CF: บทที่ 721 กำลังกลับมา
ในเวลานี้, บนโลก และทั่วทั้งระบบสุริยะ, ได้พัฒนาไปอย่างมาก, และการอพยพไปยังดาวอังคารและดาวเสาร์ก็ได้เริ่มไปแล้ว
มนุษยชาติจำนวนมากได้เริ่มหลั่งไหลจากโลกไปยังดาวอังคารและดาวเสาร์, และได้พยายามเพื่อให้กลายเป็นผู้มั่งคั่งในยุคของการออกท่องดวงดาวนี้
หลังจากที่ผ่านไป 1 ปีครึ่งของการฝึกฝน, ผู้มีความสามารถด้านเทคนิคจำนวนมากต่างก็ได้ก้าวข้ามไปสู่ชีวิตยุคใหม่
ส่วนโลกนั้นจากเดิมที่อุตสาหกรรมมากมายอยู่ในมือของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ในเวลานี้ด้วยบุคลากรช่างเทคนิคจำนวนมากที่จบมาจากโรงเรียน, ทำให้มีบริษัทเอกชนถือกำเนิดขึ้นมาอย่างมากมาย
ฟิวเจอร์นั้นมีความสุขอย่างมากเมื่อได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้, พวกได้ยกอุตสาหกรรมจำนวนมากให้ไปจนทำให้ชะลอการเติบโตของฟิวเจอร์กรุ๊ป แต่มุ่งเป้าไปยังการพัฒนาอุปกรณ์ไฮเทคยิ่งขึ้นแทน
นอกจากนี้, ภายใต้การสถานการณ์ที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ทำการส่งเสริมผู้ประกอบการ, พนักงานบางคนที่เคยมีตำแหน่งที่สำคัญๆอยู่ในฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นก็ได้แยกตัวออกมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเองขึ้นมา
ในอำเภออวิ๋นหลง ที่เดิมทีมีโรงเรียนที่ก่อตั้งโดยอู๋ฮ่าวเหรินอยู่ในเวลานี้ได้กลายเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มนุษยชาติทุกคนถวิลหาไปแล้ว
เพราะหากได้เรียนที่นั่นแล้ว เมื่อใดที่จบจากโรงเรียน, ก็จะสามารถเข้าไปยังบริษัทต่างๆในเครือฟิวเจอร์กรุ๊ปได้, หรือเข้าร่วมกับทีมคุ้มกันของสหภาพมนุษย์
หลิงเหยา, พี่เขยของอู๋ฮ่าวเหริน, ในเวลานี้ได้รับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพสหภาพมนุษย์และมียานรบอยู่ในการควบคุมถึง 300 ลำ
เหล่านักเรียนที่อยู่ชั้นเดียวกับเขานั้นที่ได้จบมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วกลายมาเป็นผู้มีความสามารถชุดแรกในทุกสาขาของสหภาพมนุษย์
ระบบป้องกันแบบแมทริกซ์ของอู๋ฮ่าวเหรินที่อยู่ในระบบสุริยะนั้นก็ได้เสร็จสิ้นแล้ว, ระบบป้องกันที่ทรงพลังนี้ได้ขยายออกไปอย่างต่อเนื่องจนถึงเขตรอบนอกของระบบสุริยะ
เหล่าผู้ที่ถูกจับโดยอู๋ฮ่าวเหรินนั้นต่างก็ตกใจกับการพัฒนาของมนุษยชาติ
พวกเขาไม่คาดคิดว่าอารยธรรมที่ล้าหลังเช่นนี้จะสามารถพุ่งทะยานอย่างรวดเร็วเพียงเพราะพวกเขาครอบครองของโบราณเท่านั้น
โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นระบบป้องกันของระบบสุริยะแล้ว, คนเหล่านี้ต่างก็หมดหวังที่จะหนีรอดออกไป
หากต้องเผชิญกับระบบป้องกันกระดองเต่าเช่นนี้แล้ว ก็หมดสิทธิที่จะหลบหนี
ในบ้านพักของอู๋ฮ่าวเหริน, หลิงเมิ่งเสวี่ยได้ยืนดูห้องแสดงหน้าจอแสดงภาพต่างๆที่อู๋ฮ่าวเหรินได้สร้างเอาไว้, และมองดูอู๋ฮ่าวเหรินที่อยู่บนจอ เขานั้นกำลังอึ้งอยู่
"คุณน่ะ, คุณรีบกลับมาได้แล้วนะ!"
"อืม, ลำบากคุณหน่อยนะ, ผมกำลังจะเดินทางกลับถึงโลกในไม่ช้านี้แล้วล่ะ"
น้ำตาของหลิงเมิ่งเสวี่ยที่จู่ๆก็ไหลออกมา, แต่รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาที่มุมหนึ่งในใบหน้าของเธอ
"ไม่ร้องนะ, ไม่ร้อง, ผมขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเอง, ผมจะรีบกลับไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้เลยล่ะ, และจะไม่ปล่อยให้คุณอยู่ลำพังบนโลกอีกต่อไปแล้ว"
"ต่อให้คุณบอกให้ฉันอยู่, ฉันก็จะไม่ยอมอยู่แล้ว"
หลิงเมิงเสวี่ยได้แสดงท่าทีแบบเด็กน้อยออกมา, ซึ่งทำให้คนที่ได้เห็นนั้นอยากที่จะโอ๋เธอ
ถ้าเกิดให้คนอื่นที่ปกติเห็นเธอเป็นเหมือนดั่งราชินีที่เย็นชาได้มาเห็นเธอในเวลานี้เข้าล่ะก็, ไม่ว่าใครต่างก็คงไม่เชื่อสายตา
เมื่อได้รู้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินกำลังจะกลับมา, หลิงเมิ่งเสวี่ยก็ได้ไปที่สำนักงานใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปบนโลกด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
เมื่อเธอเดินทางมาที่สำนักงานใหญ่นั้น, เหล่าพนักงานที่ปกติจะเห็นเธอที่ทำหน้าจริงจังและน่ากลัวตลอดเวลานั้น ต่างก็ไม่เชื่อสายตาเมื่อได้เห็นหน้าของเธอตอนนี้
"เธอเห็นเหมือนที่ฉันเห็นไหม? ท่านประธานหิมะของพวกเรากำลังยิ้มออกมาล่ะ"
"เธออาจจะดูผิดไปก็ได้มั๊ง, ฉันไม่เคยเห็นท่านประธานเย็นชาคนนั้นยิ้มเลยสักครั้งตั้งแต่ตอนที่ท่านหัวหน้าเดินทางออกจากโลกไปเลยนะ"
เมื่อพนักงานคนหนึ่งได้มองไปที่หลิงเมิ่งเสวี่ยที่เดินผ่านเขาไป, เขาก็ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่แข็งทื่อ
หลังจากที่ผ่านไปได้สักพัก, ก็พูดพึมพำขึ้นมาว่า "เป็นไปไม่ได้, เป็นไปไม่ได้, สงสัยสายตาเราจะเพี้ยนไปเอง"
"มันไม่แค่สายตาของคุณหรอก, เพราะทุกคนต่างก็เห็นท่านประธานกำลังยิ้มอยู่จริงๆ"
"ใครจะรู้, อาจจะมีเรื่องที่น่ายินดีเกิดขึ้นก็ได้, ไม่อย่างนั้นท่านประธานจะยิ้มขึ้นมาได้อย่างไร?"
ในขณะที่ทุกคนกำลังส่ายหัว, เหล่าพนักงานเก่าในบริษัทนั้นต่างก็รู้ดีเรื่องของสถานการณ์ของหลิงเมิ่งเสวี่ย, เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินได้จากไปและปล่อยเรื่องต่างๆในฟิวเจอร์กรุ๊ปไว้ให้เธอ, ทำให้แรงกดดันต่างๆตกอยู่กับเธอหมด
ภรรยาของหัวหน้า, ที่เคยเป็นคนที่คอยเอาใจใส่และดูแลคนอื่นมาก่อนนั้น, ก็ได้กลายมาเป็นคนที่เข้มแข็งและไม่มีรอยยิ้มอีกต่อไป
นอกจากนี้, ประธานหญิงคนนี้ก็เป็นคนที่ทะเยอทะยานมาก
ฟิวเจอร์กรุ๊ปทั้งหมดนั้น, ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเธอนั้น, ได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมาก
และเมื่อใดที่มีปัญหาเกิดขึ้นกับสภาของสหภาพมนุษย์นั้น, ประธานหญิงคนนี้ก็จะทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะแก้ไขปัญหานั้นๆ
พนักงานส่วนตัวของเธอจะเรียกเธอว่าประธานหิมะ, และเหล่าผู้ที่เกลียดฟิวเจอร์กรุ๊ปก็จะเรียกเธอว่าราชินีน้ำแข็ง
แล้วด้วยเหตุผลนี้ทำให้มีคนที่ไม่ซื่อตรงอยู่ในสภาของสหภาพมนุษย์
เพราะทางสภาไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆได้เพื่อที่จะพัฒนามนุษยชาติอย่างต่อเนื่อง
เมื่อหลิงเมิ่งเสวี่ยได้เข้ามาถึงชั้นบนสุดของตึกนั้น, หลิวหมิงเยี่ยผู้ซึ่งจัดการกับเรื่องต่างๆของที่นี่เสร็จแล้ว, ก็ตกใจเมื่อได้เห็นสีหน้าของหลิงเมิ่งเสวี่ย
"วันนี้วันดีสินะเนี่ย, ที่ประธานหิมะของพวกเรามาทำงานพร้อมกับกับรอยยิ้ม"
"ถ้าไม่ใช่วันดี, ฉันจะมาทำงานด้วยรอยยิ้มบ้างไม่ได้รึไง"
หลิวหมิงเยี่ยที่เดินผ่านไป ก็หันหลังกลับมาพร้อมกับส่ายหัวแล้วพูดขึ้น "คงจะมีเรื่องดีเกิดขึ้นล่ะสิ, ไม่อย่างนั้นแล้ว เธอก็คงไม่ทำสีหน้าแบบนั้นออกมาหรอก, โจ้วหลานเธอก็คิดแบบนั้นใช่มั๊ย?"
โจ้วหลานผงกหัวและเห็นด้วยกับหลิวหมิงเยี่ย, พวกเธอรู้จักกับหลิงเมิ่งเสวี่ยดี, ตั้งแต่อู๋ฮ่าวเหรินได้จากไป เธอก็แทบไม่ยิ้มอีกเลย
"ถ้าอย่างนั้นก็รีบบอกมาซะดีๆว่ามีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นกันแน่ แล้วแบ่งปันมาให้พวกเรามีความสุขบ้างซะดีๆ"
เมื่อเห็นว่าหลิงเมิ่งเสวี่ยไม่มีทีท่าจะยอมบอก, หลิวหมิงเยี่ยก็ยื่นมือออกไปคว้าหลิงเมิ่งเสวี่ยเอาไว้, และโจ้วหลานเองก็มีทีท่าจะมาร่วมด้วย
"ถ้าเธอไม่ยอมบอกก็ล่ะก็, ฉันจะจัดการกับเธอแน่, โจ้วหลานช่วยฉันที"
"หยุด, หยุด, ยอมพูดแล้ว, ยอมพูดแล้ว, ฮ่าวเหรินกำลังจะกลับมาแล้ว"
"อะไรนะ? อู๋ฮ่าวเหรินกำลังจะกลับมา!" หลิวหมิงเยี่ยพูดขึ้นมาอย่างตกใจ
โจ้วหลานที่อยู่ๆเธอก็มองมาที่หลิงเมิ่งเสวี่ยด้วยความตกใจเช่นกัน
"ใช่แล้ว, เขากำลังจะกลับมาแล้ว, ก่อนที่ฉันจะเดินทางมาที่นี่, ฉันได้รับการติดต่อมาจากเขา"
หลิวหมิงเยี่ยและโจ้วรู้สึกตื่นเต้นมาก, แต่ทันใดนั้นสีหน้าของพวกเธอก็เปลี่ยนไปและกลายเป็นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแทน
"ในที่สุดหมอนั่นก็กลับมาแล้ว, กลับมาถึงเมื่อไรล่ะก็เจอดีแน่"
"คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้หมอนั่นรอดไปง่ายๆแน่, หายออกไปตั้งเป็นปี แต่กลับไม่รู้จักติดต่อกลับมาบ้างเลย, ปล่อยให้ท่านประธานหิมะของเราเป็นกังวลอยู่ได้ทุกวัน"
"นี่ทั้งสองคน, เมื่อเขากลับมาแล้ว คุณค่อยจัดการกับเขาทีก็ได้, ในตอนนี้เรามาวางแผนเซอไพรซ์เขากันดีกว่า"
แล้วทั้ง 3 สาวก็จับกลุ่มเริ่มปรึกษากัน
ในขณะเดียวกัน, ในสภาของสหภาพมนุษย์ กลุ่มคนก็ได้มารวมตัวกันเพื่อประชุมหารือพิเศษ
มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีไฮเทคที่ได้รับมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ปมากขึ้นเรื่อยๆ, ซึ่งทำให้ผู้คนเริ่มที่จะมีความคิดอื่น
พวกเขานั้นไม่ต้องการที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของฟิวเจอร์กรุ๊ปตลอดไป, พวกต้องการที่จะเป็นผู้ที่ปกครองมนุษยชาติอย่างแท้จริงแทน และเตรียมตัวที่จะเผชิญกับฟิวเจอร์กรุ๊ป
ดังนั้นคนเหล่านี้จึงต้องการที่จะต่อต้าน, และต้องการให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นปล่อยเทคโนโลยีทั้งหมดออกมา
อู๋ฮ่าวเหริน, ซึ่งอยู่ในยานรบที่อยู่ห่างไกลจากโลกออกไปนั้น, ไม่รู้เลยว่ามีปัญหาที่เขาจะต้องเผชิญในขณะที่เขากำลังเดินทางกลับไปที่โลก
อีกทางด้านหนึ่ง, ยานรบของชาวโครน่าก็กำลังมาเดินทางมาถึงระบบสุริยะแล้ว
0 ความคิดเห็น