SC:บทที่ 55 หลบหนีอย่างรวดเร็ว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

SC:บทที่ 55 หลบหนีอย่างรวดเร็ว


ทันใดนั้นมู่หยิงเสวี่ยก็เห็น หลินเฉิง วิ่งมาด้านข้างของเธอจากระยะไกล เมื่อเขาเห็นว่าโคล่านั้นถูกตัวกินคนจัดการมันทำให้เขารู้สึกโกรธเคืองอย่างมาก เขาพุ่งเข้าไปแล้วบีบคอตัวกินคนจากนั้นกดลงกับพื้นและยกมีดสับหัวมันทันที!


หลังจากฆ่าตัวกินคนเสร็จ หลินเฉิง ไม่กล้าที่จะชักช้าอีกต่อไป เขาจัดการซอมบี้อีก 2 ตัวที่พุ่งเข้ามาและอุ้มโคล่าที่กำลังบาดเจ็บสาหัสไปให้ มู่หยิงเสวี่ย  จากนั้นเขาลาก มู่หยิงเสวี่ย ที่กำลังร้องไห้ออกไปจากโรงงานแห่งนี้อย่างรวดเร็ว!


ในตอนนี้ภายในโรงงานมีผู้คนที่รอดชีวิตลดลงเรื่อยๆ เมื่อตัวกินคนไม่สามารถหาเป้าหมายของมันได้ มันจึงเล็งเป้าหมายมาที่ หลินเฉิง  พวกมันพุ่งตรงมาหา หลินเฉิง ด้วยความรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน หลินเฉิง กำลังอุ้ม มู่หยิงเสวี่ย อยู่ในแขนของเขาดังนั้นเขาไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้ เขากลั้นหายใจแล้วเร่งสปีดไปที่รถอย่างรวดเร็ว มีเพียงความเป็นไปได้อย่างเดียวเท่านั้นที่เขาจะสามารถรอดชีวิตจากสถานการณ์นี้ได้


ผู้รอดชีวิตคนอื่นๆที่หนีออกมาจากโรงงาน กระโดดขึ้นรถของตัวเองและเริ่มสตาร์ทเครื่องออกไปเช่นกัน  หลินเฉิง ไม่รู้ว่ามีผู้รอดชีวิตกี่คนกันที่เหลืออยู่ เขารีบวิ่งไปที่รถ G65 ของตัวเองและพูดกับมู่หยิงเสวี่ยว่า


“  เธอขึ้นรถไปก่อน ผมจะล่อมันไปเอง!”


จากนั้น หลินเฉิง หันหลังและจัดการกับตัวกินคนที่วิ่งตามมา เขาพยายามวิ่งไปยังตำแหน่งอื่นเพื่อดึงความสนใจของตัวกินคนที่เหลือ


หิมะหนาทำให้จังหวะการวิ่งของ หลินเฉิง สะดุดหลายครั้งที่เขาเกือบจะลื่นไถล การล้มลงไปในหิมะในขณะที่ตัวกินคนตามหลังมานั้นไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน แต่สำหรับตัวกินคนที่มีจำนวนมากพวกมันเองก็ลื่นล้มไถลเช่นกันมันทำให้ หลินเฉิง สามารถทิ้งระยะห่างระหว่างพวกมันได้


ทันใดนั้นเสียงคำรามของเครื่องยนต์ก็ดังมาจากด้านหลังและดูเหมือนว่ามันกำลังเข้าใกล้เขามาเรื่อยๆ


 หลินเฉิง หันศีรษะของเขากลับไปมองและพบว่า G65 ของเขากำลังพุ่งมหาในเวลานี้ ก่อนที่เขาจะทันตอบสนอง G 65 ก็มาถึงเขาแล้ว จากนั้น หลินเฉิง สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มู่หยิงเสวี่ย นั้นอยู่ในตำแหน่งคนขับ  มู่หยิงเสวี่ย ยื่นหัวออกมาแล้วตะโกนว่า


“ขึ้นมาเร็ว  หลินเฉิง!”


 เมื่อมองไปที่ มู่หยิงเสวี่ย เด็กสาวตัวน้อยที่ขับรถออฟโรดทรงสูงอย่างชำนาญทำให้ หลินเฉิง รู้สึกประหลาดใจ  แต่เขาไม่มีเวลาที่จะมามัวแต่คิดเรื่องนี้ เขารีบวิ่งไปยังตำแหน่งข้างคนขับและเปิดประตูกระโดดเข้าไปทันที และเมื่อเขาพบว่าร่างของเขาสัมผัสกับเบาะ  มู่หยิงเสวี่ย ก็เหยียบคันเร่งพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว


หลังจากนั้น หลินเฉิง หันหลังมองกลับไป ตัวกินคนไม่สามารถไล่ตามเขาได้อีกต่อไป เขารู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย  ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าโคล่านั้นบาดเจ็บสาหัสเขาจึงอุ้มมันขึ้นและตรวจสอบบาดแผลอย่างระมัดระวัง แต่เขาพบว่าบาดแผลของโคล่ากำลังรักษาตัว มีอาการบาดเจ็บเพียงแค่ผิวหนังเท่านั้นบางทีอาจเป็นเพราะแคปซูลยาที่เขาให้มันกินก่อนหน้านี้ มีความเป็นไปได้ที่โคล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา  หลินเฉิง ลูบหัวโคล่าและมองมันอย่างอ่อนโยน จากนั้นเขาก็พูดกับมันว่า


“เอาล่ะ แกควรที่จะนอนพักผ่อนก่อน ฉันจะให้รางวัลกับแกในวันพรุ่งนี้ ดีไหม”


เมื่อโคล่าได้ยินมันพยักหน้าและหลับตาลง


 มู่หยิงเสวี่ย ที่จับพวงมาลัยไว้แน่นรู้สึกผ่อนคลาย เธอรู้แล้วว่าตัวกินคนไม่สามารถติดตามพวกเธอได้ทันในขณะนี้เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นโคล่านอนอยู่บนตักของ หลินเฉิง มู่หยิงเสวี่ย พยายามพูดออกมา


“ โคล่า...โคล่าพยายามช่วยชีวิตฉัน…”


 หลินเฉิง ถอนหายใจและโบกมือ


“ไม่ใช่ความผิดของคุณ ผมเป็นคนให้มันไปหาคุณเอง และโคล่าก็ต้องการทำแบบนี้ด้วยความเต็มใจของมันเองไม่มีใครบังคับ ดังนั้นไม่ต้องโทษตัวเอง..”


เมื่อ หลินเฉิง พูดเสร็จเขาก็นึกอะไรได้บางอย่างและหันมาถามมู่หยิงเสวี่ยว่า


“ ฉีรุย อยู่ที่ไหน ทำไมพวกคุณไม่อยู่ด้วยกัน?”


เมื่อได้ยินคำพูดของ หลินเฉิง กำลังพูดถึง ฉีรุย ดวงตาของ มู่หยิงเสวี่ย เปลี่ยนเป็นสีแดง


“ฉัน..ฉันไปพบเธอก่อนหน้านี้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอไม่เต็มใจที่จะไปกับพวกเรา...หลังจากนั้นตัวกินคนก็ปรากฏตัวออกมาและฉันไม่รู้ว่าเธอ….”เมื่อพูดถึงตรงนี้ มู่หยิงเสวี่ย ร้องไห้อย่างช่วยไม่ได้


 หลินเฉิง  ส่ายหัวอย่างไร้ประโยชน์เมื่อเขาได้ยินคำพูดนี้ เขารู้สึกว่าชะตากรรมของมนุษย์นั้นไม่แน่นอน บางคนอาจคิดว่าพวกเขาได้พบที่พักพิงที่ปลอดภัยแต่ในพริบตาผู้คนจำนวนมากก็ถูกแยกระหว่างความเป็นความตาย


…….


 มู่หยิงเสวี่ย ขับรถG65 วิ่งตลอดทั้งคืนในขณะที่ หลินเฉิง และโคล่าพักผ่อน ในที่สุดท้องฟ้าที่มืดครึ้มก็ส่องแสงสว่างเล็กน้อย ตามคำเรียกร้องของ หลินเฉิง เธอได้หยุดที่ปั้มน้ํามันขนาดเล็ก


 หลินเฉิง ให้ มู่หยิงเสวี่ย อยู่ในรถ และเขาเข้าไปยังโรงเก็บน้ำมันที่ ซุปเปอร์มาเก็ต ขนาดเล็ก เขาเห็นซอมบี้ 2-3 ตัวเดินอยู่ข้างในหลังจากที่ทำความสะอาดซอมบี้ทั้งหมด หลินเฉิง ก็สำรวจทุกซอกทุกมุมของซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่างรอบคอบและมุ่งเน้นมองหาว่ามีหลุมบนพื้นหรือไม่


หลังจากการค้นหา 10 นาที หลินเฉิง ตัดสินใจว่าปั๊มน้ำมันแห่งนี้ไม่มีอะไรนอกจากซากศพ เขาเดินออกจากซุปเปอร์มาเก็ตและส่งสัญญาณว่าที่นี่ปลอดภัยให้กับ มู่หยิงเสวี่ย


 เมื่อเห็นว่าไม่มีอันตรายใดๆ มู่หยิงเสวี่ย จึงกล้าลงจากรถ จากนั้นหยิบน้ำแร่ที่อยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตส่งให้กับ หลินเฉิง  พวกเขาล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำ หลังจากที่รู้สึกสดชื่นเล็กน้อยพวกเขาก็เก็บกวาดกองอาหารและเครื่องดื่มในซุปเปอร์มาเก็ตจนเต็มด้านหลังของรถยนต์  หลินเฉิง ลองดูที่จ่ายน้ำมันพบว่ามันไม่มีกระแสไฟฟ้าดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเติมน้ำมันได้  หลินเฉิง รู้สึกหดหู่จากนั้นขึ้นไปยังตำแหน่งคนขับเพื่อเคลื่อนย้ายต่อไป


หลังจากออกเดินทาง หลินเฉิง เห็น มู่หยิงเสวี่ย พักผ่อนทันทีเมื่อขึ้นรถ เขาพยักหน้าอย่างโล่งใจเพราะเมื่อคืนหญิงสาวขับรถตลอดทั้งคืน หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัวเธอยังคงขับรถได้แสดงว่าเธอยังคงมีจิตใจที่แข็งแกร่ง เมื่อตอนนี้รู้สึกโล่งใจแล้วเธอจึงรู้สึกง่วงเป็นปกติ


สำหรับตัว หลินเฉิง แล้วความจริงเขาได้รับการช่วยเหลือจากแคปซูลเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายแม้ว่าจิตใจของเขาจะเหนื่อยแต่ร่างกายของเขายังคงฟื้นตัวอยู่เสมอ อีกทั้งเขายังคงคุ้นเคยกับฉากที่ตัวกินคนไล่จัดการกับมนุษย์หลายสิบคน สิ่งที่เขาเป็นกังวลคือโคล่า เขากลัวว่ามันจะบาดเจ็บหรือเสียชีวิตดังนั้นเมื่อคืนเขาจึงพักผ่อนเป็นเพื่อนกับโคล่า


อย่างไรก็ตามพฤติกรรมของตัวกินคนทำให้ หลินเฉิง รู้สึกเป็นกังวลมากยิ่งขึ้น ในตอนแรกเขาคิดว่าตัวตนของพวกมันปรากฏขึ้นเพราะหมอก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกมันกลับขุดหลุมอยู่


หลุมเหล่านี้ยากจะเป็นที่สังเกต เมื่อมองร่องรอยจากการขุดหลุมดูเหมือนว่ามันไม่ได้เกิดจากกรงเล็บของตัวกินคน แต่มันคืออะไร?


ตอนนี้เขารู้แล้วว่าสัตว์ประหลาดเหล่านั้นโผล่มาจากที่ไหนดังนั้นต่อไปนี้เขาควรที่จะให้ความสนใจเกี่ยวกับหลุมที่อยู่บนพื้น  ในตอนที่เขาอยู่ในเมืองซงโจวเขาสามารถหาตัวกินคนได้เพียง 1 โหลในช่วงระยะเวลาครึ่งเดือน แต่เมื่อคืนเขากลับพบตัวกินคนหลาย 10 ตัวในครั้งเดียว เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย


----------------------------------------------------


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น