TB:บทที่ 52 ภารกิจ
"พี่เฉียน พี่ต้องการทำอะไรกันแน่?"
เมื่อฝ่ายหนึ่งรู้สึกเหมือนกับอีกฝ่ายแล้ว ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ หลังจากที่ประสบเหตุการณ์บางอย่างร่วมกัน เฉินหลงเปลี่ยนสรรนามในการเรียกเฉียนซานเจียไปโดยธรรมชาติ หลังจากเขาเคยชินกับชื่อก่อนหน้า
"เรื่องนั้น แน่นอนว่าต้องตามหาเขาให้เจออยู่แล้ว ถึงคนอื่นจะเกรงกลัวเขา แต่คนอย่างเฉียนซานเจียมีหรือจะเกรงกลัวอีกฝ่าย อะไรที่เป็นของฉัน ใช่ว่านึกจะเอาก็เอากันไปง่ายๆแบบนี้" ในตอนนี้เฉียนซานเจียได้รูปของแก๊งสายฟ้าที่กำลังส่งมอบกล่องหยกให้กับเหล่าหลิวมาแล้ว นอกจากนี้เขายังรู้ว่าซ่งหยู่ซุกหัวอยู่ที่ไหน แน่นอนว่าเขาจะไปตามล่าซ่งหยู่ให้ได้
"พี่เฉียน ถ้างั้นขอผมไปด้วย!" เฉินหลงกล่าว
"น้องเฉิน ตอนนี้ร่างกายของนายคงจะไม่สะดวกเท่าไหร่ นายพักผ่อนอยู่ที่วิลล่าก่อนเถอะ วางใจได้ ฉันจะเป็นคนไปทวงความยุติธรรมกลับมาให้นายเอง!"
เฉียนซานเจียไม่ได้ให้สัญญากับเฉินหลงว่าจะให้เขาตามไปด้วย เหตุผลง่ายๆคือ คนธรรมดาอย่างเฉินหลง ตามเขาไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยประโยชน์อะไรได้อยู่ดี
เฉินหลงจ้องหน้าอีกฝ่าย เขารู้ว่าเฉียนซานเจียหมายถึงอะไรและไม่อยากพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง
หลังจากเฉียนซานเจียออกจากห้องไป ทิ้งให้เฉินหลงอยู่กับสาวของเฉียนซานเจียที่วิลล่า เฉินหลงกล่าวทักทายอีกฝ่ายแล้วเดินเข้าไปในห้องที่เฉียนซานเจียได้เตรียมเอาไว้ให้เขา
หลังจากเข้ามาตัวในห้องแล้ว เฉินหลงสอดส่องซวีหมิงเหมยด้วยเครื่องดักจับเป็นครั้งแรก ในตอนนี้เผิงตงกำลังประจบประแจงอีกฝ่ายอยู่ ในฐานะที่เป็นนักโกหกมืออาชีพแล้ว ซวีหมิงเหมยทำให้เขาเป็นบ้าไปโดยธรรมชาติ
หลังจากนั้น เฉินหลงก็สอดส่องแก๊งสายฟ้าและคนอื่นๆต่อ ตอนนี้พวกเขาแยกออกจากกันทีละคน แต่พวกเขายังคงอยู่ในชางตู
ในที่สุด เฉินหลงได้เข้าสู่ระบบไป
ในตอนที่เขาแพ้ เฉินหลงก็คิดได้ว่ามีที่ปล่อยภารกิจในระบบอยู่ และเขาก็ไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน
เฉียนซานเจียใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางไปชางตู ระหว่างนั้น เฉินหลงก็ไปสำรวจดูว่ามีงานอะไรให้เขาทำบ้าง
เมื่อเข้ามาในระบบแล้ว ไม่นานเฉินหลงมาถึงที่ส่วนต่อประสานที่มีภารกิจอยู่ ภารกิจที่อยู่ในนั้นช่างดูแปลกเสียจริง
ไอเท็มของภารกิจต่างๆในภารกิจที่อยู่ในนั้นเป็นไอเท็มที่เฉินหลงไม่เคยรู้จักมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น ไฟแบบดั้งเดิม ผลกวนและอื่นๆ แต่บางรายการเฉินหลงรู้จักอยู่แล้วแต่ไม่ได้เป็นเจ้าของ เช่น ซีหลาง ไท่ซุ่ย โสมและแมลงเป็นต้น
"บัดซบ มีอะไรที่ทำได้บ้างเนี่ย?" เฉินหลงถึงกับพูดไม่ออก ในตอนที่เขาเห็นว่าภารกิจพวกนั้นได้ค่าตอบแทนถึงสิบล้านคะแนนแลกเปลี่ยน
ถึงเฉินหลงอยากส่งข้อมูลบางอย่างให้อีกฝ่ายรู้จักเขา แต่ถ้าเกิดว่าใครก็ไม่รู้เดินทางมายังโลกแล้วทำให้โลกยุ่งเหยิงล่ะก็ เฉินหลงคงต้องทำใจแล้วยกธงขาวให้
ถึงเฉินหลงจะไม่ได้เป็นคนดีสักเท่าไหร่ แต่เขาเกิดและโตมาบนโลกใบนี้ ที่นี่เปรียบเสมือนกับบ้านของเขา เห็นอย่างนี้ เขาก็ไม่อยากให้บ้านของตัวเองพังพินาศหรอกนะ!
หลังจากค้นหาอยู่สักพัก เฉินหลงก็หาภารกิจที่เขาสามารถทำได้ นั่นคือชายคนหนึ่งที่ชื่อ "นักกินที่แข็งแกร่งที่สุด" มอบหมายภารกิจให้ค้นหาอาหารอร่อยๆทุกชนิด รางวัล หนึ่งคะแนนแลกเปลี่ยนแลกกับอาหารธรรมดา สิบคะแนนแลกเปลี่ยนแลกกับอาหารอร่อย หนึ่งร้อยคะแนนแลกเปลี่ยนแลกกับอาหารที่อร่อยมากและหนึ่งพันคะแนนแลกเปลี่ยนแลกกับอาหารเริศรส และอาหารแต่ละประเภทสามารถแลกเปลี่ยนได้หนึ่งครั้งเท่านั้น
"อาหารที่ดีที่สุด" ได้รับพัฒนามาตรฐานอาหารสำหรับระบบคัดกรอง
"สามารถนำอาหารมาแลกเปลี่ยนเป็นคะแนนแลกเปลี่ยนได้ "อาหารที่ดีที่สุด" นี้ดีจริงๆ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นวิธีในหาคะแนนแลกเปลี่ยนที่ไม่เลวทีเดียว" บนหน้าของเฉินหลงเผยรอยยิ้มออกมา
สารจากโลก สวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่เฉินหลงอาศัยอยู่เป็นประเทศที่มีอาหารที่อร่อยที่สุด ราชวงศ์จีนที่ยิ่งใหญ่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน อาณาเขตอันกว้างใหญ่และจำนวนประชากรที่มากก่อให้เกิดวัฒนธรรมทางด้านอาหารที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลาย
คิดดูแล้ว เฉินหลงก็เดินออกไปจากห้องแล้วตรงไปที่ตู้เย็นขนาดใหญ่ เขาเปิดตู้เย็นและพบว่ามีถุงขนมอยู่ข้างในนั้น เขาหยิบมันออกมาแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องเหมือนเดิม
หลังจากที่เฉินหลงรับภารกิจนี้แล้ว เฉินหลงวางขนมที่แตกต่างกันทั้งหกห่อไว้บนพื้น
พริบตาเดียวขนมที่วางอยู่หายไป และคะแนนแลกเปลี่ยนของเฉินหลงก็เพิ่มขึ้นมาอีกหกคะแนน
"โอ้ ไม่คิดเลยว่าจะได้รับหกคะแนนแลกเปลี่ยนมาง่ายขนาดนี้ หวานหมูเลย แต่ถ้าเราไปซื้อของจากซุปเปอร์มาร์เก็ตมาแลก คงจะไม่ได้กำไรเท่าไหร่" สีหน้าของเฉินหลงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมีขนมห่อมากมาย และวงแหวนอวกาศที่เขาสวมอยู่ เฉินหลงไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเลยสักหยวนเดียว แต่คงหยิบมาได้แค่อย่างละชิ้นเท่านั้น จะได้ไม่ดึงดูดความสนใจจากคนอื่น
หลังจากนั้น เฉินหลงไม่ได้ตรงไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในทันที แต่กลับไปที่ร้านข้างทางแทน คงรู้ไหมว่ามีอาหารอร่อยมากมายที่แผงลอยข้างทาง มันอาจจะช้าเกินไปที่จะได้เงินจากการแลกคะแนน เฉินหลงอยากหาเงินให้ได้เยอะๆ
ในตอนนี้ เฉินหลงรู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงไปที่ไนท์คลับแห่งหนึ่งชื่อ "ที่เดิม" เขาสั่งกุ้งก้ามแดง เคบับ ปลาย่างและเบียร์อีกห้าขวด อ่า ในเมื่อเป็นหน้าร้อนก็ต้องมีกุ้งก้ามแดงกับเบียร์!!
หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อย เฉินหลงนั่งที่ประจำแล้วหันไปมองไปรอบๆด้วยความเบื่อหน่าย มีหลายคนมากมายนั่งอยู่รอบโต๊ะ ในร้านคงมีแค่เฉินหลงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเพียงลำพัง
หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปี รูปร่างผอมบางแต่กลับน่ามอง กำลังร้องเพลงให้กับแขกที่กำลังกินของทานเล่นที่ทำจากข้าวสาลีอยู่
"น้องสาวคนสวย ร้องเพลงก็เพราะ ไปดื่มกันไหม" ชายอายุประมาณสามสิบปี ร่างใหญ่ มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า สร้อยทองขนาดใหญ่รอบคอและตามร่างกายมีรอยสักลายมังกรและนกฟีนิกซ์อยู่ กำลังพูดกับหญิงสาวที่กำลังร้องเพลง พร้อมกับถือเบียร์หนึ่งแก้วในมือ
"พี่ชาย ฉันดื่มไม่ได้ค่ะ พี่อยากฟังเพลงอื่นอีกไหมคะ?" หญิงสาวตอบอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
แขกทุกคนเป็นพวกมีเงินมีทอง ถึงบางครั้งพวกเขาจะไม่ใช่แขกที่มีมารยาทสักเท่าไหร่ แต่หญิงสาวก็ทำได้แค่ยิ้มตอบอีกฝ่าย
"น้องสาวคนสวย พี่แผลเป็น ดื่มไวน์กันเถอะ สำหรับใบหน้าของพี่ อย่าถือสาเลย"
ผู้ที่มีรอยแผลเป็นถูกปฏิเสธ สีหน้าของเขาดูเย็นชา ข้างๆเขาคือชายที่มีผ้าปิดตารูปสามเหลี่ยมข้างหนึ่ง และยังมีรอยสักลายมังกรและนกฟีนิกซ์เหมือนกันกับเขาอีกด้วย น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยดีนัก
"พี่ชายทั้งสอง ฉันดื่มไม่ได้จริงๆค่ะ ทำไมไม่ให้ฉันร้องเพลงเพราะๆให้พวกพี่ฟังฟรีๆละคะ?" หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวอีกฝ่ายเล็กน้อย
"นี่ สาวน้อย ฉันอยากให้เธอดื่ม ไม่ได้อยากฟังเธอร้องเพลง" ชายที่มีแผลเป็นตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
"พี่ชายทั้งหลาย ได้โปรดใจเย็นๆ เธอยังเป็นเด็กเป็นเล็กอยู่เลย เธอยังไม่ถึงวัยอันควร ไม่อย่างนั้น ผมอนุญาติให้เธอดื่มไวน์ได้อยู่แล้วครับ" ในตอนที่เจ้าของร้านเห็นว่าสถานการณ์ในตอนนี้มีบางอย่างไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ เขาจึงรีบเดินเข้ามาและเจรจากับคนทั้งสอง
เจ้าของร้านคนนี้เป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่เหมือนกับเจ้าของร้านคนอื่น ไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็เอาใจใส่เสมอ ถึงนักร้องกับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกันกันก็ตาม
"บอส คุณไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ? ฉันอยากให้เธอร้องเพลง คุณมีธุระอะไรก็ไปทำซะ อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง ระวังจะไม่ได้เปิดร้านอีก" ชายที่มีผ้าปิดตาสามเหลี่ยมตอบด้วยท่าทางจองหอง
เมื่อได้ยินแบบนี้เข้า เจ้าของร้านถึงกับหมดหนทาง ไปต่อไม่ถูกแล้ว เขาโน้วน้าวให้นักร้องสาวดื่มไวน์ด้วยเสียงต่ำ ไม่อย่างนั้นแก๊งลายสักมังกรและนกฟีนิกซ์คงไม่ยอมแน่
ช่วยไม่ได้ ในเมื่อตอนนี้เรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว นักร้องสาวทำได้เพียงก่นด่าในความโชคร้ายของวันนี้เท่านั้น เธอรับแก้วไวน์มาจากชายที่มีรอยแผลเป็น แล้วกัดฟันดื่มมันเข้าไป
หลังจากที่ดื่มไวน์ไปหนึ่งแก้วแล้ว ใบหน้าของหญิงสาวเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ มองดูแล้วน่ารักยิ่งนัก!
0 ความคิดเห็น