TB:บทที่ 80 เฉียนซานเจียโทรมาขอความช่วยเหลือ
เรื่องที่ซ่งหยู่ถูกลอบสังหาร พวกเขายังไม่ทันได้แก้ไขอะไรเลย แล้วนี่ยังจะมีเรื่องวุ่นๆตามขึ้นมาอีก แล้วแบบนี้จะไม่ให้ตระกูลซ่งมีน้ำโหได้ยังไงกัน? ถึงเหตุการณ์ของคนในแก๊งพายุเฮอริเคนและพายุหิมะนั้นจะแตกต่างจากซ่งหยู่ แต่การที่มันทำให้พวกเขาทั้งสามคนมีสารรูปแบบนั้น พวกมันจะต้องมีเจตนาในการฆ่าแน่นอน ไม่ว่ายังไง พวกเขาต้องจัดการพวกมันให้เหมือนกับที่มันทำกับคนของเขาเอาไว้
นอกจากนี้ ถึงการเคลื่อนไหวของพวกมันจะเหมือนการเคลื่อนไหวธรรมดาๆ แต่คนในแก๊งพายุเฮอริเคนและแก๊งพายุหิมะกลับไม่สามารถต้านทานการโจมตีของพวกมันเอาไว้ได้ แสดงว่าความสามารถของพวกมันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้ตระกูลซ่งออกคำสั่งให้ตามล่าหาตัวพวกคนชั่วพวกนี้มาให้ได้ ใครก็ตามที่หาเบาะแสของมันทั้งสามคนมาได้ คนๆนั้นจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงินรางวัลห้าล้านหยวน และถ้าหากว่าใครสามารถตัดหัวของพวกมันมาได้ ก็จะได้รับเงินรางวัลที่มากถึงห้าสิบล้านหยวน นอกจากจะได้เงินแล้ว คนๆนั้นยังมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซ่งอีกด้วย
ในทำนองเดียวกัน ด้วยอำนาจของตระกูลซ่ง ทำให้ชื่อของเฉินหลงและลูกน้องอีกสองคนได้เข้าไปอยู่ในรายชื่อที่ตำรวจกำลังตามล่า ถึงจะบอกว่าเฉินหลงและลูกน้องทั้งสองคนจะถูกตามล่า แต่เพราะพวกเขาทั้งสามคนได้ใช้หน้ากากที่ทำให้หน้าตาเปลี่ยนไป แล้วแบบนี้ ใครเขาจะไปเชื่อว่าพวกเขาเป็นผู้ร้าย
หลังจากที่รู้ว่าตัวเองได้รับความสนใจขนาดนี้ เฉินหลงก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย ที่เหลือก็แค่พักผ่อน รอเวลาให้แก๊งสายฟ้ากลับมาจากต่างประเทศเท่านั้น
ในตอนแรก หลังจากที่เจิ้งอี้และซวีหมิงเหม่ยออกไปจัดการเรื่องบริษัทกับสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว เฉินหลงเองก็อยากจะออกไปเที่ยวเล่นและสำรวจเมืองเช่นกัน เพราะเขาต้องการเปิดบริษัทที่เมืองหลวง ในอนาคต เขาจำเป็นต้องมีที่อยู่ที่เป็นหลักเป็นแหล่งในเมืองหลวง เขาไม่สามารถพักที่โรงแรมตลอดไปได้
แต่ในตอนที่เฉินหลงกำลังจะก้าวออกจากห้องพักไป เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเฉียนซานเจีย
"พี่เฉียน เป็นยังไงบ้างครับ พี่ได้ปิ๊งๆกับสาวต่างชาติแจ่มๆบ้างไหม?" ทันทีที่รับสายทรศัพท์ เฉินหลงก็ได้พูดหยอกล้ออีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มในทันที
“น้องเฉิน สาวแจ่มๆอะไรล่ะ รู้ไหมว่าฉันถูกแก๊งสายฟ้าไล่ตามตูดฉันอยู่เนี่ย นายพอจะมีวิธีช่วยฉันได้บ้างไหม?” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาของเฉียนซานเจีย แค่ฟังก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่โอเค
ถึงเฉียนซานเจียจะรู้ดีว่า ถ้าหากเขาได้ทำการสังหารซ่งหยู่แล้ว เขาจะต้องมีเรื่องกับตระกูลซ่งพ่วงมาด้วย แต่เขาไม่คิดเลยว่า ตระกูลซ่งจะส่งคนมาไล่ล่าคนที่สังหารซ่งหยูถึงต่างประเทศแบบนี้ แล้วที่เขาอุตส่าห์หนีมาอยู่ต่างประเทศ มันเพื่ออะไรกัน ห๊ะ เพื่ออะไรกัน มันคุ้มไหมกันเนี่ย?
ถ้าหากว่าซ่งหยู่ยังเป็นแค่ขยะไร้ประโยน์เหมือนอย่างก่อนหน้านี้ ตระกูลซ่งก็คงไม่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อเขาแบบนี้หรอก แต่เพราะซ่งหยู่ใช้ยาเพิ่มพลัง เขาถึงได้กลายเป็นเด็กฝึกของตระกูลซ่ง และหนึ่งในเด็กฝึกถูกฆ่าตาย แถมยังตายในถิ่นของตัวเองอีก เรื่องนี้ ตระกูลซ่งไม่มีทางกลืนน้ำลายตัวเองเด็ดขาด บอกเลยว่า เอาให้ตายกันไปข้างนึงเลย
หลังจากรู้ว่าตระกูลซ่งคงจะไม่ยอมง่ายๆ เฉียนซานเจียถึงได้รู้สึกกลัวเล็กน้อย เขาไม่สามารถเรียกหาคุณเต๋าได้ เกรงว่าคนเดียวที่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ในตอนนี้ เห็นทีคงมีแค่เฉินหลงเพียงคนเดียวเท่านั้น คุณเต๋าเคยบอกเขาไว้ว่า เฉินหลงไม่ใช่เด็กธรรมดาอย่างที่เห็น เห็นทีคราวนี้ เฉียนซานเจียคงต้องพิสูจน์เรื่องนี้ดูเสียแล้ว
"พี่เฉียน ถึงผมจะช่วยพี่ได้ แต่พี่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าน้ำไกลไม่อาจดับไฟใกล้* ตอนนี้พี่อยู่ต่างประเทศ ส่วนผมอยู่จีน ผมคงไปหาพี่ตอนนี้เลยไม่ได้หรอก" เฉินหลงตอบอย่างช่วยไม่ได้
เฉินหลงลองคำนวณเวลาที่จะไปช่วยอีกฝ่ายได้ แต่กว่าเขาจะขอหนังสือเดินทางได้ ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์แล้ว แค่นี้ เขาก็คงไปช่วยเฉียนซานเจียไม่ได้แล้วล่ะ
“โอ๊ย น้องเฉิน เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ถ้านายยืนยันว่าจะช่วยฉัน ฉันจะจัดการเรื่องหนังสือเดินทางให้นายเดี๋ยวนี้ และค่าใช้จ่ายทั้งหมด เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ในตอนที่ได้ยินว่าเฉินหลงสามารถช่วยชีวิตเขาได้จริงๆ เฉียนซานเจียก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ในตอนนี้เขาเหมือนกับคนที่กำลังจะจมน้ำตาย แต่จู่ๆก็มีห่วงชูชีพโผล่มา ทำให้รอดตายมาได้
"ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงแรมริทซ์คาร์ลตันที่ปักกิ่ง พี่ส่งคนมาที่นี่ก็แล้วกัน" ในเมื่อเฉียซานเจียขอมา และเขากับอีกฝ่ายมีความสัมพัธ์ที่ดีต่อกัน แถมศัตรูคู่ใจอย่างแก๊งสายฟ้าก็อยู่ที่นั่นอีกด้วย ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ คนอย่างเฉินหลงก็ต้องตอบตกลงอยู่แล้ว
"ได้ๆๆ ฉันจะส่งคนไปเด๋ยวนี้เลย" เฉียนซานเจียรีบตอบ แล้วก็รีบตัดสาย จากนั้นก็รีบส่งใครสักคนไปหาเฉินหลงในทันที
หลังจากเฉินหลงทำการวางสาย เขาก็พาลู่หงลงไปที่ห้องรับแขกของโรงแรม นั่งรอคนที่เฉียนซานเจียส่งมา
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง สาวสวยในชุดทางการ อายุราวๆ 20 ปี เดินเข้าไปในห้องรับแขกของโรงแรม เธอเหลียวซ้ายมองขวา จากนั้นมองไปรอบๆห้องรับแขกของโรงแรม เพื่อมองหาใครสักคน
ทันทีที่สายตาของเธอได้ไปสะดุดกับเฉินหลง สีหน้าเป็นกังวลของเธอค่อยๆจางหายไป จากนั้นเธอก็รีบเดินเข้าไปหาเฉินหลงในทันที ผลของการกึ่งเดินกึ่งวิ่งเร็วๆ ทำให้หน้าอกของเธอขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ และมันช่างดึงดูดสายตาเหลือเกิน
"ไม่ทราบว่า คุณคือคุณเฉินใช่ไหมคะ? ฉันเป็นเลขาส่วนตัวของคุณเฉียน ชื่อเซียวหยางค่ะ" หญิงสาวเดินไปทางเฉินหลง เธอกล่าวคำทักทายแล้วโค้งคำนับ
บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอรีบเดินเกินไป ทำให้ใบหน้าขึ้นสีเลือดจางๆ และมันทำให้เธอดูน่ารักมาก
"ครับ ผมคือเฉินหลง" เฉินหลงพยักหน้าตอบ เขารู้สึกประทับใจเซียวหยางตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกัน
"คุณเฉียนสั่งให้ฉันมาช่วยคุณเรื่องพาสปอร์ตค่ะ รบกวนขอบัตรประจำตัวประชาชนด้วยนะคะ" เซียวหยางกล่าวอย่างสุภาพ
ในฐานะเลขาส่วนตัวของบอสเฉียน งานนี้ค่อนข้างลำบากสำหรับเซียวหยางในการตามหาใครสักคน แต่เพราะเฉียนซานเจียบอกเธอว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องกระทันหันและมันสำคัญมากสำหรับเขา หนำซ้ำน้ำเสียงของเขาก็ฟังดูกระวนกระวายมากอีกด้วย มันทำให้เซียวหยางไม่กล้าปฏิเสธอีกฝ่าย
"แล้วของเขาทั้งสองคนละครับ" เฉินหลงชี้ไปที่คนทั้งสองคน และหนึ่งในนั้นก็คือลู่หงที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
"ไม่มีปัญหาเหมือนกันค่ะ" เซียวหยางรีบตอบ
เฉียนซานเจียได้สั่งให้เธอเชื่อฟังเฉินหลง ด้วยเหตุนี้เซียวหยางจึงไม่ปฏิเสธคำขอของเฉินหลงเช่นกัน
หลังจากได้รหัสประจำตัวประชาชนของเฉินหลงมาแล้ว เซียวหยางก็ใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเองถ่ายรูปพวกเขา จากนั้นก็ไปทำเรื่องขอพาสปอร์ตให้พวกเขาต่อ
ในตอนที่เซียวหยางไปทำเรื่องขอพาสปอร์ตให้พวกเขาทั้งสามคม เฉินหลงได้เรียกตัวเจิ้งอี้มา แล้วบอกกับเขาว่า เขากับลู่หงต้องเดินทางไปต่างประเทศกระทันหัน
สามชั่วโมงต่อมา เซียวหยางได้กลับมาหาเขาอีกครั้งพร้อมพาสปอร์ตและกระเป๋าเดินทางสีดำ
"คุณเฉินคะ นี่คือพาสปอร์ตสามเล่ม ตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสไปโบลิเวียสามใบ และเงินหนึ่งล้านดอลลาร์ค่ะ อ้อ เงินจะอยู่ในกระเป๋านะคะ" เซียวหยางส่งพาสปอร์ตและกระเป๋าเดินทางให้กับเฉินหลง
"ว้าว พี่เฉียนนี่บริหารงานได้ดีจริงๆเลย" เฉินหลงพูดด้วยรอยยิ้ม
เหมือนกับว่าเฉียนซานเจียจะหวาดกลัวคนของแก๊งสายฟ้าจริงๆ
... ไม่มีทาง ทั้งๆที่มีหยูเฟยและซ่งเย่อยู่ข้างกายเฉียนซานเจียอยู่แล้ว ... เอ๊ะ แต่ว่าเขามีกันอยู่แค่สองคนนี้เองนี่นา พวกเขาจึงจัดการกับแก๊งสายฟ้าไม่ได้ แต่แก๊งสายฟ้าน่าจะมีคนเก่งๆอยู่เหมือนกัน พวกมันถึงได้จับตัวสุนัขเร่ร่อนอย่างเฉียนซานเจียได้สินะ
"คุณเฉินคะ งานของฉันเสร็จแล้ว ในตอนที่คุณได้พบกับคุณเฉียนแล้ว ฉันขอรบกวนคุณ ฝากทักทายเขาให้ฉันหน่อยนะคะ" เซียวหยางพูดพร้อมรอยยิ้ม
ในที่สุดภารกิจของเธอก็สำเร็จ เซียวหยางรู้สึกโล่งใจ
"ไม่ต้องห่วง ผมจะทักทายเขาให้นะครับ" เฉินหลงพยักหน้าตอบ
ยังไงซะ อยู่ที่นี่เขาก็ไปมีอะไรทำ เขาอยากไปล้างแค้น แล้วก็เที่ยวเล่นอยู่ที่นู่นมากกว่า ถ้ามันดีจริง ครั้งต่อไป เขาจะได้พาครอบครัวไปเที่ยวด้วย
แต่ในตอนที่เฉินหลงนั่งเครื่องบินไปยังโบลิเวีย เขากลับไม่อยากเดินทางไปที่นั่นอีกเป็นครั้งที่สอง เพราะการเดินทางไปที่นั่น มันช่างยากแค้นแสนเข็ญเสียจริง
ก่อนอื่นเขาจะต้องบินจากเมืองหลวงไปยังปารีส ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยใช้เวลาในการเดินทางยาวนานถึง 10 ชั่วโมง จากนั้นเขาก็ต้องนั่งรอเครื่องที่ปารีสอีก 5 ชั่วโมง จากนั้นก็นั่งเครื่องจากปารีสไปยังลิมาอีก 11 ชั่วโมง ถึงลิมา เขาก็ต้องรอต่อเครื่องอีก 3 ชั่วโมง สุดท้าย เขาต้องนั่งจากลิมาไปลาปาซอีก 2 ชั่วโมง รวมๆก็ปาไป 31 ชั่วโมงแล้ว
ถึงเฉินหลงจะได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาสทุกเที่ยวบิน แต่ยังไง เขาก็ต้องทนทุกข์ทรมาน กับเวลาที่ยาวนานถึง 31 ชั่วโมงอยู่ดี
ในตอนแรก เฉินหลงเองก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยที่รู้ว่า ตัวเองจะได้เดินทางแบบเที่ยวบินระยะไกลระหว่างประเทศเป็นครั้งแรก แต่หลังจากการเดินทางครั้งนี้ ทำให้เฉินหลงไม่อยากขึ้นเครื่องบินอีกแล้ว
ถึงในตอนนี้เฉินหลงจะอยากกลับบ้านมากแค่ไหน แต่เขาก็ยังอยากบินไปที่นั่นอยู่ดี ขอเที่ยวเล่นอยู่ที่นั่นสักสองสามวัน จากนั้นก็ค่อยบินกลับก็แล้วกันนะ
*สำนวนจีน 远水不救近火 (yuǎn shuǐ bù jiù jìn huǒ) น้ำไกลไม่อาจดับไฟใกล้ได้ ... เปรียบเทียบว่า วิธีการแม้ว่าจะดี แต่ไม่สามารถนำมาใช้ หรือแก้ไขกับปัญหาตรงหน้าได้
0 ความคิดเห็น