CF:บทที่ 534 ยอดฝีมือในโลกแห่งเกมส์

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 534 ยอดฝีมือในโลกแห่งเกมส์

 

ในเวลานี้, บนดาวที่ได้เลือกให้มาเป็นเกมอารยธรรมนั้นได้ถูกแบ่งออกเป็นเขตต่างๆแล้ว, ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกองกำลังมากมายอีกด้วย

 

บางครั้งก็มีสงครามเกิดขึ้นระหว่างแต่ละกองกำลังเหล่านี้เพื่อแย่งชิงทรัพยากร

 

ซึ่งอู๋ฮ่าวเหรินเองก็ได้ปล่อยให้ดาวดำเนินไปแบบนี้ ไม่ว่าคนพวกนี้จะทำอะไรก็ตาม

 

เพราะเขาพบว่าอารยธรรมหุ่นยนต์เหล่านี้มันดูแปลกและน่าสนใจดี

 

อู๋ฮ่าวเหรินควบคุมหุ่นยนต์ของเขา, และเดินเข้าไปในเมืองแห่งหนึ่งเพื่อมองดูสถานการณ์ในเมืองนั้น

 

"คุณได้ยินเรื่องของการประกาศรับสมัครในห้องโถงหุ่นยนต์ไหม? สำหรับภารกิจในครั้งนี้พวกกองกำลังต่างๆจะทำการเกณฑ์คนมีฝีมือเป็นจำนวนมากเลย, เพื่อหวังที่ได้สิทธิในครั้งนี้"

 

ที่กำลังพูดอยู่คือหุ่นยนต์ยักษ์ที่สูงเดิน 3 เมตร, มีอุปกรณ์สนับสนุนมากมายติดตั้งไว้ที่หุ่นตัวนี้

 

ดูท่าว่าจะเป็นหุ่นยนต์ใช้สำหรับการผลิตโดยเฉพาะ, ซึ่งมีหน้าที่ประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีต่างๆ และผลิตมันขึ้นมาในเกม

 

"ถึงนายจะไม่ใช่ผู้เล่นใหม่, และยังเรียนเทคโนโลยีการผลิตมาได้ไม่ครบทั้งหมดก็ตาม, แต่นายก็เป็นคนที่สามารถผลิตปืนพลังงานขึ้นมาได้เลยนะ"

 

เขาพูดพร้อมกับชี้ไปที่ปืนขนาดใหญ่ที่ติดเอาไว้ที่ไหล่ของเขาและที่ฐานทัพขนาดใหญ่ของเขา

 

"ผมยังไม่อยากจะเข้าร่วมกับพวกเขาอยู่ดี, เพราะถ้าผมเข้าร่วมล่ะก็, ผมคงโดนบังคับให้เรียนเฉพาะเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง ไม่ได้ให้เรียนทั้งหมดแน่"

 

"แต่นี่คือโอกาสเลยนะ, ถ้านายไม่เข้าร่วมกับพวกเขาล่ะ อาจจะพลาดโอกาสนี้ไปก็ได้นะ"

 

ทั้งสองคนต่างก็รู้ดีว่าอุปกรณ์ที่ให้ทำในครั้งนี้นั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทำให้เสร็จได้ด้วยตัวคนเดียวได้เลย, จำเป็นที่จะต้องใช้คนหลายคนช่วยกันทำเท่านั้น

 

อู๋ฮ่าวเหรินได้ยินที่ทั้งสองคนพูด, ก็ควบคุมหุ่นยนต์เดินไปหาพวกเขา

 

"ว่าไงทั้งสองคน?"

 

"สวัสดี, มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าครับ?"

 

"ผมได้ยินพวกคุณสองคนคุยกัน, น้องชาย ผมได้ยินว่าคุณเก่งเรื่องการผลิตอย่างงั้นเหรอ?"

 

"คุณจะเรียกผมว่ากงจู้โชวก็ได้นะ ส่วนเขาชื่อจานโต๋วเบ๋าเล่ย, ส่วนความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตของผมนั้น บอกตรงๆเลยนะ แค่กลางๆเท่านั้นแหละ"

 

"คุณชื่ออะไรรึพี่ชาย? แล้วก็อย่าไปฟังเขาพูดไร้สาระ, ผมเป็นพี่ชายของกงจู้โชวเอง, ผมจะบอกให้เลยว่าความสามารถเขาน่ะสุดยอดมาก, ถึงแม้จะไม่กล้าพูดได้ว่าเป็นที่หนึ่งในเกมอารยธรรมนี้ก็ตาม, แต่ฝีมือของเขาก็ติดอันดับ 1 ใน 10 แน่นอน"

 

อู๋ฮ่าวเหรินทำเป็นตกใจแล้วก็พูดขึ้น "ชื่อของผมคือช่วงชี่ครับ, น้องคุณนี่ฉลาดจริงๆเลยนะครับ!"

 

"แน่นอน, แล้วจะบอกอะไรให้, น้องชายของผมน่ะเป็นคนที่ 5 ที่สามารถผลิตปืนพลังงานขึ้นมาได้เลยนะ, แต่เขากลับเก็บเงียบไม่บอกใคร, ดูที่ไหล่ของผมสิ มันเป็นปืนพลังงานที่เขาผลิตขึ้นมาล่ะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูปืนพลังงานที่ไหล่ของเขาแล้วก็ทำการวิเคราะห์ปืนพลังงานกระบอกนี้ทันที, แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่มีฝีมือเข้าในเวลานี้

 

จากการวิเคราะห์พบว่า, โครงสร้างของปืนพลังงานนี้ได้มีการปรับแต่งพัฒนาขึ้นจากเดิม, ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นจากแบบแปลนการผลิตปืนพลังงานที่เขาให้ไปเสียอีก

 

ถ้าปราศจากการวิจัยและความเข้าใจเรื่องของทฤษฎีปืนพลังงานเป็นอย่างดีแล้ว, มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยนโครงสร้างของปืนพลังงานได้

 

"เป็นยังไงล่ะ, เจ๋งไปเลยใช่ไหม?"

 

"อื่ม, มันสุดยอดมากเลย, ผมไม่คิดเลยนะว่าจะบังเอิญเจออัจฉริยะเข้าแบบนี้, ถือเป็นเกียรติของผมจริงๆ, น้องชาย ผมได้ยินว่าคุณไม่อยากเข้าร่วมกับกองกำลังไหนเพราะกลัวพวกเขาจะบังคับให้คุณวิจัยงั้นเหรอ? เอางี้สิผมกำลังก่อตั้งกองกำลังขึ้นมาใหม่พอดี, สนใจมารวมกลุ่มกับผมไหม?"

 

"ไม่ต้องกังวล, ผมไม่บังคับหรือจำกัดอะไรคุณแน่นอน, คุณสามารถศึกษาและวิจัยเทคโนโลยีได้ตามใจชอบเลย"

 

ทั้งสองคนไม่คิดว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นจะมาชวนพวกเขาเข้าร่วมกองกำลังของเขา

 

"อย่าหาว่าข้าอย่างโง้นอย่างงี้เลย, แต่กองกำลังของคุณน่ะมีความความสามารถมากพอที่จะศึกษาวิจัยภารกิจนี้ได้รึเปล่า?"

 

"ได้สิ, ผมมีอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมแล้ว, แต่ทว่าปกติผมจะทำงานตัวคนดียว, แต่บังเอิญได้ยินพวกคุณคุยกันก็เลยอยากจะชวนมาทำงานด้วยกันน่ะครับ"

 

 จานโต๋วเบ๋าเล่ยโบกไม้โบกมือให้กงจู้โชวเดินเข้ามาหาใกล้ๆแล้วพูดขึ้น "กงจู้โชว, นายยังพอติดต่อกับพวกหมาป่าเดียวดายได้อยู่มั๊ย? พวกเขาเองก็อาจจะอยากได้โควต้าเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปรอบนี้ด้วยเหมือนกัน, นายลองไปแนะนำเขาให้มาเข้าร่วมกลุ่มดูได้มั๊ย"

 

กงจู้โชวเองก็ตื่นเต้นเล็กน้อย, เพราะเขาได้ยินว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นเล่นด้วยตัวเองมาตลอด, ถ้าคนเพียงคนเดียวสามารถมีเครื่องจักรกลครบมือ, นั่นหมายความว่าคนๆนี้จะต้องสุดยอดมากแน่ๆ

 

แต่งานคราวนี้, คนๆเดียวไม่สามารถทำงานนี้ได้แน่, และเขาเองก็ยังขาดเครื่องจักรกลอยู่อีกเยอะ

 

"ถ้าอย่างนั้นขอผมติดต่อหาคนอื่นให้คุณก่อน, ถ้าได้คนซัก 5 คนมาเข้าร่วมด้วย, ผมก็จะเข้าร่วมด้วย"

 

"ดีครับ, ดี"

 

กงจู้โชวไม่ได้หลบอู๋ฮ่าวเหรินไปไหน และเริ่มการติดต่อหาคนอื่นทันที

 

หลังจากนั้นไม่นาน, เขาก็พูดขึ้นมา "คนพวกนั้นอยากที่จะไปที่ฐานของคุณก่อนน่ะครับ, ถ้าฐานของคุณเป็นที่พึงพอใจของพวกเขา, พวกเขาก็จะเข้าร่วมกับคุณครับ"

 

"ได้สิ, คุณบอกพวกเขาให้ไปได้เลย, นี่คือพิกัดที่อยู่ของฐานทัพผม, ถ้าพวกคุณไม่มียานพาหนะ ผมสามารถส่งเครื่องบินไปรับก็ได้นะ"

 

"ไม่ต้องหรอก, พวกเขาไปกันเองได้, จริงสิ, ผมขอไปที่ฐานของคุณตอนนี้เลยได้มั๊ยครับ?"

 

"ตอนนี้เหรอ, ได้สิ, ไปกันเลย, เดี๋ยวผมจะพาคุณไปที่ฐานของผมเอง, ถ้าคุณได้เห็นมัน, มันมั่นใจว่าคุณจะต้องชอบมัน"

 

อู๋ฮ่าวเหรินไม่คิดว่าเขาจะยอมร่วมมือง่ายขนาดนี้, แถมยังช่วยเขาหาคนเพิ่มมาได้อีก

 

เขาไม่รู้เลยว่า การกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจของเขาในครั้งนี้ จะเป็นการรวมกลุ่มอัจฉริยะกลุ่มแรกของมนุษยชาติในอนาคต

 

ทั้งสามคนต่างก็มีเครื่องบินเป็นของตัวเอง, แต่เมื่อพวกเขาเห็นเครื่องของอู๋ฮ่าวเหรินที่ล้ำสมัยกว่าใครแล้ว, พวกเขาต่างก็ตกใจและสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของอู๋ฮ่าวเหรินขึ้่นมา

 

"พี่ช่วงชี่, เครื่องบินของคุณสุดยอดไปเลยดูเหมือนว่ามันใช้พลังงานนิวเคลียร์ขับเคลื่อนเลยนะครับ"

 

"มันก็ขับเคลื่อนด้วยพลังนิวเคลียร์จริงๆนั่นแหละ"

 

กงจู้โชวตกใจอีกครั้ง, เพราะเขาพบว่าเครื่องบินของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้ใช้เทคโนโลยีที่ได้มาจากเกมอารยธรรม, หรือพูดอีกอย่างก็คือเครื่องบินลำนี้ทำด้วยฝีมือของเขาล้วนๆ

 

เป็นที่รู้กันดีว่าถ้าปราศจากการวิจัยในระดับหนึ่ง, มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างเครื่องบินด้วยตัวเองได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น, มีคนมากมายที่ยืนยันแล้วถ้ามีของที่ถูกสร้างขึ้นที่นี่, ถ้ามันเป็นอุปกรณ์ที่อยู่บนโลกจริงๆ, มันจะสามารถสร้างขึ้นมาได้

 

จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายคนให้ความเห็นตรงกันว่าเกมนี้คือเกมความเป็นจริง

 

"พี่ช่วงชี่นี่สุดยอดจริงๆเลยนะครับ, ผมน่ะไม่สามารถสร้างเครื่องบินแบบนี้ขึ้นมาได้หรอกครับ"

 

"ฮ่าๆ, ผมน่ะศึกษามาหลายๆด้านน่ะครับ ทั้งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เกี่ยวข้องด้วย"

เมืองที่อู๋ฮ่าวเหรินสร้างเอาไว้นั้นจะอยู่ห่างจากตัวเมืองเมื่อซักครูถึง 200 กิโลเมตร, แต่ทว่า ความเร็วของเครื่องบินนี้นั้นเร็วมาก, บินมาถึงที่เมืองของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นใช้เวลเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าพวกเขาคงไม่เชื่อสายตาแน่, ว่ามันเป็นเมืองที่สร้างด้วยตัวคนเดียวจริงๆ เมืองนี้เป็นเมืองที่ปราศจากกำแพง, และมีอาคารโลหะหลายอย่างตั้งอยู่ และหุ่นยนต์อีกหลายตัวที่ต่างก็ทำงานกันอย่างวุ่นวาย

 

อู๋ฮ่าวเหรินพบว่าเครื่องบินของสองคนนั้นมีสภาพที่ไม่ค่อยเสถียร, เขาได้แต่หวังว่าพวกเขาจะไม่ฆ่าตัวตายกันเสียก่อน

 

เมื่อเครื่องบินจอด, ทั้งสองคนต่างก็ไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อได้เห็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีหุ่นยนต์หลากรูปแบบที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา

 

จานโต๋วเบ๋าเล่ยถามเขาด้วยเสียงสั่นเครือว่า "พี่ช่วงชี่, นี่เป็นเมืองที่คุณสร้างขึ้นมาเองคนเดียวจริงๆเหรอ?"

 

"ใช่, ผมสร้างขึ้นมาเองล่ะ" อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าจี้นั้นคงกำลังวุ่นอยู่

 

"สุดยอด! สุดยอดมาก! คุณน่าจะเป็นคนที่เก่งที่สุดในเกมอารยธรรมนี้แล้วก็ได้นะเนี่ย, เผลอๆคุณน่าจะโดนชักชวนให้เข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปเลยก็ได้นะเนี่ย"

 

อู๋ฮ่าวเหรินนิ่งไปขณะหนึ่งก่อนที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเลยตอบกลับไปว่า "ใช่"

 

"คุณอย่าทำแบบกงจู้โชวล่ะ, ที่ตอบปฏิเสธไปน่ะ!"

 

"หืม, ทำไมล่ะ ทำไมกงจู้โชวถึงได้ปฏิเสธไปล่ะ, เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอีกที่ปฏิเสธคำเชิญของเขา, ดูเหมือนเขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมเขาถึงได้ปฏิเสธคำเชิญของเขา

 

"เขาบอกว่ามีเพียงคนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีต่างๆเท่านั้นถึงจะทำงานในฟิวเจอร์กรุ๊ปได้, ดังนั้นเขาจึงได้ปฏิเสธไปการชวนของฟิวเจอร์กรุ๊ปไป แล้วเข้ามาศึกษาในเกมส์แทนน่ะ"

 

"อย่าไปฟังเขาพูดไร้สาระน่า, ผมปฏิเสธการเชิญไปเพราะว่าผมไม่รู้สึกว่าผมเชี่ยวชาญด้านไหนซักด้านเลย

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่า, เขานั้นเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ, โชคดีที่เขาได้เข้ามาเล่นเกมในวันนี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะพลาดคนที่มีความสามารถเช่นนี้ไป

 

บางทีคนที่ชื่อตู้ซิงเซี่ยเองก็อาจจะเป็นคนที่มีความสามารถเช่นกัน, บางทีพวกเขาอาจจะได้ใช้เวลาร่วมกันในเกมมากขึ้นในอนาคตก็เป็นได้

--------------------------



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น