TB:บทที่ 64 ซอฟต์แวร์การพนัน (2)

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

TB:บทที่ 64 ซอฟต์แวร์การพนัน (2)


หลังจากที่ได้ฟังในสิ่งที่จี้โม่ไป๋พูดแล้ว เฉินหลงจึงตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือสนุกไปกับการพนันเลยสักนิด แต่เขาก็หวังว่ามันจะทำเงินได้ จะได้บรรเทาสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวของน้องเขยได้ ถึงมันจะผิด แต่ความมุ่งมั่นตั้งใจของเขาถือเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย


"โม่ไป๋ ฟังฉันนะ จริงๆแล้วการหาเงินเป็นหน้าที่ของพวกผู้ใหญ่ นายยังเป็นเด็กแถมยังป่วยอยู่อีกด้วย สิ่งที่นายควรจะทำตอนนี้คือรักษาตัวให้หายดีและไม่ควรทำให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วงอีก" เฉินหลงยิ้มให้จี้โม่ไป๋แล้วแนะนำ ถึงวิธีนี้จะใช้กับเด็กไม่ค่อยได้ผลดีสักเท่าไหร่ แต่เฉินหลงจะไม่ดุน้องเขยเด็ดขาด


"แต่ถ้าผมเล่นเกมนี้ ผมก็จะหาเงินมาได้นะฮะ" จี้โม่ไป๋เป็นเด็กหัวรั้นเล็กน้อย เป็นประเภทที่กระแทกกำแพงใต้เท้าแล้วไม่หันหลังกลับ เขาต้องการที่จะทำลายกำแพงนั่นให้สิ้นซาก


"อืม อยากเล่นก็เล่นไปเถอะ แต่ว่านายช่วยเล่าเรื่องที่เพื่อนร่วมชั้นบอกรายละเอียดเกี่ยวกับซอฟต์แวร์นี้ให้ฉันฟังได้ไหม?" เฉินหลงไม่ได้บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าจีโม่ไป๋แพ้ เขาไม่อยากให้จี้โม่ไป๋ผิดหวัง แต่คงต้องเปลี่ยนซอฟต์แวร์หลอกเด็กแบบนี้สักหน่อยแล้ว


เหมือนกับที่เกมจี้โม่ไป๋เล่นอยู่ เฉินหลงรู้ว่ามันคือซอฟต์แวร์หลอกเด็กที่เรียบง่าย และเขาก็ได้หลอกเด็กไร้เดียงสาอย่างจี้โม่ไป๋เข้าเสียแล้ว เพราะจี้โม่ไป๋คิดว่าซอฟต์แวร์นี้สามารถหาเงินได้ เฉินหลงจะทำให้มันกลายเป็นกำไรได้ แล้วหลังจากนี้ก็จัดการปิดระบบของมัน เท่านี้ก็สิ้นเรื่องแล้ว


วิธีนี้จะไม่ทำให้จี้โม่ไป๋ต้องเจ็บปวด แต่ก็ต้องปลอมตัวทำว่าให้ซองแดงกับน้องเขย


"ชื่อของเขาคือ หยูเจียง ผมมีเบอร์เขาด้วยฮะ หมายเลขโทรศัพท์ของเขาคือ..."


"อืม ฉันจำได้แล้ว ถ้าฉันจะบอกเคล็ดลับที่จะชนะแล้วได้เงินดีไหม ซึ่งก็คือ ถ้านายชนะหนึ่งร้อยหยวนต่อวันนายก็จะหาเงินได้ยังไงล่ะ"


หลังจากนั้น เฉินหลงก็ไปหาคนที่มีชื่อว่า หยูเจียง


"ฮ่าๆๆๆ จี้โม่ไป๋ ไอ้โง่เอ้ย นายคิดจริงๆเหรอว่าซอฟต์แวร์นั่นสามารถหาเงินได้ ไม่มีสิ่งใดในโลกสามารถวาดวิมานกลางอากาศได้หรอกนะ ถ้าพวกเขายังคงเล่นต่อไป เราไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นบอส นายนี่มันฉลาดจริงๆ"


ในห้องหมากรุกและไพ่ มีเด็กวัย 17 ปีห้าคนและเด็ก 18 ปีนั่งอยู่ข้างใน ด้านหน้าของพวกเขามีแล็ปท็อปซึ่งแสดงหน้าจอเหมือนกันสำหรับการชาร์จ


"ตอนนี้ มีผู้เล่นซื่อบื้อมากกว่า 20 คนแล้ว นายควรไปหลอกหล่อให้คนอื่นมาเล่นอีกสิ เราจะได้มีเงินเยอะๆ" เด็กชายตัวสูง ต้าซูจินเหลียนกล่าว


"บอส ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ครับ เราได้ส่งคนไปหาเพื่อนร่วมชั้นมาเพิ่มแล้ว ตราบใดที่เราให้ขนมแก่คนที่ต้องเติมพลังแล้ว เราไม่จำเป็นต้องกลัวว่าพวกเขาจะไม่ตกหลุมพลางเลยครับ" เด็กชายที่สวมเสื้อกั๊กลายดาวกล่าวด้วยรอยยิ้มร้ายๆ


“ดี เยี่ยมมาก ดูนี่ ฉันจะทำอะไรให้ดู” เต้าซูจินเหลียนพยักหน้า


จากนั้นต้าซูจินเหลียนที่อยู่ในห้องก็ทำท่าแฮนด์แสตน*(ยืนด้วยมือทั้งสองข้าง) เขาใช้มือทั้งสองข้างยึดพื้นไว้แล้วใช้แรงส่งตัวให้ลอยขึ้น


ในฐานะพังค์ ถ้าคุณอยากส่งตัวขึ้นไป ถ้าสุขภาพไม่ดีก็ไม่มีทางทำท่าแบบนี้ได้หรอก แต่กับต้าซูจินเหลียนคนนั้นดันเป็นนักเลงตัวเปี๊ยกที่มีความทะเยอทะยานสูง


ในเวลาเดียวกัน เด็กชายคนหนึ่งได้รับสายโทรศัพท์


"บอส ธุรกิจกำลังจะมาอีกแล้ว จี้โม่ไป๋ได้แนะนำ ‘ลูกค้า’ ให้เราด้วยครับ" หลังจากที่เด็กชายรับโทรศัพท์อยู่ เขาก็หันไปพูดกับต้าซูจินเหลียน ดูๆแล้วเด็กคนนี้น่าจะเป็นหยูเจียง


หยูเจียงตัวไม่สูง หน้าเป็นสิวและสวมแว่นตา ดูแล้วเหมือนว่าเขาควรจะเป็นฝ่ายที่ถูกคนอื่นรังแกมากกว่า คิดไม่ถึงเลยว่านิสัยจะตรงกันข้ามกับหน้าตาโดยสิ้นเชิง เด็กนี่มันร้าย


"แล้วเจอกัน นี่คือพระเจ้าแห่งความมั่งคั่งของเรา" ต้าซูจินเหลียนยังคงไม่หยุดออกกำลัง เขาตอบอีกฝ่ายในขณะที่กำลังทำท่าเดิมอยู่


หยูเจียงกลับมาคุยโทรศัพท์ต่อ เขาขอให้เฉินหลงออกมาเจอนอกห้องหมากรุกและไพ่


เมื่อเฉินหลงถึงแล้ว หยูเจียงได้สำรวจรอบๆเขา


เห็นหยูเจียงปรากฏตัว ทันใดนั้นเฉินหลงก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือหยูเจียงในทันที ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เฉินหลงรู้จากจี้โม่ไป๋แล้วว่าหน้าตาของหยูเจียงเป็นยังไง


ในเวลาเดียวกัน ตอนที่หยูเจียงเห็นแลนด์โรเวอร์ของเฉินหลงจอดอยู่นอกห้องหมากรุกและไพ่ เขาก็รู้สึกอิจฉาอีกฝ่ายขึ้นมา หลังจากเห็นเฉินเดินทางขึ้นและลงรถเป็นเวลานานเขาก็อิจฉาอีกครั้ง ไม่มีทาง เขาไม่หล่อไม่สูง เขาเป็นคนธรรมดา และใบหน้าก็มีสิวเต็มไปหมด เทียบกับเฉินหลงแล้ว นี่มันฟ้ากับเหวเลยนี่หว่า ให้ตาย แล้วทำไมเราต้องเป็นเหวด้วยเล่า


"นายคือหยูเจียงเหรอ" เฉินหลงเดินไปหยุดอยู่ข้างๆหยูเจียง


"ส่วนคุณคือ ... " หยูเจียงดูสับสน


หยูเจียงไม่คิดว่าเฉินหลงจะเข้ามาคุยกับเขา เขาจึงไม่ได้ตอบสนองอีกฝ่ายเลย


"เราเพิ่งคุยกันทางโทรศัพท์เมื่อกี้ไง นายจำไม่ได้เหรอ" เฉินหลงยิ้ม


พอเฉินหลงกล่าวเตือนความจำ ทันใดนั้นหยูเจียงก็ตอบสนอง


หยูเจียงแสดงสีหน้างุนงงและไม่เข้าใจให้เขาในทันที ผู้ชายหล่อๆอย่างเฉินหลง ขับรถคันหรูอย่างเฉินหลง ที่ชอบจะไปรับสาวที่ไนท์คลับ คนแบบนี้จะชอบของอย่างนี้จริงๆเหรอ? เอ๊ะ หรือว่าเขาเป็นตำรวจ? ... บ้าน่า พี่ชายที่หล่อวัวตายความล้มแบบนี้จะเป็นตำรวจได้จริงๆเหรอครับ?


คงต้องบอกว่าหลุมสมองของหยูเจียงเหมือนจะใหญ่ไปหน่อย เขาคิดว่าเฉินหลงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเขาเปลี่ยนใจ เขาไม่ได้คิดถึงมันเลยสักนิด ตำรวจพาเสือมาจัดการคดีใช่ไหม?


แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้อาจจะเกิดไปได้ในต่างประเทศ แต่มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในราชวงศ์จีนที่ยิ่งใหญ่ ใครจะกล้าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไม่ซ่อนเงินแล้วกล้าเปิดเผยโดยไม่กลัวที่จะตกเป็นเป้าสายตากันเล่า


"ไม่ต้องกลัวไป ฉันไม่ใช่ตำรวจหรอกนะ ฉันแค่มีเรื่องจะพูดกับบอสของนายเฉยๆ" ถึงซอฟต์แวร์หลอกเด็กแบบนี้จะเรียบง่าย แต่เฉินหลงไม่คิดว่ามันจะถูกสร้างโดยคนขี้แพ้อย่างหยูเจียงได้ มันต้องมีตัวการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆ เหอะ อย่าคิดว่าเฉินหลงไม่รู้


หยูเจียงใช้ความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่แล้วก็ตัดสินใจพาเฉินหลงไปยังห้องหมากรุกและไพ่


ตั้งแต่เฉินหลงเจอเขา ถึงเขาปฏิเสธ อีกฝ่ายก็คงไม่ยอมจากไปง่ายๆแน่ ยิ่งไปกว่านั้นคือ หยูเจียงไม่ต้องการรบกวนคนที่ขับแลนด์โรเวอร์อย่างเฉินหลงอีก ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะให้บอสของเขาแก้ปัญหาในครั้งนี้


เมื่อพาเฉินหลงไปที่ห้องส่วนตัว หยูเจียงได้บอกความตั้งใจของเฉินหลงต่อบอสของเขา ต้าซูจินเหลียน


"ธุระ? คนอย่างผมมีธุระอะไรกับพี่เหรอครับ?" ต้าซูจินเหลียนจ้องหน้าเฉินหลงด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร เขารู้สึกหงุดหงิดมากที่หยูเจียงพาเฉินหลงมาที่นี่ แต่การทำตัวอารมณ์เสียต่อหน้าคนนอกแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก ในเมื่อเขาต้องการเป็นบอส เขาจะต้องเกลี้ยกล่อมผู้อื่นโดยใช้คุณงามความดีของตัวเอง


"อืม ฉันหวังว่านายจะให้ฉันเล่นเกมพนันเกมนี้" เฉินหลงตอบด้วยรอยยิ้ม


"พี่พูดว่าอะไรนะ? เอาไปสิครับ พี่คิดว่าพี่เป็นใครกันล่ะ? ถ้าพี่อยากได้เกมพนันเกมนี้ ก็ได้ ถ้าพี่สามารถเอาชนะผมได้ พี่จะได้เป็นตัวแทนของเกมนี้ในเขตเทียนซิน เอาเลยครับ มาดูกันว่าพี่จะแน่แค่ไหน" ได้ยินเฉินหลงตอบแล้ว ต้าซูจินเหลียนคิดว่าเฉินหลงต้องการฮุบธุรกิจของเขาแน่ ดังนั้นเขาจึงหาวิธีต่อกรกับเฉินหลงในทันที


"นายเป็นแค่ตัวแทนเหรอ?" เฉินหลงคิดว่าต้าซูจินเหลียนจะต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน แต่เขากลับคิดผิด จริงๆแล้วเจ้าเด็กนี่เป็นแค่ตัวแทนลูกกระจ๊อกเท่านั้น ถ้าเฉินหลงเป็นตำรวจเขาคงจะเจอปลาตัวใหญ่**ได้ แต่เฉินหลงกลับไม่เจอ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นกับต้นตอที่แท้จริง


"ใช่ครับ มานี่สิครับ" ต้าซูจินเหลียนโบกมือให้เฉินหลง


“โทษที แต่ว่าฉันไม่อยากเล่นเกมกับนายแล้ว” หลังจากที่รู้ว่าต้าซูจินเหลียนเป็นแค่ตัวแทน และไม่ได้เป็นคนควบคุมเกมนี้เลย จู่เฉินหลงก็หมดความสนใจในตัวอีกฝ่ายขึ้นมาในทันที เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือการควบคุมเกมนี้


ด้วยเหตุนี้ เฉินหลงจึงเดินออกจากห้องไปหน้าตาเฉย


*Handstand

**a big fish หมายถึง หัวหน้า เจ้านาย ผู้นำ คนสำคัญหรือมีอิทธิพลในองค์กร


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น