CF:บทที่ 239 ฉันต้องการซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 239 ฉันต้องการซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน


อู๋ฮ่าวเหรินมองดูคนทั้งสองอย่างเงียบๆ จริงๆ แล้ว เทคโนโลยีชุดนี้ซึ่งมาจากเทคโนโลยีแห่งชาติของการวิจัยหุ่นยนต์ ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาได้


มันเป็นเพียงแค่พวกเขาไม่มีเวลาที่จะศึกษาสิ่งเหล่านี้ พลังงานทุกหยดของพวกเขาถูกใช้ไปกับหุ่นยนต์ เหตุผลก็คือความลับของแคนาดาที่ไม่ให้ใครแตะต้องเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ ดังนั้นคึงไม่มีใครคิดถึงมัน


“เอาไว้ค่อยดูวัสดุพวกนี้ทีหลัง คุณช่วยพูดเกี่ยวกับเรือก่อนได้ไหม?”


พบว่าพวกเขาเองก็เริ่มศึกษาปัญหาด้านเทคนิคบางอย่าง อู๋ฮ่าวเหริไม่รู้ว่าควรจะเตือนพวกเขาหรือไม่ว่า พวกเขาจะถูกฝังอยู่ในนั้น มันต้องใช้เวลานานเท่าไร


พวกเขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างเชื่องช้า เมื่อพวกเขาพบกับเทคโนโลยีนี้ พวกเขาก็ต้องการที่จะศึกษามัน


เหอหมิงพูดพร้อมกับยิ้มไปด้วย “นิสัยของผู้เชี่ยวชาญที่ได้เผชิญหน้ากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยนี้ และต้องการที่จะศึกษา เรือลำนี้ ผมมีข้อมูลอยู่ตรงนี้แล้ว ก่อนอื่น คุณสามารถดูได้ถ้ามันเหมาะสม”


อู๋ฮ่าวเหรินมองดูข้อมูลที่เขาส่งให้และถามว่า “คุณต้องมีเรือที่นี่ พวกเราไปดูของจริงเลยได้ไหม เพื่อว่าผมจะได้ยืนยันได้ดีกว่านี้?”


“ได้สิครับ ตกลงเลย มีเรือมากมายในท่าเรือตะวันออกเฉียงใต้ ผมจะพาคุณไปดู”


เหอหมิงล็อคคอมพิวเตอร์ เมื่อเขาออกมาและล็อคแม้กระทั่งประตูสำนักงาน ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวมีใครเข้าไปขโมยข้อมูลนั้น


เมื่อพวกเขามาถึงที่ท่าเรือ มีเรือรบอยู่มากมาย ซึ่งดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นท่าเรือทหาร


รอบๆ ท่าเรือทหารนี้ เขาเดินไปตรงหน้ามากกว่า 100 เมตร และเขาก็ได้เห็นเรือ


เหอหมิงพูดว่า


“เรือเหล่านี้ถูกใช้เพื่อบรรทุกสินค้าและถูกนำมาไว้ที่นี่โดยบางบริษัท พวกมันมีคุณสมบัติตรงตามที่คุณต้องการ


ไม่มีปัญหาในเรื่องการดัดแปลงกับเรือบรรทุกสินค้าประเภทนี้ และติดตั้งอุปกรณ์นั้นเข้าไป”


“เอาล่ะ มันมีคุณสมบัติตรงความต้องการของผม ลำใหญ่ที่สุดนั่น เพียงแค่ดัดแปลงตามแบบของผม”


ในตอนนี้ จื่อหยงถามว่า “คุณจะเอาเรือใหญ่ขนาดนี้ไปทำอะไรครับ?”


“ใหญ่หรือ? ผมว่าเล็กไปด้วยซ้ำ ถ้าผมกู้เรือสมบัติได้ ผมก็จะเอาใส่บนเรือลำนี้และขนส่งมันกลับไป ถ้ามันไม่ใหญ่พอ ผมก็ไม่สามารถที่ใส่อุปกรณ์ได้หมด”


พฤติกรรมของอู๋ฮ่าวเหรินช่างเข้าใจยากสำหรับคนทั้งสอง พวกเขาไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่


อู๋ฮ่าวเหรินนำเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ขึ้นมาและตรวจสภาพของเรือบรรทุกสินค้านั้น หลักๆ แล้วคือการบันทึกข้อมูลบางอย่าง เพื่อใช้ในการปรับปรุงท่าเรือนั้น เขาได้เพิ่มเติมบางอย่างเข้าไป


ขณะที่ยืนอยู่ที่หัวเรือ


เขาพบว่าทางด้านซ้ายของเรือบรรทุกสินค้า สถานที่ที่ถูกปิดกั้นด้วยกำแพงดูเหมือนว่าจะเป็นท่าเรือ ซึ่งดูใหญ่กว่าที่นี่


“ตรงนั้นมันคือสถานที่อะไรครับ? ดูเข้มงวดกว่าที่นี่ใช่ไหม?”


เหอหมิงมองดูสถานที่ที่อู๋ฮ่าวเหรินชี้และพูดอย่างภูมิใจว่า “พื้นที่ก่อสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินครับ ดังนั้นการป้องกันก็จะเข้มงวดกว่าที่นี่เพื่อป้องกันสายลับเข้ามา”


“เรือบรรทุกเครื่องบิน ผมก็อยากจะถามว่าถ้าผมจะซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินที่ปลดระวางแล้วอย่างของรัสเซีย รัฐบาลจะอนุญาตหรือไม่?”


คนทั้งสองนิ่งงันไปด้วยคำถามของอู๋ฮ่าวเหริน พวกเขารู้สึกว่าชายคนนี้ช่างมีความคิดที่แตกต่างจากมนุษย์ธรรมดา


เหอหมิงอธิบายว่า “โดยหลักการแล้ว ตราบใดที่ไม่มีระบบอาวุธบนเรื่องบรรทุกเครื่องบินที่ปลดระวางแล้ว คุณก็สามารถที่จะซื้อได้ อย่างไรก็ตาม พูดแบบทั่วไป คือไม่มีใครที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินหรอก หนึ่งข้อก็คือมันมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับท่าเรือและอีกอย่างคือการดูแลรักษาก็มีปัญหามาก”


ตาของอู๋ฮ่าวเหรินเป็นประกาย “แบบนี้ เรือบรรทุกเครื่องบินก็สามารถซื้อได้สินะ” จื่อหยงถามด้วยความประหลาดใจ “คุณคงไม่ต้องการจะซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินหรอกนะ!”


“ฮ่าฮ่า ผมมีความคิดที่ว่าเรือบรรทุกเครื่องบินดูดีกว่าเรือบรรทุกสินค้านะ”


พวกเขาพูดไม่ออกและเขาต้องการซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน นี่ไม่ใช่การบ้าแบบทั่วไปแน่ๆ


“คุณอย่าเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์เลยครับ ซื้อเรือเพื่อมาดัดแปลง อะไรอีกล่ะ เรือบรรทุกเครื่องบินในโลกนี้ล้วนแล้วแต่เก่าโบราณทั้งนั้น มันจะเป็นปัญหาถ้าจะซื้อมาและซ่อมแซมมัน”


จื่อหยงหว่านล้อมอู๋ฮ่าวเหรินเพื่อกำจัดความคิดนั้น ถ้าชายคนนี้ได้รับอนุญาตให้ซื้อเรือบรรทุกสินค้าได้ มันต้องเป็นสาเหตุของปัญหาด้านความเห็นระดับนานาชาติแน่ๆ


อู๋ฮ่าวเหรินมองไปที่เรือบรรทุกเครื่องบิน พื้นที่ก่อสร้างตรงนั้นและพูดว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก ผมจะยังไม่ซื้อตอนนี้ถึงแม้ว่าผมจะต้องการก็ตาม จริงๆ แล้วถ้าเป็นไปได้ ผมต้องการที่สร้างเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยตัวผมเอง”


เมื่อพวกเขาได้ยินดังนั้น ปฏิกิริยาแรกก็คือชายคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ของฟิสเจอร์กรุ๊ป ถ้าเขาต้องการที่จะสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินจริงๆ ใครจะกล้าพูดว่าเขาทำไม่ได้


ความจริงแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าถ้ามียานรบอวกาศ ใครจะมาเล่นกับเรือบรรทุกเครื่องบินของเล่นแบบนี้ เห็นได้ชัดว่า เรือรบอวกาศยังคงห่างไกลจากเขา ในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่คิด


หลังจากการหารือเรื่องการดัดแปลงเรือบรรทุกสินค้ากับเหอหมิงแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินตระหนักว่ามันไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาได้จินตนาการไว้


ตามที่การคำนวณของเหอหมิง มันจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือนสำหรับการสร้างทุกสิ่งขึ้นใหม่


เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้ อู๋ฮ่าวเหรินทำได้แค่เพียงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าแผนการล่าสมบัติจะถูกผลักให้ถอยหลัง


เมื่อเขาเดินทางกลับ เขาถามจื่อหยงว่าถ้าหากเขาสามารถกู้บางอย่างได้จากทะเลโดยไม่ส่งให้รัฐบาล


จื่อหยงบอกว่าเขาจะลองถามให้ถ้ามีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้และช่วยเขาแก้ปัญหานี้


ความจริงแล้ว จื่อหยงอยากจะพูดว่าตราบใดที่คุณพอใจกับชื่อเสียงระดับโลกและนำสิ่งต่างๆ ออกมาด้วยตัวของคุณเอง ประเทศก็คงไม่ทำให้คุณเจอปัญหาสำหรับเรื่องนี้


วันต่อมา หลังจากที่กลับมาจากเซี่ยงไฮ้ อู๋ฮ่าวเหรินพบว่าบรรยากาศในบริษัทผิดปกติไปเล็กน้อย และเขารู้สึกว่าเขากำลังถูกปราม


“หวังหลาน เกิดอะไรขึ้นที่บริษัทอย่างนั้นหรือ? ทุกคนกังวลอะไร?”


“ท่านประธานคะ ไม่ได้เป็นเพราะการต่อสู้ด้านปัญญาประดิษฐ์กับกูเกิ้ลหรอกค่ะ ทุกคนคิดว่าบริษัทของเราอาจจะแพ้ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นสถานการณ์เช่นนี้”


เขาและพนักงานในแผนกคอมพิวเตอร์ไม่ได้เร่งรีบ แต่พนักงานเหล่านี้กลับเร่งรีบ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกังวลมากเกี่ยวกับชื่อเสียงของบริษัท!


“บอกพวกเขาว่าอย่ากังวลไปเลย พวกเขาไม่เห็นหรือว่าแผนกคอมพิวเตอร์เองยังไม่เร่งรีบเลย แล้วพวกเขาจะเร่งรีบไปไหนกัน ไม่ต้องห่วง ถ้าคนพวกนั้นในแผนกคอมพิวเตอร์แพ้จริงๆ วันดีๆ ของพวกเขาก็จะจบลง”


“ท่านประธาน คุณจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยตัวเองหรือคะ?”


“ผมไม่มีเวลาไปเล่นเกมส์แบบนั้นหรอกนะ ไม่ต้องห่วง เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทเราแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด”


ความจริงแล้ว สิ่งที่คนในบริษัทไม่รู้ก็คือถึงแม้ว่าเฉินเจิ้งหนิงจะไม่ได้ให้ความสนใจกับการแข่งขัน แต่เขาก็ได้เขียนโปรแกรมไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวานและสร้างฐานข้อมูลเรียบร้อยแล้ว


วันนี้ พวกเขาได้ทำการทดสอบโปรแกรมหลายครั้ง เพื่อตรวจสอบปัญหาที่ยังคงเหลืออยู่ในโปรแกรม และจากนั้นก็ดัดแปลงโปรแกรมเพื่อที่จะแก้ปัญหาของฐานข้อมูล โดยยืมใช้ที่เก็บข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท


ความสามารถในการลดอันทรงพลัง ควบคู่กับวิธีการประมวลผลเชิงปริมาณ ช่วยให้ปัญญาประดิษฐ์ของพวกมันสามารถที่จะอนุมานคำตอบของคำถามได้ในเวลาที่สั้นที่สุด


สำหรับโปรแกรม GO ผู้คนในแผนกคอมพิวเตอร์อยากจะหัวเราะให้กับการแข่งขันของกูเกิ้ล


เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของพวกเขาในตอนนี้ โปรแกรมนี้เป็นเพียงเกมส์เกมส์หนึ่ง เพราะว่าความเร็วในการคำนวณ ถ้าคุณวางหมากรุกลงไปสักหนึ่งตัว คอมพิวเตอร์ก็สามารถที่จะเล่นกับคุณจนได้ชัยชนะ ดังนั้นการเขียนความเป็นไปได้ในการชนะเช่นนั้นลงไปล่วงหน้า ตราบใดที่คุณมีแนวโน้ม คอมพิวเตอร์ก็จะชนะคุณได้


เหมือนกับมนุษย์   มันเป็นเหมือนการดูถูกเหยียดหยาม อย่าได้พยายามที่จะเปรียบเทียบความสามารถของคุณกับคอมพิวเตอร์ คุณอาจจะต้องโมโหให้ตัวเอง การเปรียบเทียบกับเครื่องจักรพวกนี้ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์และความสามารถนั้นเป็นไปไม่ได้เลย เช่นนี้คุณจะพบว่าโลกนี้ยังคงสวยงาม ดังนั้นไม่ผิดที่อู๋ฮ่าวเหรินหรือคนอื่นในแผนกคอมพิวเตอร์จะไม่ได้ใส่ใจกับการแข่งขันครั้งนี้


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น