RC:บทที่ 154 น้ำยาเติบโตระดับกลาง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 154 น้ำยาเติบโตระดับกลาง


“เฮ้อ เสี่ยวเฟิง นี่คงเป็นโชคชะตาของข้า เจ้าอย่าเสียเวลาเลย” ราชาหมาป่าขาวว่าขึ้น ก่อนจะหันหน้าและเดินลากขาไปอีกทาง


หลิน เฟิงนั้นได้เตรียมสถานที่ที่เขาวางแผนไว้ว่าจะให้ตระกูลหมาป่าอาศัยอยู่ชั่วคราว รวมถึงลูกหมาป่าขาวตัวเล็กๆและพวกหมาป่าขาวด้วย นั่นล่ะคือจุดหมายปลายทางสุดท้ายของราชาหมาป่าขาว


เมื่อได้เห็นดวงตาที่สิ้นหวังของมัน หลิน เฟิงก็ได้เห็นแววตาโศกสลดจากอาการแน่นในอก


นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากจะเห็น แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะหาวิธีรักษาราชาหมาป่าขาวเหมือนกัน ความรู้สึกที่สิ้นหวังนี้ทำให้หลิน เฟิงรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก


เป็นเวลานานแล้ว ที่ราชาหมาป่าขาวนั้นรู้สึกว่าหลิน เฟิงนั้นเป็นคนสนิทเขาคิดว่าตนจะให้ความช่วยเหลือหลิน เฟิงได้ในฐานะครูและเพื่อน และเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะจากไปโดยเร็ว


“อ๊ากๆๆ ทำไมน้ำยาใช้ไม่ได้ผล”


หลิน เฟิงโกรธจัด ต้นไม้ทั้งสองก่อนหน้านี้ยังทำได้ แต่ทำไมต้นนี้ถึงทำไม่ได้กันล่ะ เขารู้สึกเหมือนกำลังโดนปั่นหัว


เขาคิดว่าตนจะให้ความหวังแก่ราชาหมาป่าขาวพร้อมกับช่วยเขาเอาไว้ แต่ยิ่งหวังสูงเท่าไหร่ ความผิดหวังก็ยิ่งมากตามเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่หลิน เฟิงนั้นมีความมั่นใจสุดขีด


หลิน เฟิงรู้สึกทุกข์ใจพลางต่อยลงบนพื้นด้วยหมัดข้างเดียว และด้วยพละกำลังของเขาในตอนนี้ หมัดทุกหมัดที่ต่อยลงไปนั้นก็ทำให้เกิดรูบนพื้นขึ้นมารูหนึ่ง


“สงบสติอารมณ์เถอะ นายท่าน บนโลกนี้ ไม่ว่าใคร สุดท้ายก็ต้องอยู่คนเดียวกันทั้งนั้น ผู้คนรอบๆตัวเราก็ต้องจากไปทีละคนๆ ไม่เว้นแม้แต่ญาติหรือเพื่อน อาจจะไปก่อนหรือหลังก็ได้ แต่สำหรับราชาหมาป่าขาวแล้วนั้นก็ดูแล้วก็น่าจะไปก่อนเพื่อน” ในตอนนั้นเอง เสียงของมังกรดำก็ดังแทรกขึ้นมาในจิตของหลิน เฟิง


จากตอนแรก ที่มันกำลังชำระล้างพร้อมกับดูดซับแก่นวิญญาณของเหยี่ยวดำกลายพันธุ์อยู่ แต่เพราะหลิน เฟิงกำลังทุกข์ใจ มันจึงตื่นขึ้นมา


เมื่อได้ฟังในสิ่งที่มังกรดำพูดนั้น หลิน เฟิงก็รู้ว่าจิตใจของตนที่เคยร้อนรุ่มดั่งไฟนั้นก็เย็นลงทันตา แต่ยังไงเขาก็ยังไม่ยอมแพ้หรอก


“ฉันไม่เชื่อ ไม่เชื่อหรอก มันจะต้องมีสักวิธีสิ ต้องมีวิธี บางทีอาจจะเพราะปริมาณที่ใช้มันน้อยไป ใช่แล้ว ใช่แน่ๆเลย” หลังจากพูดจบ หลิน เฟิงก็นำเอาขวดน้ำยาเติบโตระดับต่ำออกมาใช้อีก แต่ก็ไม่มีผลอะไร


ในตอนนี้ ต้นไม้วิญญาณดังกล่าวไม่แม้แต่จะดูดเอาน้ำยาของหลิน เฟิงเข้าไปเลย แถมน้ำยาที่เทลงไปกลับหกรดลงบนพื้นเสียอย่างนั้น


“ฉันไม่เชื่อหรอก เอามาอีก”


หลิน เฟิงดูจะไม่ยอมแพ้ เขาเอาขวดน้ำตาเติบโตระดับต่ำออกมาอีกจากในแหวนมิติก่อนจะเทลงไป แต่นั่นก็ไม่มีประโยชน์อะไร แถมน้ำยายังหกลงบนพื้นอีก


“เวรเอ้ย เอามาอีก ขวดนี้ต้องหมดอายุแน่ๆ”หลิน เฟิงยังคงหาเหตุผลมาอ้างในกับการกระทำที่ล้มเหลวตรงหน้านี้ในความรู้สึกของเขา 


 “เฮ้อ” เสียงถอนหายใจของมังกรดำดังขึ้นในจิตของหลิน เฟิง แล้วจากนั้นก็เงียบไป เขาอยากจะให้หลิน เฟิงอยู่เฉยๆซะดีกว่า


แต่หลิน เฟิงนั้นไม่ได้สนใจใครอื่น เขาต้องการน้ำยาวิวัฒนาการระดับต่ำจากในวงแหวนมิติ แต่เขากลับเห็นว่าไม่มีน้ำยาวิวัฒนาการระดับต่ำในนั้น ดังนั้น หลิน เฟิงจึงเริ่มเอาของโน่นนี่นั่นออกมา ทุกอย่างเลย 


“พี่เฟิงๆ ใจเย็นๆก่อนพี่” จื้อเฉิงที่อยู่ใกล้ๆกับหลิน เฟิงนั้นกล่าวขึ้นกับเขา


“ไปให้พ้น อย่ามากวนฉัน มันต้องมีสักวิธีสิ” หลิน เฟิงกล่าวขึ้นก่อนจะหันมาหาต่อ


“ไม่มีแล้วงั้นหรือ หายไปได้ยังไงกันวะ” หลิน เฟิงโกรธจัด


แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาต่อมา หลิน เฟิงจึงนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาดึงสิ่งนั้นออกมา สิ่งนั้นเป็นขวดน้ำยาเติบโต แต่ระดับกลาง ของน้ำยาเติบโตนั้นมีปริมาณมากกว่าซึ่งมากกว่าเป็นสามเท่าของน้ำยาเติบโตระดับต่ำ


“ฮ่าๆๆ แม้ว่า น้ำยาเติบโตระดับต่ำจะใช้ไม่ได้  แต่น้ำยาเติบโตระดับกลางนี้ก็ไม่แน่” หลิน เฟิงหันไปเอาน้ำยาเติบโตระดับกลางขึ้นมาก่อนจะหัวเราะร่วน ก่อนจะค่อยๆตั้งสติ


แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นจื้อเฉิง มังกรดำเจียวหลงหรือราชาหมาป่าขาวก็ตาม พวกเขาต่างคิดว่าหลิน เฟิงคงอยู่ในอาการโศกเศร้ามากเกินไปพลางสงสัยว่าเขาเริ่มจะมีอาการผิดปกติไปเสียแล้ว


ถึงกระนั้น หลิน เฟิงก็ไม่ได้นึกสนใจก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขารินขวดน้ำยาเติบโตระดับกลางลงไปบนต้นไม้


ช่วงเวลาต่อมา หลิน เฟิงก็ร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจสุดขีด


เพราะตอนที่หลิน เฟิงเทน้ำยาทั้งหมดนั้นลงไป ต้นไม้วิญญาณนั้นก็เปล่งประกายเป็นแสงสีแดง ส่วนใบไม้ที่เหี่ยวเฉานั่นก็ฟื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กิ่งใหม่ๆและใบไม้ที่ตกอยู่บนพื้นนั้นก็งอกออกมาอย่างเร็ว


ยิ่งไปกว่านั้น หลิน เฟิงก็รู้สึกตกใจที่ต้นไม้วิญญาณที่นอนอยู่บนพื้นนั้นแตกรากใหม่ๆออกมามากมาย จากนั้นก็ชอนไชลงไปใต้ดินอย่างเร็วก่อนจะดึงเอาพลังงานออกมา


ในตอนนี้นั้น จื้อเฉิง ญาติผู้น้องที่หลบไปอีกฝั่งหนึ่งแล้วนั้นและหมาป่าขาวที่กลับไปหาลูกหมาป่าขาว ก็รู้สึกได้ถึงแสงสีแดงจากต้นไม้วิญญาณนั่น โดยที่คนทั้งคู่ไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากแค่มอง


อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เรียกว่าพวกเขาทั้งคู่นั้นอึ้งกิมกี่เสียจนไม่รู้จะพูดคำไหนออกมารวมถึงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ


สิ่งที่อยู่ตรงหน้าหลิน เฟิงนั้น โคนต้นต้น ต้นไม้วิญญาณดังกล่าวนั้นก็มีรากแตกแขนงออกมา  หยั่งรากลงในดิน แล้วจากนั้นก็ค่อยๆตั้งขึ้นมาได้เอง


ไม่ใช่แค่นั้น ต้นไม้นี้ยังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว สูงมากกว่าสองเมตร กิ่งไม้รอบๆต้นนั้นมีอยู่ไม่มากนัก แต่ทันใดนั้นเอง  มันก็สูงขึ้นอีกห้าเมตร ต้นอ่อนต้นใหม่นั้นงอกขึ้นมาในทันทีจนกลายเป็นต้นไม้ที่เจริญงอกงาม


จากผลไม้สีแดงสองลูกที่เหี่ยวแห้ง มีริ้วรอยไปในตอนแรกก็งอกขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนกลมเด้งและเป็นผลอิ่ม


ในตอนนี้ ต้นไม้วิญญาณทั้งสามต่างก็กลับมามีชีวิตแล้ว หลิน เฟิงรู้สึกโล่งใจในที่สุด จนสุดท้าย หลิน เฟิงก็ยิ้มออกมาก่อนจะล้มลงไปกับพื้น หมดสติ


แต่ทว่า ก่อนที่เขาจะล้มลงไปเพียงเสี้ยววินาที ก็ดูเหมือนว่าหลิน เฟิงนั้นจะเห็นว่าในตอนแรกที่ๆผลไม้วิญญาณที่เหี่ยวแห้งไปนั้น มีของเล็กๆสีแดงเริ่มปรากฏออกมาแต่เขาเห็นมันได้ไม่ชัดนักก่อนที่จะหมดสติไป


“เสี่ยวเฟิงๆ”


“พี่เฟิงๆ เป็นอะไรไปครับพี่” 


เมื่อราชาหมาป่าขาวกับจื้อเฉิงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า พวกเขาจึงรีบเข้าไปพาหลิน เฟิงออกมาอีกด้านหนึ่ง พลางตรวจดูสถานการณ์


แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงคลิกดังขึ้นบนต้นไม้


“เสียงอะไรน่ะ” จื้อเฉิงอุทานขึ้น


“อืม เสียงนั่นดูเหมือนจะมาจากต้นไม้นะ เจ้าก็เห็นนี่ว่านี่คือต้นไม้วิญญาณ มีผลไม้อีกลูกหนึ่งที่งอกขึ้นมาจากที่ตรงเหี่ยวๆนั่น พระเจ้าช่วย ช่างดีเหลือเกิน” ราชาหมาป่าขาวกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นแบบนั้น


“ท่านราชาหมาป่าขาว ตอนนี้พี่เฟิงได้รับบาดเจ็บหนักมากเลย เพื่อที่จะรักษาต้นไม้พวกนี้ไว้ เขาจะต้องมีเจตนารมณ์อันกล้าแกร่งขนาดไหน แล้วตอนนี้ผมควรทำอย่างไรดีครับ” จื้อเฉิงถามขึ้น


เขาเองก็เห็นว่าหลิน เฟิงนั้นมักจะเรียกราชาหมาป่า อยู่บ่อยๆ จึงทำให้เขานั้นเรียกว่าท่านราชาหมาป่าด้วย


“ฮ่าๆๆๆ เรื่องง่ายๆไม่ใช่หรือไง” พลันราชาหมาป่าขาวก็หัวเราะขึ้น


“มีเรื่องอะไรน่าขำงั้นหรือครับ ท่านผู้อาวุโส ถึงสถานการณ์ตรงนี้จะปกติแล้ว แต่อาการของพี่เฟิงนี่ไม่ใช่เบาๆเลยนะครับ” จื้อเฉิงรู้สึกกังวล


 “ฮ่าๆๆ ในที่สุดผลไม้ทั้งสามนี้ก็เติบโตโดยสมบูรณ์แล้ว เจ้าจงมอบให้เขาไปผลหนึ่งเสียสิ พอตื่นมาพรุ่งนี้เช้าเจ้าจะมั่นใจว่ามันได้ผล” ราชาหมาป่าขาวเอ่ยขึ้น


“กระดูกไหล่ซ้ายของพี่เฟิงหักไป แล้วท่านอยากจะให้เขากินผลไม้นี้น่ะหรือครับ” เขาเอ่ยถาม


“ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะออกมาดีเอง ผลลัพธ์จากการกินผลไม้นี้นั้นทรงพลังมากกว่าที่เจ้าคิดไว้เสียอีกนะ”  ราชาหมาป่าขาวพูดขึ้น ก่อนจะเหาะขึ้นไปงับเอาผลไม้นั้นลงมา แล้วยื่นให้กับจื้อเฉิง


“อ๋อ โอเคครับ” จื้อเฉิงรับคำก่อนจะนำมาให้หลิน เฟิงกิน


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น