CF:บทที่ 464 แผนการฝึกอบรมผู้มีความสามารถ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 464 แผนการฝึกอบรมผู้มีความสามารถ


ท่านผู้นำมองไปยังคนที่อยู่ในห้องประชุมแล้วพูดว่า "อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใคร ให้คนที่สถาบันวิทยาศาสตร์ศึกษาข้อมูลพวกนี้"


"ท่านผู้นำ เราจะตอบทางฟิวเจอร์กรุ๊ปไปว่าอย่างไรครับ"


"ก็ยังไม่ต้องตอบอะไร รอดูไปอีกนิด"


"ท่านผู้นำ เกรงว่าอาจจะไม่เหมาะ ผมกลัวว่าถ้าเราไม่ตอบอะไรไป ทางกลุ่มอาจจะเผยแพร่ความรู้เหล่านี้ทันที จุดมุ่งหมายของฟิวเจอร์กรุ๊ปในการเผยแพร่ความรู้ก็คือการปรับปรุงระดับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้"


"ท่านผู้นำ หากไม่รีบลงมือเราอาจพลาดโอกาส ดูจากสถานการณ์แล้ว เป้าหมายของฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ชัดเจนว่าต้องการปรับระดับเทคโนโลยีของโลก แม้ว่าเราไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไร แต่เราก็ไม่สามารถเอาชนะชาติอื่นๆได้ ถ้าเราไม่ฉวยโอกาสนี้"


คราวนี้เจียหมินกล่าวว่า: "ท่านผู้นำ เราควรเผยแพร่ความรู้นี้ทันทีดีกว่าครับ แม้ว่าเราตอนนี้เรายังไม่รู้ผลการศึกษาซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักพัก ทั้งหมดนี่เป็นความรู้เชิงทฤษฎี อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะพัฒนาความรู้เหล่านี้ให้เป็นเทคโนโลยี"


"หากฟิวเจอร์กรุ๊ปเข้ามาและเผยแพร่เทคโนโลยีเพิ่มเติมแบบเดียวกับที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ความรู้นั่นจะมีบทบาทสำคัญ และเทคโนโลยีเหล่านั้นก็มาจากความรู้พวกนี้" นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งเตือน


ยิ่งไปกว่านั้นถ้าความรู้นั่นเป็นเรื่องจริง ยิ่งเราให้ความสำคัญกับความรู้นี้เร็วเท่าไร ประโยชน์ที่เราจะได้รับยิ่งมากขึ้นเท่านั้น


หลังจากฟังคำพูดเหล่านี้ ท่านผู้นำก็คิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็พบว่าเป็นไปได้


หากมีอำนาจหนุนหลังอู๋ ฮ่าวเหริน อยู่จริง ความรู้เหล่านี้อาจจะถูกเปิดเผยในเวลาอันสั้น


อย่างไรก็ตามยังมีอีกปัญหาหนึ่ง เมื่อมีการเผยแพร่ความรู้แก่สาธารณชนแล้ว นานาชาติก็ย่อมหาทางให้ได้มาซึ่งความรู้พวกนี้จนได้


"เอาอย่างนี้ เราให้อาจารย์บางคนจัดคนกลุ่มหนึ่งมาศึกษาความรู้เหล่านี้และให้พวกเขาถ่ายทอดให้กับเด็กๆ บอกไปว่า เราต้องการเวลาสักหน่อยก่อนที่จะถ่ายทอดความรู้นี้"


“ส่วนการก่อสร้างเมือง เราต้องศึกษาก่อนจึงจะให้คำตอบแก่เขาได้”


และแล้วคำตอบของท่านผู้นำก็มาถึงอู๋ ฮ่าวเหริน และผลลัพธ์ก็ดีกว่าที่คาดไว้


ตอนแรกเขาคิดว่ารัฐจะนำความรู้เหล่านั้นมาศึกษาและพัฒนาอย่างช้าๆ จากนั้นก็จะไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ


แน่นอนว่าเมื่อเมืองของเขาได้สร้างขึ้นเรียบร้อย รัฐจะเปลี่ยนทัศนคติและเผยแพร่ความรู้เหล่านั้นอย่างแน่นอน


ถึงเวลานั้น อุปสรรคในการทำบางสิ่งบางอย่างจะน้อยกว่ามาก


"จี้ เรื่องยานขนส่งยูนิเวอไซ นานแค่ไหนถึงจะได้รับคำตอบ?"


"อีกสองสัปดาห์จะกลับมาค่ะ ปัจจุบันเราพัฒนาดาวเคราะห์ 35 ดวงที่นั่น ถ้ามียานขนส่งที่จะส่งวัสดุเหล่านั้นกลับมา เราก็จะสามารถผลิตอุปกรณ์จำนวนมากที่ยังขาดอยู่ในตอนนี้ "


อู๋ ฮ่าวเหริน ก็จนหนทางเหมือนกัน สิ่งที่เขาขาดมากที่สุดคือยานขนส่ง รอบๆ ระบบสุริยะนั้นมีดาวที่เป็นแหล่งทรัพยากรอยู่หลายดวง ปัญหาคือไม่มียานขนส่ง ดังนั้นเราจึงได้แต่ดูดาวทรัพยากรเหล่านั้นบนแผนที่ดวงดาว


"ผู้บุกเบิกนำหุ่นยนต์ไปยังดาวอังคาร แต่หลังจากผู้บุกเบิกส่งหุ่นยนต์ไปยังดาวอังคารแล้ว เขาจะส่งหุ่นยนต์ไปยังดาวฤกษ์รอบระบบสุริยะ" จี้เตือนอีกครั้ง เราไม่ควรวางสายการผลิตยานรบไว้บนโลก"


"อ้าว ทำไมล่ะ?"


มีแผนที่ดาวปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของอู๋ ฮ่าวเหริน มีดาวทรัพยากรจำนวนหนึ่งปรากฏบนแผนที่ดาว


"เราสามารถพัฒนาสายการผลิตจากดาวเคราะห์ทรัพยากรที่ใกล้ที่สุด และยังเป็นการกระจายเส้นทางการอพยพของโลกในอนาคตอีกด้วย ดาวเคราะห์เหล่านี้เชื่อมโยงเข้าด้วยกันเพื่อก่อตัวเป็นเครือข่ายการป้องกันกาแลคซี"


อู๋ ฮ่าวเหริน นึกไม่ถึงว่าจี้เริ่มมีความคิดในตอนนี้ที่จะสร้างเครือข่ายป้องกันกาแลคซี ซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาวุธสงครามในกาแลคซีมนุษย์ในอนาคต


"เราไม่มีเครือข่ายการป้องกันเลย และเราก็ทำไม่ได้เลย"


"ฉันหมายถึงสร้างต้นแบบคร่าวๆขึ้นมาในตอนนี้ แล้วปรับปรุงให้ดีขึ้นหลังจากฝึกฝนคนเก่งในทุกด้านแล้ว"


อู๋ ฮ่าวเหริน ไตร่ตรองแล้วคิดว่ามีความเป็นไปได้


หากจะพัฒนามนุษย์ก่อน แล้วค่อยสร้างเครือข่ายการป้องกัน ก็จะต้องช้ามาก


ในระหว่างที่สร้างเครือข่ายป้องกัน ก็ควรสร้างฐานทัพเหล่านั้นไปด้วย ซึ่งจะประหยัดเวลาได้มาก


เรื่องคนเก่งเป็นปัญหาใหญ่ แม้ว่าเขาจะมีเทคโนโลยีอยู่ในมือ แต่หุ่นยนต์ส่วนใหญ่สามารถแทนที่ได้ แต่มีบางงานที่หุ่นยนต์ไม่สามารถแทนที่คนได้ ดูเหมือนว่าจะต้องเร่งการพัฒนาคนเก่งเสียแล้ว


อู๋ ฮ่าวเหริน ตัดสินใจเริ่มฝึกอบรมความสามารถทุกประเภทในครั้งต่อไป


พนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปก็พบว่าเจ้านายดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลง เขาไม่เคยใส่ใจกับพนักงานของ บริษัทมาก่อน แต่ตอนนี้เขาเป็นห่วงมาก


ระหว่างพักเที่ยงที่สำนักงาน มีคนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเพื่อหารือเรื่องนี้


"เจ้านายโทรหาคุณแล้วถามเรื่องการเรียนของคุณในช่วงนี้หรือเปล่า?


"ผมโดนถามเมื่อวานนี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมกังวลใจแทบตาย"


"ผมก็โดนถามเมื่อเช้า ถามแปลกมากเลยล่ะ บางคำถามนะไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร"


“หลิว หมิงเยว่ คุณคุ้นเคยกับเจ้านายนี่นา ไม่รู้ข้อมูลอะไรบ้างหรือว่าเจ้านายต้องการจะทำอะไร?


หลิว หมิงเยว่ วางถ้วยชาลงและพูดอย่างจนปัญญา "ช่วงนี้ฉันแทบไม่ได้พูดอะไรกับเจ้านายสักคำ ถ้าคุณอยากรู้ว่าเจ้านายต้องการอะไร ก็น่าจะถามน้องหลานสิ"


หวังลานรีบพูดว่า: "อย่าถามฉัน แม้ว่าฉันจะเป็นเลขานุการของเจ้านาย แต่ฉันก็ไม่ถามเจ้านายเรื่องนี้มิหนำซ้ำ ขนาดฉันเองยังถูกเจ้านายถามด้วยเลย"


ในเวลานี้ หลิว เหมยหรู ที่เพิ่งเข้ามาจากข้างนอก เห็นคนที่มารวมตัวกันที่นี่และพูดว่า: "ทุกคนมานี่หน่อย มาเอางานของพวกคุณไป อีกหน่อยในอนาคตงานของพวกคุณจะไม่ใช่สบายๆ แล้วนะ"


ลู่ เผิงเฟย ที่ไม่ได้ร่วมสนทนาตั้งแต่แรก ลุกขึ้นยืนและถามว่า "น้องหลิว เรื่องมันเป็นมาอย่างไร?"


"นี่เป็นงานของคุณ ลองดูเอาเองแล้วกัน"


ลู่ เผิงเฟย รับรายการภารกิจมาดูแล้ว ท่าทีของเขาก็แปลกไป


"น้องหลิว มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า นี่เป็นหน้าที่ของผมเหรอ?"


"มีชื่อของคุณระบุอยู่ ไม่ผิดหรอก นี่เป็นรายการภารกิจที่หัวหน้าทำขึ้นตามคำตอบของคุณ"


หลิว เหมยหรู เฝ้าดูพวกเขาพูดถึงรายการภารกิจที่ผ่านมา จากนั้นก็ท่าทางไม่อยากจะเชื่อของพวกเขาทีละคน เธอก้มลงมองรายการภารกิจของตนบ้าง


หลิว เหมยหรู นึกถึงตอนที่เธอได้ยินข่าวในตอนนั้น เธอมีท่าทางแปลกใจกว่าพวกเขาเสียอีก ฉันคิดว่าเมืองเหล่านั้นน่าตกใจพอดู ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเมืองเหล่านั้นไม่มีอะไรเลย


"เกือบลืม ฉันมีข้อความอีกอย่างหนึ่งที่จะแจ้งให้คุณทราบ เจ้านายบอกว่าพวกคุณมีเวลาอย่างมากเพียงสามปีเท่านั้น ถ้าหากคุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ ในอนาคตคุณก็จะเป็นเพียงพนักงานธรรมดาเท่านั้น ในอีกหนึ่งปี บริษัทจะเริ่มต้นธุรกิจระหว่างดวงดาว"


"ธุรกิจระหว่างดวงดาว!"


"พี่เหมยหรู เข้าใจผิดหรือเปล่า?"


หลิว เหมยหรู พูดว่า: "ไม่ผิดหรอก นี่คือสิ่งที่เจ้านายพูด ถ้าคุณอยากไปสวรรค์เจ้านายก็สามารถส่งคุณไปได้สิ่งที่อยู่นอกโลกก็คือสนามบินยานอวกาศเจ้านายสร้างขึ้น จะใช้สำหรับให้ยานอวกาศเทียบท่าโดยเฉพาะเลยละ"


คนกลุ่มนั่นรู้สึกเหมือนฟังตำนาน แม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าเทคโนโลยีของบริษัทนั้นพัฒนาไปมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะพัฒนาไปถึงระดับนี้


"ต่อจากนี้ไป การดำเนินงานส่วนใหญ่ของบริษัทจะบริหารจัดการโดยปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท ตอนนี้งานของเราคือการศึกษาความรู้ที่อยู่ในรายการภารกิจนี้"


หลิว เหมยหรู พูดจบแล้ว แต่คนเหล่านั้นเข้ามารุมล้อมเธอและเริ่มถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก 


------------------------


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น