RC:บทที่ 99 เติบโตขึ้น
เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านกลับไป หลินเฟิงก็ยิ้มให้กับเบื้องหลังของพวกเขา เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เงินครึ่งล้านมาก่อนเลย
ก่อนอื่น หลินเฟิงคิดว่าจะไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านของหลาย ๆ หมู่บ้านในการส่งน้ำเสียและขยะมาให้เขาเมื่อไหร่ดี การที่เจ้าเมืองจะมาตรวจสอบในตอนนี้ช่วยเขาได้มาก
"เสี่ยวเฟิง ตอนนี้นายหาเงินได้มากเลย!" หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวอย่างตื่นเต้น
"ที่ไหนละครับ เพราะต้องซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ มันไม่ใช่เงินมากมายเลยครับ!" หลินเฟิงตอบ
"ไม่ ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น!" หัวหน้าหมู่บ้านกล่าว
"อะไรเหรอครับ?" หลินเฟิงสงสัย
"นามบัตรใบนั้นต่างหาก ฉันไม่คิดเลยว่านายจะได้นามบัตรของเจ้าเมืองซ่ง มันสุดยอดเลย" หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวแล้วเอาบัตรมาจากหลินเฟิงและมองดูมันอย่างละเอียด
"นามบัตรนี่เป็นอย่างไรเหรอครับ? เจ้าเมืองชราคนนั้นมีสถานะสูงส่งเหรอ? " หลินเฟิงรู้สึกสงสัย
"แน่นอน เจ้าเมืองชราถูกกล่าวกันว่าเขาชอบส่งเสริมคนที่มีความสามารถอันยอดเยี่ยมและแม้แต่บางคนก็ไปถึงระดับภูมิภาคแล้ว!" หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา
"โคตรสุดยอดเลย!" หลินเฟิงประหลาดใจกับข่าวนี้มาก
"ดังนั้นก็ตั้งใจทำงานเข้าล่ะ เจ้าเมืองคนนี้กำลังจับตามองนายอยู่ นายกำลังจะมีอนาคตที่ดี!" หัวหน้าหมู่บ้านชื่นชม
"เยี่ยม จะทำให้ดีที่สุดครับ!" หลังจากนั้น หลิงเฟิงกับหัวหน้าหมู่บ้านก็คุยกันอย่างสบาย ๆ แลกเปลี่ยนนามบัตรกันและกลับบ้าน
หลังจากกลับมาถึงหลิงเฟิงก็ได้รับเงินจากทั้งสามหมู่บ้านรวมกันเป็น 500000 หยวน
หลินเฟิงรีบโทรหาตู๋กังที่เป็นเพื่อนสมัยเรียน เพราะตู๋กังเชี่ยวชาญในด้านการก่อสร้างดังนั้นเขาจึงวางใจ
ท้ายที่สุด ราคาซื้อขายก็อยู่ที่ 200000 หยวน ตู๋กังสัญญาว่าจะช่วยหลินเฟิงทำทุกอย่างให้เสร็จ หลินเฟิงจึงไม่ได้กังวลอะไรนอกจากเงิน 200000 หยวนที่จ่ายออกไป
ภายในสองวัน ทีมของตู๋กังก็มาและหลินเฟิงก็ตัวแฟ่บอีกครั้ง
ความสัมพันธ์ระหว่างตู๋กังและหลินเฟิงไม่ได้ทำให้คุณภาพของวัสดุนั้นลดลง ดังนั้นคุณภาพของโครงการนี้รับรองได้
สัปดาห์ถัดมา ตู๋กังก็ช่วยหลินเฟิงทำความสะอาดแนวร่องแม่น้ำของทั้งสามหมู่บ้าน
แม้แต่ท่อน้ำเสียและถังขยะในหมู่บ้านอื่น ๆ ก็มีพร้อม
เป็นเพราะคนงานมีไม่เพียงพอ เมื่อเร็ว ๆ นี้หลินเฟิงโทรให้หวังหานจ้างคนเพิ่มอีกมากกว่าสิบสองคนที่อยู่ในหมู่บ้านของเขา ตราบใดที่พวกเขาได้เงิน ทั้งหมดก็ถือเป็นเรื่องเล็ก ๆ
ตอนนี้ทีมงานของหลินเฟิงเติบโตขึ้น ต้นองุ่นของเขาโตขึ้นทุกสัปดาห์ ตอนนี้ก็มีมากกว่ายี่สิบต้นแล้ว
ผลผลิตต่อวันเกือบถึง 1000 จิน และร้านขายองุ่นออนไลน์ของเขากำลังเริ่มให้ผลลัทธ์ เป็นผลมาจากภาพที่ถ่ายโดยหลินเฟิงเอง
เพราะรูปพวกนั้นที่หลินเฟิงถ่ายต่างก็สวยมาก พวกมันถูกใช้เป็นหน้าปกซึ่งทำให้องุ่นของเขามีอัตราการคลิกเข้ามาชมสูงที่สุดในบรรดาเพื่อน ๆ ที่ขายองุ่น และคุณภาพขององุ่นที่ขายตามธรรมชาติก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจยิ่งขึ้น
สัปดาห์ก่อน มีเพียงแค่ไม่กี่ออเดอร์ต่อวันไปจนถึงสิบสอง แต่พวกที่ซื้อไปมักเคยชิมองุ่นของหลินเฟิงมาก่อนแล้ว และพวกเขาก็คลั่งไคล้และไม่ลืมที่จะกดสั่งในทุก ๆ วัน
ตอนนี้มีคนซื้อมากยิ่งขึ้น จากไม่กี่ออเดอร์เป็นสิบสองและตอนนี้ก็ขึ้นไปถึง 100 ออเดอร์ต่อวัน
แต่ละออเดอร์จะสั่งอย่างน้อยห้าจิน, มากกว่าสิบจิน และบางคนก็ซื้อครั้งละยี่สิบถึงสามสิบจินก็มี เพราะองุ่นของหลินเฟิงนั้นวิเศษมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ปริมาณการขายสินค้าชนิดนี้นั้นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยความต้องการซื้อเริ่มจะมากเกินความต้องการขายไปซะแล้ว
ถึงอย่างนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะไม่มีองุ่นของหลินเฟิงเหลืออยู่เลย
และกำไรมหาศาลของมันก็ทำให้หลินเฟิงคลั่ง นอกจากจะให้บอสเติ้ง 500 จินต่อวันแล้ว ส่วนอื่นก็ยังขายหมดไปในวันเดียวกันและก็ยังไม่เพียงพอ
ตอนนี้รายได้ในแต่ละวันของหลินเฟิงเติบโตในปริมาณที่น่าสะพรึง แค่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียวหลินเฟิ่งก็ได้รับเงินเกือบ 100000 หยวนแล้ว
ในเวลาเดียวกัน รายจ่ายของหลินเฟิงก็น่าสะพรึงเช่นกัน หลินเฟิงต้องจ่ายเดือนละ 70000 หยวนเพื่อเป็นค่าแรงของคนงาน
"ฮู้ว์! เกิน 900000 แล้ว! เยี่ยม ขึ้นต่อไป! "
ในตอนนี้ หลินเฟิงมีเงินรวมมากกว่า 900000 หยวนซึ่งเข้าใกล้ฝันของเขาที่จะซื้อรถสักคันแล้ว
ในอีกด้าน ในโรงพยาบาลเมืองฉิงเฟิ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งก็ได้ออกจากโรงพยาบาล แต่ตอนนี้เขาผอมมากราวกับถูกสูบจนตัวแห้ง ชายหนุ่มคนนี้ก็คือจ้าวหลง
"ลั่วจิวชาง, หว่อหยู พวกแกหาเจอว่ามันเป็นใครหรือยัง?ใครมันเป็นคนทำให้ฉันเป็นแบบนี้! " จ้าวหลงกล่าวลอดไรฟัน
"นายน้อย ตรวจสอบแล้ว ตามความเห็นของลั่วจิวชาง คน ๆนั้นจะต้องเป็นหลินเฟิงแน่ เพราะในเร็วๆนี้ คุณมีเรื่องกับเขาเพียงคนเดียว และพวกเขาใช้ทักษะการต่อสู้เดียวกัน!" หว่อหยูกล่าว
"อะไรนะ เป็นมันหรอกเหรอ? ไอ้คนบ้านนอก ฉันจะต้องฆ่ามันเดี๋ยวนี้! " จ้าวหลงหายใจไม่ออก
"ไสหัวไป พวกแกกลับไปกักตัวเดี๋ยวนี้ แล้วไม่ต้องออกมาสร้างปัญหาให้ฉันอีก!" น้ำเสียงโมโหดังขึ้นมาอย่างทันที
ขณะนั้นชายวัยกลางคนในชุดสูท, ผูกไทด์ และสวมแว่นตาก็เดินเข้ามาอย่างมาดมั่น
"บอส!" เมื่อเห็นชายวัยกลางคน หว่อหยูและลั่วจิวชางต่างก็ยินดีขึ้นมา
"อื้ม!" ชายวัยกลางคนพยักหน้าและหันไปมองจ้าวหลง
"นายบอกว่ากำลังจะไปฆ่าใครนะ?" ชายวัยกลางคนกล่าวพร้อมทำหน้าบึ้ง
"พ่อ ผม ผมผิดไปแล้ว!" จ้าวหลงกล่าวพร้อมกับก้มหัวลง
มีเพียงคน ๆ เดียวที่ทำให้จ้าวหลงก้มหัวให้ ท่านรุ่นที่สองก้มหัวลง นั่นคือพ่อของเขาจ้าวป๋อ
"หืม แกนี่สวะจริง ๆ แกอยากสร้างปัญหาให้ฉันตั้งแต่เพิ่งออกมาเลยเหรอ แกรู้ไหมว่าทั้งสองร้านที่แกทำลายไปคราวก่อนมีชื่อเสียงในเขตและเมืองมาก มันทำให้ฉันต้องจ่ายไปมากเพื่อตามเช็ดก้นให้แก!"
จ้าวป๋อกล่าวว่าร้านทั้งสองเป็นร้านขายผลไม้ตามธรรมชาติที่แสนอร่อยของเติ้งเทียนฝูและร้านอาหารของเพื่อนสนิทหวางเฮาหมิง
แม้ทั้งสองจะไม่ใช่คนใหญ่โต แต่พวกเขาก็อาศัยอยู่ด้วยกันมาหลายปีและรู้จักผู้คนมากมาย การก่อกวนของจ้าวหลงเป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียเป็นอย่างมากแก่พ่อของเขา
"พวกแกทั้งคู่ คอยดูแลมันหลังจากกลับไป อย่าปล่อยให้มันออกไปไหน และอย่าปล่อยให้มันออกมาสร้างปัญหา! ไปหามาว่าหลินเฟิงเป็นใคร ฉันอยากรู้ข้อมูลเบื้องหลังของเขาเมื่อได้เจอในคราวหน้า! "
จากนั้นพวกเขาก็หายไปจากประตูโรงพยาบาลด้วยรถยนต์ แต่หลินเฟิงกลับไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังถูกจับตามอง
ในคืนนั้น หลินเฟิงกินข้าวเย็นและกำลังจะเข้านอน ทันใดนั้นเขาก็ได้รับข้อความแปลก ๆ
หลินเฟิงอยากรู้จึงเปิดอ่าน : หลินเฟิง ฉันคือซูหว่านเอ๋อร์ นายว่างตอนบ่ายพรุ่งนี้ไหม? ฉันเลี้ยงเอง!
"ซูหว่านเอ๋อร์?" เมื่อหลินเฟิงเห็นชื่อ เขาก็รู้สึกคุ้นนิดหน่อย เขานึกอยู่สักพักก่อนที่จะรู้ว่าเป็นใคร
ซูหว่านเอ๋อร์เป็นเด็กผู้หญิงที่เคยถูกหลินเฟิงช่วยไว้ที่ตรอกเล็ก ๆ ในเมืองฉิงเฟิ่งซึ่งผ่านไปเดือนกว่าแล้ว
หลินเฟิงยังคงนึกถึงที่เด็กสาว กล่าวว่าเธอจะเชิญเขาไปทานอาหารเย็น ในตอนนั้นหลินเฟิงไม่ได้สนใจ ตอนนี้ก็ผ่านไปเดือนกว่า ๆ แล้ว แต่เด็กสาวยังคงนึกถึงหลินเฟิง
"ไปดีไหมนะ?" หลินเฟิงลังเ
0 ความคิดเห็น