CF:บทที่ 240 ลักพาตัวฉันหรือ?

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 240 ลักพาตัวฉันหรือ?


ภายในหนึ่งสัปดาห์ เมื่อเทียบกันโฆษณาชวนเชื่ออันทรงพลังของกูเกิ้ล​ ภายในฟิวเจอร์กรุ๊ปดูแปลกไปเล็กน้อย ยกเว้นในวันแรกที่ได้รับการยืนยันข่าวเกี่ยวกับเกมส์ มันไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย


ถ้าไม่ใช่เพื่อการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและข้อมูลบนเว็บไซต์หลักของฟิวเจอร์กรุ๊ป พวเราก็คงจะคิดว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อของกูเกิ้ลแต่เพียงฝ่ายเดียว


ความเงียบของฟิวเจอร์กรุ๊ปทำให้บรรยากาศของชาวเน็ตภายในประเทศดูกดดัน พวกเขารู้สึกว่านี่เป็นเพราะฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่มีความเชื่อมั่นและไม่ดำเนินการเผยแพร่อะไรเลย


บนเว็บไซต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป การวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากลดลงเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามบนกระดานข่าวต่างประเทศ การถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังคงร้อนแรงอยู่


เมื่อมาถึงวันสุดท้าย กูเกิ้ลเริ่มตั้งคำถามว่าปัญญาประดิษฐ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป บางทีก็มีข้อสงสัยว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นไม่น่าจะประสบผลสำเร็จ และพวกเขาก็ไม่ได้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์จริงๆ


ในกรณีนี้ ถ้าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปล้มเหลวถึงสามครั้งติดต่อกันต่อการท้าทายของกูเกิ้ล มันก็จะเป็นสาเหตุของการเสื่อมเสียชื่อเสียงครั้งยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลต่อฟิวเจอร์กรุ๊ป


วัตถุประสงค์ของการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องของกูเกิ้ลก็คือการใช้สิ่งนี้ทำลายชื่อเสียงของฟิวเจอร์กรุ๊ป


ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นผงาดขึ้นมาอย่างรวดเร็วและอิทธิพลของมันก็ขจรไปไกล ซึ่งทำให้บริษัทเก่าๆ รู้สึกอิจฉา


อะไรที่ทำให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปเงียบได้ถึงเพียงนี้ พวกเขากำลังทำอะไรอยู่ เช่นที่เคยเป็นมาโดยตลอด พวกเราควรจะทำอย่างไร


เหตุผลที่ว่าทำไมลิวหมิงเยว่ไม่ประชาสัมพันธ์ก็เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าคนในแผนกคอมพิวเตอร์กำลังทำอะไรกันอยู่


และเพราะว่าพวกเขากังวลว่าจะเป็นการรบกวนพวกเขา จึงไม่ได้สอบถาม


เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินจัดการประชุมขึ้น เขาก็ไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ไม่มีใครในบริษัทสนใจเรื่องนี้อีกต่อไป


ตามความคิดของพวกเขา เจ้านายไม่ได้ให้ความสนใจ พวกเขาก็เลยไม่สนใจเช่นกัน “องค์จักรพรรดิไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพวกขันทีเลย”


ดังนั้น อะไรคือสิ่งที่แผนกคอมพิวเตอร์กำลังทำอยู่เกี่ยวกับเรื่องนี้? ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก พวกเขาไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลยหลังจากสามวันที่ได้ทราบเรื่อง


กู้ผานผาน เพิ่งจะจัดการโปรแกรมหนึ่งสำเร็จและถามเฉินเจิ้งหนิง ผู้ที่กำลังสร้างฐานข้อมูลอันใหม่อยู่ใกล้ๆ “พี่เฉิน ดูเหมือนว่าเขากำลังจะแข่งขันกับกูเกิ้ล คุณอยากจะถามเลขาหวังหลานไหมคะ ว่าจัดที่ไหน?”


 


“เอาน่า ไม่ต้องห่วงหรอ มันยังไม่สายเกินไปที่จะถามหลังจากที่ฐานข้อมูลเรียบร้อยแล้ว อีกอย่างคุณช่วยผมดูหน่อยสิว่าโปรแกรมมันทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ผมไม่ค่อยมีเวลาเลยช่วงนี้ ผมทำได้แค่ปล่อยให้มันทำงานไปเอง


กู้ผานผานพยักหน้า หมุนมือบนหน้าผาก และเดินไปยังห้องคอมพิวเตอร์ทางด้านข้าง


คอมพิวเตอร์หลายเครื่องตั้งอยู่บนโต๊ะ และไฟของตัวชี้วัดซึ่งต่อพ่วงกับฐานข้อมูลก็สว่างอย่างต่อเนื่อง โปรแกรมประหลาดกำลังทำงานอย่างเป็นปกติบนเครื่องคอมพิวเตอร์


กู้ผานผาน เดินไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์และคลิกอยู่สองสามครั้ง โปรแกรมนั้นกลับหายไป สิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์คือขอบร่วม ซึ่งดูเรียบง่ายและหยาบปราศจากการประมวลผลใดๆ


“พี่เฉิน นี่หรือคะที่จะเอาเข้าร่วมการแข่งขัน การประสานของคอมพิวเตอร์กับผู้ใช้มันน่าเกลียดมากเลย”


“เธอพิมพ์รหัสคำสั่งลงไปเป็นแถว ทันใดนั้น การประสานของคอมพิวเตอร์กับผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์ก็เริ่มเปลี่ยนไป และไม่จำเป็นต้องมีใครควบคุมมันอีกเลย


ถ้าวิศวกรด้านปัญญาประดิษฐ์ของกูเกิ้ลอยู่ที่นี่และเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาจะต้องเก็บโฆษณาชวนเชื่อที่พวกเขาได้เผยแพร่ก่อนหน้านี้กลับไปอย่างแน่นอน


หลังจากที่ดูการประสานของคอมพิวเตอร์กับผู้ใช้ (อินเตอร์เฟซ) ในด้านการถาม-ตอบ กู้ผานผานก็หยุดการป้อนรหัสคำสั่ง


“เป็นศูนย์ ดูเหมือนว่ามันจะได้รับการพัฒนาแล้ว มันสามารถที่จะวิเคราะห์อินเตอร์เฟซที่ฉันชอบได้”


เธอมองดูคอมพิวเตอร์อีกสองเครื่องและออกจากห้องไปด้วยความพอใจหลังจากที่พบว่ามันไม่มีปัญหาใดๆ


ความจริงแล้ว สิ่งที่ยากที่สุดในการแข่งขันคือด่านแรก ปัญหาหลักของการปล่อยให้ปัญญาประดิษฐ์ตอบคำถามจากมุมมองของมนุษย์ ซึ่งต้องการข้อมูลจำนวนมากเพื่อที่จะปูพื้นฐานให้กับปัญญาประดิษฐ์ การปล่อยให้ปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์และให้คำตอบอย่างเป็นเหตุเป็นผล


สำหรับการแข่งขันสองอย่างนั้น เป็นการทดสอบโปรแกรมการคำนวนของปัญญาประดิษฐ์อย่างสมบูรณ์และความสามารถในการให้เหตุผล สองด่านนี้เป็นทักษะพื้นฐานของแผนกคอมพิวเตอร์ในการศึกษาปัญญาประดิษฐ์ และพวกเขาก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับแง่นี้สักเท่าไรนัก เพราะว่าสถานที่การจัดการแข่งขันนั้นไม่ได้อยู่ในประเทศจีน แต่เป็นที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ดังนั้นพวกเขาต้องขึ้นเครื่องในวันศุกร์นี้


ภายในสำนักงาน หวังหลานถามว่า “ท่านประธานคะ คุณจะไม่ไปร่วมการแข่งขันจริงๆ หรือคะ?”


“คือว่า ผมไม่มีเวลานะ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าผมไปที่นั่น ผมก็อาจจะสร้างปัญหาได้ ครั้งนี้คุณจัดการได้เลยนะ แล้วปล่อยให้เฉินเจิ้งหนิงรับหน้าที่ไป”


เมื่อเห็นหวังหลานออกมาจากตัวอาคาร เฉินเจิ้งหนิงจึงพูดว่า “เลขาหวังหลาน ผมต้องบอกคุณว่าเจ้านายจะไม่ไปร่วมการแข่งขันกับพวกเรา มันน่าเบื่อสำหรับเจ้านาย และเสียเวลา ถ้าเจ้านายไม่สั่งให้ผมไปนะ ผมก็คิดว่าคุณคงหาใครสักคนไปกับคุณแทนผมได้”


“ฉันต้องไปรับใครบางคน และถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมาล่ะ เร็วเข้าค่ะ เตรียมตัวให้พร้อมและไปกันตอนนี้เลย”


“ถ้ามีปัญหาอะไร ถ้ามันเกิดปัญหาขึ้นจริงๆ คุณสามารถใช้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทได้ และพวกเราก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้ ลืมมันซะเถอะมันก็แค่ทัวร์ ผมได้ยินมาว่าทิวทัศน์ที่นั่นสวยงามมาก”


การต่อสู้ของปัญญาประดิษฐ์ที่ทุกคนคาดหวังกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว การถกเถียงบนอินเตอร์เน็ตกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง


โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้า มีประกาศบนเว็บไซต์หลักของฟิวเจอร์กรุ๊ปว่าผู้เข้าแข่งขันได้ปรากฎออกมาแล้ว


บางประเทศเริ่มมีปฏิกิริยาซึ่งเป็นโอกาสของพวกเขาจริงๆ


บนเรือรบลำหนึ่ง ทหารพูดว่า “ท่านครับ ไม่ต้องกังวลไปครับ ในครั้งนี้ ท่านสามารถรับประกันความสำเร็จของภารกิจและนำคนกลับไปได้ครับ”


บนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชายในชุดดำพูดว่า “ในครั้งนี้ ต้องสำเร็จเท่านั้น จะล้มเหลวไม่ได้ จักรวรรดิญี่ปุ่นจงเจริญ”


“จักรวรรดิญี่ปุ่นจงเจริญ”


ในฐานทัพทหาร กลุ่มของผู้คนกำลังศึกษา “พวกเราต้องจัดการอะไรตอนนี้ไหม ตราบใดที่เราจับชายคนนั้นได้ พวกเราก็สามารถจะเอาทุกสิ่งที่เราเสียไปคืนมากได้”


“ส่งคนไปดูลาดเลาซิ แต่ให้ตรึงกำลังไว้ก่อนนะ อย่าเพิ่งทำอะไรจนกว่าจะมีคำสั่ง”


เห็นได้ชัดว่า เหตุการณ์ล่าสุดเป็นเหตุให้พวกเขาเกิดเงาเครียดทางด้านจิตวิทยา และพวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะเจอเรื่องไม่ดีอีก


...


เป็นเพราะว่าไม่มีการประชาสัมพันธ์รายชื่อคนที่จะไปเข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบกับนี่คือการแข่งขันกับกูเกิ้ล อีกทั้งมันยังเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ พวกเขาโดยใช้จิตใต้สำนึกว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะต้องมาร่วมงานนี้


เขาไม่คิดว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะไม่มาร่วมการแข่งขันนี้ อีกทั้งอู๋ฮ่าวเหรินก็อาศัยอยู่ในพื้นที่หอพักที่เพิ่งตกแต่งใหม่ของบริษัทตั้งแต่เขายังศึกษาเกี่ยวกับหุ่นยนต์ผู้ช่วย ดังนั้นสายลับทั้งหลายจึงไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอู๋ฮ่าวเหรินเลย


เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินได้รับโทรศัพท์จากจื่อหยง และถามเขาว่าเขาอยู่ที่ไหน ถามเขาว่าทำไมจึงไม่ไปร่วมการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ เขาถึงกับตะลึงงันไป


“ถ้าคุณกำลังพูดถึงการแข่งขันกับกูเกิ้ล ผมไม่ไปร่วมงานนั้น! งานแข่งขันที่น่าเบื่อแบบนั้น ผมไม่มีเวลาไปเข้าร่วม ผมกำลังศึกษาบางอย่างอยู่ตอนนี้ ซึ่งผมจะทราบผลลัพธ์ภายในสองวันนี้ ผมไปไหนไม่ได้หรอกนะ”


จื่อหยงถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่ได้คาดหวังให้อู๋ฮ่าวเหรินจริงจังกับเกมส์นี้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่เป็นนานาประเทศที่จ้องมองอยู่ และกลายเป็นว่าเขาไม่ไปร่วมงาน


“พวกเราได้รับข่าวว่ามีบางคนกำลังจะโจมตีทีมของคุณและลักพาตัวคุณในการแข่งขันครั้งนี้”


อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ประหลาดใจที่พวกเขาจะลักพาตัวเขา ถ้าพวกเขาไม่ทำสิแปลก


“ผมทราบแล้ว ผมจะดูแลเรื่องนี้เอง”


เมื่อวางสายแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินเริ่มมีปฏิกิริยา ถ้าพวกเขาไม่รู้ข่าว พวกเขาก็จะโง่ต่อไป


การลักพาตัว ฮ่าฮ่า ฉันไม่รู้เลยว่าพวกมันจะมีสีหน้าอย่างไรหลังจากเข้าโจมตีกองทัพ มันต้องประหลาดใจแน่ๆ


“จี้ เริ่มจับตาดูข้อมูลที่นั่นนะและตามหาดูกลุ่มคนที่ต้องการจะลักพาตัวฉัน”


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น