CF:บทที่ 722 กลุ่มผู้รุกราน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 722 กลุ่มผู้รุกราน

 

"คำเตือน! คำเตือน! ยานอวกาศไม่ระบุสัญชาติกำลังมุ่งหน้ามายังระบบสุริยะ!"

 

เสียงสัญญาณเตือนดังลั่นออกไปทั่วทั้งสถานีอวกาศ, เหล่าทหารประจำยานรบที่กำลังเบื่ออยู่ในสถานีอวกาศนั้นต่างก็ตื่นเต้นเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของสัญญาณเตือนนี้

 

"เจ้าหน้าที่ทุกคนโปรดทราบ, เจ้าหน้าที่ทุกคนโปรดทราบ, นี่ไม่ใช่การซ้อม ย้ำว่านี่ไม่ใช่การซ้อม, ขอให้ทุกคนกลับเข้าประจำตำแหน่งโดยด้วย"

 

ทั่วทั้งสถานีอวกาศของทางกองทัพ, เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณเตือนแล้ว, พวกเขาก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวทันที, เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็รีบไปประจำหน้าที่ของตัวเอง

 

ทหารของยานรบต่างๆก็รีบมุ่งหน้าไปที่ยานรบของพวกเขา

 

ที่ห้องประชุมของกองทัพไม่นานก็เต็มไปด้วยผู้คน, บางคนที่ไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ก็ได้มาร่วมประชุมผ่านทางเครื่องฉายแทน

 

มีเสียงที่ดังมากมาจากในห้องประชุม, ทุกคนต่างก็สงสัยเกี่ยวกับยานอวกาศที่โผล่มาอย่างกระทันหันนี้, ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามีมนุษย์ต่างดาวจริงๆ แต่พวกเขาก็ไม่เคยเจอมนุษย์ต่างดาวจริงๆมาก่อน

 

ในปัจจุบัน, มีคนเพียงไม่กี่คนในโลกที่รู้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้จับมนุษย์ต่างดาวเอาไว้

 

"เกิดอะไรขึ้น? พวกเราพบยานอวกาศที่ไม่รู้จักอย่างงั้นเหรอ?"

 

"ไม่รู้เหมือนกัน, ผมเองก็เพิ่งได้รับแจ้งให้มากันเหมือนกัน, นี่ก็กำลังรีบอยู่ เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"

 

"คงไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวมาบุกโลกหรอกนะ, ฉันเคยได้ยินมาว่าเคยมีมนุษย์ต่างดาวมาที่นี่มาก่อน"

 

"แล้วพวกมนุษย์ต่างดาวมาทำอะไรที่โลกกันกันนะ?, บนโลกไม่มีอะไรแท้ๆ"

 

"แน่นอนว่าปล้นมนุษย์นี่แหละ"

 

พวกเขาต่างก็เริ่มหารือกัน ตั้งแต่ที่เข้าสู่ยุคของการออกสู่อวกาศนั้น, มนุษยชาตินั้นไม่ได้กังวลเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่จะมารุกรานโลกเพื่อทรัพยากรของโลกมาก่อนเลย

 

หากเปรียบเทียบกับทรัพยากรในดาวต่างๆของจักรวาลแล้ว, ทรัพยากรบนโลกนั้นเรียกได้ว่าขาดแคลนมาก

 

ถ้ามนุษย์ต่างดาวจะมารุกรานโลกนั้น, ก็คงมีเหตุผลเดียวที่พวกเขาจะปล้นไป นั่นคือตัวมนุษยชาติเอง

 

"หลังจากที่เครื่องฉายได้ฉายภาพของเจ้าหน้าที่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปทุกคนแล้ว, ที่ห้องประชุมนั้นก็เงียบสงบลงทันที, โดยเฉพาะเมื่อหลิงเมิ่งเสวี่ยและเจ้าหน้าที่สำคัญต่างๆได้มาถึง, พวกเขาก็เริ่มรอการอธิบายมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

ถึงแม้จะบอกว่ามนุษยชาติจะก่อตั้งสหภาพมนุษย์ขึ้นมาแล้วก็ตามที, แต่เจ้าหน้าที่ทางการทหารและยานรบนั้นก็มาจากฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่ดี

 

ยิ่งในด้านของการตรวจสอบนั้น, ก็ยังอยู่ในมือของฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่, แน่นอนว่าทางฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นไม่ได้ห้ามคนอื่นๆจากการพัฒนาการออกอวกาศและยังทำการสนับสนุนอีกต่างหาก

 

"นี่คือรูปถ่ายที่ได้มาจากดาวเทียมสอดแนมของเรา"

 

เจ้าหน้าที่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่นานก็ได้ส่งรูปภาพขึ้นมา, จากนั้นยานอวกาศของอารยธรรมโคลน่าก็ได้ปรากฏขึ้นบนจอ

 

"ยานอวกาศมากขนาดนี้เชียว!"

 

"นี่มันไม่ใช่กองยานสำรวจของอารยธรรมต่างดาวแน่ๆ"

 

"ดูจากรูปร่างของยานอวกาศพวกนี้และอาวุธต่างๆสามารถมองเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่าพวกนี้แล้ว ก็บอกได้เลยว่ามันเป็นยานรบ"

 

"อืม, พวกเราควรจะหลุดหารือเรื่องนี้ได้แล้ว, จากข้อมูลที่ส่งมาจากดาวเทียมสอดแนมและการวิเคราะห์ของระบบศูนย์กลางสมองกลแล้ว, น่าจะเป็นกองยานที่แบ่งออกเป็น 2 กอง และหนึ่งในนั้นมียานแม่ด้วยแน่ๆ" หลิงเหยากล่าว

 

ไม่ได้ยินคำว่ายานแม่, ทุกคนต่างก็กลั้นหายใจ, ความรู้ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นกลายมาเป็นที่นิยมมาก, พวกเขาทุกคนต่างก็รู้จักยานรบประเภทนี้และความทรงพลังของมัน

 

ในปัจจุบัน, ยานแม่ที่สร้างขึ้นโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นเพิ่งสร้างเสร็จไปแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

 

"พวกเรานั้นยังไม่รู้จุดประสงค์ของยานรบพวกนี้, ดังนั้นพวกเราควรที่จะพร้อมรบ, นอกจากนี้พวกเราจะต้องส่งกองยานสอดแนมออกไปแล้วติดต่อกับพวกเขาก่อนเพื่อดูว่าพวกเราจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มบ้างไหม"

 

"ถ้าอย่างนั้นก็ดำเนินการโดยเร็ว" หลิงเมิ่งเสวี่ยกล่าว

 

มองดูภาพในวิดีโอ, หลิงเมิ่งเสวี่ยไม่ได้กังวลถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของระบบสุริยะ, ยานอวกาศเหล่านี้ไม่สามารถที่จะผ่านเข้ามาได้ง่ายๆแน่

 

ยิ่งไปกว่านั้น, อู๋ฮ่าวเหรินก็กำลังจะกลับมา, เธอจึงไม่ได้กังวลอะไรอีก

 

อย่างไรก็ตาม, คนอื่นๆซึ่งไม่ได้รู้ถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของโลกนั้น, ก็มองดูภาพในวิดีโอนี้อย่างเป็นกังวล

 

ดังนั้น, ในตอนท้ายของการประชุม, จึงได้มีบางคนที่รวมตัวกันและเริ่มหารือกันถึงเรื่องนี้

 

มีบางคนที่คิดไม่ซื่อและคิดว่านี่อาจจะเป็นโอกาสดี, ถ้าหากพวกเขาจับสถานการณ์ได้ถูกล่ะก็, บางที่พวกเขาจะอาจจะพ้นจากการควบคุมของฟิวเจอร์กรุ๊ปในอนาคตก็ได้

 

ดังนั้น, คนเหล่านี้จึงได้เริ่มเคลื่อนไหวและต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการสร้างกองกำลังของตัวเองขึ้นมา

 

ในยานแม่ของอารยธรรมโครน่า, เจ้าหน้าที่สื่อสารก็ได้เข้ามารายงาน

 

"ท่านครับ, มียานอวกาศส่งข้อความมาถึงพวกเราครับ"

 

"ข้อความว่าอย่างไรบ้างล่ะ?"

 

"ครับ, หนึ่งในข้อความนั้นเป็นภาษาเดียวกับของพวกเขาครับ"

 

"โอ้, ดูเหมือนพวกมนุษยชาติจะเจอพวกเราแล้ว, เทคโนโลยีด้านการตรวจจับของพวกเขาไม่เลวเลยจริงๆ"

 

ข้างๆพวกเขา, คือคนๆหนึ่งในหมู่มนุษย์ ก็พูดขึ้นอย่างประจบสอพลอ "นั่นเป็นเพราะว่ายานอวกาศของท่านผู้ยิ่งใหญ่นั้นไม่สามารถซ่อนได้ง่ายๆน่ะสิครับ, ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงไม่พบง่ายๆแบบนี้หรอกครับ"

 

"อืม, จริงของเจ้า, งั้นมาดูกันสิว่าคนเผ่าเดียวกับเจ้านั้นได้ส่งข้อความอะไรมา"

 

"ข้อความส่งมาว่า, พวกเราเป็นอารยธรรมอะไร และพวกเรากำลังจะเข้าสู่เขตของอารยธรรมมนุษยแล้ว, ขอให้หยุดมุ่งหน้ามาเดี๋ยวนี้"

 

"พวกเขาควรจะตอบกลับไปอย่างไรดีครับ, นายท่าน?"

 

ผู้บัญชาการของโครน่าคิดอยู่สักพัก และชี้ไปที่เผ่ามนุษย์แล้วพูดขึ้น "ไปบอกพวกเขาในสิ่งที่พวกเราต้องการออกไป และเกลี้ยกล่อมให้พวกเขายอมแพ้ซะ"

 

"ได้ครับท่าน, ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้และจะทำหน้าที่นี้ให้สำเร็จลุล่วงครับ, ให้พวกเขาได้รู้ว่าการเป็นศัตรูกับผู้ยิ่งใหญ่แล้วไม่ต่างอะไรไปจากการรนหาที่ตายครับ"

 

ปราศจากการลังเล, คนกลุ่มนี้ก็ได้เดินตามทหารไปยังห้องสื่อสาร

 

บนโลก, ลู่เผิงเฟยและหลิงเหยากำลังยืนอยู่ด้วยกันและมองมาที่อุปกรณ์สื่อสารที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา

 

"เป็นอย่างไรบ้าง? ติดต่อได้มั๊ย?"

 

"ครับ, พวกเขาส่งได้รับข้อความของพวกเราไปแล้ว, แต่ก็ไม่ทราบว่าพวกเขาจะเข้าใจรึเปล่านี่สิครับ"

 

"ไม่เข้าใจก็ดีเหมือนกัน, ผมจะได้ทำสงครามอวกาศของจริงเสียที" หลิงเหยากล่าว

 

ลู่เผิงเฟยมองมาที่เขาแล้วพูดขึ้น "ความคิดนายนี่มันแย่จริงๆ, สงครามอวกาศจริงๆน่ะมันไม่เหมือนกับเกมนะ, นี่มันตายได้จริงๆเลยนะ"

 

"และยานรบพวกนี้ก็ไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดนั้นหรอกนะ, โดยเฉพาะยานแม่นั่น, จากสถานการณ์ของพวกเราแล้วหากตกลงอย่างสันติได้จะเป็นการดีที่สุด"

 

ในขณะที่พวกเขากำลังคุยเรื่องนี้กันอยู่, พวกเขาก็ได้ยินเจ้าหน้าที่สื่อสารพูดขึ้นมา "ท่านครับ, ผมติดต่อได้แล้วคราบ, แต่มันแปลกๆหน่อยครับ"

 

"หืม, แปลกยังไง?"

 

"ดูสิครับ"

 

พวกเขามองมาที่หน้าจอแล้วก็พบว่ามีกลุ่มมนุษย์โลกอยู่ในหน้าจอด้วย

 

"เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีมนุษย์อยู่ในยานอวกาศลำนั้นได้? ตรวจสอบข้อมูลของคนพวกนี้โดยด่วน"

 

ด้วยศูนย์กลางสมองกลที่ทรงพลังไม่นานก็พบข้อมูลของพวกคนที่อยู่บนยานอวกาศลำนั้น

 

"มันเป็นคนพวกนั้นนี่เอง ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะถูกจับโดยมนุษย์ต่างดาวหลังจากที่ออกไปจากโลกในตอนนั้น"

 

"ฮ่าๆๆ, เห็นยานรบที่ทรงพลังนี่มั๊ย? ไปบอกพวกฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วยว่าให้ยอมแพ้ซะ และเตรียมตัวต้อนรับอารยธรรมโครน่าที่ยิ่งใหญ่ที่กำลังเดินทางไปที่โลกซะ, ถ้าเกิดต่อต้านล่ะก็รอชมปืนใหญ่ของยานรบโครน่าได้เลย!"

 

มองดูท่าทีที่หยิ่งผยองของคนพวกนี้ในวิดีโอแล้ว หลิงเหยาก็พูดขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด "ไอ้พวกสารเลว, ไม่คิดเลยว่าเจ้าพวกนั้นจะไปพาคนนอกกลับมาแบบนี้, ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ก็ไม่น่าปล่อยให้ไอ้พวกนั้นรอดออกไปเลย"

 

"เอาไมค์มา, ไอ้พวกบ้าโง่เง่าเอ๊ย, ไปบอกพวกโครน่านะว่า, ให้หยุดยานเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นข้าจะทำให้พวกมันกลายเป็นขยะอวกาศเอง"

 

"ฮ่าๆ, แกกล้าพูดกับข้าแบบนี้เหรอ? พวกแกก็เตรียมรอชาวโครน่าไปยึดโลกและเอาพวกแกมาเป็นทาสได้เลย

 

จริงๆแล้ว, คนพวกนี้ไม่ต้องการที่จะให้อีกฝ่ายยอมแพ้อยู่แล้ว, พวกเขาต้องการที่จะให้ชาวโครน่าสั่งสอนพวกคนจากฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

ดังนั้น, คำพูดของหลิงเหยานั้นถือได้ว่าเป็นจังหวะที่ดีสำหรับพวกเขาทีเดียว, คนพวกนี้ไม่ต้องการที่จะเกลี้ยกล่อมอยู่แล้ว, หลังจากนั้นสักพัก พวกเขาก็ได้แจ้งให้ชาวโครน่าฟังว่าพวกเขาเจรจาล้มเหลว

 

แน่นอนว่า, ชาวโครน่าที่รออยู่ใกล้ๆก็ได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้เหมือนกัน

 

คำพูดของหลิงเหยานั้นทำให้พวกเขาโกรธจัด, และไม่นานนักท่านนายพลก็ทราบเรื่องนี้

 

"เดินหน้าเต็มกำลัง, ถ้าพวกเขาไม่ยอมแพ้ล่ะก็, ก็สู้กันจนกว่าพวกเขาจะยอมแพ้"



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น