CF:บทที่ 578 ความสงสัยของฮอว์คกิ้ง
เมื่อเข้ามายังห้องแล็บของฮอว์คกิ้ง, อู๋ฮ่าวเหรินก็พบว่ามีอุปกรณ์มากมายอยู่ข้างใน ซึ่งบางชิ้นก็เป็นอุปกรณ์ทดลองที่ผลิตขึ้นมาโดยทางโรงเรียน ซึ่งมีอุปกรณ์ที่ยากแก่การจะทำความเข้าใจได้อยู่มากมาย
แน่นอนว่า, อุปกรณ์ที่ยากแก่การจะทำความเข้าใจเหล่านี้ เป็นอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาโดยคนบ้าวิทยาศาสตร์อย่างตัวเขาเอง
มีคนหนุ่มสาวหลายคนที่กำลังวุ่นวายอยู่ที่นี่, จึงไม่มีใครที่สังเกตเห็นว่าอู๋ฮ่าวเหรินได้เดินเข้ามา
"โคโม่, ไปเอาตัวทำปฏิกิริยาหมายเลข 3 มาให้หน่อย, มิสโซลตัวทำปฏิกิริยาหมายเลข 6 ได้รึยัง?"
"ด็อกเตอร์คะ, ขอเวลาอีกแปบนึงค่ะ, ขอเวลาอีกแค่ 2 นาทีค่ะ" สาวผมบลอนด์ได้พูดตอบกลับมา
ข้างๆเขา, ก็มีชายหนุ่มแข็งแรงอีกคนที่ถือหลอดทดลองขวดหนึ่งวิ่งวุ่นไปทั่วห้องเล็กๆนี้
แน่นอนว่า, ฮอว์คกิ้งนั้นกำลังทำการทดลองอยู่, อู๋ฮ่าวเหรินจึงไม่คิดที่จะกวนเขาและยืนดูอยู่ห่างๆ
ไม่นานนักเขาก็พบว่าฮอว์คกิ้งนั้นดูเหมือนกำลังทำการทดลองเกี่ยวกับการปรับปรุงยีนส์อยู่, เขานั้นสงสัยเรื่องของการปรับแต่งยีนส์ ที่เขาได้มาจากในอนาคตนั้น ซึ่งมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เพราะว่า, ยาตัวนี้นั้นได้นำมาใช้กันมานานแล้วในโลกอนาคตถ้ามันมีปัญหาอะไรขึ้นมาจริงๆ ก็น่าจะมีการค้นพบไปนานแล้ว
"ด็อกเตอร์คะ, หมายเลข 6 พร้อมแล้วค่ะ"
"มาเลย, เอามาเลย"
หลังจากที่ผ่านไปได้ซักชั่วโมง, คนเหล่านี้ก็หยุดมือและฮอว์คกิ้งก็ออกมาจากห้องเล็กๆนั่น
ชายชราในเวลานี้ดูอ่อนเยาว์ลงมาก, เขาเองก็ได้ใช้ตัวปรับแต่งยีนส์เช่นกัน, ทำให้ชายชราดูสูงขึ้นเล็กน้อย
ตอนนี้เขาไม่ได้ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องอีกแล้ว, แต่กลับดูเหมือนทหารเสียมากกว่า
"อ้าว, มาทำอะไรที่นี่ครับ?"
การปรากฏตัวของอู๋ฮ่าวเหรินนั้้นทำให้ฮอว์คกิ้งรู้สึกประหลาดใจ, เพราะว่าเขานั้นไม่ได้เจอกับอู๋ฮ่าวเหรินมานานมาแล้ว
ครั้งสุดท้ายก็น่าจะตอนงานแต่ง, แต่ทว่าแค่มองเห็นกันไกลๆเท่านั้น, ไม่ได้มีการสนทนาอะไรกันเป็นพิเศษ
เขานั้นรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณอู๋ฮ่าวเหริน, เพราะอู๋ฮ่าวเหรินเป็นคนที่ได้มอบชีวิตที่ 2 ให้แก่เขา และยังมอบความรู้ที่แสนวิเศษเหล่านี้เพื่อให้เขาได้มีเป้าหมายในการแสวงหาครั้งใหม่
"ไม่มีอะไรหรอก, ผมเดินเตร็ดเตร่มาเรื่อยๆจนเดินมาถึงห้องแล็บของคุณเท่านั้นแหละ, จากที่ผมเห็นแล้ว พวกคุณกำลังศึกษาเรื่องของยาปรับปรุงยีนส์อยู่สินะครับ"
"ใช่แล้วครับ, อย่างที่เห็นผมกำลังศึกษาเรื่องของยาปรับปรุงยีนส์อยู่จริงๆ"
อู๋ฮ่าวเหรินจึงเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมาและถามเขา "ตัวปรับปรุงยีนส์นี้ผมคิดว่ามันสมบูรณ์อยู่แล้ว, คุณกำลังปรับปรุงมันให้ดีขึ้นไปอีกอย่างงั้นเหรอ?"
"โอ้, ไม่ ไม่หรอกครับ, ผมไม่มีความสามารถพอที่จะปรับปรุงยาวิเศษตัวนี้หรอกครับ, ที่ผมศึกษาเจ้าตัวยาปรับปรุงยีนส์นั้น, การวิจัยหลักๆของเพื่อศึกษาว่าจะสามารถเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของมันได้อย่างไรน่ะครับ"
"หืม, คุณหมายถึงการเพิ่มความเร็ว, ความแข็งแกร่ง, และการฟื้นฟูของร่างกายของยาปรับปรุงยีนส์อย่างงั้นเหรอครับ?"
"ใช่แล้วครับ"
"แล้วได้ผลอะไรบ้างไหมครับ?" อู๋ฮ่าวเหรินมองดูฮอว์คกิ้งอย่างตื่นเต้น
เขาไม่คิดว่าคนๆนี้จะกำลังศึกษายาตัวนี้อยู่, ถ้าเกิดเขาสามารถทำขึ้นมาได้สำเร็จ บางทีมนุษยชาติอาจจะมีความสามารถพิเศษขึ้นมาก็ได้
เพราะว่า, มนุษยชาติในอนาคตนั้น ก็มีคนแบบนั้นอยู่เช่นกัน, แต่ทว่าคนแบบนั้นมักเกิดขึ้นมาจากการฝึกฝนหรือโอกาสพิเศษจริงๆเท่านั้น, แต่ยังไม่มีใครที่เป็นโดยมาจากยาที่ขายออกมาจำนวนมากเลย"
"ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าอะไรครับ, พวกเราพบว่าถ้าเพิ่มการปรับปรุงลงไปหนึ่งอย่าง, มันจะทำให้ยีนส์ที่เสียหายขณะที่กำลังปรับปรุงร่างกายอยู่, ราวกับว่ายีนส์ของมนุษย์นั้นไม่สามารถที่จะทนทานการเพิ่มความสามารถพิเศษลงไปได้
ถึงเป็นอย่างนั้น, อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้เสียใจอะไร, พวกเขารู้ว่าในอนาคตนั้น ก็มีการศึกษาด้านนี้อยู่เหมือนกัน แต่ผลที่ได้ออกมาก็คล้ายกัน
ความสามารถพิเศษเหล่านี้ โดยปราศจากข้อยกเว้น, ทำให้ความแข็งแกร่งทางร่ายกายของพวกเขามาจนถึงขีดสุดในด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น
แต่ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งของมนุษย์จนถึงขีดสุดทุกด้าน, ทำให้ไม่สามารถมีความสามารถพิเศษอื่นๆได้อีก
เดิมที, อู๋ฮ่าวเหรินคิดที่จะเดินออกไป, แต่ฮอว์คกิ้งนั้นไม่ค่อยได้เจอกับอู๋ฮ่าวเหรินมากนัก, จะปล่อยให้อู๋ฮ่าวเหรินกลับไปง่ายๆไม่ได้, เพราะเขายังต้องการความรู้ที่ยังอธิบายไม่ได้อีกมากมายจากอู๋ฮ่าวเหรินอีก
"จริงด้วยสิครับ, ผมมีเรื่องที่อยากจะถาม ความรู้ที่พวกเราได้ศึกษากันอยู่ตอนนี้มันมีอะไรบางอย่างขาดหายไปรึเปล่าครับ?"
อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัวและพูดขึ้นมา "มันเป็นความจริงที่ว่าถ้าพวกเราจะเริ่มจากศูนย์, มันอาจจะต้องการการพัฒนาจำนวนนับไม่ถ้วนกว่าจะพัฒนามาจนถึงจุดนี้ได้, ดังนั้นการเรียนรู้กระบวนการของเทคโนโลยีบางอย่างนั้นขั้นตอนที่ตรงกลางบางอย่างจึงได้ตัดออกไป"
"ผมก็ไม่รู้หรอกนะ, แต่ตอนที่ผมศึกษาความรู้พวกนี้อยู่ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมไม่สามารถใช้งานมันได้อย่างเต็มที่, มันมีอะไรติดขัดไปหมด"
จริงๆแล้ว, ฮอว์คกิ้งนั้นมีความสงสัยมากมายอยู่ในใจของเขา, และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่กล้าที่จะถามอู๋ฮ่าวเหริน
เขาอยากที่จะรู้มากว่าความรู้พวกนี้นนั้นเขาได้มันมาจากไหน, คนอื่นคงจะคิดว่าความรู้เหล่านี้นั้นอาจจะได้มาจากอารยธรรมต่างดาว
แต่ฮอว์คกิ้งนั้นรู้ดีว่าความรู้เหล่านี้นั้นไม่ใช่ได้มาจากอารยธรรมต่างดาว, แต่จากมุมมองของเขานั้น ความรู้เหล่านี้น่าจะถูกสร้างมาเพื่อมนุษย์เองนี่แหละ
และก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีอารยธรรมมนุษย์อื่นอีกที่อยู่นอกเหนือจากโลก ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้เลย
ในเมื่อไม่น่าจะมาจากอารยธรรมต่างดาว, อีกความคิดของเขาคือ หรือจะมีอารยธรรมที่รุ่งเรืองอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์จริงๆ
และความรู้เหล่านี้ก็มาจากอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์พวกนั้น, ทำให้ความรู้เหล่านี้เหมาะสมกับมนุษยชาติ
การพูดคุยระหว่างอู๋ฮ่าวเหรินและฮอว์คกิ้งนั้นไม่แสดงถึงการติดขัดอะไรในด้านของความรู้, ถึงแม้ว่าเขาจะใช้เวลาส่วนหนึ่งในการศึกษาเรื่องในอนาคต
แต่ทว่าจากการเสริมร่างกายของอู๋ฮ่าวเหริน, ทำให้พัฒนาการสมองของเขานั้นเร็วกว่าคนอื่นๆ, ยิ่งไปกว่านั้น, เพราะเขารู้ว่าความรู้เหล่านี้มาจากไหน, มันจึงเป็นการง่ายที่จะยอมรับมัน
เหมือนฮอว์คกิ้งพบว่าคำถามที่เขาถามไปนั้น, เขาก็ทึ่งกับอู๋ฮ่าวเหรินที่สามารถตอบได้โดยไม่ต้องหยุดคิด
เดิมที, ฮอว์คกิ้งคิดว่าสมองของเขานั้นฉลาดมาก, และเขาก็สามารถเรียนรู้ความรู้เหล่านี้ได้อย่างว่องไวมาก, แต่เขาก็พบว่าเมื่อเทียบกับอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, เขานั้นเหมือนกับเด็กประถมที่กำลังคุยกับศาสตราจารย์ยังไงอย่างงั้น
หลังจากที่คุยกันนานเป็นชั่วโมง, อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้หยุดฮอว์คกิ้งให้วิจัยเรื่องของยาปรับปรุงยีนส์ต่อ, ในความคิดของเขา, ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเสริมหรือพัฒนาอะไรได้อีก, แต่พวกเขาก็จะสามารถชำนาญความรู้มากมายเกี่ยวเรื่องของยีนส์เภสัชกรรมในการวิจัยเหล่านี้
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น บางทีวันหนึ่ง, ก็อาจจะมีเภสัชกรในบรรดาคนเหล่านี้ก็เป็นได้
เมื่อมองดูอู๋ฮ่าวเหรินเดินจากไป, ลูกศิษย์ต่างก็รู้สึกทึ่งและพูดว่า "ด็อกเตอร์ครับ, คุณอู๋นี่สุดยอดจริงๆเลยนะครับ, ราวกับว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถโค่นเขาได้เลยนะครับ"
"ใช่ทรงพลังมากจริงๆ, แต่ดูเหมือนว่าจะมีบางคนที่ไม่ได้คิดอย่างนั้น, ก็ได้แต่หวังว่าคนพวกนั้นจะไม่คิดทำอะไรโง่ๆล่ะนะ" ฮอว์คกิ้งพูดขึ้นมาลอยๆ
จากนั้นเขาก็โบกมือและพาลูกศิษย์ของเขาทำการทดลองต่อไป
จากห้องแล็บของฮอว์คกิ้ง, อู๋ฮ่าวเหรินก็เดินดูรอบๆโรงเรียนต่อโดยที่ไม่มีใครมากวนเขา, จากนั้นจึงไปรับหลิงเมิ่งเสวี่ยกลับบ้านไปพร้อมกับเขา
ในช่วงที่ผ่านมานี้, ครอบครัวของเขาได้เริ่มชีวิตใหม่กัน, เหล่าผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันตั้งชมรมเรียนรู้ยานอวกาศกัน, หลังจากที่เรียนรู้เรื่องยานอวกาศแล้ว พวกเขาคิดที่จะเดินทางไปสำรวจดาวดวงอื่นกัน
ครอบครัวของเขานั้นชื่นชอบการทำเกษตรกรรมจึงได้ทำการศึกษาพืชพันธุ์ต่างๆจากอู๋ฮ่าวเหริน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน, อู๋ฮ่าวเหรินก็เดินเข้าไปในห้องพร้อมกับหลิงเมิ่งเสวี่ยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา, เธอนั้นตกใจและเขินอายก่อนที่เขาจะวางเธอลงบนเตียง
นอนอยู่บนเตียง, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้กอดหลิงเมิ่งเสวี่ยและพูดขึ้น "อีกไม่นาน, ผมอาจจะต้องออกไปจากโลก, เมื่อถึงตอนนั้น, แผนการต่างๆบนโลกอาจจะต้องให้คุณเป็นคนจัดการ"
"รอช้าไปอีกหน่อยไม่ได้แล้วเหรอ?"
"ไม่ได้หรอก, จริงๆแล้วมียานรบมากมายที่มาจากสหพันธ์อยู่รอบๆทางช้างเผือกนี้, ยิ่งไปกว่านั้น ผมเองก็ได้จับกุมยานรบที่มาจากอารยธรรมพาลอสเอาไว้ด้วย"
หลิงเมิ่งเสวี่ยนั้นกอดอู๋ฮ่าวเหรินเอาไว้แน่น, ด้วยการหลอมรวมเข้ากับชิ้นส่วนของความทรงจำ, ทำให้เธอนั้นรู้มากมายเกี่ยวกับสหพันธรัฐจักรวาล
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูสีหน้าของหลิงเมิ่งเสวี่ย, จึงลูบหลังของเธอและพูดขึ้น "ไม่ต้องกังวลไปหรอก, มันจะไม่เป็นไร, ผมปกป้องตัวเองได้, เมื่อถึงเวลาโลกนี้จะตกอยู่ในมือของคุณ, ผมได้เตรียมแผนการเอาไว้แล้ว, คุณสามารถจัดการต่อได้ทันที
0 ความคิดเห็น