CF:บทที่ 802 การล่มสลายของตระกูลเฉียน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 802 การล่มสลายของตระกูลเฉียน

 

ไล่ออก!

นี่เป็นครั้งแรกของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่มีการไล่พนักงานออกเช่นนี้, ไม่นานนักข่าวนี้ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

แล้วชื่อของหลิวเสียวหู่และเฉียนเย่ตวนก็เป็นที่รู้กันไปทั่วทันที

 

แน่นอนว่าไม่จบอยู่แค่นั้น, ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ได้มีการจัดการปฏิรูปการให้เช่ายานอวกาศเสียใหม่

 

มีหลายคนที่ต้องเข้ามาช่วยจัดการเพราะเรื่องในครั้งนี้

 

ตอนที่หลิวเสียวหู่และเฉียนเย่ตวนเดินออกมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, จิตวิญญาณที่หยิ่งยโสของพวกเขาไม่ได้ตามกลับมาด้วยออกมาด้วย

 

ตอนนี้ทั้งสองคนมีสภาพเหมือนกับมะเขือม่วงที่เหี่ยวเฉาและไร้ซึ่งจิตวิญญาณ

 

"เพียะ!"

 

หลิวเสียวหู่ตบหน้าของเฉียนเย่ตวน จนทำให้รองพื้นที่หนาเตอะบนใบหน้าเธอกระเด็นออกมา

 

"ทั้งหมดมันเป็นความผิดของเธอ, ฉันไปหลงเชื่อคำของตระกูลเฉียนเธอได้ยังไงเนี่ย"

 

เฉียนเย่ตวนที่รู้สึกตัวแล้ว, เธอก็ตบไปที่หน้าของหลิวเสียวหู่เอาคืน

 

"คุณยังจะมีหน้ามาโทษฉันอีกเหรอ, มันเป็นตัวคุณเองต่างหากที่โลภมากอยากจะได้เงินน่ะ, จะบอกอะไรให้นะ คุณน่ะไม่ใช่ผู้อำนวยการหลิวอีกแล้ว"

 

แล้วทั้งสองคนก็ทะเลาะกันอยู่ในรถลอยฟ้า, ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะถูกจัดการโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของฟิวเจอร์กรุ๊ปหลังได้รับแจ้งเหตุ

 

เฉียนเย่ตวนจึงได้ออกมาจากรถ, ปล่อยให้หลิวเสียวหู่อยู่ตามลำพัง

 

เมื่อพ่อกับลูกตระกูลเฉียนได้ทราบเรื่องนี้, พวกเขาต่างก็แตกตื่น, เพราะรายได้หลักของพวกเขานั้นมาจากการให้ยืมยานอวกาศ

 

ในเวลานี้เฉียนเย่ตวนได้บอกกับพวกเขาว่าการให้เช่ายานอวกาศนั้นจบลงแล้ว, พวกเขาไม่สามารถหาเงินด้วยวิธีนี้ได้อีกแล้ว, พวกเขาก็ถึงกับอ้ำอึ้งกันเลยทีเดียว

 

"เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่ามันไม่มีปัญหาอะไรไม่ใช่รึ?"

 

"ฉันก็ไม่รู้, แต่ว่าทางบริษัทรู้เรื่องนี้เข้าแล้ว, ทั้งฉันและหลิวเสียวหู่ต่างก็ถูกไล่ออก, เอาล่ะ ตอนนี้พี่ต้องเอาเงินปันผลของฉันงวดสุดท้ายมาให้ฉันได้แล้ว"

 

"ธุรกิจยังไม่เรียบร้อย, แต่เธอจะมาขอเงินปันผลเนี่ยนะ! จะบอกอะไรให้นะ ปัญหาตอนนี้คือพวกเรามีคนมาขอมัดจำเช่ายานเป็นจำนวนมาก, แล้วถ้าเธอไม่สามารถหายานอวกาศมาให้พวกเขาได้, พวกเราก็จะต้องเอาเงินมัดจำคืนพวกเขาไป"

 

"ถ้าอย่างนั้นก็คืนเงินไปสิ"

 

"จะเอาจากที่ไหนมาคืนล่ะ? พวกเราเพิ่งจะแบ่งเงินพวกนั้นกันไปเองนะ, อย่ามองข้าแบบนั้น, เธอและหลิวเสียวหู่ได้เงินส่วนแบ่งนั้นไปแล้ว, เธอคิดมั๊ยว่าเงินที่ข้าให้เธอกับหลิวเสียวหู่ไปน่ะ เงินพวกนั้นมันมาจากไหนกัน"

 

ทั้งตัวของเธอถึงกับนิ่งไปก่อนที่จะถามกลับ "แล้วเงินที่ทำได้ก่อนหน้านี้"

 

"จ่ายไปหมดแล้ว, เธอก็รู้ตระกูลของเรามีค่าใช้จ่ายเยอะมาก"

 

"มันจบแล้ว, ตอนที่ฉันกลับมานั้น, ฉันทะเลาะกับหลิวเสียวหู่ด้วย, เขาไม่ยอมคืนเงินที่เขาเพิ่งได้ไปแน่"

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเฉียนจื่อหนานก็พลันมืดสนิททันที, ถ้าหลิวเสียวหู่ไม่ยอมคืนเงินที่เขาได้ไปล่ะก็, คราวนี้ตระกูลเฉียนได้จบสิ้นแน่

 

"เร็วเข้า, รีบไปตามหลิวเสียวหู่, แล้วให้เขาคืนเงินนั้นมา, ไม่อย่างนั้นพวกเราจบสิ้นแน่"

 

เฉียนจื่อหนานและเฉียนเย่ตวนออกไปพร้อมกันเพื่อออกไปตามหาหลิวเสียวหู่

 

และต้นตอของปัญหานี้อย่างเฉียนเผิงนั้น, ซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา

 

เขาจำได้ว่าตอนที่เขาโทรศัพท์หาฉางเจี๋ยในวันนี้, เขาได้ทำท่าจองหองใส่และบอกให้ฉางเจี๋ยนั้นขอโทษเขา

 

แต่ดูเหมือนฉางเจี๋ยจะกลับบอกว่าตระกูลเฉียนนั้นจะจบสิ้นในไม่ช้า

 

ถ้าเป็นเช่นนั้น, แสดงว่าหมอนั่นจะต้องรู้เรื่องอะไรแน่, บางทีหมอนั่นอาจจะลงมือทำอะไรบางอย่างลงไปก็ได้

 

ในเวลานี้, พ่อลูกตระกูลฉางนั้นก็กำลังนั่งอยู่ที่บ้านและคุยถึงเรื่องนี้กันอยู่

 

"พ่อครับ, ผมเพิ่งได้ข่าวมาว่าหลิวเสียวหู่และเฉียนเย่ตวนนั้นถูกไล่ออกจากฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วครับ"

 

"ฮ่าๆๆ, ข่าวดีๆ ตระกูลเฉียนคงได้จบสิ้นแล้ว"

 

"ไม่หรอกครับ, ถึงจะไม่มีธุรกิจให้เช่ายานอวกาศ, ตระกูลเฉียนก็ยังหาเงินได้เยอะมากอยู่ดี"

 

"ฮ่าๆ, เจ้าไม่รู้อะไร, ถึงแม้ว่าตระกูลเฉียนนั้นจะสามารถหาเงินได้เยอะ, แต่พวกเขาก็ใช้จ่ายเงินหมดไวมากเช่นกัน, ยิ่งไปกว่านั้นนะ ข้าเพิ่งได้ยินมาไม่นานนี้ว่า, พวกเขาได้เงินจากการสั่งจองยานอวกาศอย่างมาก"

 

"ตระกูลเฉียนนั้นช่างเก่งเรื่องทำเงินเสียจริงๆ"

 

ฉางต้าเฉิงส่ายหัวแล้วพูดขึ้น "คราวนี้พวกเขาคงได้จบสิ้นเพราะเงินจำนวนนี้นั่นแหละ, ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาได้เอาเงินจากการให้เช่ายานอวกาศไปใช้ในการบุกเบิกดาวร้างไปเป็นจำนวนเงินที่เยอะมากซะด้วย"

 

"ฮ่าๆ, ตอนนี้ทั้งหลิวเสียวหู่และเฉียนเย่ตวนก็โดนไล่ออกแล้วด้วย, พวกเขาไม่มีรายรับและยานอวกาศให้เช่นอีกแล้วด้วย, แล้วไหนจะต้องคืนเงินมัดจำไปอีกต่างหาก"

 

ฉางเจี๋ยไม่คิดว่าเรื่องมันจะไปถึงขนาดนั้นได้

 

อย่างไรก็ตาม, ตระกูลเฉียนที่ร่ำรวยได้อย่างรวดเร็วนั้น, ก็คงได้มีอะไรเกิดขึ้นไม่เร็วก็ช้าแน่

 

"โอ๊ะ, เฉียนเผิงโทรมา, เขาโทรมาหาผมทำไมในเวลานี้นะ?"

 

"ฮัลโหล, คุณฉาง แกพอที่จะออกมาคุยกับข้าได้บ้างไหม?"

 

ฉางต้าเฉิงพบว่าลูกชายของเขากำลังมองมาที่เขาเพื่อขอคำแนะนำจากเขาอยู่

 

"ไปซะสิ, เจ้าลูกชาย, แต่อย่าไปไกลมากนักนะ"

 

"ท่านพ่อก็รู้จักผมดี"

 

ที่ห้องอาหารของตระกูลฉาง, ตรงมุมหนึ่งฉางเจี๋ยและเฉียนเผิงนั่งลงหันหน้าเข้าหากัน

 

"มันเป็นฝีมือแกใช่มั๊ย?"

 

ฉางเจี๋ยพูดตอบด้วยรอยยิ้ม "ฝีมือผมเองแหละ, ยังไงเรื่องนี้ผมก็ต้องตอบคำถามนี้กับคุณไม่เร็วก็ช้าอยู่แล้ว, แต่ว่านะ, ผมก็ต้องขอขอบคุณคุณด้วย, มันเป็นเพราะคุณแท้ เรื่องครั้งนี้ตระกูลฉางของเราอยากที่จะก้มหัวให้คนอย่างคุณจริงๆ"

 

"ขอบคุณข้า, ทำไม?"

 

"ยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงแรมเมื่อวันก่อนได้มั๊ย?"

 

"จำได้"

 

"ดังนั้น, คุณก็น่าจะจำคนสองคนที่นั่งอยู่ที่นั่นได้ด้วยสินะ

 

เฉียนเผิงผงกหัวของเขา, และเขามีความจำที่ดีอย่างมากกับเรื่องของสาวงาม

 

"ผมคงพูดได้แค่ว่าตระกูลของคุณนั้นโชคร้ายมาก, ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ตำแหน่งสูงมากในฟิวเจอร์กรุ๊ป, แน่นอนว่าคุณก็คงคิดไม่ถึงว่าชายคนที่คุณไปเร้าหรือด้วยนั้นเป็นใคร"

 

"เป็นใครกัน?"

 

เฉียนเผิงจำอู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้อย่างจริงจัง, เพราะในวันนั้นเขาสนใจแต่หลิวหมิงเยี่ย

 

"ตำนานไงล่ะ, บุคคลในตำนานที่นำพาพวกเรามาสู่ยุคของอวกาศยังไงล่ะ"

 

สีหน้าของเฉียนเผิงก็มืดขึ้นมา, เขาไม่คิดว่าเขานั้นมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับตำนานขนาดนั้นแล้วแท้ๆ แต่เขายังทำพลาดเสียได้

 

"ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมผมถึงขอบคุณคุณ, เพราะตอนแรกผมก็จำหน้าท่านผู้นั้นไม่ได้หรอก, จนกระทั่งคุณเข้ามาแล้วพาอีก 4 คนเข้ามาด้วย"

 

"ใช่แล้วดาฟเน่ยังไงล่ะ, คุณอาจจะไม่รู้เธอดีเท่าไร, จริงๆแล้วเธอมีความสัมพันธ์พิเศษกับท่านผู้นั้น, นั่นหมายความว่าเธอรู้จักกับท่านผู้นั้น และนั่นทำให้ผมได้รู้ว่าผมกำลังทานอาหารร่วมกับบุคคลในตำนานอยู่ยังไงล่ะ"

 

"มันเป็นไปไม่ได้, มันเป็นไปไม่ได้...."

 

ฉางเจี๋ยลุกขึ้นยืนและตบไหล่เขาเบาก่อนที่จะเดินออกไป, เขาไม่คิดที่จะสงสารคนอย่างเขา

 

ถ้าไม่ใช่เป็นเขารู้จักกับผู้จัดการอาวุโสของฟิวเจอร์กรุ๊ปโดยบังเอิญล่ะก็, คนที่โชคร้ายในวันนี้ก็คงจะเป็นตระกูลฉางของเขา

---------------------------------------------------------------------

ณ ฟิวเจอร์กรุ๊ป, เพราะเรื่องของการไล่ออกที่เกิดขึ้นมานั้น, ทำให้เหล่าพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นต่างหารือกันในเรื่องนี้

 

แน่นอนว่า, หลิวเสียวหูและเฉียนเย่ตวนนั้นถูกหาว่าเป็นคนโง่ไป

 

ในเวลานี้ถ้าใครที่อยากจะเข้าทำงานที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, ความยากนั้นอยู่ในระดับที่ว่า 1 ใน 1 ล้านคนที่จะเข้าไปได้

 

แต่พนักงานเก่าสองคนนี้, เพราะความโลภของของพวกเขาจึงได้ทำลายอนาคตของพวกเขาเอง

 

เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินได้ทราบข่าวนี้, เขาก็ยิ้มขึ้นมา

 

เพราะเขาไม่คิดว่าเพราะการทานอาหารมื้อนั้นจะทำให้เกิดเรื่องตามมาเช่นนี้ได้

 

อย่างไรก็ตาม, เรื่องในครั้งนี้มันก็เตือนสติให้เขาสั่งให้จี้ดำเนินการตรวจสอบระบบด้วย

 

หากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก, ศูนย์กลางสมองกลก็จะดำเนินการจัดการในทันที

 

ในเวลานี้, เขากำลังสนใจกับสถานการณ์ของสหพันธรัฐอยู่, ขนาดของสงครามนั้นขยายขนาดขึ้นไปอีกแล้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ที่เขตจงหัวเองอารยธรรมแรกที่หวังดินแดนนี้ก็ได้เข้ามาแล้ว

 



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น