RC:บทที่ 282 คำนวน
“นายเป็นใคร? แล้วทำไมฉันต้องช่วยนายด้วย?” คนทั้งหมื่นนั่งลงไปตามเดิมในขณะที่ลั่วหยูเทียนซึ่งเป็นตัวแทนของตระกูลชางกวนก็ขมวดคิ้วมอง
นั่นเพราะว่าหลินเฟิงนั้นอุกอาจเข้าไปหา มันทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความหยาบคาย โดยเฉพาะเวลานี้ การประมูลโทเคนมิติโบราณกำลังอยู่ในช่วงไคลแม็กส์แล้วแท้ๆ
“สวัสดี ฉันเป็นเจ้าของเดิมของผลไม้วิญญาณที่นายได้ไป ถ้านายสัญญาว่าจะช่วยฉัน ฉันสามารถบอกนายได้ว่าจะไปหาผลไม้ที่ดีกว่านี้ได้ที่ไหน!” หลินเฟิงพูด
เหตุผลที่หลินเฟิงกล้าที่จะบอกอีกฝ่ายนั่นก็เพราะตัวเขานั้นรู้ดีว่าจะพูดอย่างไรให้อีกคนยอมที่จะตกลงด้วย เพราะยังไงซะ คนๆนี้ก็มีเหตุผลเดียวที่เขาไม่สามารถข้ามขั้นได้ นั่นก็เพราะพลังของเขานั้นต่ำเกินไป และการที่จะได้มาซึ่งพลังที่จะได้เลื่อนขั้นนี่มันสำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้น
การเพิ่งพลังให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น จะเป็นหนทางเดียวที่เขาจะยอมกลับไปยังตระกูลได้โดยมีคนนับหน้าถือตา ดังนั้นแล้วการที่จะได้เพิ่มพลังและความสามารถในการเอาชีวิตรอด ด้วยหลายๆเหตุผลแล้ว เขาไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้ทั้งนั้น
“ฮึ่ม ต่อให้ฉันไม่ช่วยนาย ฉันก็จะกินผลไม้นี่เพื่อเพิ่มพลังอยู่ดี แล้วมันต่างกันตรงไหน?” ลั่วหยูเทียนไม่มีข้อจำเป็นอะไรที่ต้องช่วยหลินเฟิง เขาไม่เชื่อว่าหอประมูลนี้จะหลอกลวงเขา
“หอประมูลนี่ไม่ได้หลอกลวงนายอยู่แล้ว แต่นายต้องรู้ว่าผลไม้ที่ฉันเอามาประมูลเนี่ย มีแค่ฉันที่รู้ว่ามันใช้แล้วให้ผลยังไง หากนายกินมันเข้าไปแบบทั่วๆไป มันจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้นายได้สุดๆก็แค่ 1-2 แต้มเท่านั้น”
“แต่ถ้านายช่วยฉัน ฉันสามารถหาทางช่วยให้ความแข็งแกร่งของนายเพิ่มถึง 7-8 แต้มได้ง่ายๆ หรือบางทีอาจจะมากว่าก็ได้ ว่าไง คิดว่าต่างหรือยัง?” หลินเฟิงพูดอย่างมั่นใจ
“อืม...ก่อนอื่นเลยนะ ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้? ให้ฉันตัดสินใจก่อนสิ!” ลั่วหยูเทียนเริ่มหวั่นไหวแล้วเพราะคำพูดของหลินเฟิง
“มันก็ไม่ได้อะไรมากอยู่แล้ว แค่จะมาขอให้ยอมแพ้ในการบิดโทเคนโบราณนี่เฉยๆ” หลินเฟิงพูด
“นี่เหรอ...เอาซี่!” ลั่วหยูเทียนนั้นไม่ได้สนใจอะไรในโทเคนมิติโบราณนี่มากมายอยู่แล้ว ถ้าเขามีโอกาสที่จะได้เพิ่มพลังของเขาเองมากกว่า เขาก็จะสอยมันไว้ และเช่นกัน ในเมื่อสิ่งที่กำลังประมูลอยู่มันไม่ได้ช่วยเขา ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องปฏิเสธหลินเฟิงเลย
“ขอบคุณมาก!”
อีกฟากหนึ่ง ทางฝั่งของปรมาจารย์เทียนซิน เขากำลังหลับตาและนั่งอยู่บนพื้น รอบตัวเขานั้นมีพระหนุ่มอยู่ 2 รูป
และพระหนุ่มทั้ง 2 รูปนี้คือรูปเดียวกับที่หลินเฟิงได้พบในทุ่งหินโบราณแล้ว ในตอนนั้น 1 ในพระ 2 รูปนี้เป็นคนรับประคำโบราณไปด้วยมือตนเอง
“ท่านผู้มีพระคุณท่านนี้คือใครงั้นหรือ?” หลังจากที่ได้ยินเสียงของหลินเฟิง พระชราก็ลืมตามองหลินเฟิงที่กำลังเดินตรงเข้ามา
“สวัสดีท่านปรมาจารย์ แล้วก็ลูกศิษย์ของท่านด้วยพวกท่านพอจะจำฉันได้หรือเปล่า? คนที่ให้ประคำพระพุทธเจ้าโบราณแก่พวกท่านไป” หลินเฟิงเอ่ยถามก่อน
“หืม? อ้อ ท่านนี่เอง!” พระลูกศิษย์ที่อยู่ด้านซ้ายจำได้ในทันทีพร้อมพูดออกมาด้วยความตกใจ ใช่แล้ว พระรูปนี้คือ ไร้เมตตา คนนั้น
“ท่านปรมาจารย์ครับ ท่านผู้มีพระคุณท่านนี้ คือผู้ที่มอบประคำพระพุทธองค์โบราณให้พวกเราครับ!” พระที่อยู่ด้านขวาเอ่ยให้พระชราฟัง คนๆนี้คือไร้กังวล ที่ซึ่งเป็นคนขอให้หลินเฟิงมอบประคำนั้นให้แก่พวกเขานั่นเอง
“ท่านผู้มีพระคุณหลินเฟิงงั้นหรือ ยินดีจริงๆที่ได้พบท่าน อาตมาขอบพระคุณท่านมากๆเกี่ยวกับเรื่องประคำพระพุทธองค์โบราณนี้ที่ท่านได้มอบให้พวกเรามา” ปรมาจารย์เทียนซินเทศนา
“ฉันไม่ต้องการคำขอบคุณหรอก ท่านปรมาจารย์ ท่านสามารถช่วยฉันตอนนี้ได้หรือไม่?” หลินเฟิงเอ่ยขอ
“ท่านผู้มีพระคุณ ท่านได้แสดงน้ำใจต่อพวกเราแล้ว เช่นนั้นขอได้อย่าเกรงใจ เชิญท่านเอ่ยมาได้เลย”
“โอเค ขอบคุณมากๆ ท่านปรมาจารย์ ถ้างั้น...” ไม่นานนัก หลินเฟิงก็บอกปรมาจารย์เทียนซินไปว่าเขาต้องการอะไร
หลินเฟิงและเหล่าพระทั้งหลายคุยกันอยู่เหมือนจะนาน หากแต่จริงๆแล้วมันเร็วมากๆ ในตอนนี้ หลงเช่าเถียนนั้นบิดค้างไว้ที่ 1.5 ล้าน และตระกูลที่เหลือเองก็กำลังลังเล
จริงๆมันก็มีคนอื่นที่กำลังพูดเรื่องนี้อยู่ด้วย แต่ทันทีที่ 1 ล้าน 5 แสน ถูกเสนอขึ้นมา ทุกคนก็เงียบและไม่มีใครกล้าต่อราคาใดๆทั้งสิ้น
“แขกผู้มีเกียรติที่อยู่ชั้น 2 ในห้องส่วนตัวบิดราคาไว้ที่ 1 ล้าน 5 แสนหินวิญญาณ มีใครจะให้สูงกว่านี้หรือเปล่า?” เสี่ยวเก้อที่เห็นภาพตรงหน้าเงียบลงก็เอ่ยถามขึ้นมา
“ไม่ล่ะ ในเมื่อตระกูลมังกรอยากได้ ใครจะอยากพรากของที่รักไปจากเขากันเล่า” มู่หรงหลานเอ่ย
“ใช่แล้ว คระกูลมังกรน่ะร่ำรวยจะตายไป ใครจะอยากเป็นศัตรูด้วย! เพราะงั้นโทเคนนี่น่ะก็ยกให้หลงเชาไปเลยละกัน!” ชายอีกคนที่อยู่มุมหนึ่งของชั้น 2 เองก็เอ่ยขึ้นเช่นกัน
“แสดงความยินดีกับหลงเชาด้วยนะ!” ลั่วหยูเทียนเองก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มเหมือนกับคนอื่นๆ
ส่วนของชายที่แข็งแกร่งซึ่งอยู่บนชั้นที่ 3 อันมาจากตระกูลหงฟูนั้นไม่ได้พูดอะไรมานานแล้ว
“หือ? พ-พวกแก...”
“1 ล้าน 5 แสนครั้งที่ 1… 1 ล้าน 5 แสนครั้งที่ 2…. 1 ลเาน 5 แสนครั้งที่ 3 3 ครั้งแล้ว เพราะงั้นปิดการประมูล!” เมื่อหลงเช่าเทียนกำลังตกที่นั่งลำบาก เสี่ยวเก้อก็ประกาศเจ้าของของโทเคนมิติโบราณทันที
จริงๆพวกเขาก็รู้ถึงประสิทธิภาพของโทเคนนี้อยู่แล้ว ดังนั้นก็เลยยอมแพ้ไป
โทเคนมิติโบราณนี่สามารถใช้เปิดประตูมิติโบราณลึกลับได้ ใครก็ตามที่เป็นเจ้าของโทเคนนี้ จะสามารถเดินเข้าไปได้ก่อน และคนอื่นๆก็เดินตามมาทีหลัง
เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องแข่งเพื่อให้ได้โทเคนนี้มา ใครก็ตามที่เข้าไปคนแรก อาจจะได้เจออันตรายก่อนก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าด้านในนั้นมีอะไรอยู่บ้าง?
ภายในห้องส่วนตัวของหลงเชาเทียน เขานั้นยังนั่งอยู่ที่เดิมและในตอนนั้น มือที่ถือแก้วชาอยู่ก็บีบแก้วนั้นแตกคามือไปเลย
“บ้าเอ้ย! มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน! ทำไมทุกคนถึงหยุดบิดกัน! ทั้งๆที่เคยมีคนบอกว่าโทเคนมิติโบราณนี่สามารถประมูลได้ถึง 1 ล้าน 7 แสน 8 หมื่นแท้ๆ! ทำไมไม่มีใครคิดจะต่อราคาที่ 1 ล้าน 5 แสนหินวิญญาณกันขึ้นมาซะดื้อๆ!” หลงเช่าเทียนนั้นคำรามอย่างเกรี้ยวกราดอยู่ภายในห้องส่วนตัว
ในตอนแรกเริ่ม เขาเองก็ไม่ได้มีแผนจะซื้อเจ้าโทเคนนี้อยู่แล้ว เป้าหมายของเขานั้นคือเกล็ดมังกรดำมาตลอด
เขาแค่อยากปั่นราคาของโทเคนโบราณนี้ให้สูง เพื่อที่หากซักตระกูลหนึ่งซื้อไป มันก็จะเป็นการตัดคู่แข่งของเขาในการที่จะซื้อเกล็ดราชาทมิฬนั่น
หลงเช่าเทียนวางแผนที่จะบิดราคาและปล่อยมันทิ้งไว้ที่ 1 ล้าน 5 แสน และเขาจะไม่บิดเพิ่มแล้ว แต่ด้วยความที่ไม่คาดคิด หลังจากที่เขาบิดราคาไป มันดันกลายเป็นว่าคนอื่นๆกลับเงียบ ราวกับพวกเขาตกลงกันไว้แล้วซะอย่างงั้น
“นายน้อย หรือว่าพวกเราอาจจะอยู่ในการคำนวนของพวกตระกูลใหญ่พวกนี้อยู่แล้ว!”
ด้านหลังของหลงเช่าเทียน ค่อยๆมีร่างของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา เขาค่อยๆคงสภาพไว้และแผ่ความรู้สึกที่ค่อนข้างแข็งแกร่งออกมา และสิ่งนั้นก็ค่อยๆรวมเข้ากับความโกรธเกรี้ยวที่ราวกับจะฆ่าแกงกันให้ได้
“ต้องใช่แน่ๆ! คนพวกนี้ต้องรวมหัวกันคำนวนพวกเราไว้แล้วอย่างแน่นอน!” หลงเช่าเทียนตะโกน เขาไม่คิดเลยว่าเขานั้นจะถูกคำนวนไม้ล่วงหน้าแล้วแบบนี้
นั่นก็เพราะว่าทั้ง 5 ตระกูลนั้น ต่างก็เกลียดชังกันเองอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นพวกเขาไม่น่าจะหันมาร่วมมือกันได้ ยกเว้นบางตระกูลที่มีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันเท่านั้น ซึ่งน้อยมากๆ
อย่างไรก็ตาม มันยังคงเป็นไปไม่ได้ที่ 5 ตระกูลนี้จะเป็นญาติดีกันได้ในเวลาแบบนี้ หรือแม้แต่จะสงบศึกแค่ชั่วครามเพื่อการนี้ก็ไม่มีทาง
“เรายังเหลือหินวิญญาณอยู่อีกเท่าไหร่ เพียงพอต่อการซื้อเกล็ดมังกรดำหรือเปล่า!?” หลงเช่าเทียนตะโกนถาม
“เราเหลือหินวิญญาณแค่ 1 ล้าน 2 แสน 3 หมื่นเท่านั้นแล้วครับ น่าจะห่างไกลจากราคาของเกล็ดมังกรดำตอนนี้มากๆ!” ชายแก่ที่อยู่ด้านหลังของเขาพูด
“ไปหายืมมา! ถ้าหายืมไม่ได้ ก็ทุ่มทุกสิ่งที่มีเพื่อให้ได้มันมา เพราะถ้าพวกเราคว้าเอาเกล็ดมังกรดำนี่มาไม่ได้ พวกเราจะไม่ใช่แค่พ่ายแพ้ แต่ยังต้องเสียเงินจำนวนมากไปอีกด้วย!” หลงเช่าเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม
จริงๆแล้ว โทเคนมิติโบราณก็ไม่ใช่ว่าของไร้ค่าซะทีเดียว เพราะยังไงซะมันก็มีราคาถึง 1 ล้าน 4 แสน 5 หมื่นหินวิญญาณเลย
ดังนั้นแล้ว ถ้าเขาสามารถได้เกล็ดมังกรดำนั้นมาด้วยล่ะก็ เขาจะไม่เพียงทำภารกิจของตระกูลได้สำเร็จ แต่เขายังจะสามารถสร้างเงินทุนก้อนใหญ่ให้กับตระกูลได้อีกด้วย!
ในตอนนั้น หลงเช่าเทียนนั้นคิดไปไกล ของประมูลชิ้นที่ 2 ก็ได้เข้ามายังเวทีประมูลแล้ว ซึ่งมันก็คือเกล็ดมังกรดำตามที่เขาได้คาดการณ์ไว้
“ในตอนนี้ ก็ถึงเวลาของ ของประมูลชิ้นที่ 2 แล้ว! นั่นคือ เกล็ดของราชาทมิฬที่มีอายุ 30 ปีนั่นเอง! สิ่งนี้คือสิ่งที่มาจากราชาทมิฬ สัตว์วิญญาณในตำนานที่มีระดับสูงถึง SSS เลยทีเดียวเชียว! ” เสียวเก้อพูดขณะที่คนรับใช้ทั้งหลายกำลังนำจานขนาดใหญ่ขึ้นมาแสดงให้ทุกๆคนได้เห็น
หลังจากที่เสี่ยวเก้อพูดจบ ขณะที่ผ้าคลุมสีแดงถูกเปิดออก เกล็ดสีดำขนาดใหญ่ก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกๆคน พร้อมๆกับเสียงคำรามของมังกรดังกึกก้องไปทั่วด้วย
0 ความคิดเห็น