SC:บทที่ 34 เพื่อนตัวน้อย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

SC:บทที่ 34 เพื่อนตัวน้อย


หลินเฉิง กลับมายังห้องพักชั้น 9 ของโรงแรมอีกครั้ง ในขณะนี้เขายืนอยู่ข้างหน้าต่างและมองลงไปชั้นล่างเพื่อดูพฤติกรรมของซอมบี้ในขณะเดียวกันเขาก็กำลังคิดถึงสิ่งต่างๆในใจ แม้ว่าเขาสามารถสงบสติอารมณ์เรื่องในซุปเปอร์มาร์เก็ตได้แต่ยังคงกล่าวได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เขาฆ่ามนุษย์ ความรู้สึกยังคงติดอยู่ในใจของเขาเขาไม่เพียงฆ่าคนคนเดียวแต่ถ้าคนเป็นกลุ่ม


ความรู้สึกในการฆ่าคนกับการฆ่าซอมบี้นั้นค่อนข้างแตกต่างกัน แม้ว่าคนเหล่านั้นสมควรที่จะถูกฆ่าแต่ หลินเฉิง ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดในจิตใจของเขา นักศึกษาที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดตลอดมาต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้กะทันหัน ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดดูถูก ฉีรุย ว่าพวกเธอไม่มีคุณสมบัติในการอยู่รอดบนโลกที่แสนวุ่นวายนี้แต่ดูเหมือนว่าเขาเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน


หลังจากที่ขบคิดอยู่นาน หลินเฉิง ก็มีความคิดบางอย่างไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องการทำอะไรเขาต้องทดแทนด้วยความรู้สึกความเป็นมนุษย์ที่เหลืออยู่ ตอนนี้เขาต้องการไปยังเมืองเซียงโจวให้เร็วที่สุดไม่ว่าคนที่ยืนขวางเขาจะเป็นมนุษย์ ซอมบี้ เขาจะฆ่าพวกมันให้สิ้น!


…..


2 วันต่อมา..


ในอาคารที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่ง บนรอบๆทางเดินเต็มไปด้วยเลือดสีดำและซากศพของซอมบี้  หลินเฉิง นั่งอยู่บนโซฟานุ่มและกำลังกินขนมปังรองท้อง นี่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยแห่งที่ 2 ที่เขาเริ่มทำการกวาดล้าง ก่อนหน้านี้เขาต้องการไปยังสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากเช่นสถานีรถไฟ เพื่อที่จะสะสมค่าพลังงานให้เร็วที่สุด แต่เมื่อเขาคิดว่ารถไฟนั้นได้ปิดการให้บริการก่อนจะเกิดภัยพิบัติดังนั้นเขาเกรงว่าคงมีแต่หมาแมวเท่านั้นที่อยู่แถวนั้น ในที่สุดเขาก็ปัดความคิดนี้ทิ้งออกไปและเริ่มค้นหาสถานที่ที่มีซอมบี้อย่างแน่นอนนั่นก็คืออาคารที่อยู่อาศัยต่างๆ


แม้ว่าจำนวนซอมบี้ในสถานที่แห่งนี้จะมีน้อยกว่าสถานที่ที่รวมฝูงชนเอาไว้ แต่อย่างน้อยการที่เขาออกค้นหาตามอาคารบ้านเรือนมันทำให้เขาสามารถรวบรวมเสบียงได้ส่วนหนึ่ง แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องการทำลายประตูทุกครั้งในช่วง 2 วันที่ผ่านมา   หลินเฉิง ก็ได้รับค่าพลังงานถึง 73 คะแนนแล้วในตอนนี้


แน่นอนถ้าเพียงแค่ฆ่าซอมบี้เขาคงไม่ได้รับค่าพลังงานมากอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่เชื่อฟังรัฐบาลเป็นอย่างมากพวกเขาไม่ได้ออกไปไหนเลยและยังทำการล็อคประตู แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าตัวกินคนนั้นไม่เพียงแต่มีความเร็วสูงแต่มันยังคงปีนตึกได้อีกด้วย!


สุดท้ายแล้วก็มีผู้อยู่อาศัยบางคนเคราะห์ร้ายและเสียชีวิตกลายเป็นอาหารของตัวกินคน จากนั้นตัวกินคนก็ถูกขังอยู่ในบ้านเหล่านั้นเมื่อ หลินเฉิง มาถึงมันทำให้เขาได้รับค่าพลังงานมากมาย..


 หลินเฉิง นั่งอยู่บนโซฟาขณะที่กินขนมปังและคิดถึงเป้าหมายต่อไป


ประสิทธิภาพของการฆ่าซอมบี้ในอาคารที่อยู่อาศัยนั้นยังคงต่ำเกินไปหากเขาต้องการที่จะแลกเปลี่ยนรถออฟโรดออกมาเขาคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนในการฆ่าซอมบี้เหล่านี้เพื่อเก็บคะแนน


 หลินเฉิง ไม่ต้องการรออีกต่อไป เขาไม่รู้ว่าป้าฉินที่อยู่เมืองเซียงโจวนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินเฉิง ก็ตัดสินใจที่จะไปยังสถานที่ที่เขาไม่ต้องการที่จะไปเลยสักนิด  จัตุรัสหว่านเฉียน!


แต่ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามีคนโง่จำนวนมากแค่ไหนที่ออกมาตายยังจัตุรัส แต่เมื่อพิจารณาความหนาแน่นของประชาชนหลายคนคนนี้รู้สึกว่าตราบใดที่ไม่ใช่แผ่นดินไหว หมอกหนาไม่สามารถหยุดชายหนุ่มและหญิงสาวมาปรากฏตัวที่นี่ได้


 หลินเฉิง ชั่งน้ำหนักในใจเขาต้องการ ค่าพลังงานจำนวนมากดังนั้นที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในตอนนี้ แม้ว่าจะมีสถานที่ที่มีซอมบี้มากกว่าที่นี่ แต่สถานที่เหล่านั้นอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยซงโจว หลินเฉิง ยังไม่มีความคิดที่จะไปตามล่าซอมบี้แถวนั้น


ไม่ใช่เพราะ หลินเฉิง กลัวตัวกินคน แต่เขาคิดว่าถ้าเขาไปใกล้กับมหาวิทยาลัยบางทีเขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับอาจารย์ที่เคยสอนเขามารวมทั้งเพื่อนร่วมชั้นของเขาที่กลายเป็นซอมบี้  หลินเฉิง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจหากต้องฆ่าพวกเขาเหล่านี้


อย่างไรก็ตามไม่ว่าสถานที่ไหนก็ย่อมมีซอมบี้อยู่ทุกหนทุกแห่ง ทำไมเขาจะต้องกดดันตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่อย่างมหาลัยมักเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก บางทีเขาอาจจะไม่สามารถที่จะแทรกตัวเข้าไปยังมหาวิทยาลัยได้


เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเฉิง ยัดขนมปังชิ้นสุดท้ายเข้าไปในปากและลุกขึ้น แต่เมื่อเขาเดินมาถึงประตูเขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆจากห้องเก็บของใกล้ทางเดิน


เมื่อมองไปยังห้องเก็บของที่ถูกปิดอยู่ หลินเฉิง ขมวดคิ้วทันที!


จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาในการค้นหาห้องเหล่านี้ในห้องเก็บของมักไม่มีหน้าต่าง โอกาสที่ตัวกินคนจะบุกเข้ามานั้นเป็นศูนย์ ประตูถูกล็อคทุกอย่างเห็นได้ชัดว่าเจ้าของบ้านหลังนี้ได้ออกเดินทางไปก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติ แล้วใครล่ะที่ส่งเสียงอยู่ในห้องเก็บของนี้?


หลินเฉิง รู้สึกแปลกๆเขาตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเสียงที่ดังออกมาในห้องเก็บของนี้เขาต้องการที่จะออกไปจากบ้านหลังนี้ แต่ห้องเก็บของที่อยู่ด้านหลังของเขายังคงส่งเสียง!!


ให้ตายสิ! คงไม่ใช่ผีหลอกนะ! ฉันจะลากแกออกมาสั่งสอนที่ทำให้ฉันตกใจกลัว!


ด้วยความไม่พอใจของเสียงแปลกประหลาดนี้ หลินเฉิง จึงเตะประตูห้องเก็บของ และซ่อนตัวอยู่ข้างๆเพื่อดูการเคลื่อนไหวภายในห้อง แต่เขาก็ได้ยินเสียงร้องรวยรินออกมาจากห้อง


“โฮ่ง โฮ่ง”


เมื่อได้ยินเสียงเห่าของสุนัข หลินเฉิง ก็หันไปมองอย่างตกใจเช่นกัน เข้าไปยังห้องเก็บของและเห็นหมาสีดำตัวเล็กๆตัวหนึ่งแขนขาของมันสั่นเทาคล้ายกับอ่อนแรง เมื่อ หลินเฉิง เข้าไปมันพยายามถอยหนีอย่างรวดเร็ว มันรู้สึกหวาดกลัวต่อชายหนุ่มที่เดินเข้ามา


เยอรมันเชเพิร์ด?


ตัวร้ายที่ทำให้ หลินเฉิง รู้สึกตกใจคือหมาตัวน้อยตัวนี้  หลินเฉิง รู้สึกสมเพชตัวเอง!


ในที่สุดหมาน้อยก็ค่อยๆลดการระวังตัวลง  หลินเฉิง เหลือบมองทั่วทั้งห้อง พบว่าในห้องนี้เป็นเพียงห้องแคบๆและมีเบาะหนาวางอยู่บนพื้นพร้อมกับกล่องอาหารสุนัขที่ถูกฉีกขาดกระจัดกระจายบนเสื่อ สามารถคาดเดาได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือเสียงที่ตอนสุนัขตัวนี้กัดกล่องกระดาษเพื่อหาอาหาร ชามที่ใส่น้ำต่อหน้ามันในตอนนี้ไม่เหลือน้ำแม้แต่หยดเดียว เมื่อสำรวจห้องเก็บของนี้อย่างละเอียดดูเหมือนว่าห้องนี้ถือว่าเป็นห้องนอนเล็กๆของเพื่อนตัวน้อยนี้  หลินเฉิง ส่ายหัวอย่างเงียบๆเขารู้สึกว่าสุนัขตัวนี้ โชคดีที่รอดมาได้


 หลินเฉิง เดินไปด้านหน้าของลูกหมาจากนั้นเขาจับมันขึ้นมาร่างกายของมันยังคงสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว  หลินเฉิง รู้สึกราวกับว่าเขากำลังจับท่อนกระดูกในมือของเขา ดูเหมือนว่ามันจะอดอาหารมาเป็นเวลานาน  หลินเฉิง ถอนหายใจและเอาไส้กรอกแฮมออกมาจากกระเป๋าด้านหลังจากนั้นแกะถุงพลาสติกออกและส่งให้กับมัน มันเกลืนไส้กรอกลงไปครึ่งนึงโดยไม่ต้องเคี้ยว  หลินเฉิง ถอนหายใจแล้วหยิบขวดน้ำเทลงในชามให้กับมัน


“นี่คงเป็นโชคชะตาของแก ฉันคิดว่าครอบครัวของแกคงตายไปหมดแล้ว ยังดีที่แกยังมีชีวิตอยู่แต่ก็ต้องอยู่อย่างหิวโหย…”


 เมื่อได้ยินคำพูดของ หลินเฉิง ดูเหมือนลูกหมาตัวน้อยจะฟังเข้าใจ  มันเงยหน้ามอง หลินเฉิง แล้วครางออกมาเบาๆจากนั้นก้มศีรษะลงไปกินไส้กรอกแฮมอีกครั้ง


 หลินเฉิง อดชื่นชอบเพื่อนตัวน้อยนี้ไม่ได้ มันฉลาดมาก แต่เมื่อนึกถึงภาระของเขาที่ต้องแบกรับอีกทั้งยังต้องหาค่าพลังงานเขาจะมีเวลาดูแลลูกสุนัขได้ยังไง เขาทำได้เพียงถอนหายใจแล้วเอาไส้กรอกแฮมออกมาจากกระเป๋าจากนั้นเขาแกะถุงและวางลงบนพื้น สุดท้ายแล้วเขาเพียงแต่รูลูบหัวลูกสุนัขและพร้อมที่จะออกไปจากบ้านหลังนี้..


---------------------------------------


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น