RC:บทที่ 422 หนี

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 422 หนี 


แม้แต่มังกรดำเองก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ ด้วยความเร็วสูง มันทิ้งไว้เพียงเงาและปรากฎตัวอีกทีก็อยู่กับชายชราแล้ว 


“หยุดเจ้าพวกนั้นไว้! อย่าให้พวกมันหนีไปได้!” ชายในชุดดำตะโกน 


เมื่อได้ยินคำสั่งเช่นนั้น เหล่าศัตรูก็รีบรุจเข้าหาหลินเฟิงในทันที พวกกระดูกโลหิตก็สะบัดคลื่นกระดูกสีแดงหมายจะตัดร่างของชายชราให้ขาดไปด้วย 


โอโรจิเองก็ยืดหัวทั้ง 8 ขึ้นไปปิดรอยแยกบนเพดานถ้ำไว้เพื่อกันไม่ให้ชายชราและคนอื่นๆออกเช่นกัน 


ยามที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ ชายชราก็ถอนหายใจและพูด “ข้าจะไป แล้วจะทำไม? ในยุคนี้น่ะ คนที่หยุดข้าได้จริงๆเหลือไม่กี่คนหรอกนะ!”


พูดจบคลื่นดาบสีม่วงขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาในทันที มันผ่าทุกสิ่งอย่างที่มันวิ่งผ่านตั้งแต่ด้านล่างขึ้นไปด้านบน นั่นทำให้ไม่ว่าจะเป็นกองพันกระดูกโลหิตหรือแม้แต่โอโรจิต่างก็ได้รับแรงปะทะจากคลื่นดาบนี้กันถ้วนหน้า 


หลังจากที่โดนปะทะกันไปแล้ว ทั้งกองพันกระดูกโลหิตและโอโรจิต่างก็ร้องคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด ทุกๆคนต่างก็เห็นเช่นกันว่าคลื่นดาบของชายชรานั้น รุนแรงขนาดผ่าทุกอย่างที่มันเคลื่อนผ่านได้ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นกระดูกโลหิตหรือหัว 2 ใน 8 ของโอโรจิก็ตาม 


“ไปเร็ว เราต้องไปรวมตัวกับคนอื่นให้เร็วที่สุด!” ชายชราชุดขาวเอ่ยก่อนจะใช้พลังของเขาในการพาทุกๆคนบินออกไป


ในตอนที่ทุกคนสามารถบินออกจากถ้ำได้ พวกเขาต่างก็โล่งใจกันหมด พวกเขาเกือบจะออกจากถ้ำได้แล้ว 


เหล่าสัตว์ประหลาดทั้งหลายที่อยู่ด้านล่าง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หมาป่า ค้างคาวดูดเลือด หรือแม้แต่มนุษย์กลายพันธุ์เอง พวกนี้นับเป็นศัตรูตัวฉกาจ เพราะพวกมันสามารถฆ่าพวกเขาได้ตลอดเวลา เรียกได้ว่าถ้าไม่ตายก็บาดเจ็บ ดังนั้นแล้วถ้าชายชรามาที่นี่ไม่ทันเวลาหรือไม่มาเลย บางทีพวกเขาทั้งหมดเองก็คงจะตายอยู่ที่นี่เช่นกัน 


“หนอย ไอ้เจ้าพวกน่ารังเกียจ!” ชายชุดดำตะโกนด้วยความโกรธขณะที่มองชายชราที่ทรงสง่ากำลังหนีไปกับคนที่เหลือ 


“นายท่าน ทำยังไงดีครับ?” หัวหน้าองค์กรกระโหลกโลหิตถามขึ้นมาในทันที 


“ฮึ่ม จะทำอะไรได้อีก? กลับไปเสริมกำลังให้ดี แล้วเราจะไปจากที่นี่เสียที!” เมื่อเห็นหลินเฟิงและคนอื่นๆหนีไปได้แล้ว พวกเขาก็ย้อนกลับไปยังถ้ำด้านหลังอีกครั้ง


หลังจากที่หลินเฟิงและพรรคพวกหนีออกไปได้แล้ว ชิปที่หว่างคิ้วของมังกรทมิฬที่ควบคุมร่างของหลินเฟิงอยู่ก็เกิดแตกออกเป็นเศษเล็กๆไปตามพื้น 


ในตอนนั้น ถึงจะเกรงว่าพวกด้านหลังจากตามมา แต่เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะอีกไม่นานพวกเขาก็จะออกไปจากที่นี่กันได้แล้ว 


เมื่อถึงที่ปลอดภัยแล้ว มังกรทมิฬก็รีบแยกตัวจากพวกกลุ่มใหญ่แล้วกลับไปยังที่พักของเขาทันที 


เพียงไม่นาน หลินเฟิงก็มาอยู่ที่โรงแรมโหยวหยี่เสียแล้ว แต่เพียงแค่ถึงประตู มังกรทมิฬก็ไม่สามารถรักษาสติสัมปัชชัญญะไว้ได้ และนั่นทำให้ร่างของหลินเฟิงล้มทรุดลงไปบนพื้นทันที 


แต่ทว่าเสมียนของโรงแรมนั้นมาพบหลินเฟิงทันจึงรีบเข้าช่วยเอาไว้ จากนั้นจึงรีบติดต่อไปยังหวังฉีและปาเต๋า


ไม่นานนักหลังจากที่พวกเขาออกไปแล้ว ในส่วนของถ้ำลึกนั้น ชายลึกลับในชุดสีดำก็ถอดหน้ากากออกและพูดด้วยเสียงเบา “อันตรายจริงๆ… เกือบจะเก็บตัวตนไว้ไม่อยู่แล้วเชียว”


ขณะที่เขากำลังพูดกับตัวเองอยู่นั้น ร่างๆหนึ่งก็เข้ามาจากด้านหลัง ร่างของสตรีผู้มีผิวสีน้ำเงินซึ่งอยู่ในสภาพเปลือยกาย แต่ถึงอย่างนั้นตามจุดซ่อนเร้นและจุดอ่อนไหวต่างๆก็มีเกล็ดสีฟ้าขึ้นมาปกคลุมเอาไว้ 


“ใครน่ะ!” เมื่อรู้สึกได้ถึงใครบางคน ชายชุดดำก็รีบตะโกนออกมา 


หญิงสาวด้านหลังเขานั้นเข้าไปหาเขาช้าๆพร้อมกับพูด “ฉันเอง พอดีได้ยินว่าที่นี่เพิ่งผ่านศึกหนัก ก็เลยรีบมาดู”


“เธอมาคนเดียวเหรอ?” ชายชุดดำขมวดคิ้ว 


“ฉันก็มาด้วย!” มันมีเสียงดังมาจากไกลๆ และทันใดนั้น สิ่งที่ดูน่าเกลียดก็ลอยขึ้นออกมาพร้อมกับเกาะอยู่ด้านบนเหนือหัวชายชุดดำ 


สภาพของมันเหมือนนกเมื่อมองไกลๆ แต่เมื่อมันเข้ามาในระยะแล้ว กลับกลายเป็นว่า มันคือคนที่มีขนเยอะมากๆ มีใบหน้าเหมือนหนู และมีปีกสองข้างอยู่ด้านหลังเสียมากกว่า 


มันคือค้างคาว ค้างคาวสีแดงตัวใหญ่ที่มีขนปกคลุมทั้งตัว และมันคือค้างคาวดูดเลือด


“ฉันก็ด้วย” ท้ายสุดก็มีเสียงคำรามเบาๆดังขึ้นไม่ไกลจากที่นั่น จากนั้นบางสิ่งบางอย่างก็รีบพุ่งเข้ามา มันคือ หมาป่าตัวใหญ่ที่ดูเหมือนสัตว์ทั่วๆไป แต่ด้วยขนาดตัวของมันนั้นกลับใหญ่กว่าหมาป่าทั่วๆไปกว่า 4-5 เท่า! 


“พวกนายทั้ง 3 คนคงจะได้ยินข่าวแล้วสินะ?” เมื่อเขาเห็นทั้ง 3 เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่คิดเลยว่าเจ้าพวกนี้จะมาพร้อมๆกันแบบนี้


“บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับพลพรรคของพวกเราที่นี่ ยังไงก็ต้องมาอยู่แล้ว!” มนุษย์กลายพันธุ์สาวพูด


“ยังไงก็เถอะ มันเกิดขึ้นได้ยังไงน่ะ?” ค้างคาวดูดเลือดถามด้วยโทนเสียงที่ฟังดูประหลาด 


ชายชุดดำมองไปที่ทั้ง 3 คนที่ซึ่งมีความแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าเขาเลย มองไปยังรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของคนเหล่านี้แล้วก็ถอนหายใจ “ช่วยกลับเป็นสภาพปกติก่อนจะมาเจอหน้าฉันได้มั้ย? ฉันล่ะเกลียดสภาพของพวกนายจริงๆเลย!”


เมื่อทั้งสามมองไปยังพวกเขาเองแล้วกลับมามองตัวเอง จากนั้นพวกเขาก็สะบัดมือและร่างทั้งหมดก็กลับไปเป็นสภาพเดิมอย่างรวดเร็ว 


ร่างของมนุษย์กลายพันธ์สาวนั้นเปลี่ยนกลับเป็นสีผิวตามเดิม ใบหน้าของเธอนั้นดูยังไงก็เป็นพวกฝั่งตะวันตก ผิวขาวสวย ดั้งสูงโ่ด่ง รวมๆแล้วเธอนับเป็นหญิงสาวที่สวยอีกคนหนึ่ง 


ทางด้านของค้างคาวดูดเลือดนั้นก็รีบลงมายืนบนพื้น ปีกด้านหลังพันเข้าหากันจากนั้นเขาก็กลับกลายเป็นชายชาวตะวันตกที่ดูหยาบคายนิดๆหน่อยๆ 


ส่วนท้ายสุด มนุษย์หมาป่าตัวใหญ่ ถึงเขาจะส่ายหน้าแต่ท้ายสุดก็ยอมเปลี่ยนกลับมาเป็นมนุษย์ทั่วๆไป หัวของหมาป่ามันหดลงไปในลำตัวก่อนจะกลายเป็นหัวมนุษย์แบบปกติ


ชายชุดดำหันกลับมามองคนเหล่านี้อีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลายขึ้น ยังไงซะเขาก็ทำใจที่จะคุยกับพวกนี้ตอนอยู่ในรูปร่างแปลกๆไม่ลงเสียที 


“จะพูดได้หรือยัง?” ค้างคาวดูดเลือดถาม 


“สิ่งที่พวกนายคิดมันยังไม่ดีพอ เจ้าพวกนั้นแข็งแกร่งก็จริง แต่มันใช้เวลาสร้างนานเกินไป มีวิธีทำให้มันเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไง?  ชายชุดดำมองไปยังทั้ง 3 คนก่อนจะพูดต่อ 


“ไม่ใช่ว่าพวกคนญี่ปุ่นกับองค์กรกระโหลกโลหิตนั่นก็ทำเกือบเสร็จแล้วไม่ใช่หรือไง?” หญิงสาวถามด้วยความไม่พอใจนิดหน่อย 


“เสร็จเหรอ? เหอะ ก็แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นแหละ! ยิ่งไปกว่านั้น งูยักษ์ 8 หัวก็ยังต้องสร้างร่างกายแล้วก็หัวที่เหลือให้เสร็จอีก แถมราชากระดูกโลหิตเองก็ยังฟื้นฟูพลังได้ไม่เท่าไหร่เลยด้วยซ้ำ!” ชายชุดดำพูด 


เมื่อทั้งสามได้ยินดังนั้น พวกเขาก็พากันไม่พอใจ แต่อย่างไรก็ตาม หมาป่าที่กลับมาเป็นมนุษย์ก็เอ่ยขึ้น “แต่พวกนั้นเจอที่นี่แล้ว แบบนี้จะทำยังไงต่อล่ะ?”


“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันกังวลอยู่ แต่พวกนั้นก็บาดเจ็บหนักกลับไปเหมือนกัน พวกเราพอจะมีเวลาหนี เพราะไม่งั้นถ้าปล่อยให้พวกมันกลับมาอีกรอบเราอาจจะไม่มีโอกาสได้หนีอีกก็ได้!” ชายชุดดำเน้นย้ำ


“เข้าใจแล้ว!” ทั้งสามมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า 


ไม่นานนักเหล่าคนที่อยู่ภายในถ้ำก็เริ่มที่จะเก็บของกัน ระหว่างนั้นชายชุดดำและทั้งสามคนก็เดินกลับไปยังถ้ำด้านหลังของพวกเขาเอง


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น