าต่อการวิจัยคือการประเมินครั้งแรกอาจจะใช้ 10000 เหรียญพลังงาน ส่วนครั้งที่สองอาจต้องใช้มากกว่านั้นอีกหลายเหรียญ


และนี่ทำให้อู๋เข้าใจว่าถ้าคุณต้องการใช้เหรียญพลังงาน ก็จำเป็นที่จะต้องหาของโบราณชนิดพิเศษ


อย่างเช่น ของจำพวกที่ใช้เป็นอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงอย่างรูปปั้นเทพีเสรีภาพในสหรัฐอเมริกา โนทเทรอะดามที่ปารีส พีระมิดในอียิปต์ ฯลฯ สามารถใช้แลกแปลี่ยนเหรียญพลังงานได้มากถ้าของพวกนั้นถูกรื้อถอนและจับโยนไปในระบบ


จากสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มา อาคารที่มีชื่อเสียงที่อยู่บนโลกพวกนี้มีอันต้องพังทลายลงจากภัยพิบัติ


ตราบเท่าที่ตึกพวกนี้ถูกทำลาย พวกมันก็จะเปลี่ยนเป็นเหรียญพลังงานจากของเหล่านั้น


“มีอะไรใหญ่ๆไหมวันนี้”


“พ่อค้าของเก่าออนไลน์อยู่ ไม่ได้มีเรื่องอะไรใหญ่โตเกิดขึ้นในโลกมนุษย์ แต่ว่า มีคนบอกว่ามีอารยธรรมขนาดกลางระดับสองที่สู้กันเพื่อชิงเขตแดนดวงดาว”  สมองกลพูดขึ้น


ในเวลานี้ พ่อค้าพลังงานยังกล่าวอีกว่า “ก็จริงอยู่ที่เรือพ่อค้ากำลังไปดาวนั่นเพื่อขายหินพลังงาน ในสงครามแบบนี้ หินพลังงานล้วนเป็นที่ต้องการค่อนข้างมากและยังทำเงินในช่วงนี้ได้เยอะอีกต่างหาก”


“ธุรกิจค้าพลังงานนี่เยี่ยมไปเลยนะ มีสงครามเมื่อไหร่ หินพลังงานก็ไปถึงที่นั่น แต่ถ้ามีสงครามขึ้นในครอบครัวของเรา สินค้าคงขายไม่ได้หรอก”


“เฮ้ย ก็นี่ไงล่ะพ่อค้าของเก่า นี่เป็นแผนที่ดาวที่นายถามหาเมื่อครั้งที่แล้ว ถ้าวันนี้นายไม่มา ฉันจะไปโลกของสัตว์ร้ายอีกครั้งนะ” ผู้บุกเบิกดวงดาวพูดขึ้น


“ขอบคุณ”


ข้อมูลโดยหลักๆแล้วสามารถค้นพบได้บนเครือข่ายสมองแสงและการแย่งชิงมันก็ไม่มีประโยชน์


แต่สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเขาเพราะมันช่วยแจกจ่ายแผนที่ของดาวต่างๆรอบๆสุริยจักรวาลซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับเขาเพื่อที่จะสำรวจจักรวาลต่อไปในภายภาคหน้า


เมื่อเขาคว้าซองแดงมาได้ เขาก็ดูมันก่อนจะเก็บไปข้างๆเพราะการที่จะสำรวจโลกด้วยเทคโนโลยีที่เขากำลังพัฒนาอยู่นั้นยังคงใช้เวลาอีกนาน


อย่างน้อย เพื่อที่จะก้าวล้ำเข้าไปในเขตอวกาศ กระโดดไปมาบนนั้น เขาคงต้องใช้ยานอวกาศจากระบบซองแดง


เพื่อต้องการที่พัฒนาให้ไปถึงระดับนั้น


อู๋ ฮ่าวเหรินเพียงแค่ส่ายหัว เขาไม่กล่าวซ้ำๆเรื่องเทคโนโลยีและวัสดุพวกนั้นรวมถึงระบบสุริยจักรวาลทั้งหมด


ทันใดนั้นชายชุดเกราะก็กล่าวขึ้น “พ่อค้าของเก่า นายต้องการสิ่งนี้ทำไม​ นายไม่ได้ออกไปไหนนี่”


“นายไปอยู่ไหนมา ฉันเพียงแค่อยากรู้สถานการณ์และช่วงเวลาเอาไว้ดูของ”


“ไม่อ่ะ ฉันไม่พูดกับนายแล้ว ฉันจะไปกลุ่มระดับสองเพื่ออัพเกรด”


หลังจากวันแห่งความพยายามผ่านไป ยังเหลือ 48 เหรียญพลังงานกับของโบราณชิ้นหนึ่ง


“อ้าว เจ้าศิลปะนี่ กลับมาแล้วหรือครับ”


“ฮ่าๆ กลับมาแล้วล่ะ ตอนอยู่ที่โน่นฉันเกือบตายแหนะ แต่ตอนนี้ ขอพักสักงีบแล้วค่อยไปผจญภัยใหม่”


อู๋ ฮ่าวเหริน เองก็ไม่รู้จะพูดอะไร ชายคนนี้ช่างเที่ยวเก่งเสียจริง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเขาไม่มีกำลังใจเพียงพอก็คงไม่สามารถออกไปผจญภัยกับอะไรที่ตื่นเต้นๆแบบนี้ได้หรอก


“แต่ก็นะ ฉันอยากจะได้รูปนาย รูปวาดเก่าแก่พวกนั้นขายไม่ออกแล้วล่ะ หรือถ้าจะขายก็ขายได้แบบเป็นภาพที่ไม่มีชื่อเสียง”


รูปนี้เป็นของปลอมที่อู๋ ฮ่าวเหริน ได้มาจากนักต้มตุ๋น เพราะนี่ไม่ใช่ภาพที่ดีมาก ไม่ใช่แค่เรื่องเงินที่จ่ายไป อีกทั้งยังมีค่าแค่ 100 เหรียญพลังงานเท่านั้น ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่ของโบราณที่คุ้มค่าเอาเสียเลย


“การลงสีคือวิธีโบราณแต่ทักษะของคนวาดนี่สิแย่จังเลย”


“ก็นะ ที่นี่ยังมีหนังสือเล่มเก่าๆที่ทำมาจากของเก่าๆ”


อู๋ ฮ่าวเหรินมองหนังสือโบราณที่ทำจากกระดาษเก่าๆ มีค่าถึง 8700 เหรียญพลังงานและส่งเข้าโดยตรง ถ้ามีใครต้องการหนังสือเล่มนี้ เขาก็จะได้อัพเกรดสักที


เจ้าศิลปะหยิบหนังสือเล่มดังกล่าวขึ้นมาโดยไม่สนใจเล่มอื่นๆเลย


“เล่มนี้ดี กระดาษมีค่าในตัวมันแน่นอน เมื่อได้มันมา ฉันก็หาทางที่จะเปลี่ยนคำพวกนี้ ถ้ามันเขียนขึ้นเพื่อปู่ของฉันล่ะก็ เขาคงมีความสุขมาก”


อู๋ ฮ่าวเหรินนิ่งไปสักครู่ เขาก็เห็นตัวอักษรสีดำเข้มเป็นคำว่า “ขึ้นอยู่กับ”


จริงๆแล้ว ถ้าไม่มีคำพวกนั้น กระดาษโบราณทำมือแบบนี้จะมีค่ามากกว่านี้


คำที่เขียนก่อนหน้านั้นดึงคุณค่าของกระดาษให้ลดลงและสิ่งนี้ทำให้เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปเล็กน้อย


แต่โชคดีที่ระบบซองแดงได้รับการอัพเกรดแล้ว เขาจึงสามารถไปในกลุ่มที่มีระดับสูงกว่าเพื่อหาของที่ดีกว่า


“ของขวัญเล็กๆน้อยๆสำหรับพวกคุณแต่ละคนคือสิ่งที่ผมได้รับจากการผจญภัยครั้งนี้”


เมื่อมองไปที่ซองแดงที่เจ้าศิลปะส่งมา อู๋ ฮ่าวเหรินจึงชี้ไปที่หินอำพันมีซากของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ


หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เขาจึงได้ถามเจ้าศิลปะ “ยังมีสิ่งมีชีวิตใหญ่ๆแบบนี้ในหินอำพันอยู่ไหมครับ”


 “มีสิ แต่ถ้าเป็นตัวใหญ่ๆนี่ได้ยากอยู่นะ ต้องไปดาวพิเศษ”


“ถ้าภายหลังคุณเจอมันอีก อย่ามองข้ามมันนะครับ ผมชอบหินอำพันนี้มากเลย”


อู๋ ฮ่าวเหรินรู้สึกถึงความฮึกเหิมที่ผุดขึ้นมาในภายภาคหน้า เขาจะสร้างบ้านที่แสดงเฉพาะหินอำพันที่มีสัตว์อยู่ข้างในพวกนี้


สิ่งนี้ทำให้เขานึกถึงวัตถุดิบพวกเนื้อประกอบอาหารและที่ตอนนั้นเขาก็พยายามเอาบางส่วนมาจากห้องเซฟ


เมื่อมองไปที่สี่กลุ่มของอู๋ ฮ่าวเหริน จึงต้องการที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มระดับต่อไปเป็นอย่างแรก แล้วจู่ๆเขาก็พบปุ่มรวมข้างๆเขา


เขาเองรู้สึกสงสัย หลังจากผ่านระดับสาม ยังจะมีฟังก์ชันพิเศษอีกงั้นหรือ


“คุณรู้ไหมว่าปุ่มรวมนี้หมายถึงอะไรเมื่ออัพเกรดถึงระดับสาม”


ขุดแร่เองก็สงสัย “รวม รวมอะไร แล้วฉันไม่เห็นได้ยังไง”


“พ่อค้าของเก่า นายคงไม่ได้เป็นคนเริ่มเรื่องฟังก์ชันพิเศษนี้สินะ” ชายขี้เมาจอมอิจฉาว่าขึ้น


“เป็นไปได้จริงๆที่ว่าพวกเราอัพเกรดมาถึงระดับสาม แต่ยังไม่มีตัวเลือกรวมเลย” สุดหล่อโคตรเจ๋งเสริมบ้าง


“และดูเหมือนการเปิดของระบบพิเศษนี้ดูแปลกจริงๆ” ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์พูดขึ้นด้วยท่าทีแปลกๆ


ชายขี้เมาที่รู้สึกกดดันก็พูดขึ้นบ้าง “แต่ยังไงก็เหอะ วิธีทั้งหมดที่ฉันคิดในตอนนี้ยังไม่สามารถทำให้เกิดระบบพิเศษนี้เลย มันคงดีเกินไปที่จะให้นายอัพเกรดซะล่ะมั้ง ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย”


“ฮ่าๆๆ ใครๆก็พูดว่าการทำให้เกิดเงื่อนไขของระบบพิเศษเป็นการสุ่มและเป็นแบบพิเศษ นายก็ต้องหาด้วยตัวนายเองแล้วล่ะ” พ่อค้าพลังงานค่อนแคะ


 “พ่อค้าของเก่าไปยังระบบพิเศษและบอกเรื่องนี้กับพวกเราในภายหลัง มีคนบอกว่าในนั้นมีของดีหลายอย่างและบางอย่างก็เป็นสินค้าพิเศษที่ขายออกไปแล้ว” สมองกลส่งใบหน้าเป็นสีๆมาให้


“อย่าไปพูดกับหมอนั่น มันเป็นระบบพิเศษ ให้จำไว้ด้วยว่าเราต้องไปพื้นที่ค้าขายอารยธรรมให้บ่อยกว่าเดิม บางทีเราอาจจะได้ของดีๆมาบ้าง”


เมื่อได้ยินพวกเขาตอบกัน อู๋ ฮ่าวเหรินก็ประหลาดใจในทันที หรือว่าโชคกำลังเดินทางมาแล้ว


“ขอฉันลองหน่อย ถ้าระบบพิเศษนี้เกิดขึ้นมาล่ะก็ ฉันจะรายงานสถานการณ์นี้ให้พวกนายรู้ภายหลัง”


ด้วยความรู้สึกคาดหวังนั่นเอง อู๋ ฮ่าวเหรินจึงชี้ไปที่ปุ่มรวมกลุ่มจากนั้นก็เริ่มที่จะรอเข้าไปในระบบพิเศษได้ในทันที


ห้านาทีต่อมา อู๋ ฮ่าวเหรินมองระบบซองแดงที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ มันดูแปลกไปเล็กน้อย มีอะไรอย่างอื่นที่จำเป็นอีกไหมนะ


“จำเป็นต้องการเงื่อนไขอื่นๆเพื่อเข้าไปในระบบพิเศษนี้อีกรึป่าว”


หลังจากนั้นไม่นาน ชาวไร่ก็ตอบกลับมา “นายอาจโดนแย่งของดีนะ ลองไปดูของของนายจากซองแดงเถอะ เหลืออยู่เท่าไหร่แล้ว”


อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ตอบ ที่ชาวไร่พูดมันหมายถึงอะไรกัน แล้วเขาก็ถามขึ้น “เหลืออะไร ก็มีอยู่สี่ไม่ใช่หรือครับ”


แล้วชาวไร่คนนั้นก็ส่งรูปมาในทันที  อู๋ ฮ่าวเหรินเองก็ยังไม่เข้าใจในตอนแรกแต่หลังจากนั้น เขาก็กลับมาดูกลุ่มในระดับสามของกลุ่มซองแดง


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น