RCบทที่ 240 สบโอกาส
หลินเฟิงรับรู้ถึงพลังนี้ได้ พลังของสัตว์วิญญาณที่แผ่ออกมาก็คือสัตว์วิญญาณขั้นสูงสุด ดูเหมือนว่ามันเพิ่งจะบรรลุผ่านมาหมาดๆ ด้วยข้อได้เปรียบในเรื่องบินได้ มันเลยไม่ได้ด้อยไปกว่าสัตว์วิญญาณขั้นสูงทั่วๆไปเลย
"เป็นราชาของนกกินวิญญาณที่ออกมาเหรอ?" เวลานั้นแม้แต่ตงฟาง เหลียนก็ยังยืนขึ้นมาไม่ทำตัวสบายๆเหมือนช่วงก่อนหน้าแล้ว
เพราะว่าหากเย่เฉียวตายลงที่นี่ เขาก็จะมีปัญหาอย่างใหญ่หลวง เขาจะต้องถูกตระกูลของเขาลงโทษอย่างรุนแรง แม้ว่าเขาจะไม่พอใจเย่เฉียวเอามาก ๆ แต่เย่เฉียวนั้นห้ามตายอยู่ที่นี่จริง ๆ
หลังจากฆ่าผู้ติดตามไปสองคน ราชานกดาบกินวิญญาณก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นวงกลมแล้วทิ้งตัวลงมาที่พวกเขาอย่างทันทีทันใด
"ถอยออกมา พวกเธอสู้กับศัตรูตัวนี้ไม่ได้หรอก!" หยินเหลียนเย่บอกให้พวกเธอถอยออกมาและเตรียมตั้งรับ เด็กสาวทั้งสองก็รีบให้ความร่วมมือกับเธอทันที
"ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงท้ายสุดเธอสงบมาก แม้แต่การเผชิญกับราชานกและนกดาบกินวิญญาณที่มีระดับไม่น้อยไปกว่าสัตว์วิญญาณระดับสูงก็ไม่มีอาการหวั่นวิตก และลูกทีมสองสาวของเธอก็เก่งจนไม่อาจเทียบได้ พวกเธอมาจากที่ไหนกันนะ?" หลินเฟิงกำลังมองดูและพึมพำออกมา
ก้า! ก้า! ก้า!
หลังจากที่ราชาแห่งนกดาบกินวิญญาณกลับมา มันก็พุ่งลงมาราวกับดาบ จงอยปากและใบมีดอันแหลมคมที่บินลงไปหาหยินเหลียนเย่เปล่งแสงสีขาวออกมา
"เธอสองคนมาซ่อนที่ด้านหลังของฉัน! พายุดำ! "หยินเหลียนเย่กล่าวจากนั้นก็กางร่มดำที่อยู่ในมือแล้วหมุนวนอย่างรวดเร็ว
เมื่อพายุดำถูกสร้างขึ้นมา ทันใดนั้นพายุดำขนาดมหึมาก็เริ่มคลืบคลานเข้ามากระหน่ำโจมตีราชาและนกดาบกินวิญญาณ
สายน้ำรูปมังกรสีดำที่แสนดุร้ายก็พุ่งออกมา มันหมุนวนไปมาแล้วพุ่งเข้าใส่ราชานกดาบกินวิญญาณ ราชานกดาบกินวิญญาณจึงรีบโผเข้าใส่พายุดำอย่างไม่ลังเล
แต่ครู่ต่อมามันก็ต้องเสียใจ เพราะเพิ่งจะเข้าไปก็ถูกพายุที่บ้าคลั่งพัดใส่จนตัวมันจนหมุนเป็นเกลียว ท้ายที่สุดก็ถูกพัดตัวลอยขึ้นไป
ราชานกดาบกินวิญญาณร่วงลงมาจากอากาศอย่างมึนงงและตกลงไปในหุบเหวอย่างไร้ร่องรอย
"ช่างเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งชะมัด!" หลินเฟิงประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าหญิงสาวคนนี้จะแข็งแกร่งถึงขนาดจัดการกับราชานกกินวิญญาณได้
"เหลียนเย่ เธอเป็นอย่างไรบ้าง?" เวลานี้จมูกของเขาเป็นสีม่วงและใบหน้าบวมปูด ที่ปากก็มีเลือดไหลออกมาจนเขาดูเหมือนหมูตัวหนึ่ง ทั่วทั้งร่างกายต่างก็แตกหักเพราะถูกฝูงนกกินวิญญาณรุมทำร้าย และเขาจะต้องจบการต่อสู้เองโดยไม่มีหยินเหลียนเย่
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมาก ทั่วทั้งร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนจากนกดาบกินวิญญาณ เหลือเพียงไม่กี่จุดบนเสื้อผ้าส่วนบนเท่านั้นที่ยังไม่มีรอย
หยินเหลียนเย่แทบจะอาเจียนเมื่อได้เห็นสภาพของเขาแต่เธอก็ปกปิดอาการได้อย่างดีเยี่ยมด้วยการยิ้มบนใบหน้า
"พี่กลับไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปเอาผลไม้มาเอง!" จากนั้นหยินเหลียนเย่ก็เดินตรงไปยังต้นไม้แล้วเตรียมจะเด็ดผลไม้ทั้งสองลูกลงมา
"ไม่สิ จะบอกว่าเป็นเพราะราชานกนั้นไม่ได้อ่อนแอหรือผู้หญิงคนนั้นแข็งแกร่งเกินไปดีล่ะ ?" ในที่ไกล ๆ ตงฟาง เหลียนกำลังจะไปช่วยแต่ก่อนที่จะได้ทำหยินเหลียนเย่กลับแก้ปัญหาได้แล้ว
หลินเฟิงที่ซ่อนอยู่ในที่มืดก็ไม่คิดว่าหยินเหลียนเย่จะแก้ปัญหาราชานกดาบกินวิญญาณได้ เขาต้องการรอจนกว่าหยินเหลียนเย่กับราชานกดาบกินวิญญาณจะบาดเจ็บทั้งคู่แล้วปล่อยให้ตงฟาง เหลียนช่วยชีวิตพวกเขา จากนั้นเขาจึงลงมือขโมยผลไม้ทั้งสองไป
เวลานี้ดูเหมือนจะไม่ง่ายแล้วเพราะหลินเฟิงรู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา แล้วก็ยังมีตงฟาง เหลียนระดับ A ยืนอยู่ใกล้เธออีก หากเขาเคลื่อนไหวก็คงจะไม่มีโอกาสได้หลบหนีแน่
"อ่า ดูเหมือนน้ำเต้าทั้งสองจะหลุดมือฉันไปแล้ว! น่าเสียดายชะมัด! " หลินเฟิงเสียใจขึ้นมาหน่อย ๆ ถ้าเขาได้ผลไม้สองลูกนี้มา เขาจะมอบมันให้เติ้งเทียนฝูกับหวังฮ่าวหมิงเพื่อให้พวกเขาบรรลุไปเป็นผู้มีพลังระดับ A ถ้าทำอย่างนั้นไม่ใช่ว่าหลินเฟิงจะได้ผู้ช่วยที่มีพลังเพิ่มขึ้นหรอกเหรอ?
แต่ตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว!
หลินเฟิงมองดูหยินเหลียนเย่กระโดดลงไปในหุบเหวแล้วกระโดดต่อไปยังสถานที่ที่ต้นไม้วิญญาณอยู่ ขณะที่เธอกำลังจะเด็ดมันก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น!
ก๊า!
ขณะที่หยินเหลียนเย่กำลังจะเด็ดผลไม้ทั้งสองลูก ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องดังออกมาแล้วก็มีเงาดำขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมาจากก้นเหวที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆ พวกเขามองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ตรงก้นเหวมองเห็นได้แค่เงาดำๆ
หลินเฟิงได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เพราะมันเป็นเสียงของราชานกกินวิญญาณตัวเมื่อกี้
เมื่อเงาดำพุ่งออกมาจากหุบเหว ทุกคนต่างก็จำได้ว่ามันคือราชานกดาบกินวิญญาณ
เมื่อมันออกมาก็ได้เห็นหยินเหลียนเย่กำลังเดินตรงไปที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จึงทำให้มันโกรธมากยิ่งขึ้น มันกระพือปีกแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้าจากนั้นก็มีใบมีดที่น่าสะพรึงกลัวจำนวนมากบินออกมา แต่ละอันแข็งแกร่งเทียบเท่ากับกับระดับกลางสูงสุด
"ระวัง คุณหนู!" เด็กสาวทั้งสองของหยินเหลียนเย่เห็นแบบนี้จึงรีบเอ่ยเตือนเธอ
หยินเหลียนเย่ที่กำลังจะเด็ดผลไม้ไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลานี้ หลังผ่านการโจมตีที่แข็งแกร่งมานับโหล เธอจึงรีบกางร่มดำออกมาป้องกันอย่างรวดเร็ว
แต่เธอไม่สามารถต้านทานได้เพราะเธอถูกโจมตีจากการกระหน่ำยิงบนหน้าผาจนแทบจะกระอักเลือด หินจำนวนหนึ่งด้านหลังของเธอก็พังทลายลง
นอกจากนี้ยังมีใบมีดอันทรงพลังเจ็ดถึงแปดอันตัดลงไปที่เย่เฉียว เด็กสาวทั้งสองของหยินเหลียนเย่สามารถกันสามอันในนั้นได้และอีกสามอันก็พุ่งตรงไปที่เย่เฉียวกับผู้ติดตามของเขา
เวลานี้เย่เฉียวกับผู้ติดตามได้รับบาดเจ็บสาหัสจนตั้งรับใบมีดทั้งสามไม่ได้เลย
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย..."
"เอ่อ ตอนนี้นายรู้แล้วใช่ไหมว่าทำผิด!" ในที่ไกลๆ ตงฟาง เหลียนมองดูเหตุการณ์แล้วก็เคลื่อนไหวในที่สุด ไม่ว่าจะเกลียดเย่เฉียวมากแค่ไหนแต่เขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้มันตายลงที่นี่
ขณะที่เขาโบกมือก็ปรากฏเคียวเลือดขึ้น มันมีสายโซ่ที่ด้านหลังและยังเป็นสีเลือด มันพุ่งไปที่เย่เฉียวอย่างรวดเร็วแล้วกั้นใบมีดทั้งสามไว้
เวลานี้ใบหน้าของเย่เฉียวขาวซีดและมีกลิ่นฉี่ที่ราดออก เขากลัวจนฉี่ราด
ในขณะเดียวกันราชานกดาบกินวิญญาณก็กระโจนเข้าใส่หยินเหลียนเย่จนทำให้หยินเหลียนเย่ที่เพิ่งจะลุกขึ้นยืนไม่สามารถหลบได้ทัน
ยิ่งหยินเหลียนเย่เข้าใกล้ต้นไม้วิญญาณเท่าไหร่มันก็ยิ่งโจมตีอย่างโหดร้ายมากขึ้น ในสถานที่อันตรายอย่างหุบเหวแห่งนี้ หยินเหลียนเย่จึงไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่จึงเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ
"เยี่ยม! โอกาสมาแล้ว มังกรแสง ดำลงไปในก้อนเมฆแล้วพุ่งไปหาผลไม้ทั้งสองจากด้านล่าง!" เมื่อหลินเฟิงเห็นว่าผู้คนเริ่มต่อสู้กัน เขาก็รู้ได้เลยว่าโอกาสมาถึงแล้ว
พอได้รับคำสั่งมังกรแสงก็รีบดำลงไปในก้อนเมฆด้านใต้หุบเหว ร่างกายสีขาวของมันราวกับเสื้อคลุมล่องหนที่แสนสมบูรณ์แบบในก้อนเมฆจนไม่มีใครพบเห็นเลย
แต่เมื่อพวกเขาลงไปยังด้านล่างลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ โชคดีที่หลินเฟิงกับมังกรแสงไม่ได้เข้าไปใกล้ก้นเหวมากเกินไป แค่ลงไปให้แน่ใจว่าคนด้านบนจะไม่เห็นพวกเขา
เมื่อหลิงเฟิงเข้าใกล้ผลไม้ทั้งสอง หยินเหลียนเย่ก็ได้กระโดดออกจากหุบเหวแล้วเข้าต่อสู้กับราชานกดาบกินวิญญาณ
0 ความคิดเห็น