TB:บทที่ 53 เรื่องราวรันทด
"พี่ชาย ฉันยอมดื่มแล้ว แล้วแขกที่อยู่ทางนั้นก็ต้องการให้ฉันร้องเพลงต่อ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ" หญิงสาวกล่าว
และแขกคนที่หญิงสาวกล่าวออกมา หมายถึงเฉินหลง!
ไม่ง่ายเลยที่หญิงสาวคนนี้จะร้องเพลงหาเงินที่ร้านกลางคืนในวันที่ดุเดือดแบบนี้ ในตอนที่ต้องเจอกับคนประเภทนี้ แน่นอนว่าเธอต้องการความช่วยเหลือจากเฉินหลง
"ก่อนหน้านี้ ฉันเห็นว่าเธอร้องเพลงเพราะ ฉันว่ามันไม่ได้มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้นะ" เมื่อชายที่มีแผลเป็นพูดจบ เขาก็จับมือของหญิงสาวไว้แล้วจ้องมองแขกที่กำลังทานอาหารอยู่ด้วยสายตาดุเดือด เมื่อเขาเห็นเฉินหลง เขายังคงจ้องตากับอีกฝ่ายอยู่หลายวินาที
เมื่ออีกฝ่ายคว้ามือเธอเอาไว้ เธอเองก็พยายามขัดขืน แต่แรงของผู้หญิงตัวเล็กๆจะไปสู้ชายร่างใหญ่ได้อย่างไรกัน
ส่วนแขกบางคนหลังจากได้เห็นชายแผลเป็น พวกเขาก็พยายามหลบสายตาของชายแผลเป็นที่กำลังมองมาทางพวกเขา เหมือนว่าพวกเขาไม่กล้ามองแผลเป็นนั่น
แต่เฉินหลงที่เคยเผชิญกับสมาชิกในสี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่แล้ว เขามีหรือที่ตะกลัวอีกฝ่าย เขาไม่สนใจพวกนักเลงกระจอกๆที่ไม่ได้อยู่ในสายตา อีกทั้งยังเริ่มวุ่นวายกับหญิงสาวอีก
"พี่แผลเป็น ให้ผมไปเจราจากับมันหน่อยสิ" เมื่อเห็นความโง่ของเฉินหลงแล้ว ทันใดนั้นชายที่มีผ้าปิดตาเป็นฝ่ายออกปากพูดกับชายแผลแป็น ว่าเขาขอเป็นคนสั่งสอนบทเรียนให้เฉินหลงเอง
ชายแผลเป็นไม่ได้ตอบอะไร เขาทำแค่แค่ผงกศีรษะ
"เด็กน้อย วันนี้ เด็กคนนี้ไม่ได้ร้องเพลงให้นายหรอก ไม่ต้องรอ กลับบ้านไปนอนไป" ชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมเดินตรงไปพูดกับเฉินหลง
"ผมไม่เห็นว่าคุณจะให้เงินเธอเลย ดูจากสีหน้าของเธอแล้ว เหมือนเธอจะไม่อยากร้องเพลงให้คุณฟังนะ" เฉินหลงตอบด้วยท่าทางสบายๆ
"เด็กน้อย ไม่ต้องห่วงนะ ถ้านายกล้าปากมากอีกล่ะก็ ฉันจะฆ่านายทิ้ง" ชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมกล่าวเตือนเฉินหลงหนักๆ แล้วหันหลังกลับไป
ชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมเห็นว่าเฉินหลงเป็นแค่คนธรรมดา เขาจึงไม่เห็นเฉินหลงอยู่ในสายตาอีก
"เฮ้ พวกนาย หยุดก่อเรื่องได้แล้ว ฉันจะแจ้งตำรวจ" เมื่อเห็นว่ามือของหญิงสาวถูกชายที่มีแผลเป็นกอบกุมอยู่ เจ้าของร้านจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง
เจ้าของร้านวัยสี่สิบ ที่ตัวไม่สูงและไม่แข็งแรง แถมครอบครัวของเขาเองก็มีลูกด้วย อายุของนักร้องสาวอยู่พอๆกับลูกสาวของเขา เขาไม่อยากเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆถูกนักเลงพวกนี้รังแกอีกแล้ว
"บอส คุณอยากทำตัวเป็นฮีโร่เหรอ" ชายแผลเป็นมองหน้าเจ้าของร้านด้วยสายตาเย็นชา
เจ้าของร้านเห็นว่าชายแผลเป็นไม่ยอมทำตามที่เขาบอก เขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาหมายจะโทรออก
แต่ในเวลาเดียวกัน ชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมก็ใช้มือตบเข้าไปที่หน้าของเจ้าของร้าน ในตอนนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเจ้าของร้านก็หลุดมือไป
"คุณลุงคะ!"
เมื่อเห็นว่าเจ้าของร้านเป็นฝ่ายแพ้ หญิงสาวกรีดร้องออกมาด้วยความกระวนกระวาย
"ฉันบอกให้ กินเข้าไปดีๆ ไม่ต้องโทร หรือว่าพวกแกอยากตาย" ชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมตบหน้าเจ้าของร้านอีกครั้บ และหันไปพูดกับแขกในร้าน
ในตอนนี้ แขกในร้านทุกคนต่างรู้สึกว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว จึงรีบเดินออกไปที่ละคนสองคน
"นี่มันจะมากเกินไปแล้ว!" เฉินหลงเดินเข้าไปพูดซึ่งๆหน้า
ไอ้พวกนักเลงไร้ประโยชน์ เฉินหลงละเกลียดพวกมันจากก้นบึ้งของหัวใจเลยจริงๆ
"เด็กน้อย อยากสู้เหรอ" ชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมกล่าว เขาถือขวดเบียร์แล้วเดินไปทางเฉินหลง ทันใดนั้นขวดไวน์ก็พุ่งไปที่หัวของอีกฝ่าย
เฉินหลงยื่นมือขวาออกมาแล้วคว้าขวดไวน์ไว้ เขาจะไม่ปล่อยให้ชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมได้เล่นตามอำเภอใจอีกต่อไปแล้ว!
ชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมเห็นเฉินหลงคว้าขวดไว้ด้วยมือเปล่า และแรงกดดันที่ทำให้เขาไม่สามารถสู้ได้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
จากนั้นขาขวาของชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมก็พร้อมที่จะส่งลูกเตะไปที่เฉินหลง
แต่ก่อนที่ขาขวาของชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมจะถูกส่งออกไป มือซ้ายของเฉินหลงก็พุ่งไปที่คางของชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมด้วยหมัดฮุค
พลังที่ซัดออกไปนั้นรุนแรงมาก เสียงกระดูกแตกดังออกมาจากส่วนคางของชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยม และชายคนนั้นก็ล้มลง
"ปล่อยผู้หญิงคนนั้นเดี๋ยวนี้!" เฉินหลงชี้ไปที่ชายหน้าแผลเป็น เขากำมือขวาแน่น ทำให้ขวดไวน์นั้นแตกละเอียด
ก่อนหน้านี้ เฉินหลงถูกใครบางคนรุมกระทืบ ตอนนี้ในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ และตอนนี้ชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมได้กลายเป็นอากาศไปแล้ว แน่นอนว่าเฉินหลงจะไม่พลาด
เฉินหลงรุนแรงจนชายแผลเป็นอดไม่ได้ที่จะลอบกลืนน้ำลายหนึ่งอึกและขาสั่น
เห็นว่าชายแผลเป็นยังคงจับมือของหญิงสาวอยู่ เฉินหลงจึงเดินตรงเข้าไปหาชายแผลเป็น
ชายผ้าปิดตาสามเหลี่ยมที่กำล้มอยู่ เห็นเฉินหลงเดินมาแล้วเขาก็พุ่งออกหนีออกไปจากร้านด้วยความเร็ว
"ปล่อยมือ!!"
เฉินหลงพุ่งไปทางชายแผลเป็นแล้วกล่าวเสียงเยือกเย็นออกมาเพียงสองคำเท่านั้น
ชายแผลเป็นไม่ใช่คนตัวเตี้ย เขาสูงประมาณ 180 เซนติเมตร บวกกับร่างกายด้านกว้างก็ได้รับการพัฒนา เขายืนตรงดูไม่เหมือนพวกอ่อนแอเลยสักนิด
แต่เมื่อเขายืนตรงหน้าเฉินหลง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นแค่มดอ่อนแอที่พร้อมจะโดนขยี้ ในขณะที่อีกฝ่ายเป็นถึงสัตว์ร้ายที่มาจากยุคโบราณ ตราบใดที่เขายังหายใจอยู่ อีกฝ่ายก็สามารถฆ่าเขาให้ตายได้
ในบรรยากาศที่น่ากลัวแบบนี้ ชายแผลเป็นก็ปล่อยมือหญิงสาวให้เป็นอิสระในทันที
"ไสหัวไป! ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ!"
ได้ยินเฉินหลงยอมปล่อยพวกเขาไปแล้ว ชายแผลเป็นและคนอื่นๆก็จากไปในทันที
"เดี๋ยว! แล้วนี่จะใช้ฉันจ่ายเงินให้รึ? หึ อยากให้ฉันจ่ายให้จริงๆใช่ไหม?" ทันใดนั้นเฉินหลงได้เบรกชายแผลเป็นไว้
ตอนแรกที่ได้ยินเฉินหลงเบรกเขาไว้ หัวใจดวงน้อยๆของชายแผลเป็นแทบจะกระโดดขึ้นไปที่คอแล้ว แต่พอได้ยินว่าอีกฝ่ายพูดถึงการจ่ายเงิน ชายแผลเป็นจึงรีบควักเงินห้าร้อยหยวนในกระเป๋าออกมา ยื่นให้เจ้าของร้าน แล้วรีบวิ่งออกไปจากร้านในทันที
ตอนที่ชายแผลเป็นออกไปจากร้าน ‘ที่เดิม’ เขาเห็นว่าหลังของอีกฝ่ายชุ่มไปด้วยเหงื่อ
"โว้ย โคตรซวย! ชีวิตนี้ขอไม่เจอกับคนแบบนี้อีกแล้ว เหอะ!!"
ชายแผลเป็นรู้สึกหวาดกลัวเฉินหลง
"ขอบคุณค่ะ! พี่ใหญ่!" หญิงสาวคำนับเฉินหลง
“หืม ถึงกับเรียกฉันว่าพี่ใหญ่เลยเหรอ ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นนะ” ได้ยินผู้หญิงคนนั้นเรียกตัวเองว่า ‘พี่ใหญ่’ แล้ว เฉินหลงอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาลูบคลำใบหน้าของตน นี่ สาวน้อย เขายังไม่แก่สักหน่อย!
"ก็ฉันไม่รู้ว่าจะเรียกคุณว่าอะไร ปกติแล้วฉันมีสิทธิ์เรียกคุณว่า ‘พี่ใหญ่’ เท่านั้น" หญิงสาวกล่าว
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินหลง รวมถึงท่าทางของอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะยินดีด้วยแล้ว ทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าเฉินหลงนั้นเป็นคนดีที่ควรจะทำความรู้จักเอาไว้
"ฉันชื่อเฉินหลง ฉันไม่ได้แก่กว่าเธอมากนัก เธอจะเรียกชื่อฉันเลยก็ได้นะ"
ถูกเด็กผู้หญิงที่อายุใกล้เคียงกับตัวเองเรียกว่า ‘พี่ใหญ่’ แล้ว มันทำให้เฉินหลงรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
หลังจากนั้นเฉินหลงก็ได้พูดคุยกับหญิงสาวและได้ฟังเรื่องราวรันทด
หญิงสาวคนนี้ชื่อตู๋เสวี่ย เธออายุสิบเก้าปี ตอนเธออายุสิบขวบ พ่อของเธอเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และไม่นานมานี้แม่ของเธอป่วยหนักและต้องการเงินเพื่อรับการรักษา เดิมทีตู๋เสวี่ยกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนสอนศิลปะ แต่ตอนนี้เธอต้องลาออกจากโรงเรียนและหางานทำ ว่ากันว่ารายได้จากการร้องเพลงในร้านใหญ่ๆนั้นดีมาก เธอคิดว่าเสียงเพลงของเธอก็ไม่ได้แย่อะไร ดังนั้นเธอจึงซื้ออุปกรณ์และมาร้องเพลงที่นี่ แน่นอนว่าคนก็สวย ร้องเพลงก็เพราะ รายได้ที่หามาได้นับว่าดีทีเดียว นอกจากนี้เธอยังมีการไลฟ์สดในช่องไลฟ์สดอีกด้วย ทำให้เธอมีรายได้เพิ่มขึ้นหลายพันหยวนต่อคืน ทำให้เธอสามารถปลดหนี้ให้กับครอบครัวได้
แน่นอนว่าการร้องเพลงในร้านกลางคืน คุณจะได้พบกับแขกที่ต้องการใช้ประโยชน์จากผู้อื่น และตู๋เสวี่ยเองก็ได้ประสบพบเจอกับคนพวกนั้นมาหมดแล้ว และเธอก็สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ แต่วันนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอการเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ถ้าเฉินหลงไม่เข้ามาช่วยไว้ นึกไม่ออกเลยจริงๆว่าจะเป็นยังไง!??
0 ความคิดเห็น