TB:บทที่ 79 ความโกรธแค้นซ้ำสอง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

TB:บทที่ 79 ความโกรธแค้นซ้ำสอง


หลังจากที่เฉินหลงได้สั่งงานเจิ้งอี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาได้ติดต่อกับซวีหมิงเหม่ยให้เธอมายังเมืองหลวง เธอเป็นนักต้มตุ๋นที่เป็นมืออาชีพมาก แต่ถ้าคุณอยากเป็นนักต้มตุ๋นเหมือนกับเธอล่ะก็ คุณต้องมีความเข้าใจในทุกๆสายงานและการทำธุรกิจ มิฉะนั้นคุณไม่มีทางได้เป็นนักต้มตุ๋นได้หรอก เพราะฉะนั้น นอกจากเธอจะมีอาชีพเป็นนักต้มตุ๋นแล้ว เธอยังมีความสามารถรอบด้านอีกด้วย ในเมื่อคุณต้องการก่อตั้งบริษัท ความสามารถพวกนั้นจึงมีประโยชน์มาก


เขาจำเป็นต้องพูดว่าหลังจากที่ใช้ยาฉลาดแล้ว ไอคิวของเจิ้งอี้ได้สูงถึงระดับยอดมนุษย์ เขาสามารถอธิบายหลักการทำงานและกระบวนการผลิตของเครื่องกรองควันและหน้ากากป้องกันควันได้ โดยใช้เวลาทำความเข้าใจเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้เขาได้ดัดแปลงรูปแบบบางอย่าง เพื่อให้ต้นแบบอุปกรณ์ทั้งสองชนิดไม่สามารถถูกขโมยไปใช้ได้ นอกจากนี้เขายังทำให้มันมีรูปลักษณ์ที่สวยงามมากยิ่งขึ้นอีกด้วย


หลังจากการปรับแต่งเสร็จเรียบร้อย เจิ้งอี้ไม่รอช้า เขาออกไปข้างนอกพร้อมกับหน้ากากป้องกันควัน


ก่อนอื่น เขาต้องไปลงทะเบียนการจัดตั้งบริษัทก่อน ตามด้วยไปยื่นขอจดสิทธิบัตร ด้วยความสามารถและเอกสารของเจิ้งอี้ในตอนนี้ เขาใช้เวลาครึ่งวันในการเช่าสำนักงาน และรอให้กรมอุตสาหกรรมและสำนักงานพาณิชย์ได้ทำการตรวจสอบและอนุมัติ


หลังจากลงทะเบียนบริษัทเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจิ้งอี้จึงไปที่สำนักงานสิทธิบัตรเพื่อขอจดสิทธิบัตรของหน้ากากป้องกันควัน เจิ้งอี้ได้ส่งแบบต้นฉบับและหน้ากากป้องกันควันให้กับสำนักงานสิทธิบัตร


ถึงหน้ากากป้องกันควันจะดูไม่ค่อยซับซ้อนเหมือนกับเครื่องกรองควัน แต่ก็ไม่สามารถทำความเข้าใจกับมันได้ง่ายๆ เขาหวังว่าผู้เชี่ยวชาญในสำนักงานสิทธิบัตรจะสามารถทำความเข้าใจกับมันได้


หลังจากเจิ้งอี้ทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จเรียบร้อย เขาก็รีบตรงกลับมายังโรงแรม ในตอนนี้ซวีหมิงเหม่ยเองก็ได้มาถึงห้องสวีทแล้วเช่นกัน


หลังจากที่เฉินหลงแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายได้ทำความรู้จักกันแล้ว  ซวีหมิงเหม่ยก็ได้กลายเป็นผู้ช่วยของเจิ้งอี้ เธอคอยช่วยเหลือเจิ้งอี้ให้ทำตามกระบวนการต่างๆให้สำเร็จ


ในตอนที่พวกเขารับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน เฉินหลงสังเกตเห็นว่าชายทั้งสิบสองคนเริ่มแยกจากกัน และการแก้แค้นของเขาก็ได้เริ่มขึ้น ณ บัดนี้


เฉินหลง ลู่หงและเทียซินออกจากโรงแรมไป หลังจากที่เขาใช้คะแนนแลกเปลี่ยน 10 คะแนนแลก ‘หน้ากากเฉียนเปียน’ (ร้อยหน้า)ผู้ขายคือเฉียนเปียนเหริน แห่งดาวเคราะห์ครอสเดรสจากในระบบ


‘หน้ากากเฉียนเปียน’ มีคุณสมบัติตรงตามชื่อ มันสามารถทำให้ผู้ใช้มีรูปลักษณ์ที่หลากหลายได้ หน้ากากสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของผู้ใช้ได้ นอกจากความสูงและรูปร่างของร่างกายแล้ว น้ำเสียงของผู้ใช้เองก็จะเปลี่ยนตามด้วย ยกตัวอย่างเช่น เฉินหลงสามารถกลายเป็นนักเลงที่มีหนวดเคราเต็มหน้าได้ น้ำเสียงของเขาก็จะหยาบกระด้าง การที่เขากลายเป็นนักเลงที่มีหนวดเครา น้ำเสียงของเขาจะเหมือนกับคุณจิมมี่ น้ำเสียงของเขาจะคล้ายกับผู้หญิงเล็กน้อย


หลังจากที่พวกเขาสวมหน้ากาก เฉินหลงได้กลายเป็นชายวัยกลางคนอายุเลขสามที่มีหน้าตาธรรมดาๆคนหนึ่ง ถ้าเขาได้เข้าไปอยู่รวมกับฝูงชนแล้ว เขาไม่มีทางถูกใครจับได้แน่นอน


พวกเขาออกจากโรงแรมไป พวกเขาก็ได้ตรงไปที่บาร์แห่งหนึ่งในซานหลี่ถุน ในบาร์มีชายสองคนที่เคยรังแกเฉินหลง ดังนั้นพวกเขาจะถูกจัดการเป็นรายแรก


เหมือนกับว่าทีมสายฟ้าจะอยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลซ่ง นอกจากการฝึกแล้ว พวกเขายังคงมีชีวิตเป็นของตัวเอง และยังต้องการการพักผ่อนเหมือนกับคนทั่วไป


"จื่อตานนายบอกว่าใครเป็นคนสังหารท่านซ่งหยู่นะ?" ชายที่มีอายุประมาณยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปกปี ไว้ผมสั้น ถือเบียร์อยู่ในมือ ถามกับชายอีกคนที่มีดวงตาแบบตาลึก จมูกสูงและหน้าตาที่หล่อเหลา


"ฉันก็ไม่รู้ พวกเขาบอกว่าตอนที่คนเก่งๆในตระกูลไปถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาก็ไม่พบตัวฆาตกรแล้ว นี่ เรื่องนี้เราคุยกันแค่ตรงนี้นะ นายห้ามเอาไปพูดที่อื่นเด็ดขาด" จื่อตานยกแก้วของตัวเองขึ้นมาชนแก้วเบียร์ของ ฉีเถา


"ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เอาเรื่องพรรค์นั้นไปป่าวประกาศหรอกน่า" ฉีเถา จิบเบียร์แล้วตอบอีกฝ่าย


ในหัวของ ฉีเถา มีความคิดที่ว่า การตายของซ่งหยู่จะต้องเกี่ยวข้องกับภารกิจของเขาแน่ แต่ถึงเขาจะคิดอย่างนั้น เขาก็ทำได้แค่คิด เขาไม่สามารถพูดมันออกมาได้ เขาไม่ได้รู้ลึกรู้จริง แต่เบาะแสก็ได้ถูกค้นพบแล้ว


"นี่คือเพลงเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ผมหวังว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับมันระครับ" ในเวลาเดียวกัน นักร้องชายประจำร้านในบาร์กล่าวขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ร้องเพลง


ในตอนที่เพลงที่เขารู้จักดังขึ้น เฉินหลงที่เพิ่งจะสั่งให้เทียซินไปขอเพลงนี้ ได้พาตัวเองเดินเข้าไปหา จื่อตานและฉีเถา


เขาคิดว่า ถ้าได้ต่อสู้กันไปพร้อมกับเพลงนี้ จะเป็นอะไรที่เหมาะสมมาก


ในตอนที่เขาได้หยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนทั้งสอง ขวดเหล้าที่อยู่ในมือของเฉินหลง บัดนี้ก็ได้ฟาดเข้าไปที่หัวของพวกเขาเข้าอย่างจัง


ขวดเหล้าทั้งสองขวดแตกกระจายบนหัวของพวกเขา ทำให้เหล้าที่อยู่ในขวดไหลทะลักออกมาข้างนอกพร้อมกับเศษแก้ว


คนทั้งสองคนถูกทำให้มึนงงเพราะการโจมตีอย่างกะทันหัน


หลังจากเฉินหลงโจมตีอีกฝ่ายด้วยขวดเหล้าแล้ว ลู่หงและเทียซินใช้ประโยชน์จากความสับสน โจมตีร่างกายศัตรูในทันที


ความแข็งแกร่งของคนทั้งสองนั้นอยู่ในระดับสูง แต่ความแข็งแกร่งของลู่หงนั้นอยู่ในระดับสุดยอดแล้ว มันก็เหมือนกับว่าเขากำลังเล่นกับพวกมัน


ทันทีที่พวก จื่อตาน ถูก โจมตี ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่ใกล้ๆก็พากันวิ่งหนี และผู้หญิงสองคนก็ได้กรีดร้องออกมา


ทันทีที่เหตุจลาจลได้เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามคนของบาร์ก็รีบวิ่งไปที่เกิดเหตุ


ถึงจะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่นี่ แต่พวกเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่เคยเป็นทหารผ่านศึกเท่านั้น ความแข็งแกร่งของพวกเขาเทียบกับ จื่อตาน และ ฉีเถา ไม่ติดเลยสักนิด และแน่นอนว่าพวกเขาเองก็ไม่สามารถห้ามปรามเฉินหลงได้เช่นกัน


"นี่มันเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ อย่าเข้ามา" เฉินหลงพูดกันเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กำลังเดินมา


"เนื่องจากว่ามันเป็นความแค้นส่วนบุคคล พวกคุณอย่าสู้กันในบาร์เลยนะครับ ได้โปรด ออกไปจากที่นี่เถอะนะครับ!" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่น่าจะมีอายุประมาณสามสิบปีกล่าว


เพราะหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างพวกเขา คือการจัดการกับแขกที่เข้ามาวุ่นวายในบาร์


"ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพวกเราก็ไปแล้ว" เฉินหลงตอบด้วยรอยยิ้ม


ฝ่ายเทียซินและลู่หงเองก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหยุดมือเลยสักนิด ในเมื่อพวกเขาได้รับคำสั่งจากเฉินหลงมาแล้ว เขาก็จะสู้จนกว่าตัวเองจะพิการไปในที่สุด


เมื่อเห็นว่าเฉินหลงไม่ทำตามที่เขาพูด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสามคนได้เข้ามาล้อมเฉินหลงไว้


เฉินหลงส่งยิ้มให้พวกเขา จากนั้นก็ตวัดนิ้วสามครั้ง จู่ๆเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสามคนก็หยุดอยู่กับที่ พวกเขาแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา พวกเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ก็มีท่าทางแบบนี้เหมือนกันทุกคนเลย


"ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว อีกสองชั่วโมง ร่างกายของคุณจะกลับมาเป็นปกติเอง" เฉินหลงพูดกระซิบอยู่ข้างๆหูพวกเขา


จากนั้นเฉินหลงก็ออกจากบาร์ไปพร้อมลูกน้องทั้งสองคน


ก่อนที่เฉินหลงจะเดินออกไป เขาและลู่หงก็ไม่ลืมที่จะยกมือชูสองนิ้ว ให้กับกล้องของใครก็ไม่รู้ที่กำลังถ่ายภาพเขาอยู่


หลังจากที่ออกมาจากบาร์แล้ว เฉินหลงก็ได้เปลี่ยนรูปร่างและหน้าตาของเขาอีกครั้ง จากนั้นก็รีบไปยังสถานที่ต่อไปในทันที


สามชั่วโมงถัดมา ทั้งสามคนรวมถึงเฉินหลงใช้วิธีเดิม จัดการกับแก๊งพายุเฮอริเคนและแก๊งพายุหิมะ พวกเขาจัดการทำให้คนของทั้งสองแก๊งกลายเป็นคนพิการไปในที่สุด


แต่ด้วยอำนาจของตระกูลซ่งในเมืองหลวง ในไม่ช้าพวกเขาก็จะทราบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น


แต่เพราะเฉินหลงและทั้งสองคนนั้นเป็นคนที่ฉลาดมาก หลังจากจัดการคู่ต่อสู้ให้อยู่ในสภาพที่ไม่น่ามองแล้ว พวกเขาได้กำจัดหลักฐานที่สามารถระบุตัวตนของพวกเขาได้ทั้งหมด ในตอนที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาไม่มีทางหาเบาะแสของพวกเขาได้ และตระกูลซ่งก็จะไม่ได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับพวกเขาเช่นกัน


หลังจากจบเรื่องทุกอย่าง เฉินหลงและทั้งสองคนก็ได้กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม ทำราวกับไม่มีอะไรเรื่องเกิดขึ้น


เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากแก๊งทั้งสองแก๊งได้แก่แก๊งพายุเฮอริเคนและแก๊งพายุหิมะได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้น ในตอนนี้ตระกูลซ่งทราบเรื่อง ตระกูลซ่งก็ได้โกรธแค้นซ้ำสอง


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น