TB:บทที่ 66 ซ่งเทียนเจีย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

TB:บทที่ 66 ซ่งเทียนเจีย


"นายท่าน คุณต้องแก้แค้นให้หยู่เอ๋อร์ จับตัวฆาตกรให้ได้แล้วฉีกร่างมันเป็นชิ้นๆ" ซ่งชิงไป๋ส่งสายตาอันเศร้าสร้อยไปทางหัวหน้าแห่งตระกูลซ่ง ซ่งเทียนเจีย


มันกลับกลายเป็นว่าลูกชายของเขา ซ่งหยู่ได้กลายเป็นขยะ และหัวใจของเขาตายด้านไปหลายปีแล้ว แต่คราวนี้ในตอนที่ซ่งหยู่กลับมา ลูกชายของเขาได้ให้ความหวังกับเขา มันทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตของลูกชายยังพอมีหวังอยู่บ้าง แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าไม่กี่วันมานี้ ลูกชายของตนจะถูกฆ่ากลายเป็นศพตัวแข็งทื่อก่อนที่เขาจะได้พบเจอกับความสุขในชีวิต และความหวังของเขาก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์


ไม่มีอะไรเจ็บปวดไปมากกว่าการมีความหวังแล้วจู่ๆก็ต้องเสียมันไปอีกแล้ว


ความจริงแล้ว มันอาจจะเป็นเพราะความสามารถของซ่งหยู่ที่จู่ๆก็พุ่งสูงขึ้นโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ถ้าหากตอนนั้นไม่ใช่เพราะ ลูกของเขาไม่ได้ฝึกฝนอยู่ในตระกูล แล้วอยากออกไปคลายเครียดข้างนอกนั่น เต๋ากวงหานที่กำลังรอจังหวะ จะมีโอกาศส่งซ่งหยู่ไปโลกหน้าแบบนี้ได้ยังไง


“ชิงไป๋ นายวางใจเถอะ ตระกูลซ่งจะจัดการเรื่องนี้จนจบ ใครก็ตามที่มายุ่งกับเรา มันจะต้องได้รับผลกรรมที่ทำไว้และมันจะต้องชดใช้กับสิ่งที่มันทำให้สาสม!”


ซ่งเทียนเจียอายุประมาณ 50 ปี เขามีร่างกายที่ผอมเพรียวและใบหน้ากระชับด้วยคิ้วคมราวกับดาบสองเล่ม ถึงจะเป็นอายุเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เขาก็ยังคงเห็นความชราของตนเองได้จากใบหน้า ตอนที่เขาพูด ดวงตาทั้งสองของเขาจะแสดงสายตาที่น่าพึงพอใจออกมาเป็นจุดเด่นของเขา


"ขอบคุณครับ" ซ่งชิงไป๋ เมื่อกล่าวเสร็จ เขาก็เดินออกจากห้องของซ่งเทียนเจียไปในทันที


คนที่สังหารซ่งหยู่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญในการใช้ดาบ จากรอยแผลที่ปรากฏอยู่บนร่างของซ่งหยู่ เห็นได้ว่าการตัดของคนที่ใช้ดาบนั้นรวดเร็วและว่องไวมาก ความสามารถของซ่งหยู่นั้นถือว่าเก่งพอสมควร แต่เขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีของคนๆนี้ได้ ไม่แม้แต่จะเห็นว่าคนที่ใช้ดาบตัดหัวของตนนั้นเป็นใครหรือชักดาบออกมาตอนไหนเสียด้วยซ้ำ ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเขาก็ถูกคนๆนั้นฆ่าตายได้


สำหรับซ่งเทียนเจียแล้ว มีเพียงสามคนเท่านั้นที่เก่งด้านการใช้ดาบ คนแรกคือกวนเจี๋ย คนที่มีความสามารถในใช้ดาบ 48 จินกวน เขาอยู่รอบๆ "สามเหลี่ยมทองคำ" มานานหลายปีแล้ว ว่ากันว่าพ่อค้ายาเสพติดหลายร้อยรายได้เสียชีวิตด้วยคมดาบของเขา แก๊งค้ายาหลายคนส่งคนมาล้อมเขา แต่เขาหนีกลับไปได้ นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่ากวนเจี๋ยได้ครอบครองดาบที่สามารถตัดผ่ากระสุนได้อีกด้วย


คนถัดไปเป็นฆาตกรที่ซ่อนตัวในความมืดถ้าเขาได้เงิน เขาสามารถฆ่าผู้นำตระกูลทั้งสี่ได้ เขาเป็นนักบุญมาห้าปีแล้ว และไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา ทุกครั้งที่เขาได้สังหาเป้าหมาย เขาจะทิ้งผ้าเช็ดหน้าที่มีลายปักว่า ‘ฮว่าหนาย’ ไว้ เขาเป็นดั่งอสรพิษที่น่าเกรงขามในคราบมนุษย์


ส่วนคนสุดท้ายคือ คนที่มีฝีดาบว่องไวที่สุดในตระกูลซ่ง ซ่งเต๋า


ทั้งสามคนนี้ต่างเป็นคนที่มีความสามารถในการสังหารซ่งอยู่ได้ภายในเสี้ยววิ แต่พวกเขาไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่ต้องฆ่าซ่งหยู่นี่ นอกจากนี้รอยแผลที่อยู่บนร่างศพไม่ได้เกิดจากอาวุธของพวกเขาเลย ดังนั้นการตามหาตัวฆาตกรนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก


เขาสันนิษฐานว่า คนๆนี้น่าจะคุ้นเคยกับเมืองนี้มาก หลังจากที่เขาทำการสังหารซ่งหยู่แล้ว เขาก็หายตัวไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย การตามหาคนๆนี้เป็นเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ


"ไปถามผู้หญิงคนนั้นมาว่าคราวนี้ซ่งหยู่ไปมีเรื่องกับใครมารึป่าว" หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว ซ่งเทียนเจียหันไปบอกกับชายที่สวมชุดคลุมสีดำคนหนึ่งที่กำลังซ่อนตัวอยู่


ในตอนที่ซ่งหยู่ถูกขนานนามว่าเป็นขยะไร้ประโยชน์ เขาไม่เคยมีปัญหากับใครในเมืองหลวงมาก่อนเลย ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อาจจะเป็นไปได้ว่า ตอนที่เขาออกไปนอกเมือง ซ่งหยู่อาจจะไปมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก็ได้


ชายคนนั้นโค้งคำนับให้ซ่งเทียนเจียหนึ่งครั้งแล้วออกไปจากห้อง


ใช้เวลาไม่นานนัก ชายคนนั้นก็กลับเข้ามาในห้องของซ่งเทียนเจียอีกครั้ง


"ครั้งนี้คุณซ่งหยู่ออกไปงานประมูลของลั่วซือ ในงานประมูล เขามีเรื่องกับคนสองคน คนแรกคือเฉียนซานเจีย ส่วนอีกคนคือเด็กหนุ่มชื่อเฉินหลง และเฉินหลงดูแปลกนิดหน่อยครับ" ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึก ไม่สามารถรบอกได้ว่าเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง


"แปลก? เขาเก่งมากเลยเหรอ?" ซ่งเทียนเจียเอ่ยถาม


"มาสเตอร์ คุณจะเข้าใจในตอนที่คุณได้อ่านข้อมูลของเขาครับ" จากนั้นชายคนนี้ก็มอบข้อมูลของเฉินหลงให้กับซ่งเทียนเจีย


“หึ น่าสนใจดีนี่ จู่ๆก็กลายเป็นคนรวย ทั้งๆที่ไม่น่าจะเป็นไปได้” หลังจากอ่านรายระเอียดต่างๆของเฉินหลงแล้ว ซ่งเทียนเจียตัดชื่อของเฉินหลงออกไป เพราะฆาตกรคนนี้เป็นคนที่มากความสามารถ ไม่มีทางที่เขาคนนั้นจะเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาอย่างเฉินหลงไปได้แน่นอน


"ถ้าไม่ใช่เด็กคนนี้ ก็อาจจะเป็นเฉียนซานเจียครับ" ชายคนนั้นกล่าว


ซ่งเทียนเจียพยักหน้าหนึ่งครั้งให้เขา ชายคนนั้นหันหลังกลับแล้วจากไป เขาเข้าใจความหมายของซ่งเทียนเจียดีว่า อีกฝ่ายต้องการมอบหมายให้เขาไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองให้เรียบร้อย


ทางด้านเต๋ากวงหานที่จัดการธุระเสร็จเรียบร้อย เขาก็ติดต่อกับเฉียนซานเจียในทันที จากนั้นเขาก็ได้ซ่อนตัว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลซ่ง จะดีกว่าถ้าเขาซ่อนตัวเสียก่อน ดาบทั้งหมดที่เขาใช้ เป็นเพียงดาบไม้ธรรมดาเท่านั้น ไม่มีใครรู้ได้ว่าเขาไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน


หลังจากที่รู้ว่าเต๋ากวงหานได้ฆ่าซ่งหยู่แล้ว เฉียนซานเจียก็อารมณ์ดี ลูกหลานตระกูลใหญ่ไม่ได้เก่งอย่างที่คิดไว้ พวกเขาไม่ได้ขโมยของของเล่าจื๊อ ตอนนี้เขาไปสบายแล้ว เขายังจะเก่งอยู่ได้อีกไหม


เฉียนซานเจียเป็นคนฉลาด หลังจากเกิดเรื่องกับซ่งหยู่แล้ว เขาตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศในทันที เขาคิดว่าจะอยู่ที่ต่างประเทศสักพัก ควงสาวต่างชาติสักคน แล้วค่อยกลับบ้านก็แล้วกัน


ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เฉียนซานเจียไปทักทายเฉินหลง เพื่อให้เฉินหลงได้เตรียมใจเอาไว้


ถึงเต๋ากวงหานจะเตรียมการที่จะไปฆ่าซ่งหยู่เอาไว้อยู่แล้ว ฝ่ายนั้นก็ได้ตายไปจากใจของเฉินหลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หลังจากที่ทราบว่าซ่งหยู่ได้เสียชีวิตแล้วจริงๆ กลับกลายเป็นว่าเฉินหลงรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาเล็กน้อย


ในงานประมูลที่ผ่านมา ซ่งหยู่ทำตัวเย่อหยิ่งมาก ในฐานะบุตรชายแห่งตระกูลซ่งแล้ว แน่นอนว่าเขาต้องเย่อหยิ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถึงจะเป็นคนที่มีเบื้องลึกเบื้องหลัง แต่เมื่อถูกคนอื่นตัดสินแล้ว เขายังต้องออกไปพบเจอคนข้างนอก เขาจึงต้องทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจหรือดึงดูดสายตาใคร


หลังจากที่วางสายจากเฉียนซานเจียแล้ว เฉินหลงก็หยิบโทรศัพท์ของจี้โม่ไป๋ขึ้นมา เขาก็ทำการปล่อยระบบอัจฉริยะเข้าไปควบคุมสิทธิ์ของซอฟต์แวร์การพนันในโทรศัพท์ของจี้โม่ไป๋ นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่จี้โม่ไป๋จะชนะหรือแพ้ มันจะถูกตัดสินโดยระบบอัจฉริยะทั้งหมด


"นี่ เฉินหลง ทำไมนายถึงยังให้เขาเล่นเกมนั่นอยู่อีกล่ะ?" เห็นว่าเฉินหลงเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเธอแล้ว ปากของจี้โม่ซีก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเขา


"เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยให้เขาเล่นไปก่อนก็แล้วกัน ถ้าสุขภาพของเขาเริ่มดีขึ้นแล้ว เราค่อยพาเขาออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกก็ได้ เพราะปกติเขาก็ไม่ได้สนใจเกมแบบนั้นอยู่แล้ว" เฉินหลงตอบเธอด้วยรอยยิ้ม


ในตอนนี้ ซอฟต์แวร์ถูกเขาควบคุม เมื่อถึงเวลาที่ใช่ เฉินหลงไม่มีทางยอมให้จี้โม่ไป๋เล่นเกมนี้ต่อเด็ดขาด


"ฉันก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ" จี้โม่ซีหันไปมองน้องชายตัวดี กล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้


ไม่มีทาง เธอรู้นิสัยของน้องชายตัวเองดี ถ้าตอนนี้เธอบังคับไม่ให้น้องชายเล่นเกม ตามหลักจิตวิทยาในเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นพี่น้องกัน เจ้าน้องชายตัวแสบคงไม่เชื่อฟังเธอหรอก เขาจะเชื่อฟังแค่เฉินหลงคนเดียวเท่านั้น เฮ้อ เจ้าเด็กหัวรั้นเอ้ย เป็นน้องของฉันแท้ๆ ทำไมถึงไม่หัดเชื่อฟังฉันบ้างนะ ให้ตายสิ ไม่ไหวจะเคลียเลยจริงๆ


"เป็นอะไรไปล่ะลูก?" เห็นว่าเผิงตงดูเหมือนคนที่เพิ่งสูญเสียพ่อแม่ไปในวันนี้ หลี่เสี่ยวฮุ่ยจึงถามเขาด้วยความเป็นห่วง


ใบหน้าของหลี่เสี่ยวฮุ่ยที่เงยขึ้นมาให้เห็นดูซีดเซียวเล็กน้อย เธอกำลังเป็นกังวลเรื่องของลูกชายตัวเอง มันคือความผิดหวังที่แสดงออกมาผ่านร่างกายของเธอ


ฝ่ายเผิงตง เหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้ยินคำพูดของหลี่เสี่ยวฮุ่ยเลยสักประโยค เขาเดินผ่านหน้าแม่ของตัวเข้าไปในห้องของตนอย่างเฉื่อยชา แล้วจัดการล็อคประตูห้องจากด้านใน ไม่อยากให้ใครมารบกวน เฮ้อ ขอให้เขาได้จัดการกับความรู้สึกต่างๆที่ถาโถมเข้ามาเงียบๆเพียงคนเดียวจะได้ไหมนะ...


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น