TB:บทที่ 58 สมบัติล้ำค่า

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

TB:บทที่ 58 สมบัติล้ำค่า


เฉินหลงคิดไม่ถึงว่าหลังจากเธอดีดสายพิณแล้ว เฉินยี่ไม่ได้ถูกพิณควบคุมให้บรรเลงบทเพลงเหมือนกับที่เขาถูกมันควบคุม


"เพราะอะไร?"


เฉินหลงไม่เข้าใจว่าทำไมตอนที่เขาลองดีดสายพิณแล้ว จู่ๆก็ถูกพิณควบคุมให้บรรเลงทำนองที่ไม่รู้จักได้ แต่กับเฉินยี่ เธอไม่ได้ถูกมันควบคุมเลย หรือการควบคุมจะขึ้นอยู่กับผู้เล่นกัน?


หลังจากเล่นพิณด้วยความเมามันอยู่สักพัก เฉินยี่ก็ส่งพิณคืนให้เฉินหลง


หลังจากรับพิณมาจากน้องสาว จู่ๆเฉินหลงก็รู้สึกอยากเล่นพิณขึ้นมาอีกครั้ง แต่เป็นเพราะเฉินหลงถูกบังคับให้เล่นต่างหาก ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะเล่นมันเองสักหน่อย  


หลังจากนั้นเฉินยี่ก็ไม่ได้อยู่ฟังเสียงพิณในห้องเฉินหลงต่อ เธอไม่ใช่พวกมืออาชีพที่รู้เรื่องดนตรีมากนัก พอเห็นว่าเฉินหลงกำลังเล่นพิณอยู่ เธอก็ไม่ได้อะไรกับอีกฝ่าย หลังจากแปลกใจอยู่สักพัก ความสนใจของเธอก็เปลี่ยนจะพิณเป็นเงินอีกครั้ง


ด้วยเงินจำนวนไม่น้อย พวกเธอจึงต้องวางแผนในการใช้เงินเพื่อเฉินหลง


เฉินหลงจัดการเก็บกวาดห้องให้เรียบร้อง หลังจากได้เจี้ยวเว่ยฉินที่หายสาบสูญมาแล้ว ไม้กฤษณาพันปีก็กลายเป็นไม้ผุพังที่ไร้ประโยชน์ในทันที แต่เฉินหลงก็ไม่ได้เอามันไปทิ้ง เพราะยังไงเขาก็ซื้อมันมาตั้งสี่ล้านเก้าแสนหยวน คงต้องเอามาใช้ประโยนช์ให้คุ้มกับเงินที่เสียไปสักหน่อย ดังนั้นเขาจึงเอามันไปไว้ที่โกดังเล็ก ๆแห่งหนึ่งในวิลล่า


จากนี้ ก็เป็นการเล่นพิณ


หลังจากมองไปรอบๆห้องพร้อมกับพิณในมือสักพัก เฉินหลงก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยปลอดภัย สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าเอามันไปขายต่อให้กับเฉียนซานเจีย พิณก็ไม่ได้แย่อะไรหรอกแต่เขาอยากได้เงินมากกว่านี่


เขาเอาเรื่องนี้ไปบอกกับครอบครัว แล้วออกไปจากวิลล่าพร้อมกับพิณ


ตอนที่เขาออกไปจากวิลล่า เฉินพบนึกขึ้นได้ว่ารถของเขาไม่ได้อยู่ที่วิลล่า เขาจึงตัดสินใจว่าจะไปหาฮ่างฉางชิงเพื่อไปเอารถแล้วค่อยไปหาเฉียนซานเจียต่อ


หลังจากออกจากวิลล่า เฉินหลงเอากู่ฉินไปเก็บไว้ในวงแหวนอวกาศ


ปัจจุบันไม่ค่อยมีนักเล่นกู่ฉินแล้ว และคนส่วนมากที่เล่นก็เป็นผู้หญิง ถ้าหากว่าชายที่มีร่างกายกำยำเดินตามท้องถนนพร้อมกับถือกู่ฉินอยู่ในมือ มันต้องดึงดูดความสนใจจากคนที่ผ่านมาเห็นแน่ๆ สำหรับเฉินหลงที่ชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่โฉ่งฉ่างแล้ว มันคงจะดูไม่ดีเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเขาขอเก็บมันเอาไว้ดีกว่า


หลังจากนลหารถแท็กซี่ได้ เฉินหลงก็ตรงไปยังวิลล่าของฮ่าวฉางชิงทันที


พอถึงที่หมาย และหลังจากรถแท็กซี่ได้จากไปแล้ว เฉินหลงก็เอาพิณออกมาจากวงแหวนใหม่ เขาอยากรู้ว่าถ้าฮ่าวฉางชิงได้เห็นมันแล้ว อีกฝ่ายจะมีความคิดเห็นยังไงกับมันบ้าง


"เสี่ยวเฉิน นายได้เงินมาตั้งหลายล้าน ฉันก็นึกว่านายจะไม่ต้องการรถคันนี้ซะแล้ว ฮ่าฮ่า" ทันทีที่เขาเห็นเฉินหลง ฮ่าวฉางชิงหัวเราะออกมา เขาพูดหยอกล้ออีกฝ่าย


“ลุงฮ่าว อย่ามาหัวเราะกันสิครับ เงินแค่นั้นอยู่ห่างจากคำว่ารวยจริงๆตั้งเยอะ” เฉินหลงตอบแบบเจียมตัว


“ เสี่ยวเฉิน นายเอากู่ฉินมาทำอะไรน่ะ? อย่าบอกนะว่าเป็นของฝากให้ฉัน? เฮ้อ น่าเสียดายที่คนอย่างฉันเล่นกู่ฉินไม่เป็น” ฮ่าวฉางชิงเปลี่ยนประเด็นเป็นกู่ฉินที่เฉินหลงถือติดมือมาด้วย


"ลุงฮ่าว ลองดูมันก่อนสิครับ" เฉินหลงไม่ได้พูดเรื่องที่ไม่มีสาระกับอีกฝ่ายอีก เขาส่งกู่ฉินที่อยู่ให้มือให้กับฮ่าวฉางชิง


หลังจากมองเฉินหลง ฮ่าวฉางชิงก็รับกู่ฉินมา


ฮ่าวฉางชิงพอจะเข้าใจจุดประสงค์เฉินหลง  กู่ฉินคันนี้ต้องไม่ใช้กู่ฉินธรรมดาแน่ๆ เพราะถ้ามันเป็นแค่กู่ฉินธรรมดา เฉินหลงคงไม่หอบมันมาหาเขาหรอก ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกสนใจกู่ฉินคันนี้ขึ้นมา


ฮ่าวฉางชิงตรวจสอบกู่ฉินด้วยความระมัดระวัง ขณะนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปตลอด เดี๋ยวก็รู้สึกสงสัย จู่ๆก็อึ้ง แล้วก็แปลกใจ แล้วกลับมาตกใจใหม่ บอกเลยว่า อ่านความคิดอีกฝ่ายไม่ออกเลยจริงๆ


ใช้เวลาสักพัก ฮ่าวฉางชิงหันหน้าขึ้นมามองเฉินหลงด้วยความตื่นเต้น "เสี่ย.. เสี่ยวเฉิน น... นี่มันจ...เจี้...เจี้ยวเว่ยฉิน...? "


ฮ่าวฉางชิงตื่นเต้นมากจนคำพูดติดขัด


"ลุงฮ่าว สมกับที่ลุงเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ" เฉินหลงพูดด้วยรอยยิ้ม


"เสี่ยวเฉิน นายไปเอาเจี้ยวเว่ยฉินมาจากไหนกัน?" ได้ยินเฉินหลงตอบแบบนั้นแล้ว ฮ่าวฉางชิงมั่นใจว่ากู่ฉินคันนี้จะต้องเป็นเจี้ยวเว่ยฉินแน่นอน

 

"โล่งอกไปที ผู้เชี่ยวชาญอย่างลุงฮ่าวรู้ว่ามันคือเจี้ยวเว่ยฉิน" เฉินหลงตั้งใจเลี่ยงคำถามของฮ่าวฉางชิง


ฮ่าวฉางชิงจ้องเฉินหลงโดยไม่พูดอะไร


"ลุงฮ่าว ลุงยังจำไม้ผุพังในงานประมูลได้ไหมครับ?" เฉินหลงให้คำใบ้ต่อฮ่าวฉางชิง


"แสดงว่ามันอยู่ในไม้อันนั้น?" ฮ่าวฉางชิงจ้องหน้าเฉินหลง


ในสายตาของเขา เขาไม่เคยเลยคิดว่ามันไม่มีคุณค่า แต่เฉินหลงใช้เงินเกือบห้าล้านหยวนประมูลไม้มา แถมยังมีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่ในนั้นด้วย คิดๆดูแล้ว ในใจก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา รู้สึกเหมือนกับโดนคลื่นน้ำในแม่น้ำแยงซีซัดเข้าหน้ายังไงอย่างงั้น


"ถูกต้องครับ!" เฉินหลงพยักหน้าอย่างมั่นใจ


“เสี่ยวเฉิน นายนี่เป็นคนจริงแล้วก็ไม่ใช่คนขี้อวดอีกด้วย” พอมองดูเฉินหลงแล้ว ในที่สุดฮ่าวฉางชิงก็ได้เข้าใจว่าจริงๆแล้วที่เฉินหลงได้ของหายากมาคงไม่ใช่เพราะโชคดีอย่างเดียว แต่เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงต่างหาก เพราะคงไม่มีทางได้ครอบครองดาบล้ำค่าจากมีดเศษเหล็กแล้วก็เจี้ยวเว่ยฉินที่เป็นถึงหนึ่งในสี่กู่ฉินจากไม้ผุพังได้เด็ดขาด


"แฮะๆ ก็.. โชคดีแหละครับ" เฉินหลงรู้สึกเหนียมอายอีกแล้ว


"เสี่ยวเฉิน แล้วนายจะทำยังไงกับกู่ฉินล่ะ?" เพราะฮ่าวฉางชิงรู้ว่าเฉินหลงคงไม่เก็บกู่ฉินไว้แน่ๆ ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้รู้สึกกังวลเกี่ยวกับสถานที่จัดเก็บกู่ฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะมีเงินไม่พอจริงๆ เขาคงเสนอตัวเก็บรักษามันให้อีกฝ่ายไปแล้ว


"ลุงฮ่าว ลุงก็รู้ ผมไม่ได้รักโบราณวัตถุขนาดนั้น ถ้าได้ราคาที่ถูกใจ ผมก็จะขายมันเลย นี่ ลุงฮ่าว ลุงช่วยผมตั้งราคามันหน่อยสิครับ" ถึงเฉินหลงจะอยากเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้ แต่ว่าเอามันไปขายดีกว่า ทำไงได้ เขาไม่ได้อยากเป็นคณิกาชายสักหน่อย!


ถึงการเล่นกู่ฉินนั้นนับเป็นความสามารถที่มีสเน่ห์ไม่น้อย แต่การเล่นกู่ฉินนี่ดูเหมือนว่ามันจะมากเกินไปสักหน่อย เฉินหลงคิดว่าเขาไปเล่นกีตาร์จีบสาวยังจะดูง่ายกว่าอีก


"เจี้ยวเว่ยฉิน เป็นหนึ่งในสี่กู่ฉินโบราณแห่งราชวงศ์สวรรค์อันยิ่งใหญ่ แต่ก็มีบางคนที่คิดว่ามันไม่มีค่า ถ้าเธออยากตั้งราคาจริงๆ ราคาเริ่มต้นควรจะอยู่ที่หนึ่งพันล้านหยวนเป็นอย่างต่ำ" ฮ่าวฉางชิงตอบจริงจัง


คุณควรเข้าใจก่อนว่าชามลายไก่หมิงเฉิงฮวามีราคาต่ำกว่าสามร้อยล้านหยวน แล้วสมบัติที่มีเอกลักษณ์เหมือนใครแบบนี้มีมูลค่าแค่หนึ่งพันล้านหยวน ถือว่าต่ำมากแล้ว


"หนึ่งพันล้านหยวน ไม่เลวๆ ดีเลย ถ้าอย่างนั้นไปหาเสี่ยอ้วนดีกว่า" หลังจากฟังฮ่าวฉางชิงประเมินราคาแล้ว เฉินหลงตัดสินใจขายพิณให้กับเฉียนซานเจียที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถู่หาวในทันที


เงินหนึ่งพันล้านหยวน เขาจะกลายเป็นเศรษฐีตัวน้อยได้แล้วยังหนอ


หลังจากนั้น เฉินหลงก็ขับรถของตัวเองไปหาเสี่ยอ้วน


พอเห็นรถของเฉินหลงแล้ว ฮ่าวฉางชิงก็ฝืนใจยอมแพ้ เจี้ยวเว่ยฉินนี่ช่างล่อตาล่อใจฮ่าวฉางชิงที่คลั่งไหล้โบราณวัตถุจริงๆ แต่ทำไงได้ ฮ่าวฉางชิงไม่ใช่ถู่หาวเสียหน่อย เขาคงทำได้แค่มองเจี้ยวเว่ยฉินที่บินจากเขาไปไกลเท่านั้นแหละ


เฉินหลงขับรถไปยังโรงแรมที่เฉียนซานเจียพักอยู่ โรงแรมเฮาทิง


ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เขาจะต้องพักห้องพักแบบเพรสซิเด้นท์เชล เฉินหลงรู้ดีว่าห้องพักแบบเพรสซิเด้นท์เชลนั้นแพงที่สุดในซิงเฉิง ราคาห้าหมื่นหยวนต่อคืน สำหรับคนทั่วไปแล้ว มันคงเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้า แต่กับเฉียนซานเจียนที่เป็นถู่หาวแล้ว ราคานี้ก็แค่เล็กน้อยเหมือนกับฝนตกปรอยๆ


เฉินหลงจอดรถแล้วเดินเข้าไปในโรงแรม


ก่อนที่เขาจะมา เฉินหลงโทรบอกเฉียนซานเจียไว้แล้วว่า เฉินหลงจะมาหาเขาที่โรงแรม แล้วจะรอเขาแถวๆล็อบบี้ ซ่งเย่จึงรีบวิ่งมาหาเขา


"คุณเฉิน นายท่านเฉียนกำลังรอคุณอยู่ข้างบนครับ" เมื่อพูดจบ ซ่งเย่ก็เดินนำเฉินหลงไปที่ลิฟต์ในทันที


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น