RC:บทที่ 153 น้ำยาเติบโตใช้ไม่ได้ผล
ในขณะที่หลิน เฟิงรินน้ำยาเติบโตนั้น แสงสีเหลืองของต้นไม้ก็เปล่งประกายขึ้น ก่อนจะมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ลำต้นที่เหี่ยวแห้งและใบไม้สีเหลืองบนต้นไม้นั้นฟื้นคืนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รวมถึงกิ่งที่ลู่ลงนั่นก็กลับมาตั้งตรงและสวยงาม
“ว้าว ต้นไม้นี่กลับมามีชีวิตแล้วงั้นหรือ” ญาติผู้น้องแปลกใจ
“ก็ใช่ไง ไม่เห็นหรือ” แต่หลิน เฟิงก็ไม่ได้เอ่ยอะไร
“นี่มัน เป็นไปได้ยังไง”
ในตอนนี้ สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดสำหรับราชาหมาป่าขาวนั้น ยามที่มันพร้อมจะตาย หลิน เฟิงกลับช่วยชีวิตต้นไม้วิญญาณเล็กๆพวกนั้นไว้ได้
“อะไรที่เป็นไปไม่ได้ล่ะ ที่อยู่ต่อหน้านายก็เรื่องจริงไม่ใช่หรือ” หลิน เฟิงชี้ไปยังต้นไม้วิญญาณในมือของตนก่อนจะกล่าวขึ้น
อย่างที่เขาพูด หลิน เฟิงจึงจัดต้นไม้และตั้งใจที่จะปลูกมันไว้เป็นที่ๆไป ในตอนนั้น หลิน เฟิงเองก็พบว่าต้นไม้วิญญาณต้นเล็กๆต้นนั้นโตขึ้นในระดับหนึ่ง แม้ว่าตัวต้นไม้จะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็ยาวประมาณสิบเซนติเมตรได้
ต้นไม้ต้นนี้เคยสูงแค่ไหล่ของหลิน เฟิงเท่านั้น แต่มาตอนนี้ ตัวต้นไม้กลับสูงพอๆกับตัวหลิน เฟิงเลยทีเดียว
ความสูงสิบเซนติเมตรแบบนี้นั้นปลูกได้โตมากสุดแล้วเหมือนเมื่อสิบปีก่อน
“เอ๊ะ พี่เฟิง ต้นไม้นี้ดูจะโตขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่าครับเนี่ย” จื้อเฉิงสังเกตเห็น
“ว่าไงนะ ดูโตขึ้นหรือ” เมื่อได้ยินแบบนั้น ราชาหมาป่าขาวก็รีบเข้ามาก่อนจะว่าขึ้น แล้วจากนั้นก็หันไปมองรอบๆต้นไม้เป็นเวลานาน
“มันอาจจะดูเหมือนว่าโตขึ้น นายก็เห็นนี่ มันโตขึ้นเพียงนิดหน่อย” หลิน เฟิงชี้ไปที่กิ่งไม้ของต้นวิญญาณต้นเล็กๆนั้นก่อนจะกล่าวขึ้น
ราชาหมาป่าขาวและจื้อเฉิงมองตามไปที่หลิน เฟิงชี้ และมั่นใจด้วยว่า กิ่งเล็กๆนั้นกำลังยกตัวสูงขึ้น ถึงแม้จะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ก็เห็นได้
ราชาหมาป่าขาวมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น ร่างกายสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เพราะความตื่นเต้นเกินเหตุนั่นเอง
ทั้งสองคนและหมาป่าอีกหนึ่งตัวก็กำลังจ้องมองต้นวิญญาณต้นเล็กนี้เติบโตขึ้นอย่างเงียบๆแต่มั่นคงอยู่อย่างงั้น และก็เป็นเวลานานเลยกว่าที่จะหยุด
“เอ่อ ดูเหมือนว่ามันจะหยุดโตแล้วล่ะครับ” จื้อเฉิงมองก่อนจะขยี้ตาตัวเอง
“ใช่มันเหมือนจะหยุดแล้ว แต่ว่า..” ในตอนนั้นเอง เสียงของราชาหมาป่าก็ดังขึ้นข้างหลังเขา ทำเอาเขาตกใจกลัว
“นี่ท่านทำอะไรของท่านกันเนี่ย ทำไมจู่ๆก็โผล่มาข้างหลังแบบนี้กันเล่า กลัวเกือบตายเลย รู้ป่ะเนี่ย” จื้อเฉิงว่าขึ้น
“แล้วข้าไปทำอะไรเจ้ากันเล่า เรื่องที่ข้าจะพูดก็คือ เจ้าเหยียบเท้าข้าตั้งนานแล้วเมื่อไหร่จะขยับออกไปเสียที” ราชาหมาป่าขาวจ้องเขาเขม็งก่อนจะเอ่ยขึ้น
“หา”
ในตอนนั้น ญาติผู้น้องจื้อเฉิงจึงเริ่มรู้สึกตัว และก็เป็นไปอย่างที่คาดไว้ เขาเดาไว้ว่าที่ใต้เท้าของเขาจะต้องมีอะไรอยู่แน่ มันทั้งกึ่งนุ่มกึ่งแข็ง และปรากฏว่านั่นก็คืออุ้งเท้าของราชาหมาป่าขาวนั่นเอง
ในตอนที่พวกเขาต่างกำลังมองต้นไม้วิญญาณสีเหลืองโตขึ้นนั้นก็มัวแต่จดจ่ออยู่กับมันมากเกินไป ก็เลยไม่รู้ตัวว่าเหยียบไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“เอาน่า เลิกทะเลาะกันได้แล้ว ดูเหมือนว่ามันจะหยุดงอกแล้วจริงๆ ยาวเพียงแค่ 20 เซนติเมตรเอง” หลิน เฟิงว่าขึ้น
เดิมทีนั้น หลิน เฟิงคิดว่าต้นไม้วิญญาณสีเหลืองนั้นคงโตได้เหมือนกับองุ่นของเขามาตลอด เมื่องอกเงยก็จะให้ผลผลิตออกมา ใครจะรู้ว่าหลิน เฟิงคิดเรื่องนี้ไปมากกว่านั้น แต่นี่กลับเป็นต้นไม้ที่ยาวแค่ 20 ซม. เท่านั้น
แต่ถึงกระนั้น นี่ก็น่าประหลาดใจมากพอดูแล้ว ผลลัพธ์เองก็เป็นในแบบที่หวังไว้
องุ่นที่หลิน เฟิงปลูกนั้นถือว่าเป็นพืชทั่วๆไป ในขณะที่ต้นไม้วิญญาณสีเหลืองนั้นไม่ได้เติบโตขึ้นมา 200 ปีแล้ว ช่องว่างระหว่างต้นไม้ทั้งสองนั้นเป็น หลายร้อยโยชน์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าจะงอกได้แค่ 20 ซม.
ยิ่งไปกว่านั้น ต้นไม้วิญญาณนี้ก็ยังไม่ได้ลงปลูกเลย ดังนั้น เขาจึงหยิบมันเอามาไว้ในมือก่อนจะเทน้ำยาเติบโตระดับต่ำไปบนตัวมันซึ่งเร่งการเจริญเติบโตไปได้มากกว่า 20 เซนติเมตร ผลลัพธ์ตรงนี้นับว่าสร้างความตกใจให้พอสมควร และถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปล่ะก็ โลกของพืชคงปั่นป่วนเป็นการใหญ่แน่
จากนั้น หลิน เฟิงจึงรีบขุดหลุมเล็กๆยาวประมาณ 50 ซม. กว้าง 50 ซม. ลึก 30 ซม.อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ลงต้นไม้วิญญาณไปในนั้นจนยืนยันได้ว่ามันยังมีชีวิตรอดอยู่
หลังจากลงต้นไม้วิญญาณแล้วนั้น หลิน เฟิงก็รู้สึกอ่อนแรงลงเป็นอย่างมากเนื่องด้วยอาการบาดเจ็บที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อาการบาดเจ็บที่ไหล่ซ้ายนั้นสาหัสเอาการซึ่งทำให้เขาเกือบจะไม่สามารถประคองตัวเองได้
“เจ้าไหวไหม เสี่ยวเฟิง” ราชาหมาป่าขาวรู้สึกกังวล
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงก็ต้องสู้” หลิน เฟิงว่าขึ้นพลางขบฟันแน่น
“ถ้างั้นเราไปดูกันดีกว่าว่าเจ้าสามารถปลูกพืชอีกสองต้นนั่นด้วยได้หรือไม่” ราชาหมาป่าขาวเร่งเร้า
แม้จะรู้ว่าหลิน เฟิงเจ็บหนัก แต่ต้นไม้วิญญาณทั้งสามนั่นสำคัญกับมันมาก มันคือชีวิตของเขาเลยทีเดียว และถึงแม้หลิน เฟิงจะได้รับบาดเจ็บหนักแค่ไหน มันก็ไม่ได้เป็นอันตรายต่อชีวิตเขาอยู่แล้ว
“โอเค” หลังจากโบกมือแล้ว หลิน เฟิงจึงนำขวดน้ำยาเติบโตระดับต่ำออกมาจากวงแหวนมิติ ก่อนจะรินมันลงไปบนต้นไม้ต้นที่สอง
ต้นไม้วิญญาณต้นนี้เป็นต้นสีม่วง ขนาดเดียวกับต้นไม้วิญญาณสีเหลืองก่อนหน้านี้ ที่สูงแค่ไหล่ของหลิน เฟิง สูงประมาณหนึ่งเมตรห้ารวมถึงใบไม้แห้งเหี่ยวสีม่วงที่ห้อยอยู่
เมื่อหลิน เฟิงเทน้ำยาเติบโตระดับต่ำลงบนต้นไม้วิญญาณสีม่วงตรงหน้า มันฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ใบไม้ที่เหี่ยวแห้งนั้นกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เป็นสีสว่างและเทียบกันไม่ได้เลย
หลังจากนั้นเพียงครู่ ความสูงของต้นวิญญาณก็เปลี่ยนไปด้วย สูงมากกว่า 20 ซม.
ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด หลิน เฟิงสามารถเห็นต้นวิญญาณสีเหลืองและสีม่วงนั้นส่องประกายอ่อนๆ ราวกับว่ามีใครแขวนสีหลายๆสีนั้นบนต้นไม้แบบในเทศกาลคริสมาสต์ ต่างกันตรงที่ไฟที่อยู่บนนั้นเปิดอยู่ ต้นไม้ทั้งสองต้นของหลิน เฟิงนั้นล้วนเปิดไฟไว้หมด
“เยี่ยมเลย ในที่สุด ต้นไม้อีกต้นก็ลงได้แล้ว คู่ควรกับบรรพบุรุษหมาป่าขาวของเราเสียจริง” ราชาหมาป่าขาวมองขึ้นไปบนฟ้ามืดก่อนจะพูดขึ้น
ผ่านไปสักพัก ต้นไม้วิญญาณทั้งสองต้นก็รอดชีวิต แต่กับอีกต้นหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดนั้นเป็นต้นวิญญาณสีแดง กลับมีสภาพแย่ยิ่งกว่า
ต้นไม้ดังกล่าวไม่สามารถดูดซับสารอาหารจากพื้นดินได้ ซ้ำใบไม้บนต้นเองก็เหี่ยวแห้งไปหมด มีหลายใบที่เหี่ยวแห้งไป เมื่อเทียบกับต้นไม้วิญญาณสองต้นที่เล็กกว่าแล้วนั้น ใบไม้บนต้นของมันกลับมีน้อยกว่า
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ทุกๆนาทีหรือทุกๆวินาที ใบไม้นั้นก็ร่วงหล่นไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดนั้น หลังจากลงต้นไม้วิญญาณทั้งสองต้นสำเร็จแล้วนั้น พวกเขาก็คิดขึ้นมาได้ ทันทีที่พวกเขาหยิบต้นไม้วิญญาณขึ้นมา หนึ่งในผลวิญญาณบนต้นก็เหี่ยวแห้งไป
ทันใดนั้นเอง หลิน เฟิงก็คิดว่าเขาโง่เง่าสิ้นดี ทำไมเขาถึงไม่ใส่น้ำยาเติบโตระดับต่ำลงไปในต้นไม้วิญญาณก่อน
“ร่วงหมดแล้วๆ พระเจ้าต้องฆ่าข้าแน่ บรู๋” เมื่อหมาป่าขาวเห็นภาพตรงหน้า เขาก็รู้สึกราวกับว่าความหวังของเขามลายหายไปสิ้น พลางรู้สึกโศกเศร้าจนหอนใส่พระจันทร์
“นาย ไม่ต้องห่วงไปหรอก ยังมีอยู่อีกสองลูก” หลิน เฟิงนำขวดน้ำยาเติบโตระดับต่ำออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เปิดในทันทีและเทลงไป
สุดท้ายนั้น ใบไม้ก็ไม่เหี่ยวอีกต่อไปแล้ว ผลไม้ทั้งสองลูกก็ไม่ฝ่ออีกต่อไปด้วย
แต่ทว่า ใบไม้ที่อยู่บนยอดนั้นไม่งอกเพิ่ม ต้นวิญญาณไม่เติบโตเพิ่ม รวมถึงพลังวิญญาณไม่ฟื้นคืน ราวกับว่ามันหยุดนิ่ง
“ไม่เลย ไม่เห็นมีผลอะไรเลย” เมื่อราชาหมาป่าขาวนั้นเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ความหวังเดียวที่มีก็พังทลาย
“นี่ เสี่ยวเฟิง ข้าคงถูกสาป อย่าเสียเวลาเลย...”
0 ความคิดเห็น